ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระนางมุนจ็อง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
พุทธามาตย์ ย้ายหน้า พระมเหสีมุนจอง จากตระกูลยุน ไปยัง พระนางมุนจอง
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:53, 27 พฤศจิกายน 2559

พระมเหสีมุนจอง
พระมเหสีแห่งโชซอน
문정왕후
พระมเหสีใน พระเจ้าจุงจง
ครองราชย์พ.ศ. 2050 - พ.ศ. 2087
ก่อนหน้าพระมเหสีวอนกยอง
ผู้สำเร็จราชการแห่งเกาหลี
ครองราชย์7 กรกฎาคม พ.ศ. 2088 - 7 เมษายน พ.ศ. 2108 (19 ปี 275 วัน)
ก่อนหน้าพระเจ้าอินจง (ในฐานะพระราชา)
ถัดไปพระเจ้ามยองจง (ในฐานะพระราชา)
ประสูติ1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2044
โชซอน
สวรรคต29 ธันวาคม พ.ศ. 2108 (64 ปี 332 วัน)
พระราชวังคยองด็อก
ฝังพระศพพระสุสานแทรึง
พระราชสวามีพระเจ้าจุงจง แห่ง ราชอาณาจักรโชซอน
พระราชบุตรองค์ชายคังวอน
องค์หญิงอยีฮี
องค์หญิงโฮยฮี
องค์หญิงคยองฮย็อน
องค์หญิงอึยฮเย
พระนามเต็ม
ชองโย อินมยอง มุนจอง ฮวางฮู (성렬인명문정왕후 聖烈仁明文定王后)
ราชวงศ์โชซอน
พระราชบิดายุน จี เม รู้จักในนาม "ใต้เท้าพาซาน"
พระราชมารดาไม่ปรากฏ


พระมเหสีมุนจอง (문정왕후, 文定王后) (พ.ศ. 2045-2108) เป็นพระมเหสีคนที่ 3 ของ พระเจ้าจุงจง แห่ง ราชวงศ์โชซอน พระมเหสีมุนจองเป็นธิดา ของใต้เท้า ยุน จี เม แห่งตระกูล ยุน(ฝ่ายเล็ก) พระมเหสีมุนจองเป็นผู้สำเร็จราชการแทน หรือ ว่าราชการหลังม่านให้กับโอรส คือ พระเจ้าเมียงจง เมื่อ พระเจ้าเมียงจง ยังทรงพระเยาว์ในการปกครองบ้านเมืองด้วยตนเอง จนถึงปี พ.ศ. 2108, เมื่อพระมเหสีมุนจองสิ้นพระชนม์ทำให้ พระเจ้าเมียงจง ได้ครองอำนาจทั้งหมดเองหลังจากที่พระมเหสีมุนจองสิ้นพระชนม์ได้รับการเฉลิมพระนามให้เป็น ชองโย อินมยอง มุนจอง ฮวางฮู (성렬인명문정왕후 聖烈仁明文定王后) พระสุสานถูกฝังไว้ที่ แทรึง

การปกครอง

พระมเหสีมุนจอง ทรงมอบที่ดิน และ ที่นาให้กับประชาชนที่อยู่ยากแร้นแค้น ซึ่งที่ดินที่มอบให้แก่ประชาชนนั้น ล้วนเป็นที่ดิน ของเหล่าขุนนางที่ ทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง

เนื่องจากในสมัยพระเจ้าจุงจง ยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่ ขุนนางได้แตกออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายยุนใหญ่ คือเป็นฝ่ายของ ยุน นิม พระมาตุลาของพระเจ้าอินจง ที่สนับสนุนพระเจ้าอินจง ซึ่งในขณะนั้นยังคงอยู่ในตำแหน่ง องค์ชายรัชทายาท หรือ เซจา และฝ่ายยุนเล็ก คือฝ่ายของ ยุน วอน ฮัง พระเชษฐารอง ของ พระมเหสีมุนจอง ซึ่งสนับสนุน พระเจ้าเมียงจง ซึ่งขณะนั้นเป็นยังคงดำรงตำแหน่ง องค์ชายคังวอน เมื่อพระเจ้าอินจงครองราชย์ได้ตามฝ่ายยุนใหญ่ต้องการ พระเจ้าอินจง ได้ขึ้นครองราชย์แทนในสมัยนี้ ฝ่ายยุนเล็กได้กุมอำนาจการปกครองเกือบทั้งหมด และฝ่ายยุนเล็ก ได้กำจัดฝ่ายยุนใหญ่ทั้งหมด ทำให้สมัยนี้ ยุน วอน ฮัง มีอำนาจ และฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งเมื่อ พระมเหสีมุนจอง ในขณะนั้น คือพระพันปีมุนจอง ได้สิ้นพระชนม์ ทำให้ฝ่ายยุนเล็กถูกกวาดล้าง เนื่องจากเสียงคัดค้านของเหล่าขุนนางที่ยื่นฎีกา ให้ปลดและประหาร ยุน วอน ฮัง แก่ พระเจ้าเมียงจง ทำให้ ยุน วอน ฮัง และฝ่ายยุนเล็ก ถูกกวาดล้าง ในสมัยพระเจ้าเมียงจง ด้วย

เหตุการณ์สำคัญ

  • ในปี พ.ศ. 2052

พระมเหสีมุนจอง ทรงผลักดันให้องค์ชายชองฮุน พระโอรสของพระมเหสีชางกยอง ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทด้วยความหวาดระแวงของยุนนิมและ คิมอันโล ว่า พระนางจะทำร้ายพระโอรสเลี้ยงของพระนางทำให้เกิดการบาดหมางกันระหว่างพระนางและยุนนิม นับแต่นั้นมา

  • ในปี พ.ศ. 2053

พระมเหสีมุนจอง มีพระประสูติกาลพระธิดาองค์โต ให้แก่พระเจ้าจุงจง หลังจากพระนางอภิเษกสมรสกับพระเจ้าจุงจงสืบเนื่องมาจากการแต่งตั้งองค์ชายชองฮุน พระเจ้าอินจงพระโอรสในพระมเหสีชางกยอง พระมเหสีลำดับที่ 2 ของพระเจ้าจุงจงขึ้นเป็นองค์รัชทายาททำให้พระมเหสีมุนจองมีเรื่องบาดหมางกับ ใต้เท้ายุนนิมและคิมอันโล จึงเป็นโอกาสเหมาะของเหล่าขุนนางที่ต่อต้านพระนางร่วมมือกันปลดพระนางออกจากตำแหน่ง ในการวางแผนการปลดพระนาง ครั้งนี้มี คิมอัลโลและยุนนิมเป็นหัวหน้า นำเรื่องที่ยุนวอนฮังพระเชษฐาของพระนางติดสินบนกับแพกโทจู พ่อค้ารายใหญ่ แห่งโชซอนขึ้นกราบทูลพระเจ้าจุงจง ทำให้พระเจ้าจุงทรงพิโรธด้วยแผนการที่แยบยลของคิมอัลโล และยุนนิมยังทำให้พระนางบาดหมาง กับพระพันปีจาซุนอีกด้วย ทำให้พระเจ้าจุงจงมีรับสั่งปลด พระนางออกจากตำแหน่ง พระมเหสีแต่ ชองนานจอง อนุภรรยาของยุนวอนฮัง ได้นำสมุดบันทึกการติดสินบนของเหล่าขุนนางถวายแก่พระนางและก่อนที่ พระนางจะเสด็จออกนอกวังตามรับสั่งของพระเจ้าจุงจงพระนางได้มอบสมุดบันทึกให้แก่องค์รัชทายาทพระเจ้าอินจง จึงนำขึ้นถวายพระเจ้าจุงจง เมื่อ พระเจ้าจุงจงทรงทราบความจริงว่าเป็นแผนการของเหล่าขุนนางจึงคืนพระยศให้แก่พระมเหสีมุนจอง นับแต่นั้นมา

  • ในปี พ.ศ. 2055

พระมเหสีมุนจอง ร่วมมือกับเหล่าพระสนมคัดค้านการคืนสู่ตำแหน่งของใต้เท้าปานึงกุล ซึ่งเป็นพระญาติของพระเจ้าจุงจง เป็นผลสำเร็จทำให้ใต้เท้าปานึงกุล ลาออกจากราชการ

  • ในปี พ.ศ. 2060

พระมเหสีมุนจอง ร่วมมือกับ ชองนานจอง ภรรยาของ ยุนวอนฮัง ใส่ร้าย พระสนมคยองพิน โดยการนำหนูตายและแผ่นป้ายสาปแช่ง องค์รัชทายาท ไปแขวนบนต้นไม้และ ส่งเป็นของขวัญในวันประสูติขององค์รัชทายาทและบีบให้ใต้เท้าพักชองกุลหักหลังพระสนมยองพินด้วยการจับผิด ใต้เท้าพักชองกุลเข้าเฝ้าพระสนมยองพินในยามวิกาลทำให้ใต้เท้าพักชองกุลต้องทำตามรับรับสั่งของพระนาโดยการนำความขึ้นกราบทูลพระเจ้าจุงจงว่า พระสนมยองพิน เป็นคนทำการสาปแช่งองค์รัชทายาทและร่วมมือกับพระพันปีจาซุน ขอให้พระเจ้าจุงปลดพระสนมยองพินออกจากตำแหน่งและ พระราชทานยาพิษแก่ พระสนมยองพิน และ องค์ชายพกซอง พระโอรสองค์โต ในพระเจ้าจุงจง เมื่อพระมเหสีสามารถปลด พระสนมยองพินออกจากตำแหน่งและประทานยาพิษแก่พระสนมยองพินและ องค์ชายพกซองได้ พระนางก็เริ่มมีบทบาทในวังมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นพระนางและ ชองนานจอง ยังคงเดินหน้าต่อ กำจัดเสี้ยนหนามของตน คือ คิมอันโล และ ยุนนิม แต่ในเวลานั้น ทั้งยุนนิมและ ใต้เท้าคิมอันโล ก็มีเรื่องกันภายใน ทำให้ทั้งสองต้องแยกทางอันเป็นพันธมิตรต่อ กันมายาวนาน เมื่อ ทั้งสองแตกคอกัน ใต้เท้าคิมอันโล ก็ยึดอำนาจในวังเกือบหมด ตั้งตนเองเป็นถึง มหาเสนาบดี ทำให้คิมอันโล มีอำนาจในวังอย่างมาก แต่แล้ว ก็ต้องพ่ายแพ้แก่ความเฉลียวฉลาดของชองนานจอง ทำให้ถูกปลดออกจากตำแหน่งและเนรเทศไปต่างเมือง เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ยุนนิม มีอำนาจมากขึ้นและตั้งตนเองเป็น มหาเสนาบดีเช่นกัน เมื่อ และ พยายามแต่งตั้ง องค์รัชทายาท ขึ้นดำรงตำแหน่ง และ สำเร็จในที่สุด ทำให้ฝ่ายยุนใหญ่ มีอำนาจในวังอย่างมาก ยุนนิมยังพยายามที่จะกำจัดพระมเหสีต่อไป แต่ชองนานจอง ก็ลอบปลงพระชนม์พระเจ้าอินจง ถึงหลายครั้งในที่สุด ก็ทำสำเร็จ ด้วยการวางยาพิษ ประกอบกับ พระเจ้าอินจงมีสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ทำให้ล้มป่วยบ่อยๆ และ พระเจ้าอินจงก็สิ้นพระชนม์ในที่สุด ทำให้มีการแต่งตั้ง องค์ชายคังวอน เป็น พระเจ้าเมียงจง แต่ก็เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งขึ้นอีก เนื่องจาก พระเจ้าเมียงจงในขณะนั้น มีพระชนมายุน้อย ทำให้ต้องมีการว่าราชการหลังม่าน ทำให้พระมเหสีมุนจอง ที่ตอนนั้นดำรงค์ตำแหน่งเป็น พระพันปีมุนจอง ต้องแย่งชิงตำแหน่งนี้ กับ พระเทวีอินซอง (อดีตพระมเหสีในสมัยพระเจ้าอินจง) แต่แล้วเหล่าขุนนางก็ลงมติเลือก พระพันปีมุนจอง เป็นผู้ว่าราชการหลังม่านแทน ทำให้ พระนางยิ่งมีอำนาจในวังมากขึ้น และ พระนางกับนานจองยังกำจัด ฝ่ายยุนใหญ่ได้สำเร็จ เป็นเหตุทำให้ ยุนวอนฮัง ฝ่ายยุนเล็ก พระเชษฐาของพระพันปีมุนจอง กุมอำนาจในวังได้สำเร็จ และ เสวยสุขนานกว่า 20 ปี ช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่ สตรีกุมชะตาแผ่นดินไว้ และ ยังเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์โชซอน อีก เพราะ พระพันปีมุนจง ยังแต่งตั้ง ชองนานจอง อนุภรรยา ของ พระเชษฐายุนวอนฮัง เป็น ภรรยาเอก ทั้งพระเชษฐายุนวอนฮัง และ ชองนานจอง สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศเกาหลีอย่างมาก เพราะ ทั้งฉ้อราษฏ์บังหลวงอย่างมาก จนในที่สุด พระพันปีมุนจงก็สิ้นพระชนม์ในที่สุด เมื่อ ปี ค.ศ.1565 ทำให้ พระเชษฐายุนวอนฮังและ ชองนานจอง ต้องลี้ภัยออกจากเมืองหลวง เพื่อดูสถานการณ์ ชองนานจองจึงอาสากลับมาที่เมืองหลวงเพื่อดูราดราว แต่ ในระหว่างทาง กลับถูกชาวบ้านรอบทำร้าย ทำให้ชองนานจอง ถึงกลับสลบไป แต่นางถูกช่วยด้วย นักบวชที่เคยทำคลอดนาง แต่ พระเชษฐายุนวอนฮัง ได้ข่าวว่า ภรรยาของพระนางตายแล้ว ยุนวอนฮัง จึงกินยาพิษตาย ในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อ ชองนานจองได้ข่าวว่า สามีตัวเองตาย ก็ตรอมใจตาย ด้วยการเดินลงทะเล