ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โสดาบัน"
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ล ย้อนการแก้ไขของ 14.207.227.144 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย พุทธามาตย์ |
||
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
ดังที่กล่าวมาแล้วโสดาบันสามารถละสังโยชน์ 3 ประการ ตัดขาดออกจากใจได้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ การตัดสังโยชน์ 3 ประการ คือการตัดเส้นทางในการเวียนว่ายตายเกิดให้สั้นลงไดั ผู้สำเร็จเป็นโสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้ |
ดังที่กล่าวมาแล้วโสดาบันสามารถละสังโยชน์ 3 ประการ ตัดขาดออกจากใจได้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ การตัดสังโยชน์ 3 ประการ คือการตัดเส้นทางในการเวียนว่ายตายเกิดให้สั้นลงไดั ผู้สำเร็จเป็นโสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้ |
||
# เอกพีชีโสดาบัน (เอ-กะ-พี-ชี) จะเกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการเสวยวิมุตติสุขในอายตนนิพพานมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา |
# เอกพีชีโสดาบัน (เอ-กะ-พี-ชี) จะเกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการเสวยวิมุตติสุขในอายตนนิพพานมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา |
||
# โกลังโกลโสดาบัน (โก- |
# โกลังโกลโสดาบัน (โก-ลัง-โก-ละ) เป็นอริยบุคคลที่มีความพิเศษรองลงมา คือ จะมาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นอรหันต์ |
||
# สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน (สัด-ตัก-กะ-ขัด-ตะ-ตุ-ปะ-ระ-มะ) คืออริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป |
# สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน (สัด-ตัก-กะ-ขัด-ตะ-ตุ-ปะ-ระ-มะ) คืออริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:38, 17 กุมภาพันธ์ 2559
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
โสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลระดับแรกใน 4 ระดับ คือ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ โสดาบัน แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแส (พระธรรม)
การละสังโยชน์
โสดาบัน ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการคือ
- สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเป็นของตัวเป็นของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน
- วิจิกิจฉา คือ ความสงสัยในพระรัตนตรัย และในกุศลธรรมทั้งหลาย
- สีลัพพตปรามาส คือ ความยึดมั่นในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่เข้าใจว่าเป็นข้อปฏิบัติที่บริสุทธิ์หลุดพ้น เป็นมิจฉาทิฏฐิ เช่น การประพฤติวัตรอย่างโค การนอนบนหนามของพวกโยคี เป็นต้น
การบรรลุความเป็นโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และอรหันต์ นี้คือความเป็นอริยบุคคลที่มิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต (นักบวช) เท่านั้น แม้ คฤหัสถ์ คือชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ เช่น ในสมัยพุทธกาลคฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล บรรลุโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ ที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ นางวิสาขามหาอุบาสิกา อนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร เป็นต้น
ประเภท
ดังที่กล่าวมาแล้วโสดาบันสามารถละสังโยชน์ 3 ประการ ตัดขาดออกจากใจได้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ การตัดสังโยชน์ 3 ประการ คือการตัดเส้นทางในการเวียนว่ายตายเกิดให้สั้นลงไดั ผู้สำเร็จเป็นโสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้
- เอกพีชีโสดาบัน (เอ-กะ-พี-ชี) จะเกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการเสวยวิมุตติสุขในอายตนนิพพานมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา
- โกลังโกลโสดาบัน (โก-ลัง-โก-ละ) เป็นอริยบุคคลที่มีความพิเศษรองลงมา คือ จะมาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นอรหันต์
- สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน (สัด-ตัก-กะ-ขัด-ตะ-ตุ-ปะ-ระ-มะ) คืออริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
การที่โสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่กล่าวมา เพราะว่าการสั่งสมบุญบารมี อีกทั้งอินทรีย์ 5 ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา ที่อบรมมาแตกต่างกัน เช่น ผู้ที่สร้างบารมีมาอย่างแก่กล้า เกิดในภพชาตินี้ เมื่ออินทรีย์ทั้ง 5 ประการ คือ ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว โสดาบันประเภทนี้ คือ สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน
ตัวอย่างบุคคลผู้บรรลุโสดาบันในพุทธกาล
- พระนางวิสาขามหาอุบาสิกาฝ่ายทายิกา ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 5 สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
- ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีมหาอุบาสก ฝ่ายทายก ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นที่ 4 สวรรค์ชั้นดุสิต
- นางสิริมา หญิงโสเภณี ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 5 สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
- พระนางสามาวดี มหาอุบาสิกาฝ่ายเมตตาวิหารี ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 2 สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
- พระเจ้าพิมพิสาร ที่ถูกพระเจ้าอชาติศัตรูพระโอรสปลงพระชนม์ ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรสายยักษ์ บนสวรรค์ชั้นที่ 1 สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา (เนื่องจากคุ้นเคยในสวรรค์ชั้นนี้มาหลายชาติภพ แม้จะสามารถไปเกิดชั้นที่สูงกว่านี้ได้)
เป็นต้น ฯลฯ
อ้างอิง
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุดคำวัด วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548