ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยัน เอวังเกลิสตา ปูร์กิเญ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 16: | บรรทัด 16: | ||
==ประวัติ== |
==ประวัติ== |
||
ยัน เอวังเกลิสตา ปุร์คินเย เกิดเมื่อ ค.ศ. 1787 ที่เมืองเล็กๆ ใน[[โบฮีเมีย]] (ปัจจุบันคือ [[สาธารณรัฐเช็ก]]) เขาเรียนจบจากคณะ[[แพทยศาสตร์]] มหาวิทยาลัยชาลส์ และต่อมาได้เป็น[[ศาสตราจารย์]]ด้าน[[สรีรวิทยา]] เขาเป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์ |
ยัน เอวังเกลิสตา ปุร์คินเย เกิดเมื่อ ค.ศ. 1787 ที่เมืองเล็กๆ ใน[[โบฮีเมีย]] (ปัจจุบันคือ [[สาธารณรัฐเช็ก]]) เขาเรียนจบจากคณะ[[แพทยศาสตร์]] มหาวิทยาลัยชาลส์ และต่อมาได้เป็น[[ศาสตราจารย์]]ด้าน[[สรีรวิทยา]] เขาเป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์เพอร์คินจี ซึ่งอธิบายว่าทำไมมนุษย์จึงมองเห็นสีแดงได้ลดลง เมื่อเทียบกับสีน้ำเงิน และตีพิมพ์ผลงาน 2 เล่ม คือ ''Observations and Experiments Investigating the Physiology of Senses'' และ ''New Subjective Reports about Vision'' ที่เป็นจุดเริ่มต้นของวิชาจิตวิทยาเชิงทดลอง |
||
ปุร์คินเยเป็นหนึ่งใน[[นักวิทยาศาสตร์]]ที่มีผลงานค้นพบหลายอย่าง ในปี ค.ศ. 1823 เขาเขียน[[วิทยานิพนธ์]]ที่ว่าด้วยลักษณะ 9 แบบของลายนิ้วมือ สิบปีต่อมา เขาก็ค้นพบ[[ต่อมเหงื่อ]] ต่อมาในปี ค.ศ. 1837 เขาก็ค้นพบ[[เซลล์เพอร์คินจี]] ซึ่งเป็น[[เซลล์ประสาท]]ขนาดใหญ่ที่มี[[เดนไดรต์]]หลายแขนงใน[[ซีรีเบลลัม]] และค้นพบเพอร์คินจีไฟเบอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่ง[[กระแสไฟฟ้า]]ไปยัง[[หัวใจ|หัวใจห้องล่าง]] นอกจากนี้ เขายังค้นพบภาพสะท้อนเพอร์คินจี (Purkinje images) ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของวัตถุที่เกิดจากโครงสร้างในดวงตา รวมถึงริเริ่มการใช้คำว่า[[พลาสมา]]และ[[โพรโทพลาสซึม]] |
ปุร์คินเยเป็นหนึ่งใน[[นักวิทยาศาสตร์]]ที่มีผลงานค้นพบหลายอย่าง ในปี ค.ศ. 1823 เขาเขียน[[วิทยานิพนธ์]]ที่ว่าด้วยลักษณะ 9 แบบของลายนิ้วมือ สิบปีต่อมา เขาก็ค้นพบ[[ต่อมเหงื่อ]] ต่อมาในปี ค.ศ. 1837 เขาก็ค้นพบ[[เซลล์เพอร์คินจี]] ซึ่งเป็น[[เซลล์ประสาท]]ขนาดใหญ่ที่มี[[เดนไดรต์]]หลายแขนงใน[[ซีรีเบลลัม]] และค้นพบเพอร์คินจีไฟเบอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่ง[[กระแสไฟฟ้า]]ไปยัง[[หัวใจ|หัวใจห้องล่าง]] นอกจากนี้ เขายังค้นพบภาพสะท้อนเพอร์คินจี (Purkinje images) ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของวัตถุที่เกิดจากโครงสร้างในดวงตา รวมถึงริเริ่มการใช้คำว่า[[พลาสมา]]และ[[โพรโทพลาสซึม]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:22, 8 กุมภาพันธ์ 2558
ยัน เอวังเกลิสตา ปุร์คินเย | |
---|---|
ยัน เอวังเกลิสตา ปุร์คินเย ในปีค.ศ. 1856 | |
เกิด | 17 ธันวาคม ค.ศ. 1787 ลิโบโควิซ ราชอาณาจักรโบฮีเมีย จักรวรรดิฮับส์บูร์ก |
เสียชีวิต | กรกฎาคม 28, 1869 ปราก, จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี | (81 ปี)
สัญชาติ | เช็ก |
อาชีพ | นักกายวิภาคศาสตร์, นักสรีรวิทยา |
มีชื่อเสียงจาก | เซลล์เพอร์คินจี |
ยัน เอวังเกลิสตา ปุร์คินเย (เช็ก: Jan Evangelista Purkyně, ภาษาเช็ก: [ˈjan ˈɛvaŋɡɛlɪsta ˈpurkɪɲɛ] ( ฟังเสียง); 17 ธันวาคม ค.ศ. 1787 – 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1869) หรือ โยฮันน์ เอวานเจลิสต์ ปุร์คินเย เป็นนักกายวิภาคศาสตร์และนักสรีรวิทยาเช็ก
ประวัติ
ยัน เอวังเกลิสตา ปุร์คินเย เกิดเมื่อ ค.ศ. 1787 ที่เมืองเล็กๆ ในโบฮีเมีย (ปัจจุบันคือ สาธารณรัฐเช็ก) เขาเรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชาลส์ และต่อมาได้เป็นศาสตราจารย์ด้านสรีรวิทยา เขาเป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์เพอร์คินจี ซึ่งอธิบายว่าทำไมมนุษย์จึงมองเห็นสีแดงได้ลดลง เมื่อเทียบกับสีน้ำเงิน และตีพิมพ์ผลงาน 2 เล่ม คือ Observations and Experiments Investigating the Physiology of Senses และ New Subjective Reports about Vision ที่เป็นจุดเริ่มต้นของวิชาจิตวิทยาเชิงทดลอง
ปุร์คินเยเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีผลงานค้นพบหลายอย่าง ในปี ค.ศ. 1823 เขาเขียนวิทยานิพนธ์ที่ว่าด้วยลักษณะ 9 แบบของลายนิ้วมือ สิบปีต่อมา เขาก็ค้นพบต่อมเหงื่อ ต่อมาในปี ค.ศ. 1837 เขาก็ค้นพบเซลล์เพอร์คินจี ซึ่งเป็นเซลล์ประสาทขนาดใหญ่ที่มีเดนไดรต์หลายแขนงในซีรีเบลลัม และค้นพบเพอร์คินจีไฟเบอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งกระแสไฟฟ้าไปยังหัวใจห้องล่าง นอกจากนี้ เขายังค้นพบภาพสะท้อนเพอร์คินจี (Purkinje images) ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของวัตถุที่เกิดจากโครงสร้างในดวงตา รวมถึงริเริ่มการใช้คำว่าพลาสมาและโพรโทพลาสซึม
ปุร์คินเยเสียชีวิตที่กรุงปราก เมื่อ ค.ศ. 1869 รวมอายุได้ 81 ปี[1]