ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยุทธการที่วอเตอร์ลู"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox Military Conflict |
{{Infobox Military Conflict |
||
| conflict = ยุทธการวอเตอร์ลู |
| conflict = ยุทธการวอเตอร์ลู |
||
| partof = [[สงครามสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ด]] |
| partof = [[สงครามสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ด]] |
||
| image = [[ไฟล์:Wellington at Waterloo Hillingford.jpg| |
| image = [[ไฟล์:Wellington at Waterloo Hillingford.jpg|310px]] |
||
| caption = ภาพ ''เวลลิงตันที่วอเตอร์ลู'' |
|||
| caption = ''Wellington at Waterloo'' ผลงานของ [[โรเบิร์ต อเล็กซานเดอร์ ฮิลลิงฟอร์ด]] |
|||
| date = [[18 มิถุนายน]] [[ค.ศ. 1815]] |
| date = [[18 มิถุนายน]] [[ค.ศ. 1815]] |
||
| place = [[วอเตอร์ลู, เบลเยียม|เมืองวอเตอร์ลู]] ทางใต้ของ[[กรุงบรัสเซลส์]] [[ประเทศเบลเยียม]]ปัจจุบัน |
| place = [[วอเตอร์ลู, เบลเยียม|เมืองวอเตอร์ลู]] ทางใต้ของ[[กรุงบรัสเซลส์]] [[ประเทศเบลเยียม]]ปัจจุบัน |
||
บรรทัด 9: | บรรทัด 9: | ||
| result = พันธมิตรต่อต้านนโปเลียนที่เจ็ดได้ชัยชนะเด็ดขาด |
| result = พันธมิตรต่อต้านนโปเลียนที่เจ็ดได้ชัยชนะเด็ดขาด |
||
| combatant1 = {{flagicon|France}} [[จักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1|จักรวรรดิฝรั่งเศส]] |
| combatant1 = {{flagicon|France}} [[จักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1|จักรวรรดิฝรั่งเศส]] |
||
| combatant2 = ''' |
| combatant2 = '''ฝ่ายสัมพันธมิตร''':<br />{{flagicon|Prussia|1803}} [[ราชอาณาจักรปรัสเซีย]]<br />{{flagicon|UK}} [[สหราชอาณาจักร]]<br />[[ไฟล์:Prinsenvlag.svg|23px|สาธารณรัฐเนเธอร์แลนด์]] [[สาธารณรัฐดัตช์]]<br />{{flagicon|Hanover|1692}} [[ราชอาณาจักรฮาโนเวอร์]]<br />{{flagicon image|Flagge Herzogtum Nassau (1806-1866).svg}} [[แคว้นดยุคแห่งนัสเซา]]<br />{{flagicon image|Flagge Herzogtum Braunschweig.svg}} [[แคว้นดยุคแห่งบรันสวิก]] |
||
| commander1 = {{flagicon|France}} [[นโปเลียน โบนาปาร์ต]]<br /> {{flagicon|France}} [[มีแชล แน]] |
| commander1 = {{flagicon|France}} [[นโปเลียน โบนาปาร์ต]]<br /> {{flagicon|France}} [[มีแชล แน]] |
||
| commander2 = {{flagicon|UK}} [[อาร์เธอร์ เวลสลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งเวลลิงตัน|ดยุกแห่งเวลลิงตัน]]<br />{{flagicon|Prussia|1803}} [[Gebhard Leberecht von Blücher| |
| commander2 = {{flagicon|UK}} [[อาร์เธอร์ เวลสลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งเวลลิงตัน|ดยุกแห่งเวลลิงตัน]]<br />{{flagicon|Prussia|1803}} [[Gebhard Leberecht von Blücher|เกิบฮาร์ด ฟอน บลือเชอร์]] |
||
| strength1 = 72,000<ref name=Hofschroer72-73>Hofschröer, pp. 72–73</ref> |
| strength1 = 72,000<ref name=Hofschroer72-73>Hofschröer, pp. 72–73</ref> |
||
| strength2 = อังกฤษ-พันธมิตร: 68,000<ref name=Hofschroer72-73/><br />ปรัสเซีย: 50,000<ref>Chesney, p. 4</ref> |
| strength2 = อังกฤษ-พันธมิตร: 68,000<ref name=Hofschroer72-73/><br />ปรัสเซีย: 50,000<ref>Chesney, p. 4</ref> |
||
บรรทัด 17: | บรรทัด 17: | ||
| casualties2 = ตาย/บาดเจ็บ 22,000 คน<ref>Barbero, p. 419<br />กองทัพของเวลลิงตัน: ตาย 3,500 คน; บาดเจ็บ 10,200 คน; สูญหาย 3,300 คน<br />Blücher's army: ตาย 1,200 คน; บาดเจ็บ 4,400 คน; สูญหาย 1,400 คน</ref> |
| casualties2 = ตาย/บาดเจ็บ 22,000 คน<ref>Barbero, p. 419<br />กองทัพของเวลลิงตัน: ตาย 3,500 คน; บาดเจ็บ 10,200 คน; สูญหาย 3,300 คน<br />Blücher's army: ตาย 1,200 คน; บาดเจ็บ 4,400 คน; สูญหาย 1,400 คน</ref> |
||
}} |
}} |
||
'''ยุทธการที่วอเตอร์ลู''' เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 1815 ที่ [[วอเตอร์ลู|เมืองวอเตอร์ลู]] ซึ่งปัจจุบันอยู่ใน[[ประเทศเบลเยี่ยม]], ในขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของ [[สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์]]. กองทัพแห่ง[[First French Empire|ฝรั่งเศสยุคจักรพรรดิที่ 1]] ของ[[ |
'''ยุทธการที่วอเตอร์ลู''' เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 1815 ที่ [[วอเตอร์ลู|เมืองวอเตอร์ลู]] ซึ่งปัจจุบันอยู่ใน[[ประเทศเบลเยี่ยม]], ในขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของ [[สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์]]. กองทัพแห่ง[[First French Empire|ฝรั่งเศสยุคจักรพรรดิที่ 1]] ของ[[จักรพรรดินโปเลียนที่ 1]] ได้ปราชัยแก่กองทัพ[[สงครามสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ด|สัมพันธมิตรที่เจ็ด]], ภายใต้การนำทัพของ [[Arthur Wellesley, 1st Duke of Wellington|ดยุกแห่งเวลลิงตัน]] รวมกับกองทัพ[[ปรัสเซีย]] ของ[[เกิบฮาร์ด เลเบริชท์ ฟอน บลือเชอร์]] ซึ่งเป็นการสู้รบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเคมเปญที่วอเตอร์ลู ผลของการสู้รบทำให้นโปเลียนหมดอำนาจอย่างแท้จริง เป็นจุดสิ้นสุดของ[[สมัยร้อยวัน|รัชสมัยร้อยวัน]] และนโปเลียนถูกเนรเทศไป[[เกาะเซนต์เฮเลนา]] |
||
การ |
การหวนคืนสู่แผ่นดินยุโรปของนโปเลียนในปี 1815 ทำให้รัฐต่างๆ รวมกันเป็น[[สงครามสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ด|สัมพันธมิตรที่เจ็ด]] กองทัพจำนวนมากของดยุกแห่งเวลลิงตันและบลือเชอร์ได้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส นโปเลียนวางแผนเข้าโจมตีเพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพทั้งสอง เข้ารวมกับกองทัพของรัฐต่างๆ การตัดสินใจนี้เรียกว่าเคมเปญที่วอเตอร์ลู (16–19 มิถุนายน 1815) เวลลิงตันเคยกล่าวไว้ว่า สงครามนี้เป็น "the nearest-run thing you ever saw in your life" .<ref>[[q:Arthur Wellesley, 1st Duke of Wellington|Wikiquote:Wellington]] citing ''Creevey Papers'', ch. x, p. 236</ref> |
||
นโปเลียนได้ชะลอการโจมตีถึงตอนเที่ยงวันที่ 18 เพื่อให้พื้นแห้ง ในขณะที่กองทัพของเวลลิงตันได้ประจำตำแหน่งไปตามถนนที่เนินมงต์-แซงต์-ฌอง ตั้งรับการโจมตีของฝรั่งเศสจนถึงตอนเย็น กองทัพของบลือเชอร์ได้มาถึงและเข้าโจมตีทางขวาของกองทัพฝรั่งเศส ร่วมกับกองทัพของเวลลิงตันที่ได้เข้าโจมตีกองทัพฝรั่งเศสจนหมดสภาพในการรบ กองกำลังผสมได้เข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสและคืนอำนาจแก่หลุยส์ที่ 18 แห่งฝรั่งเศส นโปเลียนถูกถอดจากอำนาจและถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา |
นโปเลียนได้ชะลอการโจมตีถึงตอนเที่ยงวันที่ 18 เพื่อให้พื้นแห้ง ในขณะที่กองทัพของเวลลิงตันได้ประจำตำแหน่งไปตามถนนที่เนินมงต์-แซงต์-ฌอง ตั้งรับการโจมตีของฝรั่งเศสจนถึงตอนเย็น กองทัพของบลือเชอร์ได้มาถึงและเข้าโจมตีทางขวาของกองทัพฝรั่งเศส ร่วมกับกองทัพของดยุกแห่งเวลลิงตันที่ได้เข้าโจมตีกองทัพฝรั่งเศสจนหมดสภาพในการรบ กองกำลังผสมได้เข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสและคืนอำนาจแก่หลุยส์ที่ 18 แห่งฝรั่งเศส นโปเลียนถูกถอดจากอำนาจและถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา |
||
ปัจจุบันสมรภูมินี้อยู่ในประเทศเบลเยี่ยม ระยะทางประมาณ {{convert|8|mi|km}} จากทิศใต้ไปตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซล และ {{convert|1|mi|km}} จากเมืองวอเตอร์ลู ปัจจุบันมีรูปปั้นไลออนส์โมนด์ตั้งอยู่ |
ปัจจุบันสมรภูมินี้อยู่ในประเทศเบลเยี่ยม ระยะทางประมาณ {{convert|8|mi|km}} จากทิศใต้ไปตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซล และ {{convert|1|mi|km}} จากเมืองวอเตอร์ลู ปัจจุบันมีรูปปั้นไลออนส์โมนด์ตั้งอยู่ |
||
บรรทัด 27: | บรรทัด 27: | ||
==ต้นเหตุ== |
==ต้นเหตุ== |
||
{{Main|สมัยร้อยวัน}} |
{{Main|สมัยร้อยวัน}} |
||
[[ไฟล์:Strategic Situation of Western Europe 1815.jpg|thumb| |
[[ไฟล์:Strategic Situation of Western Europe 1815.jpg|left|thumb|250px|สถานการที่ยุโรปตะวันตกปี 1815 : ทหารฝรั่งเศส 250,000 นาย ต่อสู้กับพันธมิตรต่อต้านนโปเลียน 850,000 นาย โดยนโปเลียนยังต้องแบ่งกำลัง 20,000 นายไว้ที่ฝรั่งเศสตะวันตกเพื่อป้องกันกลุ่ม[[รอยัลลิสต์]] ]] |
||
วันที่ 13 มีนาคม 1815, 6 วันก่อนนโปเลียนเดินทางถึงปารีส |
วันที่ 13 มีนาคม 1815, 6 วันก่อนนโปเลียนเดินทางถึงปารีส [[การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา]] ได้ประกาศให้นโปเลียนเป็นคนนอกกฎหมาย<ref>[http://dl.lib.brown.edu/napoleon/time7.html Timeline: The Congress of Vienna, the Hundred Days, and Napoleon's Exile on St Helena], Center of Digital Initiatives, [[Brown University]] Library</ref> สี่วันต่อมา [[สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์|สหราชอาณาจักร]], [[จักรวรรดิรัสเซีย|รัสเซีย]], [[จักรวรรดิออสเตรีย|ออสเตรีย]], และ [[ปรัสเซีย]] ได้ยกกองทัพมาเพื่อกำจัดอำนาจของนโปเลียน<ref>{{Harvnb|Hamilton-Williams|1993|p=59}}</ref> นโปเลียนทราบว่า ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรได้แล้ว เขาต้องโจมตีกองทัพสัมพันธมิตรก่อนที่จะยกทัพมาเพื่อรักษาอำนาจที่ตนมี ถ้าหากเขาสามารถโจมตีกองกำลังผสมที่อยู่ทางตอนใต้ของกรุงบรัสเซล ได้สำเร็จแล้ว อาจจะทำให้กองทัพอังกฤษถอยทัพออกไปยังเกาะบริเตน และทำให้กองทัพปรัสเซียพ่ายแพ้ |
||
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือในเขตนั้นมีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอยู่ (Francophone) ชัยชนะอาจทำให้เกิดการเข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศส อีกประการหนึ่ง กองทัพอังกฤษที่นั่นเป็นทหารใหม่ กองทัพจำนวนมากที่เคยรบ[[สงครามคาบสมุทร |
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือในเขตนั้นมีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอยู่ (Francophone) ชัยชนะอาจทำให้เกิดการเข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศส อีกประการหนึ่ง กองทัพอังกฤษที่นั่นเป็นทหารใหม่ กองทัพจำนวนมากที่เคยรบ[[สงครามคาบสมุทร]]ได้ถูกส่งไปประจำการที่อเมริกาใน[[สงคราม ค.ศ. 1812|สงครามปี 1812]]<ref>{{Harvnb|Chandler|1966|pp=1016, 1017, 1093}}</ref>การยกพลกองทัพไปผ่าน[[มงส์]]ไปยังบรัสเซลส์ มีจุดประสงค์เพื่อตั้งรับการโจมตีนของนโปเลียน <ref>{{Harvnb|Siborne<!--W-->|1990|p=82}}.</ref> การทำเช่นนี้ทำให้เวลลินตันไม่สามารถติต่อกับฐานบัญชาการที่[[ออสเตนด์]] แต่กองทัพของเขาจะใกล้กับบลือเชอร์มาก ฝั่งซ้ายของกองทัพควบคุมโดย[[มีแชล แน]] ฝั่งขวาควบคุมโดย[[เอ็มมานูเอล, มาร์กีสแห่งกรูชี|มาร์เชลกรูชี]] กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีป้อมของกลุ่มพัทธมิตร ในช่วงรุ่งอรุณของวันที่ 15 มิถุนายน ที่[[ชาร์เลอรัว]] |
||
⚫ | |||
การยกพลกองทัพไปผ่าน[[มองส์]]ไปยังบรัสเซลส์ มีจุดประสงค์เพื่อตั้งรับการโจมตีนของนโปเลียน <ref>{{Harvnb|Siborne<!--W-->|1990|p=82}}.</ref> การทำเช่นนี้ทำให้เวลลินตันไม่สามารถติต่อกับฐานบัญชาการที่[[ออสเตนด์]] แต่กองทัพของเขาจะใกล้กับบลือเชอร์มาก ฝั่งซ้ายของกองทัพควบคุมโดย[[Michel Ney|มิเชล เนย์]] ฝั่งขวาควบคุมโดย[[เอ็มมานูเอล, มาร์กีสแห่งกรูชี|มาร์เชลกรูชี]] กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีป้อมของกลุ่มพัทธมิตร ในช่วงรุ่งอรุณของวันที่ 15 มิถุนายน ที่[[ชาร์เลอรัว]] |
|||
==สมรภูมิ== |
==สมรภูมิ== |
||
⚫ | |||
สมรภูมิวอเตอร์ลูมีแนวสันเขาตามทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก มีถนนไปบรัสเซล์ตัดผ่านตรงกลางในแนวตั้งฉาก ทางยอดเขามีถนน[[Ohain, Belgium|โออัง]]และหุบเหวตื้น ที่จุดตัดของถนนไปบรัสเซล์มีต้นเอม ซึ่งเวลลิงตันได้ควบคุมการรบที่นั่น โดยใช้การรบบนเนินเขา<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|pp=78,79}}.</ref>ความยาวของกองทัพนั้นประมาณ {{convert|2.5|mi|km}} เวลลิงตันจึงสามารถนำกองทัพของเขารุกขึ้นมาได้ ซึ่งเขาทำในช่วงตอนกลางและฝั่งขวาไปยังหมู่บ้าน[[แบรน์-ลาลเลอด]]โดยหวังใช้กองทัพปรัสเซียมาถึงให้ทันเวลา<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|p=80}}.</ref> |
สมรภูมิวอเตอร์ลูมีแนวสันเขาตามทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก มีถนนไปบรัสเซล์ตัดผ่านตรงกลางในแนวตั้งฉาก ทางยอดเขามีถนน[[Ohain, Belgium|โออัง]]และหุบเหวตื้น ที่จุดตัดของถนนไปบรัสเซล์มีต้นเอม ซึ่งเวลลิงตันได้ควบคุมการรบที่นั่น โดยใช้การรบบนเนินเขา<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|pp=78,79}}.</ref>ความยาวของกองทัพนั้นประมาณ {{convert|2.5|mi|km}} เวลลิงตันจึงสามารถนำกองทัพของเขารุกขึ้นมาได้ ซึ่งเขาทำในช่วงตอนกลางและฝั่งขวาไปยังหมู่บ้าน[[แบรน์-ลาลเลอด]]โดยหวังใช้กองทัพปรัสเซียมาถึงให้ทันเวลา<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|p=80}}.</ref> |
||
ด้านหน้าสันเขามีจุดสำตัญที่สามารถใช้ป้องกันการโจมตีได้ ฝั่งขวาสุดมีชาโต สวน และสวมผลไม้ที่[[อูโกมองต์]]มีบ้านที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ซึ่งหันไปทางทิศเหนือ ตามแนวร่องเหว ฝั่งซ้ายสุดมีหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อปาปล็อต(Papelotte) ซึ่งอูโกมองต์และปาปล็อตได้มีทหารประจำการ ซึ่งทำให้การโจมตีตามแนวขอบใช้ไม่ได้ และปาปล็อตยังยึดถนนไปวาเวรอ ซึ่งทหารปรัสเซียใช้เดินทางมา ทิศตะวันตกของถนนไปบรัสเซล์มีฟาร์มชื่อว่า[[ลาแอย์แซงต์]]มีทหารเบาแห่ง[[กองทหารแห่งกษัตริย์เยอรมัน]] 400 นายประจำการอยู่.<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|p=149}}.</ref> ด้านตรงข้ามของถนนมีเหมืองทราย ที่[[หน่วยไรเฟิลที่ 95]]ประจำการเป็นพลแม่นปืน<ref>{{Harvnb|Parry|1900|p=58}}.</ref> |
ด้านหน้าสันเขามีจุดสำตัญที่สามารถใช้ป้องกันการโจมตีได้ ฝั่งขวาสุดมีชาโต สวน และสวมผลไม้ที่[[อูโกมองต์]]มีบ้านที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ซึ่งหันไปทางทิศเหนือ ตามแนวร่องเหว ฝั่งซ้ายสุดมีหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อปาปล็อต(Papelotte) ซึ่งอูโกมองต์และปาปล็อตได้มีทหารประจำการ ซึ่งทำให้การโจมตีตามแนวขอบใช้ไม่ได้ และปาปล็อตยังยึดถนนไปวาเวรอ ซึ่งทหารปรัสเซียใช้เดินทางมา ทิศตะวันตกของถนนไปบรัสเซล์มีฟาร์มชื่อว่า[[ลาแอย์แซงต์]]มีทหารเบาแห่ง[[กองทหารแห่งกษัตริย์เยอรมัน]] 400 นายประจำการอยู่.<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|p=149}}.</ref> ด้านตรงข้ามของถนนมีเหมืองทราย ที่[[หน่วยไรเฟิลที่ 95]]ประจำการเป็นพลแม่นปืน<ref>{{Harvnb|Parry|1900|p=58}}.</ref> |
||
ตำแหน่งของกองทัพเช่นนี้เป็นสิ่งที่ลำบากใจในการโจมตี การโจมตีต้องโจมตีที่อูโกมง ถ้าโจมตีตรงกลางจะถูงยิงทั้งสองด้าน คือทางอูโกมงและลาแอย์แซงต์ ฝั่งซ้ายจะถูกโจมตีที่ลาแอย์แซงต์ และเมืองปาปล็อต <ref>{{Harvnb|Barbero|2005|pp=141,235}}.</ref> |
ตำแหน่งของกองทัพเช่นนี้เป็นสิ่งที่ลำบากใจในการโจมตี การโจมตีต้องโจมตีที่อูโกมง ถ้าโจมตีตรงกลางจะถูงยิงทั้งสองด้าน คือทางอูโกมงและลาแอย์แซงต์ ฝั่งซ้ายจะถูกโจมตีที่ลาแอย์แซงต์ และเมืองปาปล็อต <ref>{{Harvnb|Barbero|2005|pp=141,235}}.</ref> |
||
กองทัพฝรั่งเศสอยู่ทางใต้ของสันเขา นโปเลียนไม่เห็นตำแหน่งของเวลลิงตัน จึงเดินทัพไปทางถนนบรัสเซล ปีกขวามีกองที่ 1 นำทัพโดย[[ฌอง บัปติสท์ ดรูเอต,กงต์แห่งเดอลง|เดอลง]]มีทหารราบ 1,600 นาย ทหารม้า 1,500 นาย และสำรองอีก 4,700 ปีกซ้ายนำโดย[[เอเนอเร่ ชารลส์ รายยี|รายยี]] มีทหารราบ 1,300 นาย ทหารม้า 1,300 นายและสำรองอีก 4,600 นาย ตรงกลางถนนไปยัง[[ลา แบล อาลายยัง]]มีกำลังเสริมของโลโบ ประกอบด้วยทหารราบ 6,000 [[ทหารรักษาพระองค์]] 1,300 นาย และทหารท้าอีก 1,200 นาย<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|pp=83–85}}.</ref> |
กองทัพฝรั่งเศสอยู่ทางใต้ของสันเขา นโปเลียนไม่เห็นตำแหน่งของเวลลิงตัน จึงเดินทัพไปทางถนนบรัสเซล ปีกขวามีกองที่ 1 นำทัพโดย[[ฌอง บัปติสท์ ดรูเอต,กงต์แห่งเดอลง|เดอลง]]มีทหารราบ 1,600 นาย ทหารม้า 1,500 นาย และสำรองอีก 4,700 ปีกซ้ายนำโดย[[เอเนอเร่ ชารลส์ รายยี|รายยี]] มีทหารราบ 1,300 นาย ทหารม้า 1,300 นายและสำรองอีก 4,600 นาย ตรงกลางถนนไปยัง[[ลา แบล อาลายยัง]]มีกำลังเสริมของโลโบ ประกอบด้วยทหารราบ 6,000 [[ทหารรักษาพระองค์]] 1,300 นาย และทหารท้าอีก 1,200 นาย<ref>{{Harvnb|Barbero|2005|pp=83–85}}.</ref> |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:10, 31 กรกฎาคม 2559
ยุทธการวอเตอร์ลู | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ด | |||||||
ภาพ เวลลิงตันที่วอเตอร์ลู | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
จักรวรรดิฝรั่งเศส |
ฝ่ายสัมพันธมิตร: ราชอาณาจักรปรัสเซีย สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐดัตช์ ราชอาณาจักรฮาโนเวอร์ แคว้นดยุคแห่งนัสเซา แคว้นดยุคแห่งบรันสวิก | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
นโปเลียน โบนาปาร์ต มีแชล แน |
ดยุกแห่งเวลลิงตัน เกิบฮาร์ด ฟอน บลือเชอร์ | ||||||
กำลัง | |||||||
72,000[1] |
อังกฤษ-พันธมิตร: 68,000[1] ปรัสเซีย: 50,000[2] | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ตาย/บาดเจ็บ 25,000 คน ตกเป็นเชลย 7,000 คน สูญหาย 15,000[3] | ตาย/บาดเจ็บ 22,000 คน[4] |
ยุทธการที่วอเตอร์ลู เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 1815 ที่ เมืองวอเตอร์ลู ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศเบลเยี่ยม, ในขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของ สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์. กองทัพแห่งฝรั่งเศสยุคจักรพรรดิที่ 1 ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ปราชัยแก่กองทัพสัมพันธมิตรที่เจ็ด, ภายใต้การนำทัพของ ดยุกแห่งเวลลิงตัน รวมกับกองทัพปรัสเซีย ของเกิบฮาร์ด เลเบริชท์ ฟอน บลือเชอร์ ซึ่งเป็นการสู้รบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเคมเปญที่วอเตอร์ลู ผลของการสู้รบทำให้นโปเลียนหมดอำนาจอย่างแท้จริง เป็นจุดสิ้นสุดของรัชสมัยร้อยวัน และนโปเลียนถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา
การหวนคืนสู่แผ่นดินยุโรปของนโปเลียนในปี 1815 ทำให้รัฐต่างๆ รวมกันเป็นสัมพันธมิตรที่เจ็ด กองทัพจำนวนมากของดยุกแห่งเวลลิงตันและบลือเชอร์ได้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส นโปเลียนวางแผนเข้าโจมตีเพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพทั้งสอง เข้ารวมกับกองทัพของรัฐต่างๆ การตัดสินใจนี้เรียกว่าเคมเปญที่วอเตอร์ลู (16–19 มิถุนายน 1815) เวลลิงตันเคยกล่าวไว้ว่า สงครามนี้เป็น "the nearest-run thing you ever saw in your life" .[5]
นโปเลียนได้ชะลอการโจมตีถึงตอนเที่ยงวันที่ 18 เพื่อให้พื้นแห้ง ในขณะที่กองทัพของเวลลิงตันได้ประจำตำแหน่งไปตามถนนที่เนินมงต์-แซงต์-ฌอง ตั้งรับการโจมตีของฝรั่งเศสจนถึงตอนเย็น กองทัพของบลือเชอร์ได้มาถึงและเข้าโจมตีทางขวาของกองทัพฝรั่งเศส ร่วมกับกองทัพของดยุกแห่งเวลลิงตันที่ได้เข้าโจมตีกองทัพฝรั่งเศสจนหมดสภาพในการรบ กองกำลังผสมได้เข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสและคืนอำนาจแก่หลุยส์ที่ 18 แห่งฝรั่งเศส นโปเลียนถูกถอดจากอำนาจและถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา
ปัจจุบันสมรภูมินี้อยู่ในประเทศเบลเยี่ยม ระยะทางประมาณ 8 ไมล์ (13 กิโลเมตร) จากทิศใต้ไปตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซล และ 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร) จากเมืองวอเตอร์ลู ปัจจุบันมีรูปปั้นไลออนส์โมนด์ตั้งอยู่
ต้นเหตุ
วันที่ 13 มีนาคม 1815, 6 วันก่อนนโปเลียนเดินทางถึงปารีส การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา ได้ประกาศให้นโปเลียนเป็นคนนอกกฎหมาย[6] สี่วันต่อมา สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, ออสเตรีย, และ ปรัสเซีย ได้ยกกองทัพมาเพื่อกำจัดอำนาจของนโปเลียน[7] นโปเลียนทราบว่า ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรได้แล้ว เขาต้องโจมตีกองทัพสัมพันธมิตรก่อนที่จะยกทัพมาเพื่อรักษาอำนาจที่ตนมี ถ้าหากเขาสามารถโจมตีกองกำลังผสมที่อยู่ทางตอนใต้ของกรุงบรัสเซล ได้สำเร็จแล้ว อาจจะทำให้กองทัพอังกฤษถอยทัพออกไปยังเกาะบริเตน และทำให้กองทัพปรัสเซียพ่ายแพ้
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือในเขตนั้นมีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอยู่ (Francophone) ชัยชนะอาจทำให้เกิดการเข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศส อีกประการหนึ่ง กองทัพอังกฤษที่นั่นเป็นทหารใหม่ กองทัพจำนวนมากที่เคยรบสงครามคาบสมุทรได้ถูกส่งไปประจำการที่อเมริกาในสงครามปี 1812[8]การยกพลกองทัพไปผ่านมงส์ไปยังบรัสเซลส์ มีจุดประสงค์เพื่อตั้งรับการโจมตีนของนโปเลียน [9] การทำเช่นนี้ทำให้เวลลินตันไม่สามารถติต่อกับฐานบัญชาการที่ออสเตนด์ แต่กองทัพของเขาจะใกล้กับบลือเชอร์มาก ฝั่งซ้ายของกองทัพควบคุมโดยมีแชล แน ฝั่งขวาควบคุมโดยมาร์เชลกรูชี กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีป้อมของกลุ่มพัทธมิตร ในช่วงรุ่งอรุณของวันที่ 15 มิถุนายน ที่ชาร์เลอรัว
สมรภูมิ
สมรภูมิวอเตอร์ลูมีแนวสันเขาตามทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก มีถนนไปบรัสเซล์ตัดผ่านตรงกลางในแนวตั้งฉาก ทางยอดเขามีถนนโออังและหุบเหวตื้น ที่จุดตัดของถนนไปบรัสเซล์มีต้นเอม ซึ่งเวลลิงตันได้ควบคุมการรบที่นั่น โดยใช้การรบบนเนินเขา[10]ความยาวของกองทัพนั้นประมาณ 2.5 ไมล์ (4.0 กิโลเมตร) เวลลิงตันจึงสามารถนำกองทัพของเขารุกขึ้นมาได้ ซึ่งเขาทำในช่วงตอนกลางและฝั่งขวาไปยังหมู่บ้านแบรน์-ลาลเลอดโดยหวังใช้กองทัพปรัสเซียมาถึงให้ทันเวลา[11] ด้านหน้าสันเขามีจุดสำตัญที่สามารถใช้ป้องกันการโจมตีได้ ฝั่งขวาสุดมีชาโต สวน และสวมผลไม้ที่อูโกมองต์มีบ้านที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ซึ่งหันไปทางทิศเหนือ ตามแนวร่องเหว ฝั่งซ้ายสุดมีหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อปาปล็อต(Papelotte) ซึ่งอูโกมองต์และปาปล็อตได้มีทหารประจำการ ซึ่งทำให้การโจมตีตามแนวขอบใช้ไม่ได้ และปาปล็อตยังยึดถนนไปวาเวรอ ซึ่งทหารปรัสเซียใช้เดินทางมา ทิศตะวันตกของถนนไปบรัสเซล์มีฟาร์มชื่อว่าลาแอย์แซงต์มีทหารเบาแห่งกองทหารแห่งกษัตริย์เยอรมัน 400 นายประจำการอยู่.[12] ด้านตรงข้ามของถนนมีเหมืองทราย ที่หน่วยไรเฟิลที่ 95ประจำการเป็นพลแม่นปืน[13] ตำแหน่งของกองทัพเช่นนี้เป็นสิ่งที่ลำบากใจในการโจมตี การโจมตีต้องโจมตีที่อูโกมง ถ้าโจมตีตรงกลางจะถูงยิงทั้งสองด้าน คือทางอูโกมงและลาแอย์แซงต์ ฝั่งซ้ายจะถูกโจมตีที่ลาแอย์แซงต์ และเมืองปาปล็อต [14] กองทัพฝรั่งเศสอยู่ทางใต้ของสันเขา นโปเลียนไม่เห็นตำแหน่งของเวลลิงตัน จึงเดินทัพไปทางถนนบรัสเซล ปีกขวามีกองที่ 1 นำทัพโดยเดอลงมีทหารราบ 1,600 นาย ทหารม้า 1,500 นาย และสำรองอีก 4,700 ปีกซ้ายนำโดยรายยี มีทหารราบ 1,300 นาย ทหารม้า 1,300 นายและสำรองอีก 4,600 นาย ตรงกลางถนนไปยังลา แบล อาลายยังมีกำลังเสริมของโลโบ ประกอบด้วยทหารราบ 6,000 ทหารรักษาพระองค์ 1,300 นาย และทหารท้าอีก 1,200 นาย[15]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 Hofschröer, pp. 72–73
- ↑ Chesney, p. 4
- ↑ Barbero, p. 420
- ↑ Barbero, p. 419
กองทัพของเวลลิงตัน: ตาย 3,500 คน; บาดเจ็บ 10,200 คน; สูญหาย 3,300 คน
Blücher's army: ตาย 1,200 คน; บาดเจ็บ 4,400 คน; สูญหาย 1,400 คน - ↑ Wikiquote:Wellington citing Creevey Papers, ch. x, p. 236
- ↑ Timeline: The Congress of Vienna, the Hundred Days, and Napoleon's Exile on St Helena, Center of Digital Initiatives, Brown University Library
- ↑ Hamilton-Williams 1993, p. 59
- ↑ Chandler 1966, pp. 1016, 1017, 1093
- ↑ Siborne 1990, p. 82 .
- ↑ Barbero 2005, pp. 78, 79 .
- ↑ Barbero 2005, p. 80 .
- ↑ Barbero 2005, p. 149 .
- ↑ Parry 1900, p. 58 .
- ↑ Barbero 2005, pp. 141, 235 .
- ↑ Barbero 2005, pp. 83–85 .