ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระยายมราช (ครุฑ)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไม่มีความย่อการแก้ไข
พุทธามาตย์ ย้ายหน้า เจ้าพระยายมราช (ครุฑ บ่วงราบ) ไปยัง เจ้าพระยายมราช (ครุฑ): ไม่ใช่คนเดี...
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:19, 16 กรกฎาคม 2558

เจ้าพระยายมราช (ครุฑ บ่วงราบ)
ไฟล์:เจ้าพระยายมราช (ครุฑ บ่วงราบ).jpg
เสนาบดีกรมเวียง
ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ดำรงตำแหน่ง
17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2397 – พ.ศ. 2411
เจ้าเมืองชุมพร
ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2369 – 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2397
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด20 เมษายน พ.ศ. 2351[1]
วันพุธ เดือน 5 แรม 10 ค่ำ ปีมะโรง
เสียชีวิต- พ.ศ. 2437
ศาสนาพุทธ
เจ้าพระยายมราช (ครุฑ บ่วงราบ) สร้างวัดสุบรรณนิมิตร เมื่อ พ.ศ. 2371

มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยายมราช (ครุฑ บ่วงราบ) อดีต เสนาบดีกรมเวียง ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และอดีตเจ้าเมืองชุมพร ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทั้งยังเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง ถนนรอบพระบรมมหาราชวัง[2] (วัดพระแก้ว) ถนนเจริญกรุงตอนใน[3] สร้างตึกแถวขึ้นสองฝั่งถนนถวายแก่พระราชโอรสธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นตึกชั้นเดียว ถ่ายแบบมาจากประเทศสิงคโปร์[4] สร้างวัดสุบรรณนิมิตร และเป็น คณะข้าหลวงปักปันเขตแดนไทย-พม่า จะเห็นว่าในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เริ่มมีการปฏิรูปและพัฒนาประเทศครั้งใหญ่ ให้เป็นแบบยุโรปในหลายด้านโดยการจ้างชาวต่างชาติเข้ามาจัดการรูปแบบโครงสร้างในแต่ละหน่วย เช่น ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน คมนาคม การเก็บภาษีเพื่อทำถนนในพระนคร เป็นต้น

ประวัติ

เจ้าพระยายมราช (ครุฑ บ่วงราบ) นามเดิม พระยาเพชรกำแหงสงคราม (ครุฑ) หรือ พระยาชุมพร (ครุธ) หรือ พระยาเพชร เจ้าเมืองชุมพร เป็นบุตร พระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(มี) เจ้าเมืองไชยา มีปู่ชื่อ พระยาชุมพร (พวย) เจ้าเมืองชุมพร

ผลงานขณะดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองชุมพร

  • ในต้นปี พ.ศ. 2367 (หรือ พ.ศ. 2366 หากนับแบบเดิม) ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 พระยาเพชรกำแหงสงคราม (ซุ่ย ซุ่ยยัง) [5]เจ้าเมืองชุมพร เป็นแม่ทัพเรือ พร้อม พระพลสงครามจางวางเมืองชุมพร (ครุฑ บ่วงราบ) นายกองเรือ ยกกองทัพเรือช่วยรบอังกฤษ ตีเมืองมะริด จับเชลยเมืองมะริด 400 คน แต่อาจเกิดจากการสื่อสารทำให้กองทัพเรือเมืองชุมพรปะทะกับกองทัพเรืออังกฤษ ทหารในบังคับ พระเทพไชยบุรินทร์ (ขุนทอง นิลยกานนท์) เจ้าเมืองท่าแซะ (อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร) เป็นผู้บังคับเรือ ถูกจับจำนวน 155 คน พร้อมเรือรบ 2 ลำ ทำให้เสียเมืองมะริด ให้แก่อังกฤษ แต่ยังไม่ได้ปักปันเขตแดน
  • ในปี พ.ศ. 2367 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เป็น พระยาชุมพร (ครุฑ บ่วงราบ) รองเจ้าเมืองชุมพร หรือ ปลัดเมืองชุมพร ที่ทำการเมืองชุมพร อยู่บ้านท่ายาง
  • ในปี พ.ศ. 2369 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าเมืองชุมพร จึงย้ายที่ทำการเมืองชุมพร อยู่บ้านท่าตะเภา ในปัจจุบัน และสร้างนาทุ่งหลวง ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอีกด้วย
  • ในปี พ.ศ. 2371 สร้างวัดสุบรรณนิมิตร[6] ตำบลตากแดด อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
  • คณะข้าหลวงเจรจาปักปันเขตแดนไทย-พม่า ครั้งแรก ที่เมืองมะลิวัลย์ ระหว่างประเทศไทย-ประเทศอังกฤษ แต่ไม่ได้ตกลงกัน ที่เมืองมะลิวัลย์ (Maliwun)[7] ในปัจจุบันคือ จังหวัดเกาะสอง หรือ วิคตอเรียพอยท์ อยู่ในประเทศพม่า
  • ในปี พ.ศ. 2381 - 2382 นำกองทัพเมืองชุมพร เมืองประทิว จำนวน 1,216 คน[8] ออกเดินทาง วันอังคาร ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2382 เข้าร่วมกองทัพหลวงปราบปรามความวุ่นวายในหัวเมืองปักษ์ใต้ (กบฏหวันหมาดหลี) เมืองไทรบุรี ในบังคับบัญชา พระยาเสนาภูเบศร์ แม่ทัพหน้า
  • ในปี พ.ศ. 2392 รับผิดชอบการเกณฑ์ทหาร ที่เมืองชุมพร โดยมีสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ว่าที่สมุหกลาโหม ออกไปสักเลข (เกณฑ์ทหาร) ด้วยตนเอง ที่เมืองชุมพร จึงได้มีบุตรกับหม่อมอิน เกิดที่เมืองชุมพร นามว่า พร ต่อมาคือ เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค)

ผลงานขณะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมเวียง

รายนามนายกรัฐมนตรี ผู้ปกครองอาณานิคมสยามในเขตตะนาวศรี ภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ

  • ลำดับ 1 หลวงปักษี (คลุ้ม บ่วงราบ) พ.ศ. 2411 - 2467
  • ลำดับ 2 นายคุ้ม บ่วงราบ หรือ สมพร พ.ศ. 2467 - 2489 ถูกนายแพ้ว อุ้ยนอง พร้อมพวกลูกน้องสังหาร ที่บ้านบ้องขอน
  • ลำดับ 3 นายแพ้ว อุ้ยนอง เสียชีวิตจากไข้มาเลเรีย
  • ลำดับ 4 นายชม นามวงศ์ หรือ พรานชม ถูกกองทัพพม่าโจมตีเข้าไทยทางด่านสิงขร
  • ลำดับ 5 นายชด ชมปุระ ถูกนายสร้วง ลอบสังหารกลางงานเลี้ยง
  • ลำดับ 6 นายหลง สักคุณี ก่อนปี พ.ศ. 2506 ถูกนายพันถอไซ ลอบสังหารที่บ้านนามะพร้าว
  • ลำดับ 7 นายสร้วง ประสมชิด พ.ศ. 2507 ถูกลูกน้องลอบสังหารที่บ้านเกิดในอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
  • ลำดับ 8 นายพันถอไซ เริ่มปกครอง พ.ศ. 2508 หัวหน้ากลุ่มกะเหรี่ยงเสรี ออกจากราชการตำรวจพม่าจัดตั้งใหม่ เข้าปกครองแต่คนไทยบางส่วนยังไม่กลับเข้าประเทศไทย
  • ลำดับ 9 นายบาเฮา บุตร นายพันถอไซ การปกครองสิ้นสุด พ.ศ. 2535

อาณานิคมสยามในเขตตะนาวศรี ในจักรวรรดิอังกฤษ[16] ได้รับเอกราชแล้ว เช่นเดียวกับประเทศมาเลเชีย ประเทศสิงคโปร์ แต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ขอความร่วมมือตีย่างกุ้งกับกองทัพญี่ปุ่น ทำให้อังกฤษและพม่าไม่พอใจ ในปี พ.ศ. 2492 รัฐบาลพม่าได้ระดมกำลังทหารเข้ายึดและปกครองเมืองมะริด ทะวาย และตะนาวศรี ต่อมาได้มีการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยจนทำให้กะเหรี่ยงเสรีต้องอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ส่วนคนไทยต้องอพยพเข้าประเทศไทยตั้งแต่นั้นมา และผู้อพยพกลับหลังจาก พ.ศ. 2520 จะเป็นคนไทยไม่มีบัตรประชาชน หรือ ที่เรียกว่า ไทยพลัดถิ่นในเขตตะนาวศรี, เขตตะนาวศรี

อ้างอิง

  1. วิจารณ์ดวงชะตา 200 ดวง : 171
  2. ภาพเก่าในสยาม : 66
  3. ภาพเก่าในสยาม : 71
  4. ภาพเก่าในสยาม : 71
  5. จดหมายหลวงอุดมสมบัติ : 153
  6. ประวัติวัดสุบรรณนิมิตร
  7. มะลิวัลย์ พม่าเรียกมะลิยุน สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพเรียกมะลิวัน
  8. จดหมายหลวงอุดมสมบัติ : 371
  9. พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว รัชกาลที่ 4
  10. ภาพเก่าในสยาม : 66
  11. นายพันตำรวจโท ฟอร์ตี (C.H. Forty) : A Sketch of Siam's Gendarmerie
  12. ย่ำถนนยลถิ่นจีน : 11
  13. วารสาร "นครบาลวันนี้" , พ.ต.ท.ยอดชาย ผู้สันติ รอง ผกก.2 บก.จร.
  14. Imperial Gazetteer of India 5:297
  15. Scott 1999: 115
  16. Imperial Gazetteer of India 5:297

แหล่งข้อมูล

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น