ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิศวกรรมชีวเวช"
AlphamaBot (คุย | ส่วนร่วม) →แหล่งข้อมูลอื่น: Alphama Tool |
|||
บรรทัด 208: | บรรทัด 208: | ||
{{เทคโนโลยี}} |
{{เทคโนโลยี}} |
||
[[หมวดหมู่:วิศวกรรมชีวภาพ]] |
|||
[[หมวดหมู่:สาขาทางวิศวกรรมศาสตร์|ชีวเวช]] |
[[หมวดหมู่:สาขาทางวิศวกรรมศาสตร์|ชีวเวช]] |
||
[[หมวดหมู่:วิทยาศาสตร์สุขภาพ]] |
[[หมวดหมู่:วิทยาศาสตร์สุขภาพ]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:49, 20 กันยายน 2557
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
วิศวกรรมชีวการแพทย์ หรือ วิศวกรรมชีวเวช (อังกฤษ: Biomedical Engineering) หรือ วิศวกรรมการแพทย์ (อังกฤษ: Medical Engineering) เป็นสาขาวิชาที่นำเอาความรู้ทางด้าน วิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อออกแบบ สร้างหรือพัฒนาซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน สามารถใช้งานได้จริง รวมถึงการศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความซับซ้อน และต้องการขั้นตอนการผลิตที่มีมาตรฐาน และ ประสิทธิภาพสูง ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายของงานด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ ได้แก่
- การสร้างอวัยวะเทียม (Artificial Organs) : ผิวหนังเทียม ลิ้นหัวใจเทียม
- การสร้างอุปกรณ์ตรวจวัดทางชีววิทยา (Biosensors) : ที่เห็นกันทั่วๆไปก็คือ เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด ก็สามารถนำมาวัดสารอื่นๆได้อีกมากมาย
- Computer integrated surgery : แขนหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบนำทางการผ่าตัด
- Neural network : เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยตรวจสอบหรือทำให้การทำงานของคุณหมอสะดวกมากขึ้น อย่างเช่น การทำนายการเกิดโรคมะเร็งซ้ำโดยอาศัยจากข้อมูลการรักษา, ทำนายโรคจากอาการ
- Image processing : การประมวลภาพจากเครื่องCT Scan, MRI มาประมวลให้สะดวกกับการวิเคราะห์ผล เช่น โปรแกรมตรวจหาบริเวณของการเกิดมะเร็ง จะเห็นภาพของมะเร็งเด่นชัดขึ้นมา
-Signal processing : เป็นการนำสัญญาณมาประมวลผลหาความผิดปกติของคลื่นจากร่างกาย หรือ นำไปประยุกต์กับapplicationอื่นๆ เช่น การตรวจจับสัญญาณกระพริบตาในผู้ป่วยที่พิการทางด้านการเคลื่อนไหว ขยับได้ตั้งแต่คอขึ้นมา เพื่อใช้ใน การเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า, ตรวจจับสัญญาณสมองเมื่อเกิดอาการหลับระหว่างการทำงานหรือขับรถ
- อุปกรณ์การแพทย์ : การพัฒนา strethoscope โดยการติดเครื่องบันทึกเสียงสามารถเก็บเสียงหัวใจผู้ป่วยในรูปแบบของไฟล์ mp3 ได้, เครื่องMonitoringผู้ป่วย วัดความดันโลหิต ชีพจร และออกซิเจนในเลือด
-ระบบนำส่งยา : การพัฒนาโพลิเมอร์นำส่งยามะเร็ง(chemo)ให้เข้าสู่บริเวณเซลล์มะเร็งให้มากที่สุดโดยไม่ทำลายเซลล์ปกติอื่นๆ ไฟฟ้า : การกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าในผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต, เครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker) เป็นต้น
สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์เป็นสาขาวิชาที่บูรณาการศาสตร์ต่างๆ ต่อไปนี้ แพทย์ศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เภสัชศาสตร์ รังสีวิทยา เทคนิคการแพทย์ วัสดุศาสตร์ โทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการนำความรู้เฉพาะทางมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อ ออกแบบ สร้าง หรือพัฒนา เครื่องมือแพทย์ที่ได้มาตรฐาน สามารถใช้งานได้จริง รวมถึงการศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อจุดมุ่งหมายในการ วินิจฉัย ป้องกัน ติดตาม บำบัด บรรเทา รักษาโรค รวมถึงการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้ มาใช้พัฒนาหรือสร้างเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ และที่สำคัญก็คือ ต้องสามารถใช้ได้โดยมีความปลอดภัยกับทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ผู้ใช้เครื่องมือ
วิศวกรรมชีวการแพทย์ แบ่งออกเป็น 9 สาขาย่อย ดังนี้
- 1. Bioinstrumentation เป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ความรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ คุณสมบัติทางไฟฟ้า ที่บอกจำนวนหรือปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตในระดับอะตอมเซลล์ เนื้อเยื่อ หรือระดับอวัยวะ โดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือคอมพิวเตอร์ มาเป็นตัวกลางในการติดต่อกับเครื่องจักรกล ไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก หรือสัญญาณเสียง ซึ่งสร้างมาจากสิ่งมีชีวิต กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายสิ่งมีชีวิต หรือมนุษย์
- 2. Biomaterials เป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่มนุษย์ทำขึ้นมา ที่ประกอบด้วยทั้งหมดหรือบางส่วนของโครงสร้างสิ่งมีชีวิต หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งแทนที่การทำงานของอวัยวะเดิมได้ อาทิ ลิ้นหัวใจเทียม
- 3. Biomechanics เป็นการประยุกต์หลักทางกลศาสตร์เพื่อระบบของสิ่งมีชีวิต ซึ่งรวมถึงการวิจัยและการวิเคราะห์ทางกลศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตและการประยุกต์ ใช้หลักทางวิศวกรรมในสิ่งมีชีวิต
- 4. Cellular, Tissue and Genetic Engineering วิศวกรรมเนื้อเยื่อเป็นส่วนหลักในส่วนของเทคโนโลยีชีวภาพ หนึ่งในเป้าหมายหลักของวิศวกรรมเนื้อเยื่อคือ การผลิตอวัยวะเทียมจากวัสดุชีวภาพสำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้อวัยวะปลูก ถ่าย โดยวิศวกรในสาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์มีหน้าที่ในการวิจัยเพื่อหาวิธีมาผลิต อาทิ กระเพาะปัสสาวะซึ่งมีการพัฒนากันอย่างแพร่หลายในห้องปฏิบัติการและประสบความ สำเร็จแล้วในการปลูกถ่ายเข้าไปในผู้ป่วย อวัยวะเทียมที่นำมาใช้ได้ทั้งจากการสังเคราะห์และวัสดุชีวภาพ อาทิ ตับเทียม
- 5. Clinical Engineering เป็นสาขาหนึ่งของวิศวกรรมชีวการแพทย์ในการในการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์และ เทคโนโลยีต่างๆ ในสถานพยาบาล บทบาทหลักของ Clinical Engineering คือการให้ความรู้และควบคุมดูแลอุปกรณ์ทางการแพทย์ การเลือกเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ การควบคุมการผลิต Clinical Engineer ยังสามารถให้ข้อมูลและความร่วมมือกับผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์
- 6. Medical Imaging เป็นสาขาที่ศึกษาเทคนิคหรือกระบวนการที่ใช้ในการสร้างภาพของร่างกายมนุษย์ หรือบางส่วนของร่างกาย และหน้าที่การทำงานร่างกาย เพื่อจุดประสงค์ทางคลินิก หรือทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์
- 7. Orthopedic Engineering เป็นสาขาที่เน้นการทำให้โรคหรือการได้รับบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อ และกระดูกทุเลาลง โดยการพัฒนาฟังก์ชันการทำงานทางกลศาสตร์ของวัสดุชีวภาพร่วมกับวิศวกรรม เนื้อเยื่อ
- 8. Rehabilitation Engineering เป็นการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิศวกรรมมาออกแบบ พัฒนา ดัดแปลง ทดสอบ ประยุกต์ใช้ และเผยแพร่เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียความสามารถต่างๆ ของร่างกาย (พิการ) งานวิจัยด้านนี้ครอบคลุมการเคลื่อนไหว การติดต่อสื่อสาร การได้ยิน การมองเห็น การจดจำ และการช่วยให้ผู้พิการสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น
- 9. Systems Physiology เป็นสาขาที่รวมศาสตร์ทางการแพทย์ด้านต่างๆ เพื่อศึกษาโครงสร้าง ฟังก์ชันการทำงานของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะที่อธิบายถึงพฤติกรรมของระบบสิ่งมีชีวิต โดยทั่วไปการคำนวณทางสรีรวิทยาได้จากการรวมเทคโนโลยีและฟังก์ชันการทำงาน ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายสิ่งมีชีวิต อาทิ การหมุนเวียนเลือด การหายใจ เมตาบอลิซึม กลศาสตร์ชีวภาพ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบต่อมไร้ท่อ และอื่นๆ
ประเทศไทย
มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงมุมมองที่เป็นสากลของเรื่อง |
สำหรับในประเทศไทย สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ริเริ่มจัดให้มีการประชุมประจำปีวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งชาติ (National Meeting on Biomedical Engineering) เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แบบบูรณาการ โดยการสนับสนุนของ NECTEC ต่อมาได้มีการเพิ่มการประชุมนานาชาติ International Symposium in Biomedical Engineering (ISBME) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547
- พ.ศ. 2544 การประชุมประจำปีวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 (1st National Meeting on Biomedical Engineering) ที่โรงแรมเซ็นทรัล โซฟิเทล สนับสนุนโดย NECTEC จัดโดย สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- พ.ศ. 2545 การประชุมประจำปีวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งชาติ ครั้งที่ 2 (2nd National Meeting on Biomedical Engineering) ที่โรงแรมอมารี ประตูน้ำ สนับสนุนโดย NECTEC จัดโดย สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- พ.ศ. 2546 การประชุมประจำปีวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งชาติ ครั้งที่ 3 (3rd National Meeting on Biomedical Engineering) ที่โรงแรมรามากาเด็น สนับสนุนโดย NECTEC จัดโดย สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- พ.ศ. 2547 International Symposium in Biomedical Engineering 2004 ที่โรงแรมรามากาเด็น สนับสนุนโดย NECTEC จัดโดย สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล
- พ.ศ. 2548 การประชุมประจำปีวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งชาติ ครั้งที่ 4 (4nd National Meeting on Biomedical Engineering) ที่โรงแรมรามากาเด็น สนับสนุนโดย NECTEC จัดโดย สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- พ.ศ. 2549 International Symposium in Biomedical Engineering 2006 ที่โรงแรมเซ็นทรัลโซฟิเทล สนับสนุนโดย MTEC จัดโดย สมาคมวิศวกรรมการแพทย์และชีววิทยาไทย (ThaiEMBS)ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหิดล
- พ.ศ. 2550 การประชุมประจำปีวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งชาติ ครั้งที่ 5 (5nd National Conference on Biomedical Engineering) ณ โรงแรมทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ สนับสนุนโดย NECTEC จัดโดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- พ.ศ. 2550 การประชุมวิชาการวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย ครั้งที่ 1 (The 1st Symposium on Thai Biomedical Engineering : ThaiBME2007) ณ อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ มหาวิทยาลัยรังสิต จัดโดย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต ภายใต้ความร่วมมือของ สภาวิชาการ สมาคมวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย (ThaiBME Council) สนับสนุนโดย NECTEC
- พ.ศ. 2551 การประชุมวิชาการวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย ครั้งที่ 2 (The 2nd Symposium on Thai Biomedical Engineering : ThaiBME2008) และ ISBME2008 จัดโดย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ภายใต้การสนับสนุนของ สมาคมวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย (ThaiBME)
- พ.ศ. 2551 วารสารวิชาการนานาชาติด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ประยุกต์ International Journal on Applied Biomedical Engineering (IJABME) โดย สมาคมวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย (ThaiBME)
- พ.ศ. 2552 The 4th IEEE International Symposium in Biomedical Engineering 2009 (IEEE ISBME2009) จัดโดย สมาคมวิศวกรรมการแพทย์และชีววิทยาไทย (ThaiEMBS)
มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนสาขาวิศวกรรมชีวเวชหรือวิศวกรรมชีวการแพทย์ในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย มีมหาวิทยาลัยที่สามารถเปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์อยู่ทั้งสิ้น 9 สถาบันดังตารางข้างล่าง ทั้งนี้ มี 6 สถาบันที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรี (วิศวกรรมศาสตรบัณฑิตและวิทยาศาสตรบัณฑิต) โดยเน้นการพัฒนากำลังคนเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่เปิดสอนในสาขานี้ โดยมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดหลักสูตรในระดับปริญญาตรี เมื่อ พ.ศ. 2550
นอกจากนี้ มี 5 สถาบันที่เน้นการพัฒนากำลังคนเพื่อการพัฒนางานวิจัยโดยการเปิดหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโทและปริญญาเอก) ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ส่วนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังและ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เปิดสอนถึงระดับปริญญาโท
แต่ทั้งนี้มีมหาวิทยาลัยมหิดลเพียงมหาวิทยาลัยเดียวที่มีศักยภาพเพียงพอจะเปิดหลักสูตรการสอนในทุกระดับ และแนวโน้มสำหรับหลักสูตรนี้ในประเทศไทยคือการเปิดทำการเรียนการสอนในทุกระดับชั้น เปิดทำการสอนทั้งภาษาไทยและนานาชาติ โดยมีมหาวิทยาลัยเหล่านี้เป็นต้นแบบและกำลังหลักต่อไป
มหาวิทยาลัย | ระดับปริญญาตรี | ระดับปริญญาโท | ระดับปริญญาเอก | |
---|---|---|---|---|
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต | |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
- |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
|
หลักสูตรวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต | |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี |
- |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต/วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต |
|
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
|
- | ||
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
|
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต |
|
คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
|
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
|
- | |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
- |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต |
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต |
|
คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ |
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต |
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
- | |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
- |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต |
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต |
|
คณะวิทยาศาสตร์ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต |
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
|
- | - |
มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในการสอนหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา
จัดอันดับโดยยูเอสนิวส์แอนเวิร์ลรีพอด ปี 2012 (US News and World Report) [1]ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดอันดับมหาวิทยาลัย ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐอเมริกา
- 1. มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์
- 2. สถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย
- 3. มหาวิทยาลัยดุ๊ก
- 4. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานดิเอโก
- 5. สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์
- 5. มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
- 7. มหาวิทยาลัยไรซ์
- 7. มหาวิทยาลัยมิชิแกน แอนน์อาร์เบอร์
- 7. มหาวิทยาลัยวอชิงตัน
- 10. มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
- 10. มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ
- 10. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขต เบิร์กลีย์
อ้างอิง
- รู้จักวิศวกรรมชีวการแพทย์ [2]
แหล่งข้อมูลอื่น
- สมาคมอุปกรณ์การแพทย์ไทย และโครงการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- สมาคมวิศวกรรมการแพทย์และชีววิทยาไทย (ThaiEMBS) มหาวิทยาลัยมหิดล
- สมาคมวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย (ThaiBME)
- สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- ชุมนุมวิศวกรรมชีวเวชแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สำนักงานเครือข่ายวิจัยประยุกต์ทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์และชีวการแพทย์ (Bart lab) มหาวิทยาลัยมหิดล
- ศูนย์วิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่