ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การกลายพันธุ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
Aanon (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ขาดอ้างอิง}}
{{วิวัฒนาการ 3}}
{{วิวัฒนาการ 3}}
'''การกลายพันธุ์''' ({{lang-en|mutation}}) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพของ[[สิ่งมีชีวิต]] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงของ[[ยีน]] ทำให้สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาใหม่มีลักษณะแตกต่างจากกลุ่มปกติ
'''การกลายพันธุ์''' ({{lang-en|mutation}}) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพของ[[สิ่งมีชีวิต]] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงของ[[ยีน]] ทำให้สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาใหม่มีลักษณะแตกต่างจากกลุ่มปกติ<ref name="การกลายพันธุ์ หรือ การผ่าเหล่า หรือ มิวเทชั่น (Mutation) คือ อะไร (What is Mutation ?)">[http://www.thaibiotech.info/what-is-mutation.php/ การกลายพันธุ์ หรือ การผ่าเหล่า หรือ มิวเทชั่น (Mutation) คือ อะไร (What is Mutation ?)], วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.thaibiotech.info.</ref>


== การกลายพันธุ์เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต ==
== การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต ==
การกลายพันธุ์เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต 2 ระดับ คือ ระดับ[[โครโมโซม]] (chromosomal mutation) และระดับยีนหรือ[[โมเลกุล]] [[ดีเอ็นเอ]] (DNA gene mutation)
การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตมี 2 ระ ดับ คือ ระดับ[[โครโมโซม]] (chromosomal mutation) และระดับยีนหรือ[[โมเลกุล]] [[ดีเอ็นเอ]] (DNA gene mutation)<ref name="การกลายพันธุ์ หรือ การผ่าเหล่า หรือ มิวเทชั่น (Mutation) คือ อะไร (What is Mutation ?)"/>


=== การเปลี่ยนแปลงระดับโครโมโซม ===
=== การเปลี่ยนแปลงระดับโครโมโซม ===
บรรทัด 22: บรรทัด 21:


การเปลี่ยนแปลงของยีนนั้นมีพื้นฐานมาจากการเปลี่ยนแปลงใน 3 ประการคือ
การเปลี่ยนแปลงของยีนนั้นมีพื้นฐานมาจากการเปลี่ยนแปลงใน 3 ประการคือ

# การขาดหายไป หรือการเพิ่มขึ้นมาของคู่สารประกอบไนโตรจีนัลเบส คือเพียวรินไพริมิดีนในสายของ DNA ทำให้การเรียงลำดับของเบสเปลี่ยนไปจากเดิม และผลที่ติดตามมาคือ รหัสพันธุกรรมผิด หรือคลาดเคลื่อนไป
# การขาดหายไป หรือการเพิ่มขึ้นมาของคู่สารประกอบไนโตรจีนัลเบส คือเพียวรินไพริมิดีนในสายของ DNA ทำให้การเรียงลำดับของเบสเปลี่ยนไปจากเดิม และผลที่ติดตามมาคือ รหัสพันธุกรรมผิด หรือคลาดเคลื่อนไป
# การเปลี่ยนคู่ของเพียวรินไพริมิดีนในโมเลกุลของ DNA ที่เกิดขึ้นในระหว่างมีการสร้าง DNA ในระยะอินเตอร์เฟส ซึ่งเกิดจากการที่สารเคมีบางชนิดที่มีโครงสร้างคล้ายกับเบสตัวหนึ่งแต่มีสมบัติทางเคมีในเชิงการจับคู่ต่างไปจากเบสตัวนั้น
# การเปลี่ยนคู่ของเพียวรินไพริมิดีนในโมเลกุลของ DNA ที่เกิดขึ้นในระหว่างมีการสร้าง DNA ในระยะอินเตอร์เฟส ซึ่งเกิดจากการที่สารเคมีบางชนิดที่มีโครงสร้างคล้ายกับเบสตัวหนึ่งแต่มีสมบัติทางเคมีในเชิงการจับคู่ต่างไปจากเบสตัวนั้น
บรรทัด 28: บรรทัด 26:


== ปัจจัยที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ==
== ปัจจัยที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ==
ตัวกระตุ้นหรือชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ จะเรียกว่าสิ่งก่อกลายพันธุ์ (mutagen) เช่น
ตัวกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์เรียกว่าสิ่งก่อกลายพันธุ์ (mutagen)<ref>[http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/5484/mutagen-%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99-%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C/ mutagen-มิวทาเจน-หรือสารก่อกลายพันธุ์], วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.foodnetworksolution.com.</ref> เช่น
# รังสี (radiation) รังสีที่กระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์คือ

## Ionizing Radiation เช่น รังสีเอกซ์, รังสีบีตา, รังสีแกมมา<ref>[http://www0.tint.or.th/application/apply-plant.html/ การปรับปรุงพันธุ์พืชด้วยรังสี], วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www0.tint.or.th.</ref>
# รังสี (radiation) รังสีที่กระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์มี 2 ชนิดคือ
## Non-Ionizing Radiation เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี)<ref>[http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=15&chap=10&page=t15-10-infodetail06.html/ ผลกระทบเมื่อก๊าซโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโทสเฟียร์ถูกทำลาย], วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.kanchanapisek.or.th.</ref>
## Ionizing Radiation เช่น รังสีบีตา, รังสีแกมมา, รังสีเอกซ์
# สารเคมี เช่น สารโคลซิซิน (colchicine) ทำให้ชุดโครโมโซมเพิ่มขึ้นเพื่อให้พืชมีผลผลิตในเวลาไม่นาน<ref>[http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=31&chap=5&page=t31-5-infodetail06.html/ การนำวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ], วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.kanchanapisek.or.th.</ref> สารอะฟลาทอกซิน (aflatoxins) เป็นสารพิษที่ทำให้แบคทีเรียกลายพันธุ์เป็นสาเหตุของมะเร็งตับได้<ref>[http://www.มะเร็งตับ.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%99-aflatoxin-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%9A/ อะฟลาท็อกซิน-aflatoxin-ตัวการก่อมะเร็งตับ], วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.มะเร็งตับ.com.</ref>
## Non-Ionizing Radiation เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต
# การจัดเรียงเบสในกระบวนการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA replication) ผิดพลาด มีผลทำให้เกิดการเพิ่มหรือลดจำนวนเบสในคู่สาย และทำให้เกิดการเลื่อน (shift) ของสายDNA<ref name="การกลายพันธุ์ หรือ การผ่าเหล่า หรือ มิวเทชั่น (Mutation) คือ อะไร (What is Mutation ?)"/>
# สารเคมี เช่น สารโคลซิซิน (colchicine) มีผลทำให้มีการเพิ่มจำนวนชุดของโครโมโซม ผลดังกล่าวนี้ทำให้ผลผลิตพืชเพิ่มขึ้น สารไดคลอวอส (dichlovos) ที่ใช้กำจัดแมลงและพาราควอต (paraquat) ที่ใช้กำจัดวัชพืช ก็สามารถทำให้เกิดการผิดปกติของโครโมโซมในคนและสัตว์ได้ สิ่งก่อกลายพันธุ์หรือมิวทาเจนหลายชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง (carcinogen) เช่น สารอะฟลาทอกซิน (aflatoxins) จากเชื้อราบางชนิดทำให้เกิดมะเร็งที่ตับ เป็นต้น
# การจัดเรียงเบสในกระบวนการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA replication) ผิดพลาด มีผลทำให้เกิดการเพิ่มหรือลดจำนวนเบสในคู่สาย และทำให้เกิดการเลื่อน (shift) ของสายDNA


== ประเภทของการกลายพันธุ์ ==
== ประเภทของการกลายพันธุ์ ==
การกลายพันธุ์เกิดกับเซลล์ในร่างกาย 2 ลักษณะ คือ
การกลายพันธุ์เกิดกับเซลล์ในร่างกาย 2 ลักษณะ คือ<ref name="การกลายพันธุ์ หรือ การผ่าเหล่า หรือ มิวเทชั่น (Mutation) คือ อะไร (What is Mutation ?)"/>
# เซลล์ร่างกาย (Somatic cell) เซลล์ชนิดนี้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์แล้ว จะไม่ถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไป
# เซลล์ร่างกาย (Somatic cell) เซลล์ชนิดนี้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์แล้ว จะไม่ถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไป
# เซลล์สืบพันธุ์ (Sex cell) เซลล์เหล่านี้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์แล้ว จะถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้ ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด และส่งผลต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตด้วย
# เซลล์สืบพันธุ์ (Sex cell) เซลล์เหล่านี้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์แล้ว จะถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้ ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด และส่งผลต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตด้วย

== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}


{{วิวัฒนาการ}}
{{วิวัฒนาการ}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:19, 25 พฤษภาคม 2559

การกลายพันธุ์ (อังกฤษ: mutation) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงของยีน ทำให้สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาใหม่มีลักษณะแตกต่างจากกลุ่มปกติ[1]

การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต

การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตมี 2 ระ ดับ คือ ระดับโครโมโซม (chromosomal mutation) และระดับยีนหรือโมเลกุล ดีเอ็นเอ (DNA gene mutation)[1]

การเปลี่ยนแปลงระดับโครโมโซม

การกลายพันธุ์ระดับโครโมโซม

แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ

  1. การเปลี่ยนแปลงรูปร่างโครงสร้างภายในของแต่ละโครโมโซม เป็นผลให้เกิดการสับเปลี่ยนตำแหน่งของยีนที่อยู่ในโครโมโซมนั้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นเนื่องจาก
    1. การขาดหายไป (deletion หรือ deficiency) ของส่วนใดส่วนหนึ่งของโครโมโซม ทำให้ยีนขาดหายไปด้วย เช่น กรณีการเกิดโรคของกลุ่มอาการครี-ดูว์-ชา โดยโครโมโซมคู่ที่ 5 เส้นหนึ่ง มีบางส่วนขาดหายไป
    2. การเพิ่มขึ้นมา (duplication) โดยมีส่วนใดส่วนหนึ่งของโครโมโซม เพิ่มขึ้นมามากกว่าที่มีอยู่ปกติ
    3. การเปลี่ยนตำแหน่งทิศทาง (inversion) โดยเกิดการสับเปลี่ยนตำแหน่งของยีนภายในโครโมโซมเดียวกัน เนื่องจากเกิดรอยขาด 2 แห่งบนโครโมโซมนั้น และส่วนที่ขาดนั้นไม่หลุดหายไป แต่กลับต่อเข้ามาใหม่ในโครโมโซมเดิมโดยสลับที่กัน
    4. การเปลี่ยนสลับที่ (translocation) เกิดจากการแลกเปลี่ยนส่วนของโครโมโซมระหว่างโครโมโซมที่ไม่เป็นโฮโมโลกัสกัน
  2. การเปลี่ยนแปลงจำนวนโครโมโซม โดยอาจมีจำนวนโครโมโซมเพิ่มมากขึ้นหรือลดน้อยลงไปจากจำนวนปกติ (ดิปลอยด์ หรือ 2n) เกิดได้ 2 ลักษณะ คือ
    1. แอนยูพลอยดี (aneuploidy) เป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนของโครโมโซมเพียงไม่กี่เส้นจากจำนวนปกติ เช่น อาจเป็น 2n ± 1 หรือ n ± 2 การเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมแบบนี้ มีความสำคัญทางการแพทย์เป็นอย่างมาก โดยทั่วไปเกิดจากความผิดปกติของคู่โครโมโซมที่ไม่ยอมแยกตัวออกจากกันในระหว่างการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เรียกปรากฏการณ์ที่โครโมโซมไม่แยกออกจากกันนี้ว่า นอนดิสจังชัน (nondisjunction) ความผิดปกติของการมีแอนยูพลอยดีที่เกิดขึ้นในคน เช่น กลุ่มอาการดาวน์ ซึ่งมีโครโมโซม 47 เส้น โดยโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 เส้น กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ (Klinefelter’s Syndrome) มีโครโมโซม 47 เส้น โดยโครโมโซมคู่ที่ 23 มีโครโมโซม X เกินมา 1 เส้น (44 + XXY)
    2. ยูพลอยดี (euploidy) เป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนชุดของโครโมโซม (2n ± n หรือ 2n ± 2n) ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเท่าที่พบ เกิดขึ้นในพวกพืช และมีประโยชน์ในทางการเกษตรในแง่การเพิ่มผลผลิต และเป็นกลไกที่จะทำให้เกิดวิวัฒนาการในพืช สำหรับสัตว์เมื่อเกิดแล้วมักจะทำให้เป็นหมัน หรือผลิตเซลล์สืบพันธุ์ที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ

การกลายพันธุ์ของยีน

การกลายพันธุ์ของยีน การเปลี่ยนแปลงในระดับยีนนี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเบส (A, T, C, G) หรือการเปลี่ยนตำแหน่งของลำดับการเรียงตัวของเบสในโมเลกุลของ DNA ซึ่งจะส่งผลสะท้อนไปถึงตำแหน่งการเรียงตัวของกรดอะมิโน ในสายพอลิเปปไทด์ในโมเลกุลของโปรตีนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยีนนั้นด้วย การเปลี่ยนแปลงของเบสในโมเลกุล DNA ดังกล่าวอาจทำให้ไม่มีการสร้างโปรตีน หรือโปรตีนที่สร้างขึ้นมานั้นเปลี่ยนสมบัติทางเคมีไปจากเดิม หรือหมดสภาพการทำงานไป

การเปลี่ยนแปลงของยีนนั้นมีพื้นฐานมาจากการเปลี่ยนแปลงใน 3 ประการคือ

  1. การขาดหายไป หรือการเพิ่มขึ้นมาของคู่สารประกอบไนโตรจีนัลเบส คือเพียวรินไพริมิดีนในสายของ DNA ทำให้การเรียงลำดับของเบสเปลี่ยนไปจากเดิม และผลที่ติดตามมาคือ รหัสพันธุกรรมผิด หรือคลาดเคลื่อนไป
  2. การเปลี่ยนคู่ของเพียวรินไพริมิดีนในโมเลกุลของ DNA ที่เกิดขึ้นในระหว่างมีการสร้าง DNA ในระยะอินเตอร์เฟส ซึ่งเกิดจากการที่สารเคมีบางชนิดที่มีโครงสร้างคล้ายกับเบสตัวหนึ่งแต่มีสมบัติทางเคมีในเชิงการจับคู่ต่างไปจากเบสตัวนั้น
  3. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในโมเลกุลของเบสเอง ทำให้สมบัติทางเคมีในเชิงจับคู่ของมันเปลี่ยนไป เช่น เบสอะดีนีน (A) เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปใหม่แล้วก็จะไปจับคู่กับเบสไซโตซีน (C) รูปปกติ แทนที่อะดีนีนจะจับคู่กับไทมีน (T) ตามปกติของมัน

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์

ตัวกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์เรียกว่าสิ่งก่อกลายพันธุ์ (mutagen)[2] เช่น

  1. รังสี (radiation) รังสีที่กระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์คือ
    1. Ionizing Radiation เช่น รังสีเอกซ์, รังสีบีตา, รังสีแกมมา[3]
    2. Non-Ionizing Radiation เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี)[4]
  2. สารเคมี เช่น สารโคลซิซิน (colchicine) ทำให้ชุดโครโมโซมเพิ่มขึ้นเพื่อให้พืชมีผลผลิตในเวลาไม่นาน[5] สารอะฟลาทอกซิน (aflatoxins) เป็นสารพิษที่ทำให้แบคทีเรียกลายพันธุ์เป็นสาเหตุของมะเร็งตับได้[6]
  3. การจัดเรียงเบสในกระบวนการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA replication) ผิดพลาด มีผลทำให้เกิดการเพิ่มหรือลดจำนวนเบสในคู่สาย และทำให้เกิดการเลื่อน (shift) ของสายDNA[1]

ประเภทของการกลายพันธุ์

การกลายพันธุ์เกิดกับเซลล์ในร่างกาย 2 ลักษณะ คือ[1]

  1. เซลล์ร่างกาย (Somatic cell) เซลล์ชนิดนี้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์แล้ว จะไม่ถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไป
  2. เซลล์สืบพันธุ์ (Sex cell) เซลล์เหล่านี้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์แล้ว จะถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้ ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด และส่งผลต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตด้วย

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 การกลายพันธุ์ หรือ การผ่าเหล่า หรือ มิวเทชั่น (Mutation) คือ อะไร (What is Mutation ?), วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.thaibiotech.info.
  2. mutagen-มิวทาเจน-หรือสารก่อกลายพันธุ์, วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.foodnetworksolution.com.
  3. การปรับปรุงพันธุ์พืชด้วยรังสี, วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www0.tint.or.th.
  4. ผลกระทบเมื่อก๊าซโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโทสเฟียร์ถูกทำลาย, วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.kanchanapisek.or.th.
  5. การนำวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ, วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.kanchanapisek.or.th.
  6. อะฟลาท็อกซิน-aflatoxin-ตัวการก่อมะเร็งตับ, วันที่สืบค้น 25 พฤษภาคม 2559 จาก www.มะเร็งตับ.com.