ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระแห่งเนปาล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4: บรรทัด 4:
{{Infobox Monarch
{{Infobox Monarch
| สี = gold
| สี = gold
| ภาพ = ไฟล์:King_Gyanendra_of_Nepal.jpg
| ภาพ = ไฟล์:Gyanendra 01.jpg
| พระบรมนามาภิไธย =
| พระบรมนามาภิไธย =
| พระปรมาภิไธย = สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ
| พระปรมาภิไธย = ชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ
| วันพระราชสมภพ = [[7 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2490]] <br />[[กาฐมาณฑุ|กรุงกาฐมาณฑุ]] [[ราชอาณาจักรเนปาล]]
| วันพระราชสมภพ = {{วันเกิดและอายุ|2490|7|7}} <br />[[กาฐมาณฑุ|กรุงกาฐมาณฑุ]] [[ราชอาณาจักรเนปาล]]
| วันสวรรคต =
| วันสวรรคต =
| พระอิสริยยศ = พระมหากษัตริย์แห่ง[[ราชอาณาจักรเนปาล]]
| พระอิสริยยศ = พระมหากษัตริย์แห่ง[[ราชอาณาจักรเนปาล]]
| พระราชบิดา = [[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทรวีรวิกรมศาหเทวะ]]
| พระราชบิดา = [[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระเจ้ามเหนทระ]]
| พระราชมารดา = เจ้าหญิงอินทระ มกฎราชกุมารีแห่งเนปาล
| พระราชมารดา = เจ้าหญิงอินทระ มกฎราชกุมารีแห่งเนปาล
| พระบรมราชินี = [[สมเด็จพระราชินีโกมลแห่งเนปาล]]
| พระบรมราชินี = [[สมเด็จพระราชินีโกมลแห่งเนปาล]]
| พระราชสวามี =
| พระราชโอรส/ธิดา = [[เจ้าชายปารัส มกุฎราชกุมารแห่งเนปาล]] <br /> [[เจ้าหญิงเปรรณาแห่งเนปาล]]
| พระราชโอรส/ธิดา = [[เจ้าชายปารัส มกุฎราชกุมารแห่งเนปาล]] <br /> [[เจ้าหญิงเปรรณาแห่งเนปาล]]
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์ศาห์]]
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์ศาห์]]
| ทรงราชย์ = [[7 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2493]] (ครั้งที่ 1) <br />[[4 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2544]] (ครั้งที่ 2)
| ทรงราชย์ = ครั้งที่ 1: 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493<br />ครั้งที่ 2: 4 มิถุนายน พ.ศ. 2544
| พิธีบรมราชาภิเษก =
| พิธีบรมราชาภิเษก =
| ระยะเวลาครองราชย์ = ครั้งที่ 1 : 5 ปี ([[พ.ศ. 2493]] - [[พ.ศ. 2498]]) <br />ครั้งที่ 2 : 8 ปี ([[พ.ศ. 2544]] - [[พ.ศ. 2551]])
| ระยะเวลาครองราชย์ =
| รัชกาลก่อนหน้า = [[สมเด็จพระเจ้าตริภูวนพีรพิกรมศาหเทวะ]] (ก่อน [[พ.ศ. 2493]]) <br />[[สมเด็จพระราชาธิบดีทิเปนทรพีรพิกรมศาหเทวะ|มกุฎราชกุมารทิเปนทระ]] ([[พ.ศ. 2544]])
| รัชกาลก่อนหน้า = [[สมเด็จพระเจ้าตริภูวันแห่งเนปาล|สมเด็จพระเจ้าตริภูวัน]] (ก่อน พ.ศ. 2493) <br />[[สมเด็จพระราชาธิบดีทิเปนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระราฃาธิบดีทิเปนทระ]] (พ.ศ. 2544)
| รัชกาลถัดมา = [[พ.ศ. 2498]] : [[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทรพีรพิกรมศาหเทวะ]]<br />[[พ.ศ. 2551]] : สิ้นสุดระบอบกษัตริย์
| รัชกาลถัดมา = [[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทระ]] (พ.ศ. 2498)<br />''สิ้นสุดระบอบกษัตริย์'' (พ.ศ. 2551)
}}
}}
|-
|-
บรรทัด 27: บรรทัด 26:
|}
|}


'''สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ''' ([[ภาษาเนปาล|เนปาลี:]] ज्ञानेन्द्र वीर बिक्रम शाहदेव, Jñānendra Vīra Vikrama Śāhadeva; ชฺาเนนฺทฺร วีร พิกฺรม ศาหเทว ออกเสียง กิเนนดรา บีร์ บิกรัม ชาห์ เทพ<ref>[http://www.nsru.ac.th/oldnsru/comcenter1/60th/sixtieth/Nepal_K.pdf พระราชอาคันตุกะ]</ref>) หรือ '''สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรพีรพิกรมศาหเทว์''' (Gyanendra Bir Bikram Shah Dev; สื่อในภาษาไทยนิยมเขียนเป็น "คยาเนนทรา" หรือ "กยาเนนทรา") เป็น[[พระมหากษัตริย์แห่งเนปาล|พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรเนปาล]]ในราชวงศ์ศาห์ เป็นพระราชโอรสใน[[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทระ วีระ วิกรม ศาหเทวะ]] กับมกุฎราชกุมารีอินทรราชยลักษมีราณา เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ [[7 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2490]] ณ [[กาฐมาณฑุ|กรุงกาฐมาณฑุ]] [[ประเทศเนปาล]]
'''สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ''' ({{lang-ne|ज्ञानेन्द्र वीर बिक्रम शाहदेव}}; Jñānendra Vīra Vikrama Śāhadeva; ชฺาเนนฺทฺร วีร พิกฺรม ศาหเทว ออกเสียง กิเนนดรา บีร์ บิกรัม ชาห์ เทพ)<ref>[http://www.nsru.ac.th/oldnsru/comcenter1/60th/sixtieth/Nepal_K.pdf พระราชอาคันตุกะ]</ref> หรือ '''สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรพีรพิกรมศาหเทว์''' (Gyanendra Bir Bikram Shah Dev; สื่อในภาษาไทยนิยมเขียนเป็น "คยาเนนทรา" หรือ "กยาเนนทรา") เป็น[[พระมหากษัตริย์แห่งเนปาล|พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรเนปาล]]ในราชวงศ์ศาห์ เป็นพระราชโอรสใน[[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทระ]] ประสูติแต่เจ้าหญิงอินทระ มกุฎราชกุมารีแห่งเนปาล
== พระราชประวัติ ==
สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 ณ [[พระราชวังนารายัณหิตี]] ใน[[กาฐมาณฑุ|กรุงกาฐมาณฑุ]] เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองของ[[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|มกุฎราชกุมารมเหนทระ]] (พระอิสริยยศในขณะนั้น) กับมกุฎราชกุมารีอินทระ (สกุลเดิม: ราณา) หลังประสูติกาลโหรหลวงได้ทำนายทายทักว่าพระราชโอรสที่ประสูติใหม่จะนำโชคร้ายสู่พระชนก ดังนั้นพระองค์เมื่อยังทรงพระเยาว์จึงถูกส่งไปให้พระอัยยิกาทรงอุปถัมภ์อำรุง<ref name="Chowdhuri">{{cite news | last =Chowdhuri | first =Satyabrata Rai | title =Monarchy in Nepal | publisher =The Hindu | date =27 July 2001 | url =http://www.hinduonnet.com/2001/07/27/stories/05272524.htm | accessdate =25 December 2007 }}</ref>

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2493 [[สมเด็จพระเจ้าตริภูวันแห่งเนปาล|สมเด็จพระเจ้าตริภูวัน]]และ[[สมเด็จพระเจ้ามเหนทระแห่งเนปาล|มกุฎราชกุมารมเหนทระ]]รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นทรงลี้ภัยทางการเมืองไปยังประเทศอินเดีย โดยปล่อยให้เจ้าชายชญาเนนทระอยู่ลำพังพระองค์ ที่ต่อมา[[โมหัน ศัมเศร์]] นายกรัฐมนตรีเนปาล ได้นำเจ้าชายเข้ามาในกาฐมาณฑุเพื่อตั้งเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนปีเดียวกันนั้นเอง และนายกรัฐมนตรียังให้งบประมาณ 300,000 รูปีเป็นรายได้ของพระองค์ต่อปี<ref>{{cite news | title =Homeward Bound| publisher =Time Magazine | date =22 January 1951 | url =http://www.time.com/time/magazine/article/0,9171,888899,00.html| accessdate =25 December 2007 }}</ref> แต่การขับไล่สมเด็จพระเจ้าตริภูวันของนายกรัฐมนตรีจากตระกูลราณานั้น ทำให้สถานะพระมหากษัตริย์ของชญาเนนทระมิได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ<ref>{{cite web| last =Buyers| first =Christopher| title =Nepal| publisher =Royal Ark| url =http://www.4dw.net/royalark/Nepal/nepal13.htm| accessdate =25 December 2007 }}</ref>

พระองค์เข้ารับการศึกษาที่[[วิทยาลัยเซนต์โจเซฟ (ดาร์จีลิง)|วิทยาลัยเซนต์โจเซฟ]] [[ดาร์จีลิง|เมืองดาร์จีลิง]] [[ประเทศอินเดีย]]เช่นเดียวกับพระเชษฐา และสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจาก[[มหาวิทยาลัยตริภูวัน]] [[กาฐมาณฑุ|กรุงกาฐมาณฑุ]] เมื่อปี พ.ศ. 2512<ref name="CNN">{{cite news|
author=Staff writer|
title= Troubled times saw king's rise|
date=2006-04-20|
work=CNN|
url=http://www.cnn.com/2006/WORLD/asiapcf/04/19/nepal.king.gyanendra/index.html}}</ref>

ในปี พ.ศ. 2518 พระองค์เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาสำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ[[สมเด็จพระราชาธิบดีพีเรนทระแห่งเนปาล|สมเด็จพระราชาธิบดีพีเรนทระ]] พระเชษฐา และเป็นกรรมการขององค์การมเหนทระเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่ต่อมาคือ[[องค์การอนุรักษ์แห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ]] ({{lang|en|National Trust for Nature Conservation}}) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 จนกระทั่งพรองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ครั้งที่สองเมื่อปี พ.ศ. 2544<ref>{{cite web| title =Royal Biography of Nepal | publisher =MeroNepal.com.np | url =http://meronepal-com-np.f2g.net/atglance/royalbiography.html | accessdate =25 December 2007 |archiveurl = http://web.archive.org/web/20071230022136/http://meronepal-com-np.f2g.net/atglance/royalbiography.html <!-- Bot retrieved archive --> |archivedate = 30 December 2007}}</ref>

สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระ อภิเษกสมรสกับ[[สมเด็จพระราชินีโกมลแห่งเนปาล|สมเด็จพระราชินีโกมล]] (สกุลเดิม: ราณา) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 มีพระราชโอรส 1 พระองค์ และพระราชธิดา 1 พระองค์ ได้แก่

# [[เจ้าชายปารัส มกุฎราชกุมารแห่งเนปาล]]<ref>[http://www.theroyalforums.com/forums/f186/royal-family-of-nepal-shah-dynasty-434.html Royal Family Of Nepal - Shah dynasty]</ref> (ประสูติ: 30 ธันวาคม ค.ศ. 1971) เสกสมรสกับ[[เจ้าหญิงหิมานี มกุฎราชกุมารีแห่งเนปาล]] มีพระบุตรสามพระองค์
# [[เจ้าหญิงเปรรณาแห่งเนปาล|เจ้าหญิงเปรรณา]] (ประสูติ: 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1978) เสกสมรสกับกุมาร ราช พหาทุร สิงห์ มีพระบุตรหนึ่งคน


== เสด็จขึ้นครองราชย์ ==
== เสด็จขึ้นครองราชย์ ==
[[ไฟล์:King Gyanendra of Nepal first reign.jpg|thumb|left|สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ ขณะทรงราชสมบัติครั้งแรก]]
พระองค์ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนปาล 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ [[7 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2493]] ถึงวันที่ [[7 มกราคม]] [[พ.ศ. 2494]] ครั้งที่สองคือเมื่อวันที่ [[4 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2544]] เป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ทรงเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พระองค์ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนปาล 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ [[7 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2493]] ถึงวันที่ [[7 มกราคม]] [[พ.ศ. 2494]] ครั้งที่สองคือเมื่อวันที่ [[4 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2544]] เป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ทรงเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุด
หลังเกิด[[เหตุการณ์สังหารหมู่พระราชวงศ์เนปาล พ.ศ. 2544|เหตุการณ์สังหารหมู่พระราชวงศ์เนปาล]] ท่ามกลางข้อกังขาว่าพระองค์อาจมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าว
หลังเกิด[[เหตุการณ์สังหารหมู่พระราชวงศ์เนปาล พ.ศ. 2544|เหตุการณ์สังหารหมู่พระราชวงศ์เนปาล]] ท่ามกลางข้อกังขาว่าพระองค์อาจมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าว

== ทรงอภิเษกสมรส ==
ทรงอภิเษกสมรสกับ[[สมเด็จพระราชินีโกมลราชยลักษมีเทวีศาหะ]] เมื่อปีพุทธศักราช 2513 มีพระราชโอรส 1 พระองค์ และพระราชธิดา 1 พระองค์ ได้แก่

# [[เจ้าชายปารัส มกุฎราชกุมารแห่งเนปาล]]<ref>[http://www.theroyalforums.com/forums/f186/royal-family-of-nepal-shah-dynasty-434.html Royal Family Of Nepal - Shah dynasty]</ref> (ประสูติ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1971)
# [[เจ้าหญิงเปรรณาแห่งเนปาล|เจ้าหญิงเปรรณา]] (ประสูติ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1978)


== ทรงยึดอำนาจจากรัฐบาล ==
== ทรงยึดอำนาจจากรัฐบาล ==
บรรทัด 45: บรรทัด 56:
== ทรงถูกถอดถอน ==
== ทรงถูกถอดถอน ==
เมื่อมีการฟื้นฟูรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งในเดือน[[เมษายน]] [[พ.ศ. 2549]] พระองค์จึงทรงถูกลดพระราชอำนาจและพระราชสถานะลง<ref>[http://news.sanook.com/world/world_94256.php ราชวงศ์เนปาลปัดกษัตริย์สละบัลลังก์] เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 11:49 น.</ref> โดยก่อนการสละราชบัลลังก์ ก็ได้มีกระแสข่าวเกี่ยวการสละราชบัลลังก์และเสด็จไปประทับต่างประเทศ โดยจะยกราชสมบัติแก่เจ้าชายหริทเยนทรา พระราชนัดดา เนื่องจากทรงไม่พอพระทัยในตัวมกุฎราชกุมารมากนัก<ref>[http://news.sanook.com/world/world_148547.php ล้มราชวงศ์เนปาล] ข่าวสด วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2550 02:01 น.</ref> และทรงสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการในวันที่ [[28 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2551]] เนื่องจาก[[สภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งเนปาล]] (Constituent Assembly of Nepal) ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศจากรูปแบบ[[ราชอาณาจักร]]มาเป็น[[สาธารณรัฐประชาธิปไตย]]
เมื่อมีการฟื้นฟูรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งในเดือน[[เมษายน]] [[พ.ศ. 2549]] พระองค์จึงทรงถูกลดพระราชอำนาจและพระราชสถานะลง<ref>[http://news.sanook.com/world/world_94256.php ราชวงศ์เนปาลปัดกษัตริย์สละบัลลังก์] เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 11:49 น.</ref> โดยก่อนการสละราชบัลลังก์ ก็ได้มีกระแสข่าวเกี่ยวการสละราชบัลลังก์และเสด็จไปประทับต่างประเทศ โดยจะยกราชสมบัติแก่เจ้าชายหริทเยนทรา พระราชนัดดา เนื่องจากทรงไม่พอพระทัยในตัวมกุฎราชกุมารมากนัก<ref>[http://news.sanook.com/world/world_148547.php ล้มราชวงศ์เนปาล] ข่าวสด วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2550 02:01 น.</ref> และทรงสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการในวันที่ [[28 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2551]] เนื่องจาก[[สภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งเนปาล]] (Constituent Assembly of Nepal) ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศจากรูปแบบ[[ราชอาณาจักร]]มาเป็น[[สาธารณรัฐประชาธิปไตย]]

== เสด็จเยือนไทย ==
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนปาล จากข้อมูลที่ผ่านมาไม่ปรากฏหลักฐาน การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด ขณะที่ สมเด็จพระราชินีโกมลราชย์ ลักษมี เทวี ชาห์ เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยพร้อมด้วยพระราชธิดาเป็นการส่วนพระองค์ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม พุทธศักราช 2547 และในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนปาล จะเสด็จฯเยือนราชอาณาจักรไทยในฐานะแขกของรัฐบาลเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้เสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย อันเนื่องมาจากสาเหตุ เกิดสงครามกลางเมืองและความไม่สงบ ปัญหาทางการเมืองในเนปาล


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:44, 7 พฤษภาคม 2558

สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระแห่งเนปาล
พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนปาล
ครองราชย์ครั้งที่ 1: 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493
ครั้งที่ 2: 4 มิถุนายน พ.ศ. 2544
รัชกาลก่อนหน้าสมเด็จพระเจ้าตริภูวัน (ก่อน พ.ศ. 2493)
สมเด็จพระราฃาธิบดีทิเปนทระ (พ.ศ. 2544)
รัชกาลถัดไปสมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทระ (พ.ศ. 2498)
สิ้นสุดระบอบกษัตริย์ (พ.ศ. 2551)
ประสูติ7 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 (76 ปี)
กรุงกาฐมาณฑุ ราชอาณาจักรเนปาล
พระบรมราชินีสมเด็จพระราชินีโกมลแห่งเนปาล
พระราชบุตรเจ้าชายปารัส มกุฎราชกุมารแห่งเนปาล
เจ้าหญิงเปรรณาแห่งเนปาล
ชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ
ราชวงศ์ราชวงศ์ศาห์
พระราชบิดาสมเด็จพระเจ้ามเหนทระ
พระราชมารดาเจ้าหญิงอินทระ มกฎราชกุมารีแห่งเนปาล

สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ (เนปาล: ज्ञानेन्द्र वीर बिक्रम शाहदेव; Jñānendra Vīra Vikrama Śāhadeva; ชฺาเนนฺทฺร วีร พิกฺรม ศาหเทว ออกเสียง กิเนนดรา บีร์ บิกรัม ชาห์ เทพ)[1] หรือ สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรพีรพิกรมศาหเทว์ (Gyanendra Bir Bikram Shah Dev; สื่อในภาษาไทยนิยมเขียนเป็น "คยาเนนทรา" หรือ "กยาเนนทรา") เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรเนปาลในราชวงศ์ศาห์ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทระ ประสูติแต่เจ้าหญิงอินทระ มกุฎราชกุมารีแห่งเนปาล

พระราชประวัติ

สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 ณ พระราชวังนารายัณหิตี ในกรุงกาฐมาณฑุ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองของมกุฎราชกุมารมเหนทระ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) กับมกุฎราชกุมารีอินทระ (สกุลเดิม: ราณา) หลังประสูติกาลโหรหลวงได้ทำนายทายทักว่าพระราชโอรสที่ประสูติใหม่จะนำโชคร้ายสู่พระชนก ดังนั้นพระองค์เมื่อยังทรงพระเยาว์จึงถูกส่งไปให้พระอัยยิกาทรงอุปถัมภ์อำรุง[2]

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2493 สมเด็จพระเจ้าตริภูวันและมกุฎราชกุมารมเหนทระรวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นทรงลี้ภัยทางการเมืองไปยังประเทศอินเดีย โดยปล่อยให้เจ้าชายชญาเนนทระอยู่ลำพังพระองค์ ที่ต่อมาโมหัน ศัมเศร์ นายกรัฐมนตรีเนปาล ได้นำเจ้าชายเข้ามาในกาฐมาณฑุเพื่อตั้งเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนปีเดียวกันนั้นเอง และนายกรัฐมนตรียังให้งบประมาณ 300,000 รูปีเป็นรายได้ของพระองค์ต่อปี[3] แต่การขับไล่สมเด็จพระเจ้าตริภูวันของนายกรัฐมนตรีจากตระกูลราณานั้น ทำให้สถานะพระมหากษัตริย์ของชญาเนนทระมิได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ[4]

พระองค์เข้ารับการศึกษาที่วิทยาลัยเซนต์โจเซฟ เมืองดาร์จีลิง ประเทศอินเดียเช่นเดียวกับพระเชษฐา และสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยตริภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ เมื่อปี พ.ศ. 2512[5]

ในปี พ.ศ. 2518 พระองค์เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาสำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดีพีเรนทระ พระเชษฐา และเป็นกรรมการขององค์การมเหนทระเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่ต่อมาคือองค์การอนุรักษ์แห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (National Trust for Nature Conservation) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 จนกระทั่งพรองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ครั้งที่สองเมื่อปี พ.ศ. 2544[6]

สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระ อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีโกมล (สกุลเดิม: ราณา) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 มีพระราชโอรส 1 พระองค์ และพระราชธิดา 1 พระองค์ ได้แก่

  1. เจ้าชายปารัส มกุฎราชกุมารแห่งเนปาล[7] (ประสูติ: 30 ธันวาคม ค.ศ. 1971) เสกสมรสกับเจ้าหญิงหิมานี มกุฎราชกุมารีแห่งเนปาล มีพระบุตรสามพระองค์
  2. เจ้าหญิงเปรรณา (ประสูติ: 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1978) เสกสมรสกับกุมาร ราช พหาทุร สิงห์ มีพระบุตรหนึ่งคน

เสด็จขึ้นครองราชย์

พระองค์ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนปาล 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 ถึงวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2494 ครั้งที่สองคือเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2544 เป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ทรงเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุด หลังเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่พระราชวงศ์เนปาล ท่ามกลางข้อกังขาว่าพระองค์อาจมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าว

ทรงยึดอำนาจจากรัฐบาล

ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทร์ได้ทรงยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลเนปาล โดยมีพระราชโองการให้รัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยสิ้นสุดลง และทรงปกครองประเทศด้วยพระองค์เอง ทำให้ทรงต้องเผชิญกระแสต่อต้านจากในประเทศอย่างรุนแรง

ทรงถูกถอดถอน

เมื่อมีการฟื้นฟูรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งในเดือนเมษายน พ.ศ. 2549 พระองค์จึงทรงถูกลดพระราชอำนาจและพระราชสถานะลง[8] โดยก่อนการสละราชบัลลังก์ ก็ได้มีกระแสข่าวเกี่ยวการสละราชบัลลังก์และเสด็จไปประทับต่างประเทศ โดยจะยกราชสมบัติแก่เจ้าชายหริทเยนทรา พระราชนัดดา เนื่องจากทรงไม่พอพระทัยในตัวมกุฎราชกุมารมากนัก[9] และทรงสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เนื่องจากสภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งเนปาล (Constituent Assembly of Nepal) ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศจากรูปแบบราชอาณาจักรมาเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย

อ้างอิง

  1. พระราชอาคันตุกะ
  2. Chowdhuri, Satyabrata Rai (27 July 2001). "Monarchy in Nepal". The Hindu. สืบค้นเมื่อ 25 December 2007.
  3. "Homeward Bound". Time Magazine. 22 January 1951. สืบค้นเมื่อ 25 December 2007.
  4. Buyers, Christopher. "Nepal". Royal Ark. สืบค้นเมื่อ 25 December 2007.
  5. Staff writer (2006-04-20). "Troubled times saw king's rise". CNN.
  6. "Royal Biography of Nepal". MeroNepal.com.np. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 December 2007. สืบค้นเมื่อ 25 December 2007.
  7. Royal Family Of Nepal - Shah dynasty
  8. ราชวงศ์เนปาลปัดกษัตริย์สละบัลลังก์ เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 11:49 น.
  9. ล้มราชวงศ์เนปาล ข่าวสด วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2550 02:01 น.
ก่อนหน้า สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระแห่งเนปาล ถัดไป
สมเด็จพระเจ้าตริภูวนพีรพิกรมศาหเทวะ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนปาล
(ครั้งที่ 1)

(พ.ศ. 2493 - พ.ศ. 2498)
สมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทรพีรพิกรมศาหเทวะ
สมเด็จพระราชาธิบดีทิเปนทรพีรพิกรมศาหเทวะ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนปาล
(ครั้งที่ 2)

(พ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2551)
ยกเลิกระบอบกษัตริย์
ยกเลิกระบอบกษัตริย์ ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์เนปาล
(28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551-ปัจจุบัน)
ปัจจุบัน
มกุฎราชกุมารปารัสวีรวิกรมศาหเทวะ