ผลต่างระหว่างรุ่นของ "น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 5: บรรทัด 5:
| imagesize =
| imagesize =
| caption =
| caption =
| birthname = สำรวม ดีสม
| birthname = สำรวม ซ่อนกลิ่น
| nickname =
| nickname =
| birthdate = {{วันเกิดและอายุ|2513|04|09}}
| birthdate = {{วันเกิดและอายุ|2513|04|09}}
บรรทัด 12: บรรทัด 12:
| deathplace =
| deathplace =
| spouse = โฆษิต ดีสม
| spouse = โฆษิต ดีสม
| othername =
| othername = สำรวม ดีสม
| occupation = ศิลปินพื้นบ้าน,อาจารย์พิเศษ,นักร้อง
| occupation = ศิลปินพื้นบ้าน,อาจารย์พิเศษ,นักร้อง
| yearsactive = พ.ศ.2527 - ปัจจุบัน
| yearsactive = พ.ศ.2527 - ปัจจุบัน
บรรทัด 38: บรรทัด 38:
}}
}}


'''น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์''' หรือ '''นางสำรวม ดีสม''' ศิลปินพื้นบ้านกันตรึมที่มีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะในแถบ[[จังหวัดสุรินทร์]] [[บุรีรัมย์]] และ[[ศรีสะเกษ]]
'''น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์''' ศิลปินพื้นบ้านกันตรึมที่มีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะในแถบ[[จังหวัดสุรินทร์]] [[บุรีรัมย์]] และ[[ศรีสะเกษ]]
==ประวัติ==
==ประวัติ==
'''น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์''' เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2513 ณ บ้านเลขที่ 186 หมู่ 6 บ้าปราสาทเบง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.[[สุรินทร์]] เป็นบุตรีของนายรี ซ่อนกลิ่น และนางเรียม ซ่อนกลิ่น ชอบการแสดงตั้งแต่ในวัยเด็ก เนื่องจากในเขตหมู่บ้านนั้นนิยมการละเล่นกันตรึม จึงทำให้น้ำผึ้งมีความสนใจและมีใจรักในด้านกันตรึม และได้ฝึกร้อง[[กันตรึม]]ตั้งแต่เป็นเด็ก โดยอาศัยการถามและจำจากผู้ใหญ่ แล้วนำมาฝึกหัดขับร้องเองโดยมีพ่อเป็นครูผู้ฝึกสอนให้อย่างใกล้ชิด เมื่ออายุ 9 ขวบได้เริ่มฝึกร้องกันตรึมพอคล่องและเก่งแล้วพ่อจึงเริ่มพาไปเล่นด้วยตามสถานที่ต่างๆ เช่น ร้องเพลงเชียร์ในงานกีฬาในระดับอำเภอ และจังหวัด และเริ่มได้รับเชิญให้ไปช่วยงานต่างๆ
'''น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์''' หรือ '''นางสำรวม ดีสม''' เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2513 ณ บ้านเลขที่ 186 หมู่ 6 บ้าปราสาทเบง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.[[สุรินทร์]] เป็นบุตรีของนายรี ซ่อนกลิ่น และนางเรียม ซ่อนกลิ่น ชอบการแสดงตั้งแต่ในวัยเด็ก เนื่องจากในเขตหมู่บ้านนั้นนิยมการละเล่นกันตรึม จึงทำให้น้ำผึ้งมีความสนใจและมีใจรักในด้านกันตรึม และได้ฝึกร้อง[[กันตรึม]]ตั้งแต่เป็นเด็ก โดยอาศัยการถามและจำจากผู้ใหญ่ แล้วนำมาฝึกหัดขับร้องเองโดยมีพ่อเป็นครูผู้ฝึกสอนให้อย่างใกล้ชิด เมื่ออายุ 9 ขวบได้เริ่มฝึกร้องกันตรึมพอคล่องและเก่งแล้วพ่อจึงเริ่มพาไปเล่นด้วยตามสถานที่ต่างๆ เช่น ร้องเพลงเชียร์ในงานกีฬาในระดับอำเภอ และจังหวัด และเริ่มได้รับเชิญให้ไปช่วยงานต่างๆ


หลังจากที่สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จาก[[โรงเรียนบ้านปราสาทเบง]]แล้ว น้ำผึ้งได้หยุดพักการเรียน และเริ่มฝึกร้องกันตรึมอย่างจริงจังจากผู้รู้ท่านอื่นๆ อาทิ พ่อ ปู่ ย่า ตา ยาย และบุคคลอื่นที่มีความรู้ในด้านนี้ โดยน้ำผึ้งได้รู้อีกว่ากันตรึมไม่ใช่การถ่ายทอดกันเฉพาะแบบปากต่อปากหรือการท่องจำ แต่เราสามารถแต่งเองได้จากการมองเห็นสิ่งต่างๆ เช่น ธรรมชาติ ต้นไม้ ซึ่งน้ำผึ้งได้อาศัยหลักการนี้ในการเริ่มหัดแต่งเพลงกันตรึม นำสิ่งที่เห็นมาเรียบเรียงเป็นบทกลอนให้สัมผัสกัน ในช่วงนี้น้ำผึ้งได้มีโอกาสได้แสดงกันตรึมทั้งร้องและรำเองกับ "[[วงสมรชัย]]" ซึ่งเป็นวงที่หมู่บ้านเดิมของตัวเอง โดยเป็นตัวเอกของวงร้องกันตรึมคนเดียว ไม่มีใครช่วย
หลังจากที่สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จาก[[โรงเรียนบ้านปราสาทเบง]]แล้ว น้ำผึ้งได้หยุดพักการเรียน และเริ่มฝึกร้องกันตรึมอย่างจริงจังจากผู้รู้ท่านอื่นๆ อาทิ พ่อ ปู่ ย่า ตา ยาย และบุคคลอื่นที่มีความรู้ในด้านนี้ โดยน้ำผึ้งได้รู้อีกว่ากันตรึมไม่ใช่การถ่ายทอดกันเฉพาะแบบปากต่อปากหรือการท่องจำ แต่เราสามารถแต่งเองได้จากการมองเห็นสิ่งต่างๆ เช่น ธรรมชาติ ต้นไม้ ซึ่งน้ำผึ้งได้อาศัยหลักการนี้ในการเริ่มหัดแต่งเพลงกันตรึม นำสิ่งที่เห็นมาเรียบเรียงเป็นบทกลอนให้สัมผัสกัน ในช่วงนี้น้ำผึ้งได้มีโอกาสได้แสดงกันตรึมทั้งร้องและรำเองกับ "[[วงสมรชัย]]" ซึ่งเป็นวงที่หมู่บ้านเดิมของตัวเอง โดยเป็นตัวเอกของวงร้องกันตรึมคนเดียว ไม่มีใครช่วย

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:19, 4 เมษายน 2558

น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์
เกิด09 เมษายน พ.ศ. 2513 (54 ปี)
สำรวม ซ่อนกลิ่น
คู่สมรสโฆษิต ดีสม
อาชีพศิลปินพื้นบ้าน,อาจารย์พิเศษ,นักร้อง
ปีที่แสดงพ.ศ.2527 - ปัจจุบัน

น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ ศิลปินพื้นบ้านกันตรึมที่มีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะในแถบจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ

ประวัติ

น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ หรือ นางสำรวม ดีสม เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2513 ณ บ้านเลขที่ 186 หมู่ 6 บ้าปราสาทเบง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นบุตรีของนายรี ซ่อนกลิ่น และนางเรียม ซ่อนกลิ่น ชอบการแสดงตั้งแต่ในวัยเด็ก เนื่องจากในเขตหมู่บ้านนั้นนิยมการละเล่นกันตรึม จึงทำให้น้ำผึ้งมีความสนใจและมีใจรักในด้านกันตรึม และได้ฝึกร้องกันตรึมตั้งแต่เป็นเด็ก โดยอาศัยการถามและจำจากผู้ใหญ่ แล้วนำมาฝึกหัดขับร้องเองโดยมีพ่อเป็นครูผู้ฝึกสอนให้อย่างใกล้ชิด เมื่ออายุ 9 ขวบได้เริ่มฝึกร้องกันตรึมพอคล่องและเก่งแล้วพ่อจึงเริ่มพาไปเล่นด้วยตามสถานที่ต่างๆ เช่น ร้องเพลงเชียร์ในงานกีฬาในระดับอำเภอ และจังหวัด และเริ่มได้รับเชิญให้ไปช่วยงานต่างๆ

หลังจากที่สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบ้านปราสาทเบงแล้ว น้ำผึ้งได้หยุดพักการเรียน และเริ่มฝึกร้องกันตรึมอย่างจริงจังจากผู้รู้ท่านอื่นๆ อาทิ พ่อ ปู่ ย่า ตา ยาย และบุคคลอื่นที่มีความรู้ในด้านนี้ โดยน้ำผึ้งได้รู้อีกว่ากันตรึมไม่ใช่การถ่ายทอดกันเฉพาะแบบปากต่อปากหรือการท่องจำ แต่เราสามารถแต่งเองได้จากการมองเห็นสิ่งต่างๆ เช่น ธรรมชาติ ต้นไม้ ซึ่งน้ำผึ้งได้อาศัยหลักการนี้ในการเริ่มหัดแต่งเพลงกันตรึม นำสิ่งที่เห็นมาเรียบเรียงเป็นบทกลอนให้สัมผัสกัน ในช่วงนี้น้ำผึ้งได้มีโอกาสได้แสดงกันตรึมทั้งร้องและรำเองกับ "วงสมรชัย" ซึ่งเป็นวงที่หมู่บ้านเดิมของตัวเอง โดยเป็นตัวเอกของวงร้องกันตรึมคนเดียว ไม่มีใครช่วย

น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ ได้กลับเข้าศึกษาอีกครั้งในปี 2531 และสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดระดับปริญญาตรี เอกนาฏศิลป์ และได้สำเร็จการศึกษาเมื่อปีพ.ศ. 2538 จากสถาบันราชภัฏสุรินทร์ (มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ) ในปัจจุบัน

ด้านครอบครัว

ปัจจุบันสมรสกับนายโฆษิต ดีสม ซึ่งเป็นข้าราชการครู ตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านดงมัน ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ เด็กหญิงพิมพ์วลี ดีสม และเด็กชายมฆวี ดีสม

ชีวิตการทำงานในวงกันตรึมของน้ำผึ้งเริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2527 ผ่านความสำเร็จและความล้มเหลวมาหลายครั้ง จนกระทั่งปีพ.ศ. 2530 เดือนพฤศจิกายนได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่ศูนย์วัฒนธรรมหมู่บ้านดงมัน ซึ่งในจังหวะนั้นตรงกับเทศกาลงานช้างของจังหวัดสุรินทร์พอดี การย้ายเข้ามาครั้งนี้ถือเป็นการเข้าสู่วงการอย่างเต็มตัว ได้ตระเวนไปแสดงที่ต่างๆ แทบทุกจังหวัด นับตั้งแต่ปี 2530-2533 มีการแสดงเกือบพันครั้ง วงกันตรึมบ้านดงมันได้พัฒนาต่อมาเรื่อยๆ ทั้งด้านการแสดงและการแต่งกาย และในปีพ.ศ. 2535 ได้ทำการบันทึกเทปชุดแรกกับบริษัทไพโรจน์ซาวด์ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีชื่อชุดว่า "มรดกกันตรึม" และนำไปจำหน่ายด้วยทุกครั้งเมื่อมีการแสดง ซึ่งได้รับผลตอบรับทั้งด้านดีและไม่ดีมากมายเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงการแสดงให้สอดรับกับความต้องการของผู้ชม และพัฒนามาจนกระทั่งประสบความสำเร็จเป็นวงกันตรึมระดับแนวหน้าตั้งแต่ปีพ.ศ. 2538 เป็นต้นมา

ด้วยความสามารถที่หาตัวจับยาก จึงทำให้ได้รับรางวัลประกวดกันตรึมมากมายนับสิบรางวัลจาก จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อีกทั้งการเสียสละตนเพื่อถ่ายทอดงานศิลปวัฒนธรรมแขนงนี้ ทำให้น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ได้รับเชิญให้มาสอนวิชานาฏศิลป์พื้นบ้าน สาขานาฏยศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และยังได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรบรรยายและสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมอยู่เนืองๆ

สำหรับวงกันตรึมคณะที่น้ำผึ้งแสดงอยู่นั้นปัจจุบันมีชื่อว่า " ดงมันรักกันตรึม " โดย เริ่มแรกเป็นดนตรีบรรเลงประกอบในพิธีกรรม การเข้าทรง รักษาไข้ และบรรเลงกล่อมหอแต่งงาน ต่อมาได้พัฒนารูปแบบอย่างหลากหลาย ทั้งแนวพื้นบ้านโบราณ แนวประยุกต์ทันสมัย ความโดดเด่น อยู่ที่ความไพเราะของปี่อ้อ ความหวานของซอกันตรึม และการขับร้องประกอบการบรรเลง นอกจากนั้นก็จะมีการฟ้อน จากการประดิษฐ์ท่าฟ้อนรำ ให้เหมาะสมกับเอกลักษณะของท้องถิ่น

อัลบั้มเพลง

  • ชุดการแสดงพื้นบ้าน
  • ชุดพระคุณแม่(เปรียรกุนแม)
  • ชุดเด็กขแมร์ ขี้คุย

และผลงานอื่นๆอีกมากมาย

การแสดงในต่างประเทศ

รางวัล