ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปลาทูน่า"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 21: | บรรทัด 21: | ||
}} |
}} |
||
'''ปลาทูน่า''' หรือ '''ปลาโอ''' |
'''ปลาทูน่า''' หรือ '''ปลาโอ'''<ref name="ปลา">{{cite web|url=http://www.fisheries.go.th/train-gr/Files/fish05.pdf|title= คู่มือการจำแนกปลาโอและปลาทูน่าในภาคสนาม|format=[[PDF]]|work=[[กรมประมง]]}}</ref> ({{lang-en|tuna}}; {{lang-ja|マグロ}}) เป็นปลาทะเลกลุ่มหนึ่ง ในเผ่า Thunnini วงศ์ [[Scombridae]] โดยเฉพาะใน[[genus|สกุล]] ''[[Thunnus]]'' <ref name=Graham2004>{{cite journal|last=Graham|first=Jeffrey B.|coauthors=Dickson, Kathryn A.|title=Tuna Comparative Physiology|journal=The Journal of Experimental Biology|year=2004|volume=207|pages=4015–4024|doi=10.1242/jeb.01267|accessdate=20 September 2012 |url=http://jeb.biologists.org/content/207/23/4015.full.pdf+html |format=PDF}}</ref>จัดเป็น[[ปลาเศรษฐกิจ]]ที่มีความสำคัญมาก เนื้อของปลาทูน่าจะมีสีชมพูหรือแดงเข้ม ต่างจากปลาทั่วไปที่มักจะมีเนื้อสีขาว นิยมเอามาทำเป็น[[ปลากระป๋อง]] หรือปรุงสดต่าง ๆ เช่น [[ซาชิมิ]] |
||
ปลาทูน่า มีลักษณะรวม คือ อาศัยอยู่เป็นฝูงในทะเลหรือมหาสมุทรห่างจากชายฝั่ง มีรูปร่างเพรียวคล้ายกระสวย บริเวณฐานครีบหูมีกลุ่มเกล็ดเล็ก ๆ ครีบหางเว้าลึก<ref name="อ้าง"/> เป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วว่องไวมาก<ref name="เดิน"/> |
ปลาทูน่า มีลักษณะรวม คือ อาศัยอยู่เป็นฝูงในทะเลหรือมหาสมุทรห่างจากชายฝั่ง มีรูปร่างเพรียวคล้ายกระสวย บริเวณฐานครีบหูมีกลุ่มเกล็ดเล็ก ๆ ครีบหางเว้าลึก<ref name="อ้าง"/> เป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วว่องไวมาก<ref name="เดิน"/> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:12, 28 สิงหาคม 2559
ปลาทูน่า | |
---|---|
ภาพวาดปลาทูน่าหลายชนิด (จากซ้าย): ปลาอัลบาคอร์, ปลาทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติก, ปลาทูน่าท้องแถบ, ปลาทูน่าครีบเหลือง, ปลาทูน่าตาโต | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Perciformes |
วงศ์: | Scombridae |
วงศ์ย่อย: | Scombrinae |
เผ่า: | Thunnini Starks, 1910 |
สกุล | |
ปลาทูน่า หรือ ปลาโอ[1] (อังกฤษ: tuna; ญี่ปุ่น: マグロ) เป็นปลาทะเลกลุ่มหนึ่ง ในเผ่า Thunnini วงศ์ Scombridae โดยเฉพาะในสกุล Thunnus [2]จัดเป็นปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมาก เนื้อของปลาทูน่าจะมีสีชมพูหรือแดงเข้ม ต่างจากปลาทั่วไปที่มักจะมีเนื้อสีขาว นิยมเอามาทำเป็นปลากระป๋อง หรือปรุงสดต่าง ๆ เช่น ซาชิมิ
ปลาทูน่า มีลักษณะรวม คือ อาศัยอยู่เป็นฝูงในทะเลหรือมหาสมุทรห่างจากชายฝั่ง มีรูปร่างเพรียวคล้ายกระสวย บริเวณฐานครีบหูมีกลุ่มเกล็ดเล็ก ๆ ครีบหางเว้าลึก[3] เป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วว่องไวมาก[4]
ศัพทมูลวิทยา
คำว่า "ทูน่า" มาจากคำว่า Thunnus ซึ่งเป็นภาษาละติน จากภาษากรีกโบราณ: θύννος, อักษรโรมัน: (thýnnos), แปลตรงตัว 'tunny-ปลา' – ซึ่งแปลงมาจากคำว่า θύνω (thynō) หมายถึง "ที่พุ่ง; ที่โผ"[5]
ส่วนคำว่า "ปลาโอ" ซึ่งเป็นชื่อในภาษาไทย [3]จะหมายถึง ปลาทูน่าขนาดเล็ก ขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 40-100 เซนติเมตร[1]
การจำแนก
- วงศ์ Scombridae
- เผ่า Thunnini: ปลาทูน่า
- สกุล Allothunnus:
- สกุล Auxis:
- สกุล Euthynnus:
- สกุล Katsuwonus: ปลาทูน่าท้องแถบ
- สกุล Thunnus: ปลาอัลบาคอร์, ปลาทูน่าแท้
- สกุลย่อย Thunnus (Thunnus): กลุ่มปลาทูน่าครีบน้ำเงิน
- สกุลย่อย Thunnus (Neothunnus): กลุ่มปลาทูน่าครีบเหลือง[2]
- เผ่า Thunnini: ปลาทูน่า
- วงศ์ Scombridae
ปลาทูน่า ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ มีความยาวตั้งแต่ปลายหัวจรดหาง 458 เซนติเมตร น้ำหนัก 684 กิโลกรัม โดยปลาทูน่าจัดเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วมาก เพราะมีรูปร่างเหมือนตอร์ปิโด สามารถว่ายน้ำได้เร็ว 70-74 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นรองเพียงปลากระโทงแทง ซึ่งเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลกเท่านั้น[4]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 "คู่มือการจำแนกปลาโอและปลาทูน่าในภาคสนาม" (PDF). กรมประมง.
- ↑ 2.0 2.1 Graham, Jeffrey B. (2004). "Tuna Comparative Physiology" (PDF). The Journal of Experimental Biology. 207: 4015–4024. doi:10.1242/jeb.01267. สืบค้นเมื่อ 20 September 2012.
{{cite journal}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - ↑ 3.0 3.1 ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, 2539. 972 หน้า. หน้า 966. ISBN 974-8122-79-4
- ↑ 4.0 4.1 หน้า 125-126, เดินเที่ยว Tokyo Sea Life Park คอลัมน์ Blue Planet โดย ดร.วรเทพ มุธุวรรณ. นิตยสาร Aquarium Biz ฉบับที่ 25 ปีที่ 2: กรกฎาคม 2012
- ↑ Liddell, H.G.; Scott, R.; Whiton, J.M. (1887). A lexicon abridged from Liddell and Scott's Greek-English lexicon (17th ed.). Ginn & Co.