ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พรานบูรพ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 10: บรรทัด 10:


===วัยหนุ่ม===
===วัยหนุ่ม===
[[ไฟล์:จันทโรภาส.jpg|thumb|170px|คณะละครจันทโรภาส]]

เมื่อออกจากมหาวิทยาลัย กำลังเป็นระยะที่คณะละครราตรีพัฒนา เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา จึงได้เริ่มชีวิตละครด้วยการบอกบทหลังหลังฉาก ขณะเดียวกันก็เขียนบทกวีในนาม "''อำแดงขำ''" เรื่องอ่านเล่นในนามปากกา "''รักร้อย''" และเริ่มแต่งบทละครเรื่อง '''''"ทะแกล้วทหารสามเกลอ"''''' ขึ้นเป็นเรื่องแรก ได้รับผลสำเร็จอย่างดี จนได้เป็นผู้แต่งบทละครและกำกับการแสดงเอง เริ่มใช้นามปากกา "''พรานบูรพ์''" ครั้งแรก เมื่อเขียนเรื่อง '''''"เหยี่ยวทะเล"'''''
เมื่อออกจากมหาวิทยาลัย กำลังเป็นระยะที่คณะละครราตรีพัฒนา เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา จึงได้เริ่มชีวิตละครด้วยการบอกบทหลังหลังฉาก ขณะเดียวกันก็เขียนบทกวีในนาม "''อำแดงขำ''" เรื่องอ่านเล่นในนามปากกา "''รักร้อย''" และเริ่มแต่งบทละครเรื่อง '''''"ทะแกล้วทหารสามเกลอ"''''' ขึ้นเป็นเรื่องแรก ได้รับผลสำเร็จอย่างดี จนได้เป็นผู้แต่งบทละครและกำกับการแสดงเอง เริ่มใช้นามปากกา "''พรานบูรพ์''" ครั้งแรก เมื่อเขียนเรื่อง '''''"เหยี่ยวทะเล"'''''

[[ไฟล์:จันทโรภาส.jpg|thumb|170px|คณะละครจันทโรภาส]]


จวงจันทร์ จันทร์คณาเป็นผู้ริเริ่มดัดแปลงเพลงในละครร้องที่มีลูกคู่ร้องรับ มาสู่แบบสากล เนื่องจากยุคนั้นมีลูกคู่ยืดยาดเกินควร จึงใส่เนื้อร้องเต็มหรือตัดให้กระชับแทนลูกคู่ ใช้ดนตรีคลอ และใช้เครื่องดนตรีฝรั่งบรรเลงแทนเครื่องพิณพาทย์ลาดตะโพนฉับแกระ จนเป็นที่นิยมกันมาก เมื่อคณะละครราตรีพัฒนาระงับการแสดงเพราะเจ้าของมีภารกิจทางด้านโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น จึงเข้าทำงาน น.ส.พ.ประจำกองบรรณาธิการ[[เดลิเมล์รายวัน]] เขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว และบกพากย์การ์ตูนใน น.ส.พ.[[เดลิเมล์วันจันทร์]] ต่อมาได้จัดตั้งคณะละครชื่อ "''ศรีโอภาส''" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น '''"จันทโรภาส"''' ละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือเรื่อง '''''"[[จันทร์เจ้าขา]]"''''' ซึ่งถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ. 2499 แสดงนำโดย [[เจือ จักษุรักษ์]], สายสนม นางงามเพชรบุรี และ น้อย จันทร์คณา
จวงจันทร์ จันทร์คณาเป็นผู้ริเริ่มดัดแปลงเพลงในละครร้องที่มีลูกคู่ร้องรับ มาสู่แบบสากล เนื่องจากยุคนั้นมีลูกคู่ยืดยาดเกินควร จึงใส่เนื้อร้องเต็มหรือตัดให้กระชับแทนลูกคู่ ใช้ดนตรีคลอ และใช้เครื่องดนตรีฝรั่งบรรเลงแทนเครื่องพิณพาทย์ลาดตะโพนฉับแกระ จนเป็นที่นิยมกันมาก เมื่อคณะละครราตรีพัฒนาระงับการแสดงเพราะเจ้าของมีภารกิจทางด้านโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น จึงเข้าทำงาน น.ส.พ.ประจำกองบรรณาธิการ[[เดลิเมล์รายวัน]] เขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว และบกพากย์การ์ตูนใน น.ส.พ.[[เดลิเมล์วันจันทร์]] ต่อมาได้จัดตั้งคณะละครชื่อ "''ศรีโอภาส''" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น '''"จันทโรภาส"''' ละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือเรื่อง '''''"[[จันทร์เจ้าขา]]"''''' ซึ่งถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ. 2499 แสดงนำโดย [[เจือ จักษุรักษ์]], สายสนม นางงามเพชรบุรี และ น้อย จันทร์คณา


===ชีวิตส่วนตัว===
===ชีวิตส่วนตัว===
จวงจันทร์ จันทร์คณาสมรสกับนางศรี จันทร์คณา มีบุตรและธิดา ดังนี้ นายจารุ จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจุไร จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจามรี จันทร์คณา และนางสาวจริยา จันทร์คณา และมีบุตรชายคือ [[จงรัก จันทร์คณา]]ที่เกิดจากนางเทียมน้อย เนาวโชติ
จวงจันทร์ จันทร์คณาสมรสกับนางศรี จันทร์คณา มีบุตรและธิดา ดังนี้ นายจารุ จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจุไร จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจามรี จันทร์คณา และนางสาวจริยา จันทร์คณา และมีบุตรชายคือ [[จงรัก จันทร์คณา]]ที่เกิดจากนางเทียมน้อย เนาวโชติ


บรรทัด 26: บรรทัด 23:
{{โครง-ส่วน}}
{{โครง-ส่วน}}
=== บทภาพยนตร์ ===
=== บทภาพยนตร์ ===
[[ไฟล์:ไม่เคยรัก.jpg|thumb|200px|[[ไม่เคยรัก]] (2483) ประพันธ์เพลงและกำกับการแสดงโดย พรานบูรพ์]]
* [[ในสวนรัก]] (2481) สร้างโดย บริษัท[[ภาพยนตร์เสียงศรีกรุง]]
* [[ในสวนรัก]] (2481) สร้างโดย บริษัท[[ภาพยนตร์เสียงศรีกรุง]]
* [[อ้ายค่อม]] (2481) สร้างโดย บริษัทภาพยนตร์เสียงศรีกรุง
* [[อ้ายค่อม]] (2481) สร้างโดย บริษัทภาพยนตร์เสียงศรีกรุง
บรรทัด 35: บรรทัด 33:
* [[วังหลวงวังหลัง]] (2493)
* [[วังหลวงวังหลัง]] (2493)


== กำกับภาพยนตร์ ==
=== กำกับภาพยนตร์ ===
* [[ไม่เคยรัก]] (2483)
* [[ไม่เคยรัก]] (2483)
* [[วังหลวงวังหลัง]] (2493)
* [[วังหลวงวังหลัง]] (2493)
* [[ค่ายบางระจัน]] (2508)
* [[ค่ายบางระจัน]] (2508)


== ประพันธ์เพลง ==
=== ประพันธ์เพลง ===
* นัดพบ
* นัดพบ
* จันทร์เจ้าขา
* จันทร์เจ้าขา

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:27, 19 มกราคม 2557

พรานบูรพ์ (ซ้าย) ถ่ายภาพคู่กับแก้ว อัจฉริยะกุล

พรานบูรพ์ หรือ จวงจันทร์ จันทร์คณา (29 มีนาคม พ.ศ. 2444 - 6 มกราคม พ.ศ. 2519) นักแต่งเพลงไทย เป็นคนแรกผู้ปฏิรูปรูปแบบเพลงไทยประกอบละครร้อง จากท่วงทำนองเพลงไทยเดิมที่มีลูกเอื้อนให้มีลักษณะสากลยิ่งขึ้น อาจกล่าวว่า พรานบูรพ์คือผู้ริเริ่มเพลงไทยสากลก็ได้ มีผลงานสร้างชื่อเสียงคือ ละครร้องเรื่อง "จันทร์เจ้าขา" และ "โรสิตา"

ประวัติ

วัยต้น

จวงจันทร์ จันทร์คณาเป็นบุตรของหลวงราชสมบัติ (จันทน์) นายอำเภอเมือง และนางสร้อย เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2444 ที่ อ.เมือง จังหวัดเพชรบุรีมีน้องสาวร่วมบิดา มารดา 1 คน คือ นางสังวาลย์ มณิปันตี (ถึงแก่กรรม) เนื่องจากบิดาเป็นข้าราชการ ซึ่งต้องโยกย้ายไปรับราชการตามต่างจังหวัดต่างๆ เมื่อเติบวัยที่จะเข้าศึกษาได้ บิดาได้ย้ายมาจังหวัดราชบุรี จึงได้เข้าเรียนหนังสือที่วัดสัตนาถ จังหวัดราชบุรี เรียนอยู่ได้ไม่นานบิดาก็ถึงแก่กรรม ขณะนั้นมีอายุได้ 7 ปี มารดาได้พากลับบ้านเดิมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เรียนหนังสือต่อจนอายุได้ 11 ปี จึงได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบนั้น นอกจากจะได้รับเลือกเข้าเล่นฟุตบอลในทีมโรงเรียนแล้ว ยังสามารถเล่นยูโด และไวโอลินได้ดีอีกด้วย เมื่อจบชั้น ม.8 จากโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ได้เข้าศึกษาต่อที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นนายอำเภอ แต่อาจารย์เห็นว่าตัวเล็กจะเป็นนายอำเภอคงไม่เหมาะ จึงย้ายคณะไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อเรียนถึงปี 2 มารดาถึงแก่กรรม และไม่มีทุนเรียนต่อ จึงออกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วัยหนุ่ม

ไฟล์:จันทโรภาส.jpg
คณะละครจันทโรภาส

เมื่อออกจากมหาวิทยาลัย กำลังเป็นระยะที่คณะละครราตรีพัฒนา เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา จึงได้เริ่มชีวิตละครด้วยการบอกบทหลังหลังฉาก ขณะเดียวกันก็เขียนบทกวีในนาม "อำแดงขำ" เรื่องอ่านเล่นในนามปากกา "รักร้อย" และเริ่มแต่งบทละครเรื่อง "ทะแกล้วทหารสามเกลอ" ขึ้นเป็นเรื่องแรก ได้รับผลสำเร็จอย่างดี จนได้เป็นผู้แต่งบทละครและกำกับการแสดงเอง เริ่มใช้นามปากกา "พรานบูรพ์" ครั้งแรก เมื่อเขียนเรื่อง "เหยี่ยวทะเล"

จวงจันทร์ จันทร์คณาเป็นผู้ริเริ่มดัดแปลงเพลงในละครร้องที่มีลูกคู่ร้องรับ มาสู่แบบสากล เนื่องจากยุคนั้นมีลูกคู่ยืดยาดเกินควร จึงใส่เนื้อร้องเต็มหรือตัดให้กระชับแทนลูกคู่ ใช้ดนตรีคลอ และใช้เครื่องดนตรีฝรั่งบรรเลงแทนเครื่องพิณพาทย์ลาดตะโพนฉับแกระ จนเป็นที่นิยมกันมาก เมื่อคณะละครราตรีพัฒนาระงับการแสดงเพราะเจ้าของมีภารกิจทางด้านโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น จึงเข้าทำงาน น.ส.พ.ประจำกองบรรณาธิการเดลิเมล์รายวัน เขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว และบกพากย์การ์ตูนใน น.ส.พ.เดลิเมล์วันจันทร์ ต่อมาได้จัดตั้งคณะละครชื่อ "ศรีโอภาส" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น "จันทโรภาส" ละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือเรื่อง "จันทร์เจ้าขา" ซึ่งถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ. 2499 แสดงนำโดย เจือ จักษุรักษ์, สายสนม นางงามเพชรบุรี และ น้อย จันทร์คณา

ชีวิตส่วนตัว

จวงจันทร์ จันทร์คณาสมรสกับนางศรี จันทร์คณา มีบุตรและธิดา ดังนี้ นายจารุ จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจุไร จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจามรี จันทร์คณา และนางสาวจริยา จันทร์คณา และมีบุตรชายคือ จงรัก จันทร์คณาที่เกิดจากนางเทียมน้อย เนาวโชติ

จวงจันทร์ จันทร์คณาถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2519 อายุได้ 74 ปี จังหวัดนครปฐมได้ปั้นหุ่นของพรานบูรพ์จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ไว้เพื่อเป็นเกียรติด้วย

ผลงาน

บทภาพยนตร์

ไม่เคยรัก (2483) ประพันธ์เพลงและกำกับการแสดงโดย พรานบูรพ์

กำกับภาพยนตร์

ประพันธ์เพลง

  • นัดพบ
  • จันทร์เจ้าขา
  • กระแจะจันทร์
  • อยากจะรักสักครั้ง
  • กุหลาบร่วง (2476)
  • กล้วยไม้ลืมดอย (2477)
  • ในสวนรัก (ภาพยนตร์ ในสวนรัก 2481)
  • ลอยคอ (ภาพยนตร์ ในสวนรัก 2481)
  • ข้างบ้านเรือนเคียง (พรานบูรพ์ ร้อง) (ภาพยนตร์ ใครผิดใครถูก 2482)
  • ขวัญของเรียม (ภาพยนตร์ แผลเก่า 2483)
  • หัวใจและความรัก (ภาพยนตร์ ไม่เคยรัก 2483)
  • บุปผากับภมร (ภาพยนตร์ ไม่เคยรัก 2483)
  • สายสวาท (ภาพยนตร์ ไม่เคยรัก 2483)
  • จันทร์เจ้าขา (ภาพยนตร์ จันทร์เจ้าขา 2499)
  • นารีต้องมีผัว (ภาพยนตร์ เกาะสวาทหาดสวรรค์ 2512)
  • ฯลฯ

แหล่งข้อมูลอื่น