ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดพระศรีมหาอุมาเทวี"

พิกัด: 13°43′27″N 100°31′22″E / 13.7242°N 100.5228961°E / 13.7242; 100.5228961
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
== เทศกาลนวราตรี == ในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 11 รวม 9 วัน 9 คืนนั้น เป็นเป็นช่วงเวลาของ[[เทศกาลนวรา
Poonsin (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 31: บรรทัด 31:
* หนุ่มลูกทุ่ง, [http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9500000068110 สุขสันต์วันเกิด ครบ 100 ปี "บางรัก"] โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 มิถุนายน 2550 16:50 น.
* หนุ่มลูกทุ่ง, [http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9500000068110 สุขสันต์วันเกิด ครบ 100 ปี "บางรัก"] โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 มิถุนายน 2550 16:50 น.
* [http://www.bangkoktourist.com/thai_places_srimahamariamman_temple.php วัดพระศรีมหาอุมาเทวี] bangkoktourist.com
* [http://www.bangkoktourist.com/thai_places_srimahamariamman_temple.php วัดพระศรีมหาอุมาเทวี] bangkoktourist.com
* [http://www.silomstreet.com/3-sri-maha-mariamman-temple วัดพระศรีมหาอุมาเทวี] silomstreet.com
* [http://silomstreet.com/2-silom/3-sri-maha-mariamman-temple วัดพระศรีมหาอุมาเทวี] silomstreet.com
{{จบอ้างอิง}}
{{จบอ้างอิง}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:46, 3 มกราคม 2557

วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ตั้งอยู่บนถนนสีลม

ประวัติ

วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือ วัดแขกสีลม เป็นเทวสถานฮินดูที่ตั้งอยู่เลขที่ ๒ ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ถวายการบูชาพระศรีมหาอุมาเทวีซึ่งเป็นพระชายาของพระศิวะ เทวสถานนี้มีหลักฐานปรากฏมาตั้งแต่สมัย ร.5 ราว พ.ศ. 2453-2454 โดยคณะผู้ศรัทธาชาวอินเดียใต้ผู้อาศัยอยู่ย่านตำบลริมคลองสีลม อำเภอบางรัก และตำบลหัวลำโพงอำเภอบางรัก

ซึ่งเป็นชาวอินเดียเผ่าภารตะฑราวิฑนาดู (ทมิฬ) จากทางใต้ของประเทศอินเดียที่เดินทางทางทะเล เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่บนดินแดนย่านแหลมมลายูรวมทั้งทางภาคใต้ของประเทศไทย

เมื่อนายไวตี พ่อค้าวัว และญาติมิตรชาวฮินดูที่ตั้งบ้านเรือนและประกอบอาชีพอยู่ย่านตำบลหัวลำโพง อำเภอบางรัก และตำบลริมคลองสีลม อำเภอบางรัก มีศรัทธาจัดสร้างวัดเพื่อเป็นที่บูชาพระอุมาเทวี ตามลัทธิศักติทางศาสนาฮินดู โดยเริ่มต้นตั้งเป็นศาลไม้ใต้ต้นสะเดาในไร่อ้อยริมคลองสีลม แถววัดวัวลำพองหรือหัวลำโพงในปัจจุบันนี้

ต่อมาคณะกรรมการผุ้ก่อตั้งวัดอาทิ นายไวตรีประเดียอะจิ (ต้นตระกูลไวตี เจ้าของเดิมที่ดินใน ซ.สีลม 13 หรือ ซ.ไวตี ถนนสีลม ) นายนารายเจติ นายโกบาระตี ได้หาที่ดินเพื่อตั้งสถานที่ถาวร โดยขอแลกที่ดินของพวกตนกับที่ดินสวนผักริมคลองสีลมของนางอุปการโกษากร ( ปั้น วัชราภัย ) มรรคนายิกา วัดสุทธิวราราม ภรรยาหลวงอุปการโกษากร ( เวก หรือ เวท วัชราภัย ) ปัจจุบันเป็นหัวถนนปั้นด้านที่ตัดกับถนนสีลม โดยนำเทวรูปองค์เทพและ เทพี ต่าง ๆ มาจากประเทศอินเดียโดยมี พระแม่มารีอัมมัน หรือที่รู้จักในประเทศไทยว่า พระศรีมหาอุมาเทวี เป็นองค์ประธานของเทวสถาน รวมทั้งเทวรูปศิลาสลักพระคเณศ และเทพแห่งความสำเร็จ ผู้ที่ได้รับการประทานพรจากพระศิวะ เทพบิดร ให้เป็นเทพผู้ได้รับการเริ่มต้นบูชาก่อนการบูชาเทพ-เทพีองค์อื่น ๆ ทุกครั้ง

วัดพระศรีมหาอุมาเทวีเป็นเทวสถานในลัทธิศักติ คือนับถือเทพสตรีเป็นหลัก เทพสตรีอย่าง พระศรีมหาอุมาเทวี หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า เจ้าแม่อุมา นั้น เป็นพระชายาของพระศิวะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระผู้ทำลาย ถือได้ว่าเมื่อยามที่พระองค์เสวยร่างเป็นเจ้าแม่อุมา จะเป็นเจ้าแห่งความเมตตากรุณา และงามสง่า ดังนั้นผู้มีจิตศรัทธาจึงนิยมไปกราบไหว้บูชา และขอพร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความรัก และ เรื่องการขอบุตร

สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม

สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของเทวสถานเป็นลักษณะศิลปะประเพณีโบราณของอินเดียตอนใต้ผสมผสานกัน ระหว่างสมัยโจฬะและปาละ ในอินเดีย ซึ่งจะพบศิลปะทางสถาปัตยกรรมแบบนี้ได้ในเทวาลัยตอนใต้ของประเทศอินเดียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐทมิฬนาดู

ด้านในเทวสถานมีโบสถ์ตั้งอยู่ตรงกลาง หันหน้าไปด้านถนนปั้น ด้านในสุดของโบสถ์แบ่งเป็น 3 ซุ้ม ซุ้มใหญ่ตรงกลาง มี 2 ล็อก ล็อกหน้าเป็นทางเดินเข้า ล็อกในประดิษฐาน เทวรูปปูนปั้น และเทวรูปหล่อลอยองค์ พระศรีมหาอุมาเทวี ซุ้มด้านซ้ายและขวาของโบสถ์ ประดิษฐานเทวรูปของพระโอรสทั้งสอพระองค์ ซุ้มด้านซ้าย ( ด้านข้างในเทวสถาน)เป็นซุ้มประดิษฐานเทวรูปศิลาสลักองค์พระพิฆเนศ ซุ้มด้านขวา ( ด้านริมถนนสีลม) ประดิษฐานเทวรูปสลักศิลาองค์ พระขันทกุมารซุ้มในโบสถ์ทั้ง 3 ซุ้มนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปข้างใน ยกเว้นพราหมณ์พิธีผู้มีคุณสมบัติอันสมควร แถวด้านซ้ายของโบสถ์หน้าซุ้มพระพิฆเนศ มีแท่นตั้งมีเทวรูปรูปหล่อลอยองค์พร้อมแท่นวางมีห่วงเหล็กที่สร้างไว้สำหรับอัญเชิญออกแห่ในงานพิธีหรือเทศกาลต่างๆของเทวสถาน อันได้แก่ พระพิฆเนศ พระศิวะ พระกฤษณะ พระวิษณุ พระลักษมี พระขันทกุมาร เจ้าแม่ศรีมหาอุมาเทวี พระแม่กาลี พระสรัสวดีและมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เป็นพระพุทธชินราชจำลองตั้งวางอยู่ด้านข้างประตูโบสถ์ด้านใน ส่วนด้านขวาของโบสถ์หน้าซุ้มเทวรูปศิลา พระขันทกุมาร มีซุ้มพระนาฎราย่าและพระแม่ศิวะกามี เทวรูปพระหนุมาน , ตู้เก็บใบคำทำนายเซียมซีของวัด ทางเข้าด้านหน้าโบสถ์ทั้งซ้ายขวา เป็นสถานที่สำหรับจำหน่ายเครื่องบูชาและเทวรูปวัตถุมงคลต่างๆของทางเทวสถาน

ด้านนลานเทวสถานด้านหน้าโบสถ์มีเสาสีทองขนาดใหญ่สูงเท่าหลังคาโบสถ์ ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างประตูหน้าของเทวสถานและช่องกลางโบสถ์ซึ่งมีซุ้มใหญ่ตรงกลาง ที่ประดิษฐานพระศรีมหามารีอัมมันอยู่ด้านในสุด ด้านบนสุดของเสาเป็นโยนีลิงก์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะถูกตกแต่งประดับประดาและชักธงรูปสิงห์ประจำองค์พระแม่ ขึ้นในช่วงสัปดาห์เทศกาลนวราตรี

บนลานหน้าเทวสถานมีเทวาลัยขนาดเล็กอีก 3 เทวาลัย เทวาลัยแรกอยู่บริเวณกลางลานหน้าโบสถ์ด้านขวา (ด้านถนนสีลม) เป็นเทวาลัยประดิษฐานศิวลึงค์อันเป็นสัญญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ อีก 2 เทวาลัยอยู่ที่มุมริมสุดด้านหน้าของเทวสถานด้านถนนปั้นตัดกับถนนสีลม เป็นเทวาลัยประดิษฐานพระพรหม และเทวาลัยประดิษฐานเทวรูปองค์เทวนพเคราะห์ทั้ง9องค์ริมรั้วด้านถนนสีลมระหว่าเทวาลัยพระพรหมและศิวลึงค์ มีหอระฆังที่ต้องตีตลอดเวลาขณะที่พราหมณ์ทำพิธีบูชาเทพเจ้า

ส่วนด้านข้างของเทวสถานริมซ้ายติดกับบ้านเรือนของเอกชนในถนนปั้น ใกล้รั้วเป็นซุ้มใหญ่ประดิษฐานเทวรูปอีก 3 ซุ้มซึ่งเป็นเทพท้องถิ่นของชาวอินเดียใต้ ได้แก่พระอัยนาร์ พระซับทระกรรณี พระแม่เปชายี พระอัคนีวิรั่น พระเปริยาจี พระมาดูไรวีรั่น พระกัตตราวรายัน ถัดเข้าไปข้างในเป็นแผ่นสลักรูป ศรียันตรา ซึ่งหันหน้าเข้าหาถนนสีลมถัดเข้าอีกเป็นอาคารสำนักงานของทางวัด

เทศกาลนวราตรี

ในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 11 รวม 9 วัน 9 คืนนั้น เป็นเป็นช่วงเวลาของเทศกาลดูเซร่า หรือนวราตรี ของชาวฮินดู ซึ่งเป็นงานแห่พระแม่อุมา และเชื่อกันว่าในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่พระแม่และขบวนเทพจะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์

อ้างอิง

แผนที่

13°43′27″N 100°31′22″E / 13.7242°N 100.5228961°E / 13.7242; 100.5228961