ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ ‘ราชบัณฑิตสถาน’ ด้วย ‘ราชบัณฑิตยสถาน’
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2: บรรทัด 2:
| สีพิเศษ = #ffcc00
| สีพิเศษ = #ffcc00
| สีอักษร = #8f5f12
| สีอักษร = #8f5f12
| ภาพ = | พระบรมนามาภิไธย = เจ้าฟ้าเพชร
| ภาพ =
| พระบรมนามาภิไธย = เจ้าฟ้าเพชร
| พระปรมาภิไธย = สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ
| พระปรมาภิไธย = สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ
| วันพระราชสมภพ =[[พ.ศ. 2221]]
| วันพระราชสมภพ =[[พ.ศ. 2221]]
บรรทัด 13: บรรทัด 14:
| พระราชโอรส/ธิดา = [[เจ้าฟ้าพระนเรนทร กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์]]<br>เจ้าฟ้าหญิงเทพ<br>เจ้าฟ้าหญิงประทุม<br>เจ้าฟ้าอภัย<br>เจ้าฟ้าปรเมศร์
| พระราชโอรส/ธิดา = [[เจ้าฟ้าพระนเรนทร กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์]]<br>เจ้าฟ้าหญิงเทพ<br>เจ้าฟ้าหญิงประทุม<br>เจ้าฟ้าอภัย<br>เจ้าฟ้าปรเมศร์
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
|ทรงราชย์ = [[พ.ศ. 2251]]-[[พ.ศ. 2275]]
|ทรงราชย์ = [[พ.ศ. 2252]]-[[พ.ศ. 2275]]
| พิธีบรมราชาภิเษก =
| พิธีบรมราชาภิเษก =
|ระยะเวลาครองราชย์ = 26 ปี
|ระยะเวลาครองราชย์ = 26 ปี
บรรทัด 20: บรรทัด 21:
|}}
|}}


'''สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9'''<ref name="พระนาม">ราชบัณฑิตยสถาน. ''[http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=968 พระนามพระมหากษัตริย์สมัยอยุธยา]''. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556</ref> หรือ '''พระเจ้าท้ายสระ'''<ref name="พระนาม"/> หรือ '''สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ''' หรือ '''สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ''' พระนามเดิม เจ้าฟ้าเพชร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 30 แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]] และเป็นพระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ พ.ศ. 2251 - พ.ศ. 2275
'''สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9'''<ref name="พระนาม">ราชบัณฑิตยสถาน. ''[http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=968 พระนามพระมหากษัตริย์สมัยอยุธยา]''. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556</ref> หรือ '''พระเจ้าท้ายสระ'''<ref name="พระนาม"/> หรือ '''สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ''' หรือ '''สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ''' พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 30 แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]] และเป็นพระองค์ที่สามแห่ง[[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]] ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2252 - พ.ศ. 2275<ref name="นามานุกรม">{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | ชื่อหนังสือ = นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย| URL = http://www.sac.or.th/main/pdf/Thai_king_directories.pdf| จังหวัด = กรุงเทพฯ| พิมพ์ที่ = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา| ปี = 2554| ISBN = 978-616-7308-25-8| จำนวนหน้า = 264| หน้า = 163-6}}</ref>


==พระราชประวัติ==
==พระราชประวัติ==
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 มีพระนามเดิมว่า'''เจ้าฟ้าเพชร''' เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน[[สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8]] เมื่อพระราชบิดาสวรรคตในปี [[พ.ศ. 2252]] จึงขึ้นครองราชย์ เฉลิมพระนามว่า '''สมเด็จพระภูมินทรมหาราชา''' โดยพระนามที่เป็นที่รู้จักกันคือพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แล้วสถาปนา[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ|พระบัณฑูรน้อย เจ้าฟ้าพร]] พระราชอนุชาเป็น[[กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]]


== สวรรคต ==
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เป็นพระราชโอรสองค์โตใน[[สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8]] ขึ้นครองราชย์ใน ปี [[พ.ศ. 2251|พ.ศ. 2251]] ภายหลังการสวรรคตของพระราชบิดา มีพระนามว่า '''สมเด็จพระภูมินทรมหาราชา''' โดยพระนามที่เป็นที่รู้จักกัน คือ พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ โดยมี[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ|เจ้าฟ้าพร]] พระอนุชาเป็น[[กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]]
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เสด็จสวรรคตด้วยพระโรค[[มะเร็ง]]ที่พระชิวหาและพระศอในปี [[พ.ศ. 2275]] รวมระยะเวลาครองราชย์ 24 ปี


ในขณะที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 ทรงพระประชวรหนักนั้น พระองค์ตัดสินพระทัยทรงมอบราชสมบัติให้แก่[[เจ้าฟ้าอภัย]] แต่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลไม่ทรงยินยอม จึงเกิดเป็นสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์<ref name="นามานุกรม"/> ที่สุดกรมพระราชวังบวรสถานมลคลเป็นฝ่ายชนะ ทรงสำเร็จโทษเจ้าฟ้าอภัย แล้วจึงครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
===สงครามแย่งชิงราชสมบัติ===
ในขณะที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 ทรงพระประชวรหนักนั้น พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะทรงมอบราชสมบัติให้แก่ [[เจ้าฟ้านเรนทร]] พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ ซึ่งในขณะนั้นผนวชอยู่ แต่เจ้าฟ้านเรนทรไม่เต็มพระทัย เนื่องจากในขณะนั้นเจ้าฟ้าพร พระอนุชาในพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคล สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 จึงตัดสินพระทัยทรงมอบราชสมบัติให้แก่ [[เจ้าฟ้าอภัย]] แทน

ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 ได้เกิดสงครามแย่งชิงราชสมบัติขึ้น เมื่อ เจ้าฟ้าอภัย และ[[เจ้าฟ้าปรเมศร์]] พระราชโอรสทั้ง 2 ของพระองค์ซึ่งทรงดำรงพระอิสริยยศที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคล มีสิทธิที่จะขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อจากพระเชษฐา แต่เมื่อพระเชษฐาใกล้เสด็จสวรรคตกลับตัดสินพระทัยทรงมอบราชสมบัติแก่ เจ้าฟ้านเรนทรแทน แต่เจ้าฟ้านเรนทรไม่เต็มพระทัย จึงยกราชสมบัติให้แก่เจ้าฟ้าอภัย พระราชโอรสพระองค์รอง เป็นเหตุให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงราชสมบัติจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง กินระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี


== พระนาม ==
== พระนาม ==

* สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ มาจากนาม[[พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์]] ซึ่งพระองค์ใช้เป็นประทับอันอยู่ข้างสระน้ำท้ายพระบรมมหาราชวัง
* สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ มาจากนาม[[พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์]] ซึ่งพระองค์ใช้เป็นประทับอันอยู่ข้างสระน้ำท้ายพระบรมมหาราชวัง
* สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
* สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
บรรทัด 41: บรรทัด 40:
== พระราชกรณียกิจ ==
== พระราชกรณียกิจ ==


ในรัชสมัยของพระองค์ มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ มีการแต่ง[[เรือสำเภา]]บรรทุกสินค้าไปค้าขายที่[[เมืองท่า]][[มะริด]] ไปจรดถึง[[ทวีปแอฟริกา]]ตอนเหนือ มีการขุด[[คลอง]]สำคัญอันเป็นเส้นทางคมนาคม คือ "คลองมหาไชย" และ "คลองเกร็ดน้อย" มีการแข่งกันสร้างวัด ระหว่างพระองค์กับพระอนุชา คือ [[วัดมเหยงค์]] และ[[วัดกุฏีดาว]] มีการเคลื่อนย้ายพระนอนองค์ใหญ่ของ[[วัดป่าโมก]]เพื่อให้พ้นจากการถูกน้ำเซาะตลิ่ง เป็นต้น
ในรัชสมัยของพระองค์ มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ มีการแต่ง[[เรือสำเภา]]บรรทุกสินค้าไปค้าขายที่[[เมืองท่า]][[มะริด]] ไปจรดถึง[[ทวีปแอฟริกา]]ตอนเหนือ มีการขุด[[คลอง]]สำคัญอันเป็นเส้นทางคมนาคม คือ "คลองมหาไชย" และ "คลองเกร็ดน้อย" มีการแข่งกันสร้างวัด ระหว่างพระองค์กับพระอนุชา คือ [[วัดมเหยงค์]]และ[[วัดกุฏีดาว]] มีการเคลื่อนย้ายพระนอนองค์ใหญ่ของ[[วัดป่าโมก]]เพื่อให้พ้นจากการถูกน้ำเซาะตลิ่ง เป็นต้น


ในด้านการต่างประเทศ มีการส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับ[[จีน]]ถึงสี่ครั้ง ทำให้การค้าขายระหว่าง[[ไทย]]กับ[[จีน]] ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในปี [[พ.ศ. 2244|พ.ศ. 2244]] เกิดความวุ่นวายใน[[เขมร]] อันเนื่องจากการแย่งราชสมบัติกัน [[เจ้าเมืองละแวก]] ขอเข้ามาอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ส่วน[[พระแก้วฟ้า]]ผู้เป็นอนุชาฝักใฝ่อยู่กับฝ่าย[[ญวน]] ซึ่งพยายามแผ่อำนาจเข้าไปใน[[เขมร]] พระองค์ได้ส่งกองทัพ[[กรุงศรีอยุธยา]]เข้าไปถึง[[เมืองอุดงมีชัย]] ราชธานีของ[[เขมร]] และได้เกลี้ยกล่อมให้[[พระแก้วฟ้า]]กลับมาอ่อนน้อมต่อ[[ไทย]] [[เขมร]]จึงมีฐานะเป็น[[ประเทศราช]]ของ[[ไทย]]เช่นแต่ก่อน
ในด้านการต่างประเทศ มีการส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับ[[จีน]]ถึงสี่ครั้ง ทำให้การค้าขายระหว่าง[[ไทย]]กับ[[จีน]] ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในปี [[พ.ศ. 2244]] เกิดความวุ่นวายใน[[เขมร]] อันเนื่องจากการแย่งราชสมบัติกันระหว่าง[[นักเสด็จ]]กับ[[นักแก้วฟ้าสะจอง]] นักเสด็จขอเข้ามาอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ส่วนพระแก้วฟ้านักสะจองผู้เป็นอนุชาฝักใฝ่อยู่กับฝ่าย[[ญวน]] ซึ่งพยายามแผ่อำนาจเข้าไปใน[[เขมร]] พระองค์ได้ส่งกองทัพ[[กรุงศรีอยุธยา]]เข้าไปถึง[[เมืองอุดงมีชัย]] ราชธานีของ[[เขมร]] และได้เกลี้ยกล่อมให้[[นักแก้วฟ้าสะจอง]]กลับมาอ่อนน้อมต่ออยุธยา เขมรจึงมีฐานะเป็น[[ประเทศราช]]ของอาณาจักรเช่นแต่ก่อน
== พระโอรส-ธิดา ==
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมีโอรสธิดารวมกัน 8 พระองค์ เป็นพระโอรส 5 พระองค์ เป็นพระธิดา 3 พระองค์


== พระราชโอรส-ธิดา ==
===เจ้าฟ้าทองสุก กรมหลวงราชานุรักษ์===
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมีพระราชโอรสธิดารวมกัน 8 พระองค์ เป็นพระราชโอรส 5 พระองค์ เป็นพระราชธิดา 3 พระองค์ ดังนี้

;เจ้าฟ้าทองสุก กรมหลวงราชานุรักษ์
มีพระโอรสธิดา 5 พระองค์ คือ
มีพระโอรสธิดา 5 พระองค์ คือ
* เจ้าฟ้าหญิงเทพ
* เจ้าฟ้าหญิงเทพ
บรรทัด 55: บรรทัด 55:
* เจ้าฟ้าชายปรเมศร์
* เจ้าฟ้าชายปรเมศร์


=== พระสนม ===
; พระสนม
มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ คือ
มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ คือ
* พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง
* พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง
* พระองค์เจ้าชายปริก
* พระองค์เจ้าชายปริก
* พระองค์เจ้าชายเสฏฐา
* พระองค์เจ้าชายเสฏฐา

== เกร็ดที่น่าสนใจ ==
== เกร็ดที่น่าสนใจ ==
* ทรงเป็นกษัตริย์ที่โปรดเสวย[[ปลาตะเพียน]]มาก โดยออกพระราชกำหนดห้ามราษฎรจับหรือรับประทานปลาตะเพียน หากผู้ใดฝ่าฝืน มีบทลงโทษ คือ ปรับเป็นเงิน 5 ตำลึง หรือ 20 บาท
* พระองค์โปรดเสวย[[ปลาตะเพียน]]มาก โดยออกพระราชกำหนดห้ามราษฎรจับหรือรับประทานปลาตะเพียน หากผู้ใดฝ่าฝืน มีบทลงโทษคือปรับเป็นเงิน 5 ตำลึง หรือ 20 บาท
* พระราชทานท้องพระโรงแก่[[สมเด็จพระสังฆราชแตงโม (ทอง)]] ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระองค์โดยล่องเรือจากอยุธยาไปเพชรบุรีแล้วไปสร้างที่[[วัดใหญ่สุวรรณาราม]] (วัดสุวรรณาราม บ้างก็เรียกวัดใหญ่) จึงทำให้คงเหลือพระราชวัง ท้องพระโรงที่แสดงถึงศิลปกรรมของอยุธยาที่เหลือรอดจากการเผาของ[[พม่า]]เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
* พระราชทานท้องพระโรงแก่[[สมเด็จพระสังฆราชแตงโม (ทอง)]] ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระองค์โดยล่องเรือจากอยุธยาไปเพชรบุรีแล้วไปสร้างที่[[วัดใหญ่สุวรรณาราม]] (วัดสุวรรณาราม บ้างก็เรียกวัดใหญ่) จึงทำให้คงเหลือพระราชวัง ท้องพระโรงที่แสดงถึงศิลปกรรมของอยุธยาที่เหลือรอดจากการเผาของ[[พม่า]]เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เสด็จสวรรคตด้วยพระโรค[[มะเร็ง]]ที่พระชิวหาและพระศอ ในปี [[พ.ศ. 2275|พ.ศ. 2275]] รวมระยะเวลาครองราชย์ 24 ปี


== ราชตระกูล ==
== ราชตระกูล ==
บรรทัด 104: บรรทัด 103:
== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}
* [http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=26442&page=4 วิชาการ.คอม]
* [http://www.tv5.co.th/service/mod/heritage/king/ayuthaya/ayuthaya5.htm#top หอมรดกไทย]


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
บรรทัด 116: บรรทัด 113:
|รูปภาพ = Seal of Ayutthaya (King Narai).png
|รูปภาพ = Seal of Ayutthaya (King Narai).png
|ตำแหน่ง = พระมหากษัตริย์แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]]<br>([[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]])
|ตำแหน่ง = พระมหากษัตริย์แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]]<br>([[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]])
|ช่วงเวลา = [[พ.ศ. 2251]] - [[พ.ศ. 2275]]
|ช่วงเวลา = [[พ.ศ. 2252]] - [[พ.ศ. 2275]]
|ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8]]<br/>([[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]])
|ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8]]<br/>([[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]])
|วาระก่อนหน้า = ([[พ.ศ. 2246]] - [[พ.ศ. 2251]])
|วาระก่อนหน้า = ([[พ.ศ. 2246]] - [[พ.ศ. 2252]])
|ถัดไป = [[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ]] <br/>([[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]])
|ถัดไป = [[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ]] <br/>([[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]])
|วาระถัดไป = ([[พ.ศ. 2275]] - [[พ.ศ. 2301]])
|วาระถัดไป = ([[พ.ศ. 2275]] - [[พ.ศ. 2301]])
บรรทัด 128: บรรทัด 125:
{{กรมพระราชวังบวรสถานมงคล}}
{{กรมพระราชวังบวรสถานมงคล}}


{{เรียงลำดับ|สรรเพชญ์ที่ 9}}
{{ประสูติปี|2221}}{{สิ้นพระชนม์ปี|2275}}
{{ประสูติปี|2221}}{{สิ้นพระชนม์ปี|2275}}
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา]]

[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา|สรรเพชญ์ที่ 9]]
[[หมวดหมู่:กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]]
[[หมวดหมู่:กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:27, 7 พฤษภาคม 2558

สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ

เจ้าฟ้าเพชร
สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ
พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา
ครองราชย์พ.ศ. 2252-พ.ศ. 2275
รัชสมัย26 ปี
รัชกาลก่อนหน้าสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8
รัชกาลถัดไปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ประสูติพ.ศ. 2221
สวรรคตพ.ศ. 2275
พระอัครมเหสีกรมหลวงราชานุรักษ์ (พระนามเดิม เจ้าฟ้าทองสุก)[1]
พระราชบุตรเจ้าฟ้าพระนเรนทร กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์
เจ้าฟ้าหญิงเทพ
เจ้าฟ้าหญิงประทุม
เจ้าฟ้าอภัย
เจ้าฟ้าปรเมศร์
สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ
ราชวงศ์ราชวงศ์บ้านพลูหลวง
พระราชบิดาสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9[2] หรือ พระเจ้าท้ายสระ[2] หรือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ หรือ สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2252 - พ.ศ. 2275[3]

พระราชประวัติ

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 มีพระนามเดิมว่าเจ้าฟ้าเพชร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เมื่อพระราชบิดาสวรรคตในปี พ.ศ. 2252 จึงขึ้นครองราชย์ เฉลิมพระนามว่า สมเด็จพระภูมินทรมหาราชา โดยพระนามที่เป็นที่รู้จักกันคือพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แล้วสถาปนาพระบัณฑูรน้อย เจ้าฟ้าพร พระราชอนุชาเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล

สวรรคต

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เสด็จสวรรคตด้วยพระโรคมะเร็งที่พระชิวหาและพระศอในปี พ.ศ. 2275 รวมระยะเวลาครองราชย์ 24 ปี

ในขณะที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 ทรงพระประชวรหนักนั้น พระองค์ตัดสินพระทัยทรงมอบราชสมบัติให้แก่เจ้าฟ้าอภัย แต่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลไม่ทรงยินยอม จึงเกิดเป็นสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์[3] ที่สุดกรมพระราชวังบวรสถานมลคลเป็นฝ่ายชนะ ทรงสำเร็จโทษเจ้าฟ้าอภัย แล้วจึงครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

พระนาม

  • สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ มาจากนามพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ซึ่งพระองค์ใช้เป็นประทับอันอยู่ข้างสระน้ำท้ายพระบรมมหาราชวัง
  • สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
  • สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ
  • สมเด็จพระภูมินทราธิราช
  • ขุนหลวงทรงปลา

พระราชกรณียกิจ

ในรัชสมัยของพระองค์ มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ มีการแต่งเรือสำเภาบรรทุกสินค้าไปค้าขายที่เมืองท่ามะริด ไปจรดถึงทวีปแอฟริกาตอนเหนือ มีการขุดคลองสำคัญอันเป็นเส้นทางคมนาคม คือ "คลองมหาไชย" และ "คลองเกร็ดน้อย" มีการแข่งกันสร้างวัด ระหว่างพระองค์กับพระอนุชา คือ วัดมเหยงค์และวัดกุฏีดาว มีการเคลื่อนย้ายพระนอนองค์ใหญ่ของวัดป่าโมกเพื่อให้พ้นจากการถูกน้ำเซาะตลิ่ง เป็นต้น

ในด้านการต่างประเทศ มีการส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับจีนถึงสี่ครั้ง ทำให้การค้าขายระหว่างไทยกับจีน ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในปี พ.ศ. 2244 เกิดความวุ่นวายในเขมร อันเนื่องจากการแย่งราชสมบัติกันระหว่างนักเสด็จกับนักแก้วฟ้าสะจอง นักเสด็จขอเข้ามาอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ส่วนพระแก้วฟ้านักสะจองผู้เป็นอนุชาฝักใฝ่อยู่กับฝ่ายญวน ซึ่งพยายามแผ่อำนาจเข้าไปในเขมร พระองค์ได้ส่งกองทัพกรุงศรีอยุธยาเข้าไปถึงเมืองอุดงมีชัย ราชธานีของเขมร และได้เกลี้ยกล่อมให้นักแก้วฟ้าสะจองกลับมาอ่อนน้อมต่ออยุธยา เขมรจึงมีฐานะเป็นประเทศราชของอาณาจักรเช่นแต่ก่อน

พระราชโอรส-ธิดา

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมีพระราชโอรสธิดารวมกัน 8 พระองค์ เป็นพระราชโอรส 5 พระองค์ เป็นพระราชธิดา 3 พระองค์ ดังนี้

เจ้าฟ้าทองสุก กรมหลวงราชานุรักษ์

มีพระโอรสธิดา 5 พระองค์ คือ

พระสนม

มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ คือ

  • พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง
  • พระองค์เจ้าชายปริก
  • พระองค์เจ้าชายเสฏฐา

เกร็ดที่น่าสนใจ

  • พระองค์โปรดเสวยปลาตะเพียนมาก โดยออกพระราชกำหนดห้ามราษฎรจับหรือรับประทานปลาตะเพียน หากผู้ใดฝ่าฝืน มีบทลงโทษคือปรับเป็นเงิน 5 ตำลึง หรือ 20 บาท
  • พระราชทานท้องพระโรงแก่สมเด็จพระสังฆราชแตงโม (ทอง) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระองค์โดยล่องเรือจากอยุธยาไปเพชรบุรีแล้วไปสร้างที่วัดใหญ่สุวรรณาราม (วัดสุวรรณาราม บ้างก็เรียกวัดใหญ่) จึงทำให้คงเหลือพระราชวัง ท้องพระโรงที่แสดงถึงศิลปกรรมของอยุธยาที่เหลือรอดจากการเผาของพม่าเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

ราชตระกูล

พระราชตระกูลในสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระราชเทวี สิริกัลยาณี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระแสนเมือง (พระเจ้าเชียงใหม่)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระนางกุสาวดี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ไม่ทราบ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ไม่ทราบ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

อ้างอิง

  1. เล็ก พงษ์สมัครไทย. เฉลิมพระยศ เจ้านายฝ่ายในในรัชกาลที่ 1-9. กรุงเทพฯ:ฐานบุ๊คส์, 2552. หน้า 16
  2. 2.0 2.1 ราชบัณฑิตยสถาน. พระนามพระมหากษัตริย์สมัยอยุธยา. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556
  3. 3.0 3.1 มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, 2554. 264 หน้า. หน้า 163-6. ISBN 978-616-7308-25-8

ดูเพิ่ม

ก่อนหน้า สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ ถัดไป
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8
(ราชวงศ์บ้านพลูหลวง)

(พ.ศ. 2246 - พ.ศ. 2252)

พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา
(ราชวงศ์บ้านพลูหลวง)

(พ.ศ. 2252 - พ.ศ. 2275)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
(ราชวงศ์บ้านพลูหลวง)

(พ.ศ. 2275 - พ.ศ. 2301)