ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เลโอ บาเกอลันด์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 19: บรรทัด 19:


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
ลีโอ เบคแลนด์ เกิดในปี ค.ศ. 1863 ที่เมือง[[เกนต์]] ประเทศ[[เบลเยียม]] บิดาของเขาเป็นช่างทำรองเท้า ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน<ref>[http://www.chemistryexplained.com/Ar-Bo/Baekeland-Leo.html Leo Baekeland -- Chemistry Explained]</ref> เบคแลนด์เรียนจบจาก Ghent Municipal Technical School และได้รับทุนไปเรียนต่อด้าน[[เคมี]]ที่มหาวิทยาลัยเกนต์ เขาสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมขณะมีอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น<ref>[http://www.britannica.com/EBchecked/topic/48620/Leo-Hendrik-Baekeland Leo Hendrik Baekeland -- Britannica]</ref> ต่อมาเบคแลนด์ได้รับตำแหน่ง[[รองศาสตราจารย์]]ที่นั่นและแต่งงานกับบุตรสาวคนหนึ่งของหัวหน้าสาขาวิชาของเขา
เลโอ บาเกอลันด์ เกิดในปี ค.ศ. 1863 ที่เมือง[[เกนต์]] ประเทศ[[เบลเยียม]] บิดาของเขาเป็นช่างทำรองเท้า ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน<ref>[http://www.chemistryexplained.com/Ar-Bo/Baekeland-Leo.html Leo Baekeland -- Chemistry Explained]</ref> บาเกอลันด์เรียนจบจากโรงเรียนช่างเทศบาลเกนต์ (Ghent Municipal Technical School) และได้รับทุนไปเรียนต่อด้าน[[เคมี]]ที่มหาวิทยาลัยเกนต์ เขาสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมขณะมีอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น<ref>[http://www.britannica.com/EBchecked/topic/48620/Leo-Hendrik-Baekeland Leo Hendrik Baekeland -- Britannica]</ref> ต่อมาบาเกอลันด์ได้รับตำแหน่ง[[รองศาสตราจารย์]]ที่นั่นและแต่งงานกับบุตรสาวคนหนึ่งของหัวหน้าสาขาวิชาของเขา


ขณะที่ไปฮันนีมูนที่[[นครนิวยอร์ก]] ประเทศ[[สหรัฐอเมริกา]] เบคแลนด์ได้พบกับริชาร์ด แอนโทนี เจ้าของบริษัทถ่ายภาพ แอนโทนีสนใจในตัวเบคแลนด์จึงเสนองานให้เขา เบคแลนด์ย้ายมาทำงานที่บริษัทของแอนโทนี พร้อมรับตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษที่[[มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย]] ขณะทำงานที่นั่น เขาได้พัฒนากระดาษถ่ายภาพ ''Velox'' ซึ่งเขาขายให้กับบริษัท[[โกดัก]]
ขณะที่ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่[[นครนิวยอร์ก]] [[สหรัฐอเมริกา]] บาเกอลันด์ได้พบกับริชาร์ด แอนโทนี เจ้าของบริษัทถ่ายภาพ แอนโทนีสนใจในตัวบาเกอลันด์จึงเสนองานให้เขา บาเกอลันด์ย้ายมาทำงานที่บริษัทของแอนโทนีพร้อมรับตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษที่[[มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย]] ขณะทำงานที่นั่น เขาได้พัฒนากระดาษถ่ายภาพ ''Velox'' ซึ่งเขาขายให้กับบริษัท[[โกดัก]]


หลังจากนั้นเบคแลนด์ก็หันมาสนใจในด้าน[[พลาสติก]] เขามองหาสิ่งที่จะเอามาใช้แทน[[เชลแล็ก]] และเริ่มทดลองกับฟีนอลและ[[ฟอร์มาลดีไฮด์]] จนในปี ค.ศ. 1909 เขาก็ได้ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "[[เบคิไลต์]]"<ref>[http://www.worldint.com/science/bakelite.html HOW DO I KNOW IF IT IS BAKELITE?]</ref> ซึ่งต่อมาถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย และก่อให้เกิดกระแสการทำ[[อุตสาหกรรม]]พลาสติกในภายหลัง
หลังจากนั้นบาเกอลันด์ก็หันมาสนใจในด้าน[[พลาสติก]] เขามองหาสิ่งที่จะเอามาใช้แทน[[เชลแล็ก]] และเริ่มทดลองกับฟีนอลและ[[ฟอร์มาลดีไฮด์]] จนในปี ค.ศ. 1909 เขาก็ได้ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "[[เบคิไลต์]]"<ref>[http://www.worldint.com/science/bakelite.html HOW DO I KNOW IF IT IS BAKELITE?]</ref> ซึ่งต่อมาถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย และก่อให้เกิดกระแสการทำ[[อุตสาหกรรม]]พลาสติกในภายหลัง


ในช่วงบั้นปลายชีวิต เบคแลนด์มีพฤติกรรมแปลกแยกและเก็บตัว เขาเสียชีวิตด้วยอาการ[[เลือดออกในสมองใหญ่]]ที่สถานพักฟื้นผู้ป่วยเรื้อรัง ในเมืองบีคอน [[รัฐนิวยอร์ก]] ขณะมีอายุได้ 80 ปี
ในช่วงบั้นปลายชีวิต บาเกอลันด์มีพฤติกรรมแปลกแยกและเก็บตัว เขาเสียชีวิตด้วยอาการ[[เลือดออกในสมองใหญ่]]ที่สถานพักฟื้นผู้ป่วยเรื้อรัง ในเมืองบีคอน [[รัฐนิวยอร์ก]] ขณะมีอายุได้ 80 ปี


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:29, 24 กุมภาพันธ์ 2558

เลโอ บาเกอลันด์
บาเกอลันด์ในปี ค.ศ. 1916
เกิดเลโอ แฮ็นรีกึส อาร์ตืร์ บาเกอลันด์
14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863(1863-11-14)
เกนต์ เบลเยียม
เสียชีวิต23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1944(1944-02-23) (80 ปี)
บีคอน รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
สัญชาติเบลเยียม/อเมริกัน
มีชื่อเสียงจากเบคิไลต์
รางวัลเหรียญจอห์น สกอต (ค.ศ. 1910)
รางวัลวิลลาร์ด กิบส์ (ค.ศ. 1913)
เหรียญเพอร์กิน (ค.ศ. 1916)
อาชีพทางวิทยาศาสตร์
สาขาเคมี

เลโอ แฮ็นรีกึส อาร์ตืร์ บาเกอลันด์ (ดัตช์: Leo Henricus Arthur Baekeland; 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 186323 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1944) เป็นนักเคมีและนักประดิษฐ์ชาวเบลเยียม/อเมริกัน

ประวัติ

เลโอ บาเกอลันด์ เกิดในปี ค.ศ. 1863 ที่เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม บิดาของเขาเป็นช่างทำรองเท้า ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน[1] บาเกอลันด์เรียนจบจากโรงเรียนช่างเทศบาลเกนต์ (Ghent Municipal Technical School) และได้รับทุนไปเรียนต่อด้านเคมีที่มหาวิทยาลัยเกนต์ เขาสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมขณะมีอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น[2] ต่อมาบาเกอลันด์ได้รับตำแหน่งรองศาสตราจารย์ที่นั่นและแต่งงานกับบุตรสาวคนหนึ่งของหัวหน้าสาขาวิชาของเขา

ขณะที่ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บาเกอลันด์ได้พบกับริชาร์ด แอนโทนี เจ้าของบริษัทถ่ายภาพ แอนโทนีสนใจในตัวบาเกอลันด์จึงเสนองานให้เขา บาเกอลันด์ย้ายมาทำงานที่บริษัทของแอนโทนีพร้อมรับตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ขณะทำงานที่นั่น เขาได้พัฒนากระดาษถ่ายภาพ Velox ซึ่งเขาขายให้กับบริษัทโกดัก

หลังจากนั้นบาเกอลันด์ก็หันมาสนใจในด้านพลาสติก เขามองหาสิ่งที่จะเอามาใช้แทนเชลแล็ก และเริ่มทดลองกับฟีนอลและฟอร์มาลดีไฮด์ จนในปี ค.ศ. 1909 เขาก็ได้ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "เบคิไลต์"[3] ซึ่งต่อมาถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย และก่อให้เกิดกระแสการทำอุตสาหกรรมพลาสติกในภายหลัง

ในช่วงบั้นปลายชีวิต บาเกอลันด์มีพฤติกรรมแปลกแยกและเก็บตัว เขาเสียชีวิตด้วยอาการเลือดออกในสมองใหญ่ที่สถานพักฟื้นผู้ป่วยเรื้อรัง ในเมืองบีคอน รัฐนิวยอร์ก ขณะมีอายุได้ 80 ปี

อ้างอิง