ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์"
Nanticha.1412 (คุย | ส่วนร่วม) เนื้อหา วงโคจร องค์ประกอบ ผลงานของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{สั้นมาก}} |
{{สั้นมาก}} |
||
⚫ | '''กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์''' ({{lang-en|Spitzer Space Telescope}}) หรือเดิมชื่อ Space Infrared Telescope Facility (SIRTF) เป็นกล้องสังเกตการณ์อวกาศ[[อินฟราเรด]] เป็นกล้องอันดับที่สี่และสุดท้ายของ[[โครงการหอดูดาวเอก]]ของ[[นาซา]] ตั้งชื่อตาม ดร. [[ไลแมน สปิตเซอร์ จูเนียร์]] หนึ่งในนักดาราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นผู้เสนอให้ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ไว้ในอวกาศเป็นคนแรกตั้งแต่กลางคริสต์ทศวรรษ 1940 เพื่อขจัดปัญหาการรบกวนของชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนกว่าการตั้งกล้องไว้บนพื้นโลก โดยเขาใช้เวลากว่า 50 ปี จึงสามารถผลักดันแนวคิดนี้ได้สำเร็จ กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ [[25 สิงหาคม]] [[ค.ศ. 2003]] ด้วยจรวดเดลต้า 2 จากแหลมคานาวารัล มีการตั้งเป้าหมายการใช้งานของกล้องนี้ราว 2-3 ปี |
||
⚫ | '''กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์''' ({{lang-en|Spitzer Space Telescope}}) ชื่อ |
||
==วงโครจรของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์== |
==วงโครจรของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์== |
||
สปิตเซอร์มี[[วงโคจร]]เป็นแบบ Heliocentric ซึ่งโคจรตามโลกไปรอบ ๆ [[ดวงอาทิตย์]]ใช้เวลา 1 ปี |
สปิตเซอร์มี[[วงโคจร]]เป็นแบบ Heliocentric ซึ่งโคจรตามโลกไปรอบ ๆ [[ดวงอาทิตย์]]ใช้เวลา 1 ปี |
||
==ส่วนประกอบของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์== |
==ส่วนประกอบของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์== |
||
ตัวกล้องของสปิตเซอร์เป็น[[กระจก]]ขนาด 85 เซนติเมตร ความยาวโฟกัส 10.20 เมตร ทำด้วย beryllium และหล่อเย็นด้วย[[ฮีเลียม]]เหลวให้มีอุณหภูมิอยู่ที่ 5.5 องศาเคลวินตลอดเวลา ตัวกล้องมีน้ำหนักรวม 960 กิโลกรัม ประกอบด้วยเครื่องมือสำคัญ 3 ชิ้นคือ |
ตัวกล้องของสปิตเซอร์เป็น[[กระจก]]ขนาด 85 เซนติเมตร ความยาวโฟกัส 10.20 เมตร ทำด้วย beryllium และหล่อเย็นด้วย[[ฮีเลียม]]เหลวให้มีอุณหภูมิอยู่ที่ 5.5 องศาเคลวินตลอดเวลา ตัวกล้องมีน้ำหนักรวม 960 กิโลกรัม ประกอบด้วยเครื่องมือสำคัญ 3 ชิ้นคือ |
||
[[ |
[[ไฟล์:SIRTFmirror.jpg|thumb|กระจกของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์]] |
||
# IRAC (Infrared Array Camera) เป็นชุดของ sensor ย่าน Infrared ใน 4 ความยาวคลื่นคือ 3.6 ไมโครเมตร, 4.5 ไมโครเมตร, 5.8 ไมโครเมตร และ 8 ไมโครเมตร ใช้ sensor ขนาด 256 x 256 pixel โดยมีฮีเลี่ยมเหลวหล่อเย็นที่อุณหภูมิ -250 องศา C |
|||
<br /> |
|||
# IRS (Infrared Spectrograph) เป็นชุดวิเคราะห์ spectrum ย่าน Infrared ความยาวคลื่นระหว่าง 5 - 38 ไมโครเมตร |
|||
⚫ | |||
<br /> |
|||
2. IRS (Infrared Spectrograph) เป็นชุดวิเคราะห์ spectrum ย่าน Infrared ความยาวคลื่นระหว่าง 5 - 38 ไมโครเมตร |
|||
<br /> |
|||
⚫ | |||
==ผลงานของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์== |
==ผลงานของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์== |
||
ผลงานชิ้นแรกคือภาพที่ส่งมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2546 |
ผลงานชิ้นแรกคือภาพที่ส่งมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2546 ภาพที่เด่นที่สุดคือ ดาราจักรรูปเกลียว [[M 81]] ซึ่งอยู่ทางเหนือของ[[กลุ่มดาวหมีใหญ่]] ไกลจากโลก 12 ล้านปีแสง แสดงความสามารถของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ในการถ่ายภาพ[[อวกาศ]]ที่ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มก๊าซที่หนาแน่นซึ่งกล้องโทรทรรศน์แสงไม่สามารถมองเห็นได้ ทำให้เห็นการก่อกำเนิดของ[[ดาวฤกษ์]]และเห็นใจกลางของ[[ดาราจักร]] |
||
<br /> |
|||
⚫ | |||
ตัวอย่างการค้นพบที่สำคัญคือ การค้นพบองค์ประกอบ[[ไอน้ำ]]บน[[ดาวเคราะห์]] HD 209458 b โดยใช้ |
|||
sensor Infrared ย่าน 7.5 - 13.2 ไมโครเมตร |
|||
[[File:M81 wide Galex.jpg|thumb|กาแล็กซีรูปเกลียว M 81 ]] |
|||
⚫ | เนื่องจาก Spitzer เป็นกล้องที่เน้นสำรวจแหล่งกำเนิดอินฟราเรด ดังนั้น Spitzer จึงมักใช้สำรวจวัตถุอุณหภูมิต่ำเช่น สเปกตรัมของแสงจากวัตถุประเภทดาวเคราะห์ หรือระบบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ ตัวอย่างการค้นพบที่สำคัญคือ การค้นพบองค์ประกอบ[[ไอน้ำ]]บน[[ดาวเคราะห์]] HD 209458 b โดยใช้เครื่องรับรู้อินฟราเรดย่าน 7.5 - 13.2 ไมโครเมตร |
||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
||
* [[กล้องโทรทรรศน์อวกาศ]] |
* [[กล้องโทรทรรศน์อวกาศ]] |
||
* [[ดาราศาสตร์อินฟราเรด]] |
* [[ดาราศาสตร์อินฟราเรด]] |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
บรรทัด 42: | บรรทัด 38: | ||
{{Link FA|cs}} |
{{Link FA|cs}} |
||
{{Link FA|sk}} |
{{Link FA|sk}} |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
<ref>http://www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewbulletin/2479-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87 |
|||
</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:52, 17 ตุลาคม 2557
กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ (อังกฤษ: Spitzer Space Telescope) หรือเดิมชื่อ Space Infrared Telescope Facility (SIRTF) เป็นกล้องสังเกตการณ์อวกาศอินฟราเรด เป็นกล้องอันดับที่สี่และสุดท้ายของโครงการหอดูดาวเอกของนาซา ตั้งชื่อตาม ดร. ไลแมน สปิตเซอร์ จูเนียร์ หนึ่งในนักดาราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นผู้เสนอให้ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ไว้ในอวกาศเป็นคนแรกตั้งแต่กลางคริสต์ทศวรรษ 1940 เพื่อขจัดปัญหาการรบกวนของชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนกว่าการตั้งกล้องไว้บนพื้นโลก โดยเขาใช้เวลากว่า 50 ปี จึงสามารถผลักดันแนวคิดนี้ได้สำเร็จ กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2003 ด้วยจรวดเดลต้า 2 จากแหลมคานาวารัล มีการตั้งเป้าหมายการใช้งานของกล้องนี้ราว 2-3 ปี
วงโครจรของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์
สปิตเซอร์มีวงโคจรเป็นแบบ Heliocentric ซึ่งโคจรตามโลกไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ใช้เวลา 1 ปี
ส่วนประกอบของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์
ตัวกล้องของสปิตเซอร์เป็นกระจกขนาด 85 เซนติเมตร ความยาวโฟกัส 10.20 เมตร ทำด้วย beryllium และหล่อเย็นด้วยฮีเลียมเหลวให้มีอุณหภูมิอยู่ที่ 5.5 องศาเคลวินตลอดเวลา ตัวกล้องมีน้ำหนักรวม 960 กิโลกรัม ประกอบด้วยเครื่องมือสำคัญ 3 ชิ้นคือ
- IRAC (Infrared Array Camera) เป็นชุดของ sensor ย่าน Infrared ใน 4 ความยาวคลื่นคือ 3.6 ไมโครเมตร, 4.5 ไมโครเมตร, 5.8 ไมโครเมตร และ 8 ไมโครเมตร ใช้ sensor ขนาด 256 x 256 pixel โดยมีฮีเลี่ยมเหลวหล่อเย็นที่อุณหภูมิ -250 องศา C
- IRS (Infrared Spectrograph) เป็นชุดวิเคราะห์ spectrum ย่าน Infrared ความยาวคลื่นระหว่าง 5 - 38 ไมโครเมตร
- MIPS (Multiband Imaging Photometer for Spitzer) เป็นชุด sensor Infrared ย่านความยาวคลื่น 24 - 160 ไมโครเมตร
ผลงานของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์
ผลงานชิ้นแรกคือภาพที่ส่งมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2546 ภาพที่เด่นที่สุดคือ ดาราจักรรูปเกลียว M 81 ซึ่งอยู่ทางเหนือของกลุ่มดาวหมีใหญ่ ไกลจากโลก 12 ล้านปีแสง แสดงความสามารถของกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ในการถ่ายภาพอวกาศที่ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มก๊าซที่หนาแน่นซึ่งกล้องโทรทรรศน์แสงไม่สามารถมองเห็นได้ ทำให้เห็นการก่อกำเนิดของดาวฤกษ์และเห็นใจกลางของดาราจักร
เนื่องจาก Spitzer เป็นกล้องที่เน้นสำรวจแหล่งกำเนิดอินฟราเรด ดังนั้น Spitzer จึงมักใช้สำรวจวัตถุอุณหภูมิต่ำเช่น สเปกตรัมของแสงจากวัตถุประเภทดาวเคราะห์ หรือระบบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ ตัวอย่างการค้นพบที่สำคัญคือ การค้นพบองค์ประกอบไอน้ำบนดาวเคราะห์ HD 209458 b โดยใช้เครื่องรับรู้อินฟราเรดย่าน 7.5 - 13.2 ไมโครเมตร
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- http://www.darasart.com/spacetelescope/sst.html
- http://thaiastro.nectec.or.th/news/2003/news2003dec04.html