ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สตี (พิธีกรรม)"
หน้าใหม่: '''พิธีสตี''' : พิธีโดดเข้ากองไฟ คำว่า '''“สตี”''' เป็นภาษาสันสกฤต... |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
'''พิธีสตี''' : พิธีโดดเข้ากองไฟ |
'''พิธีสตี''' : พิธีโดดเข้ากองไฟ |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
หญิงหม้ายที่ทำจะถูกยกย่องให้เป็นมหาเทวีสตีมาตา และเรียกพื้นที่ที่ประกอบพิธีว่า สตีสถล (สตีสะถะละ) แล้วสร้างโบสถ์หรือวัดเพื่อให้ประชาชนกราบไหว้บูชาต่อไป |
หญิงหม้ายที่ทำจะถูกยกย่องให้เป็นมหาเทวีสตีมาตา และเรียกพื้นที่ที่ประกอบพิธีว่า สตีสถล (สตีสะถะละ) แล้วสร้างโบสถ์หรือวัดเพื่อให้ประชาชนกราบไหว้บูชาต่อไป |
||
'''พิธีการกระโดดเข้ากองไฟของหญิงหม้าย''' มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้ |
'''พิธีการกระโดดเข้ากองไฟของหญิงหม้าย''' มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้ |
||
1.กลุ่มหญิงหม้ายที่มีฐานะต่ำต้อย หากสามีของหญิงหม้ายเสียชีวิต จะมีการจัดงานศพของเขาแบบกลางแจ้งนอกเมือง ซึ่งมีกองไฟกองใหญ่กองไว้ เมื่อศพของสามีกำลังถูกเผาอยู่นั้น |
|||
1.กลุ่มหญิงหม้ายที่มีฐานะต่ำต้อย |
|||
ในขณะเดียวกันภารรยาก็จะกระโจนเข้าไปในกองไฟและถูกเผาตายตามไปด้วยเช่นกัน |
|||
2.กลุ่มหญิงที่มีฐานะ หากสามีของหญิงหม้ายที่มีฐานะ และมีทรัพย์สินมากเสียชีวิต ภรรยาของเขาจะจัดงานศพให้สามีเป็นอย่างดี มีการขุดหลุมลึกเท่าความสูงของสามี นำศพไปวาง ใส่เครื่องหอมลงไปและจุดไฟเผาภายในหลุมนั้น |
|||
2.กลุ่มหญิงที่มีฐานะ |
|||
ส่วนหญิงหม้ายก็จะจัดงานรื่นเริง ร่วมงานกันอย่างสนุกสนาน โดยผู้ที่มาร่วมงานก็จะปลอบโยนเธอ โดยหญิงหม้ายก็จะแจกทรัพย์สินเงินทองให้กับญาติพี่น้องและคนที่มาร่วมงาน |
|||
ต่อจากนั้นก็จะนำหญิงหม้ายขึ้นบนหลังม้า(ต้องเป็นสีเทาหรือขาวเท่านั้น) จากนั้นให้เธอขึ้นนั่งบนหลังม้าและเดินไปยังหลุมที่เผาสามี ระหว่างทางก็จะปลอบโยนเธอตลอดทางด้วยจนถึงหลุมเผาศพ |
|||
<ref>วิสุทธ์ บุษยกุล. (ม.ป.ป.) วิสุทธนิพนธ์. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. 2</ref> |
<ref>วิสุทธ์ บุษยกุล. (ม.ป.ป.) วิสุทธนิพนธ์. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. 2</ref> |
||
<ref>สุนทร ณ รังสี. (2545). ปรัชญาอินเดียและลัทธิ.(พิมพ์ครั้งที่ 3).กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. |
<ref>สุนทร ณ รังสี. (2545). ปรัชญาอินเดียและลัทธิ.(พิมพ์ครั้งที่ 3).กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:22, 30 เมษายน 2558
พิธีสตี : พิธีโดดเข้ากองไฟ คำว่า “สตี” เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า “ภรรยาผู้ซื่อสัตย์” การเป็นสตรีผู้ทรงคุณความดีนั้นต้องซื่อสัตย์ต่อสามีอย่างสูง และต้องเมตตากรุณาต่อญาติพี่น้อง
ส่วนพิธีสตี หมายถึงประเพณีการทำศพของชาวฮินดู พบในประเทศอินเดีย พิธีนี้เป็นการบูชายัญตนเองของหญิงหม้าย เนื่องในพิธีศพของสามี บางครั้งก็เต็มใจ แต่บางครั้งก็ถูกคนอื่นบังคับ หญิงหม้ายที่ทำจะถูกยกย่องให้เป็นมหาเทวีสตีมาตา และเรียกพื้นที่ที่ประกอบพิธีว่า สตีสถล (สตีสะถะละ) แล้วสร้างโบสถ์หรือวัดเพื่อให้ประชาชนกราบไหว้บูชาต่อไป
พิธีการกระโดดเข้ากองไฟของหญิงหม้าย มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้ 1.กลุ่มหญิงหม้ายที่มีฐานะต่ำต้อย หากสามีของหญิงหม้ายเสียชีวิต จะมีการจัดงานศพของเขาแบบกลางแจ้งนอกเมือง ซึ่งมีกองไฟกองใหญ่กองไว้ เมื่อศพของสามีกำลังถูกเผาอยู่นั้น ในขณะเดียวกันภารรยาก็จะกระโจนเข้าไปในกองไฟและถูกเผาตายตามไปด้วยเช่นกัน 2.กลุ่มหญิงที่มีฐานะ หากสามีของหญิงหม้ายที่มีฐานะ และมีทรัพย์สินมากเสียชีวิต ภรรยาของเขาจะจัดงานศพให้สามีเป็นอย่างดี มีการขุดหลุมลึกเท่าความสูงของสามี นำศพไปวาง ใส่เครื่องหอมลงไปและจุดไฟเผาภายในหลุมนั้น ส่วนหญิงหม้ายก็จะจัดงานรื่นเริง ร่วมงานกันอย่างสนุกสนาน โดยผู้ที่มาร่วมงานก็จะปลอบโยนเธอ โดยหญิงหม้ายก็จะแจกทรัพย์สินเงินทองให้กับญาติพี่น้องและคนที่มาร่วมงาน ต่อจากนั้นก็จะนำหญิงหม้ายขึ้นบนหลังม้า(ต้องเป็นสีเทาหรือขาวเท่านั้น) จากนั้นให้เธอขึ้นนั่งบนหลังม้าและเดินไปยังหลุมที่เผาสามี ระหว่างทางก็จะปลอบโยนเธอตลอดทางด้วยจนถึงหลุมเผาศพ [1] [2]