ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จอห์น ซีนา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 129: บรรทัด 129:


ในศึกรอว์ (28 ตุลาคม 2013) จอห์น ซีนา แชมป์โลกเฮฟวี่เวทคนใหม่ บอกว่าเขาชินกับเสียงโห่พวกนี้แล้ว เมื่อคืนนี้มีหลายคนมีความสุขแต่ก็มีหลายคนไม่พอใจ แต่นั่นก็หมายความว่าเขากลับมาแล้ว!! คิดถึงไหมล่ะ? คิดว่าเขาควรจะหายไปนานกว่านี้หรือเปล่า? และ JBL ก็มักจะพูดอยู่ตลอดว่าถ้าเขากลับมาเขาจะโดน อัลเบร์โต เดล รีโอ อัดจนต้องเลิกปล้ำ แต่ JBL ก็คิดผิดเพราะเขาเป็นแชมป์โลกคนใหม่แล้ว แดเมียน แซนดาว ออกมา และบอกว่า จอห์น ซีนา อาจจะหลอกคนดูได้ หลอกหมอได้ แต่หลอกเขาไม่ได้หรอก ซีนาไม่มีทางหายเจ็บเร็วขนาดนั้น แกต้องเจ็บมากกว่าที่แสดงออกให้คนเห็น และที่ออกมาโม้ในวันนี้ก็เพราะว่าซีนากลัวว่าเขาจะออกมาใช้กระเป๋า MITB แซนดาวบอกว่าเขาจะใช้กระเป๋าเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คงไม่ใช่คืนนี้ ว่าแล้วก็เดินจากไป แต่ จอห์น ซีนา ทำท่าจะหาเรื่องแซนดาว ทำให้แซนดาวกระทืบซีนาทันที แล้วก็ใช้กระเป๋าฟาดรัวใส่แขนของ จอห์น ซีนา จากนั้น แดเมียน แซนดาว เรียกกรรมการออกมาและขอใช้กระเป๋าเดี๋ยวนี้!! ทำให้ จอห์น ซีนาต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับแดเมียน แซนดาว สุดท้าย แดเมียน แซนดาว ก็โดน จอห์น ซีนา จับใส่ Attitude Adjustment และกดนับ 3 ไป ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ และ แดเมียน แซนดาว กลายเป็นคนแรกที่ใช้กระเป๋า MITB แล้วแพ้ ในศึกรอว์ (4 พฤศจิกายน 2013) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับแชมป์แทคทีม WWE [[ดัสติน โรดส์|โกลดัสต์]] และโคดี โรดส์ เจอกับ แดเมียน แซนดาว, แจ๊ค สแวกเกอร์ และแอนโทนีโอ ซีซาโร สุดท้าย จอห์น ซีนา, โกลดัสต์ และ โคดี โรดส์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึกรอว์ (18 พฤศจิกายน 2013) จอห์น ซีนา ออกมาที่เวทีโดยพันแขนข้างซ้ายอยู่ ซีนาพูดถึงแมตช์ที่เขาจะป้องกันแชมป์ใน เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ แล้ว อัลเบร์โต เดล รีโอ ก็ออกมา Del Rio บอกว่าเขาจะกระทืบ Cena ในบ้านเกิดของเขาเองต่อหน้าพ่อแม่ของ Cena และรู้อะไรไหมว่าแชมเปี้ยนที่แท้จริงจะต้องฉวยโอกาสทุกอย่างที่เห็น และตอนนี้เขาก็ได้โอกาสนั้นแล้ว Cena บอก นายพูดถูกนะ แชมเปี้ยนที่แท้จริงต้องคว้าทุกโอกาส ว่าแล้ว Cena ก็ถอดสลิงที่แขนซ้ายออกแล้วไล่ต่อย เดล รีโอ จนต้องรีบหนีไป ในศึก [[เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013)]] จอห์น ซีนา ต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ อัลเบร์โต เดล รีโอ สุดท้าย จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ
ในศึกรอว์ (28 ตุลาคม 2013) จอห์น ซีนา แชมป์โลกเฮฟวี่เวทคนใหม่ บอกว่าเขาชินกับเสียงโห่พวกนี้แล้ว เมื่อคืนนี้มีหลายคนมีความสุขแต่ก็มีหลายคนไม่พอใจ แต่นั่นก็หมายความว่าเขากลับมาแล้ว!! คิดถึงไหมล่ะ? คิดว่าเขาควรจะหายไปนานกว่านี้หรือเปล่า? และ JBL ก็มักจะพูดอยู่ตลอดว่าถ้าเขากลับมาเขาจะโดน อัลเบร์โต เดล รีโอ อัดจนต้องเลิกปล้ำ แต่ JBL ก็คิดผิดเพราะเขาเป็นแชมป์โลกคนใหม่แล้ว แดเมียน แซนดาว ออกมา และบอกว่า จอห์น ซีนา อาจจะหลอกคนดูได้ หลอกหมอได้ แต่หลอกเขาไม่ได้หรอก ซีนาไม่มีทางหายเจ็บเร็วขนาดนั้น แกต้องเจ็บมากกว่าที่แสดงออกให้คนเห็น และที่ออกมาโม้ในวันนี้ก็เพราะว่าซีนากลัวว่าเขาจะออกมาใช้กระเป๋า MITB แซนดาวบอกว่าเขาจะใช้กระเป๋าเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คงไม่ใช่คืนนี้ ว่าแล้วก็เดินจากไป แต่ จอห์น ซีนา ทำท่าจะหาเรื่องแซนดาว ทำให้แซนดาวกระทืบซีนาทันที แล้วก็ใช้กระเป๋าฟาดรัวใส่แขนของ จอห์น ซีนา จากนั้น แดเมียน แซนดาว เรียกกรรมการออกมาและขอใช้กระเป๋าเดี๋ยวนี้!! ทำให้ จอห์น ซีนาต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับแดเมียน แซนดาว สุดท้าย แดเมียน แซนดาว ก็โดน จอห์น ซีนา จับใส่ Attitude Adjustment และกดนับ 3 ไป ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ และ แดเมียน แซนดาว กลายเป็นคนแรกที่ใช้กระเป๋า MITB แล้วแพ้ ในศึกรอว์ (4 พฤศจิกายน 2013) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับแชมป์แทคทีม WWE [[ดัสติน โรดส์|โกลดัสต์]] และโคดี โรดส์ เจอกับ แดเมียน แซนดาว, แจ๊ค สแวกเกอร์ และแอนโทนีโอ ซีซาโร สุดท้าย จอห์น ซีนา, โกลดัสต์ และ โคดี โรดส์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึกรอว์ (18 พฤศจิกายน 2013) จอห์น ซีนา ออกมาที่เวทีโดยพันแขนข้างซ้ายอยู่ ซีนาพูดถึงแมตช์ที่เขาจะป้องกันแชมป์ใน เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ แล้ว อัลเบร์โต เดล รีโอ ก็ออกมา Del Rio บอกว่าเขาจะกระทืบ Cena ในบ้านเกิดของเขาเองต่อหน้าพ่อแม่ของ Cena และรู้อะไรไหมว่าแชมเปี้ยนที่แท้จริงจะต้องฉวยโอกาสทุกอย่างที่เห็น และตอนนี้เขาก็ได้โอกาสนั้นแล้ว Cena บอก นายพูดถูกนะ แชมเปี้ยนที่แท้จริงต้องคว้าทุกโอกาส ว่าแล้ว Cena ก็ถอดสลิงที่แขนซ้ายออกแล้วไล่ต่อย เดล รีโอ จนต้องรีบหนีไป ในศึก [[เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013)]] จอห์น ซีนา ต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ อัลเบร์โต เดล รีโอ สุดท้าย จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ

ในศึกรอว์ (25 พฤศจิกายน 2013) Orton ออกมาบอกว่าพวกแกคงจะไม่คิดล่ะสิว่าชั้นคนนี้จะออกมาที่นี่ในฐานะแชมป์ WWE แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คาใจ จึงขอให้ Triple H ออกมาหน่อย HHH กับ Stephanie ออกมา และ Orton บอกว่าทำไมต้องออกมาช่วยเขาด้วย? ก็ไหนบอกว่าไม่ต้องมีการก่อกวนไง เขาเอาชนะด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาช่วย เพราะเขาคือผู้เป็นหน้าเป็นตาของ WWE เป็นแชมป์ WWE เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ WWE ตลอดกาลและไม่มีใครจะมาแย่งชิงอะไรไปจากเขาได้ John Cena ออกมา และก็บอกว่าเขานี่แหละที่จะทำได้ ขอท้าเจอ Randy Orton โดยเอาแชมป์ทั้งสองเส้นเป็นเดิมพัน Triple H กับ Stephanie ก็เห็นชอบด้วย และ HHH ก็จัดแมตช์ในศึก TLC ให้ทั้งสองคนเจอกันและจะเอาแชมป์ทั้งสองเส้นแขวนไว้ในแมตช์ Tables, Ladders, and Chairs Cena กับ Orton ชูเข็มขัดแชมป์ข่มกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับ


== เกี่ยวกับมวยปล้ำ ==
== เกี่ยวกับมวยปล้ำ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:00, 29 พฤศจิกายน 2556

จอห์น ซีนา
เกิด (1977-04-23) 23 เมษายน ค.ศ. 1977 (46 ปี)
เวสต์ นิวเบอร์รี, รัฐแมสซาชูเซตส์
ที่พักแทมปา รัฐฟลอริดา[1]
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียนจอห์น ซีนา
เดอะ โปรโตไทพ์
มิสเตอร์พี
ส่วนสูง6 ft 1 in (1.85 m)[2]
น้ำหนัก251 lb (114 กก)[2]
มาจากคลาสซิฟิลด์ (UPW)
เวสต์ นิวเบอร์รี, รัฐแมสซาชูเซตส์ (WWE)
ฝึกหัดโดยUltimate Pro Wrestling
Ohio Valley Wrestling
เปิดตัวค.ศ. 2001

จอห์น เฟลิกซ์ แอนโธนี ซีนา[3] (อังกฤษ: John Felix Anthony Cena) เกิดวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1977[4] ที่ เวสต์ นิวเบอร์รี, รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นนักแสดง, นักร้อง, ฮิปฮอป และ นักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกัน ปัจจุบันเซ็นสัญญาสังกัดสมาคม ดับเบิลยูดับเบิลยูอี ในวงการมวยปล้ำมีชื่อว่า จอห์น ซีนา[5] เป็นแชมป์โลก 14 สมัย (แชมป์ WWE 11 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สมัย)[6] แชมป์ยูเอส 3 สมัย, แชมป์โลกแทคทีม 2 สมัย, แชมป์แทคทีม WWE 2 สมัย และยังเป็นผู้ชนะในศึก รอยัลรัมเบิล ประจำปี 2008 และ 2013

ประวัติในวงการมวยปล้ำอาชีพ

ก่อนเข้าวงการมวยปล้ำ

หลังจบการศึกษาจากสถาบัน คุชชิง อคาเดมี ได้ศึกษาต่อที่ สปิงค์ฟิวด์ คอลเลต ที่ สปิงค์ฟิวด์,แมตซาซูเซตท์ ในสาขา สรีระวิทยา[7] และยังเป็นนักอเมริกันฟุตบอล ในดิวิชั่น 3 สวมเสื้อเบอร์ 54[8][9] และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1998 หลังจากเรียนจบเขาได้ทำงานเป็นนักเพาะกาย[10] และ พนักงานขับรถ ลีมูซีน[11]

ในสังเวียนมวยปล้ำ

จอห์น ซีนา ได้ฝึกฝนในสมาคม Ultimate University โดยใช้ชื่อในการปล้ำว่า เดอะ โปรโตไทพ์ หรือ มิสเตอร์พี[12] และได้แชมป์เฮฟวี่เวท ในเดือนเมษายน ปี 2000 และได้แชมป์แทคทีม คู่กับ ริโก คอนสแตนติโน 2 สมัย[13] และในปี 2001 ได้เซ็นสัญญากับ WWF (ภายหลังเปลี่ยนเป็น WWE ในปี 2002 - ปัจจุบัน) ในสไตล์เด็กแร็พและในปัจจุบันในสไตล์ทหาร

เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ / ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (2002 - ปัจจุบัน)

สแมคดาวน์ (2002 - 2005)

จอห์น ซีนา ได้เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2002 ในศึก สแมคดาวน์ และเปิดศึกกับ เคิร์ต แองเกิล[14] ซึ่ง เคิร์ต แองเกิล ได้ขึ้นมาบนเวทีและท้านักมวยปล้ำคนไหนก็ได้ให้ออกมาสู้กับเขาและเป็น จอห์น ซีนา ที่ออกมารับคำท้า และแมตช์นั้นเองคือแมตช์การปล้ำแมตช์แรกของเขาใน WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เคิร์ต แองเกิล ไปในที่สุด[15] จากนั้นมา จอห์น ซีนา ก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำ พร้อมทั้งหันไปเปิดศึกกับ คริส เจอริโค และเอาชนะคริส เจอริโค ในศึก เวนเจินส์ (2002) มาได้อีกด้วย ในเดือนตุลาคม จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ บิลลี คิดแมน ร่วมปล้ำในทัวร์นาเมนต์หาแชมป์แทคทีม WWE แต่ก็แพ้ตกรอบแรกไป[16] ทำให้ จอห์น ซีนา โมโห ทำร้าย บิลลี คิดแมน และกลายเป็นฝ่ายอธรรมไปในที่สุด

ซีนา เล่นงาน เคิร์ต แองเกิล ด้วยท่า Attitude Adjustment (ชื่อเดิม F-U)

ในศึก แบคแลช 2003 จอห์น ซีนา ได้มีโอกาสชิงแชมป์ WWE กับ บร็อก เลสเนอร์[17][18][19] ตอนนี้เองที่ จอห์น ซีนา ได้คิดท่าไม้ตาย F-U (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Attiude Adjustment) ซึ่งล้อเลียนท่าไม้ตาย F-5 ของ บร็อก เลสเนอร์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ จากนั้น จอห์น ซีนา ก็ไปเปิดศึกกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ในศึก เวนเจินส์ (2003)[20] เมื่อถึงท้ายปี จอห์น ซีนา ก็หันกลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง และได้ร่วมทีมกับ เคิร์ต แองเกิล เอาชนะทีมของ บร็อก เลสเนอร์ ไปได้ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ 2003[21][22]

ซีนา กับ แชมป์ยูเอส

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 จอห์น ซีนา ได้คว้าแชมป์ยูเอส จาก บิ๊กโชว์ และเป็นแชมป์เส้นแรกของเขาในสมาคม WWE[23] หลังจากนั้นก็ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำทั่วประเทศและเขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้เป็นที่นิยมของเด็กๆ และ วัยรุ่นเป็นอย่างมาก[24][25] และหลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็พัฒนาฝีมือการปล้ำได้เยอะเลยทีเดียว

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 จอห์น ซีนา ได้คว้าแชมป์ WWE ครั้งแรกจาก เจบีแอล[26] และเมื่อ จอห์น ซีนา ได้ครองเข็มขัดแชมป์ทั้งสองเส้นนั้น เขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้ เป็นที่นิยมของเด็กๆ และ วัยรุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งดัดแปลงเหมือน แชมป์ยูเอส อีกทั้งตัวเขายังเป็นขวัญใจสาวๆหลายๆคนอีกด้วย ต่อมา ในศึก จัดจ์เมนท์เดย์ (2005) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ เจบีแอล ในแมตช์การปล้ำ I Quit Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[27]

รอว์ (2005 - ปัจจุบัน)

หลังจากนั้น แชมป์ WWE จอห์น ซีนา ก็ถูกดราฟท์ไปอยู่รอว์ โดยสลับกับแชมป์โลกเฮฟวี่เวท บาติสตา[28] โดย จอห์น ซีนา ได้เปิดศึกกับ คริส เจอริโค เป็นคนแรกหลังจากย้ายมาอยู่รอว์ และ จอห์น ซีนา ก็เอาชนะ คริส เจอริโค มาได้หลายต่อหลายครั้ง[29] จนกระทั่ง คริส เจอริโค ต้องห่างหายจากการปล้ำ จากนั้น เคิร์ต แองเกิล ก็มาขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เอาชนะ เคิร์ต แองเกิล ได้เกือบทุกครั้ง

ซีนาในช่วงที่เปิดศึกกับ เอดจ์

ในศึก นิวเยียร์สเรโวลูชั่น (2006) จอห์น ซีนา เสียแชมป์ WWE ให้กับ เอดจ์ เพราะหลังจากที่ จอห์น ซีนา ชนะทั้ง เคิร์ต แองเกิล, ชอว์น ไมเคิลส์, เคน, คริส มาสเตอร์ และ คาร์ลิโต้ สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ ในแมตช์การปล้ำ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ แต่ เอดจ์ ใช้แผนสกปรก โดยการใช้กระเป๋าเอกสารสิทธิ์ Money In The Bank ชิงแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา ในสภาพไม่พร้อมปล้ำ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์โลกเป็นครั้งแรก ให้กับ เอดจ์ ไปในที่สุด[30] ทำให้ จอห์น ซีนา แค้นมาก หลังจากนั้น จอห์น ซีนา ได้เปิดศึกกับ เอดจ์ ต่อมา ในศึก รอยัลรัมเบิล (2006) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ เอดจ์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ เอดจ์ และคว้าแชมป์ WWE สมัยที่ 2 มาครองได้สำเร็จ

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับสุดยอดนักมวยปล้ำของ WWE ทริปเปิล เอช เป็นครั้งแรก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก แบคแลช (2006) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ทริปเปิล เอช และ เอดจ์ ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก วันไนท์สแตนด์ (2006) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ร็อบ แวน แดม โดยการใช้กระเป๋าเอกสารสิทธิ์ Money In The Bank ชิงแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา สุดท้าย เอดจ์ ได้มาก่อกวนการปล้ำ ของ จอห์น ซีนา ทำให้ จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์ WWE ให้กับ ร็อบ แวน แดม ไปในที่สุด และก็ถูก เอดจ์ ทิ้งลงแม่น้ำภายหลังจากที่เสียแชมป์ให้ และเข็มขัดก็ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นตัว "R" ทำให้ จอห์น ซีนา แค้นมาก ต่อมา ในศึก อันฟอร์กิฟเว่น (2006) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ เอดจ์ ในแมตช์การปล้ำการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ เอดจ์ ได้อีกครั้งและคว้าแชมป์ WWE สมัยที่ 3 มาครองได้สำเร็จ และเปลี่ยนจากรูป "R" มาเป็น "W" ดังเดิมและหลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็สามารถชนะนักมวยปล้ำที่เก่งกาจได้หลายคนทั้ง ทริปเปิล เอช, ชอว์น ไมเคิลส์, เอดจ์, เคิร์ต แองเกิล, คริส เจอริโค, แรนดี ออร์ตัน, บิ๊กโชว์ ทำให้พูดได้ว่า จอห์น ซีนา กลายเป็นนักมวยปล้ำที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้อีกด้วย และท้ายที่สุด จอห์น ซีนา อาจจะกลายเป็นหนึ่งในตำนานของ WWE อย่างเช่น สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน, เดอะ ร็อก, ฮัลค์ โฮแกน, เบรต ฮาร์ต และ ดิอันเดอร์เทเกอร์

ซีนา กับ แชมป์ WWE ในปี ค.ศ. 2007

ในศึก รอยัลรัมเบิล (2007) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อูมาก้า ในแมตช์การปล้ำ Last Man Standing Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก โนเวย์เอาท์ (2007) จอห์น ซีนา จะต้องจับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ เจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และ บาติสต้า สุดท้าย จอห์น ซีนา และ ชอว์น ไมเคิลส์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับนักมวยปล้ำมากฝีมือระดับตำนานอย่าง ชอว์น ไมเคิลส์ ผลสรุปคือสู้กันอย่างสูสีและเป็น จอห์น ซีนา ที่ป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้สำเร็จ[31]

หลังจากนั้น จอห์น ซีนาก็ครองแชมป์ได้ยาวนานตั้งแต่ปี 2006 - 2007 ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2007) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน สุดท้ายซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ ต่อมา แรนดี ออร์ตัน ได้ไปทำร้ายพ่อของซีนา ด้วยการเตะกะโหลกศีรษะ ทำให้ซีนาแค้นและโมโหออร์ตันมาก ต่อมาซีนาจึงอัดและเล่นงาน แรนดี ออร์ตัน อย่างหนักและให้พ่อของตนเอาคืนออร์ตัน โดยเตะกะโหลกศีรษะทำเอาออร์ตันเจ็บหนักมาก ต่อมาซีนาก็ต้องสละแชมป์ของตนและพักการปล้ำเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ซีนาต้องพักการปล้ำไปเป็นเวลานานหลายเดือน[32]

ในศึก รอยัลรัมเบิล (2008) จอห์น ซีนา ได้กลับมาร่วมในแมตช์การปล้ำ รอยัลรัมเบิล ครั้งนี้ ซึ่งเขาสามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช และ บาติสต้า ในรอบ 3 คนสุดท้าย โดยการจับเหวี่ยงจนหมด เขาเป็นผู้ชนะเลิศ รอยัลรัมเบิล ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เช่นเดียวกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เมื่อปี 2007[33] ในศึก โนเวย์เอาท์ (2008) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE ล่วงหน้ากับ แรนดี ออร์ตัน เจ้าของตำแหน่ง[34] สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE กลับคืนมาได้[35]

ซีนา กับ แชมป์โลกแทคทีม

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ แรนดี ออร์ตัน และ ทริปเปิล เอช ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า เพื่อชิงแชมป์ WWE[36] สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถนำแชมป์โลกมาสู่เข็มขัดของตนได้เหมือนนักมวยปล้ำคนก่อนๆ[37] ต่อมา จอห์น ซีนา ได้หันไปเปิดศึกกับ บาติสตา เนื่องจากมีปัญหาเข้าใจผิดที่ จอห์น ซีนา จะใช้เก้าอี้ตีใส่ เจบีแอล แต่ เจบีแอล หลบได้ เลยพลาดไปถูก บาติสตา ทำให้คู่นี้กลายเป็นคู่กรณีกันโดย 2 คนนี้ถูกให้จับคู่กันเพื่อไปชิงแชมป์แทคทีมกับ เดอะเลกาซี (โคดี้ โรดส์ และ เท็ด ดิบิอาซี่) ซึ่งก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ แต่เป็นเพราะคู่นี้เป็นคู่กรณีกัน จึงไม่มีความสามัคคี ทำให้อีก 1 อาทิตย์ต่อมา ต้องเสียแชมป์กลับคืนให้กับ เดอะเลกาซี ไปในที่สุด ต่อมา ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2008) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ บาติสตา สุดท้าย จอห์น ซีนา โดนท่า Batista Bomb ท่าไม้ตายของ บาติสตา แพ้ไปอย่างหมดรูป ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องพักการปล้ำไปนานพอควรเลยทีเดียว[38][39] สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ได้กลับมาชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก คริส เจอริโค ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) และเอาชนะมาได้สำเร็จ[40] แต่เข็มขัดเส้นนี้ก็ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงรูปแบบแต่อย่างใด ต่อมา ในศึก อาร์มาเกดดอน (2008) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ คริส เจอริโค สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ

ในศึก รอยัลรัมเบิล (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เจบีแอล สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก โนเวย์เอาท์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในกรงเหล็กมรณะ หรือ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ กับนักมวยปล้ำถึง 5 คน ได้แก่ เรย์ มิสเตริโอ, เคน, ไมค์ นอคซ์, คริส เจอริโค และ โคฟี คิงส์ตัน ผลปรากฏว่า ตอนเปิดตัว เอดจ์ ได้วิ่งเข้ามาลอบทำร้าย โคฟี คิงส์ตัน หลังจากเสียแชมป์ WWE ให้กับ ทริปเปิล เอช ไปแล้ว ทำให้ โคฟี คิงส์ตัน หมดสิทธิ์การปล้ำ และ เอดจ์ ก็เข้าไปในกรงแทน และก็ใช้กลโกงสารพัดจนกระชากเข็มขัดแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไปจาก จอห์น ซีนา[41]

จอห์น ซีนา แค้นมากที่ตนเสียแชมป์โลกให้ เอดจ์ ตนจึงพยายามหาโอกาสชิงเข็มขัดคืนมาแต่ก็ไม่ได้ซักที เพราะ วิคกี เกอร์เรโร ภรรยาของ เอดจ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของ สแมคดาวน์ ได้กีดกันทุกวิถีทางไม่ให้ เอดจ์ ได้เจอกับ จอห์น ซีนา แต่ จอห์น ซีนา ก็ไม่ยอมแพ้ขู่ วิคกี เกอร์เรโร เรื่องที่เธอแอบเป็นกิ๊กกับ บิ๊กโชว์ จนเธอจำต้องยอมให้ จอห์น ซีนา ได้ชิงแชมป์กับ เอดจ์ แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏให้ เอดจ์ รู้ว่าเธอปันใจให้กับ บิ๊กโชว์ ทำให้คู่นี้กลายเป็นศัตรูกัน ทั้งๆที่กะจะรุม ซีนา แต่แรก 3 คนนี้ได้เจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ผลปรากฏว่า จอห์น ซีนา ได้เล่นงาน เอดจ์ และ บิ๊กโชว์ จนคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 มาได้สำเร็จ[42]

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เอดจ์ ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ จอห์น ซีนา อีกครั้ง ในศึก แบคแลช (2009) ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายของ เอดจ์ ที่จะได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ทั้งคู่เจอกันในรูปแบบการปล้ำ Last Man Standing Match ซึ่งใครล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วถูกกรรมการนับ 10 ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ไป ผลปรากฏว่า จอห์น ซีนา ถูก บิ๊กโชว์ เล่นงานด้วยท่า โชคสแลม กับ ไฟสปอตไลท์ยักษ์ ทำให้ จอห์น ซีนา สลบและแพ้แบบหมดรูป และต้องเสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวท คืนให้กับ เอดจ์ ไปในที่สุด[43]

จอห์น ซีนา แค้นมากจึงขอท้าเจอกับ บิ๊กโชว์ ในศึก จัดจ์เมนท์เดย์ (2009) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ[44] ต่อมา บิ๊กโชว์ จึงไปขอท้าเจอกับ จอห์น ซีนา อีกครั้ง ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) ในแมตช์การปล้ำ Submission Match ใครตบพื้นก่อนยอมแพ้ สุดท้าย บิ๊กโชว์ ต้องตบพื้นยอมแพ้ ด้วยท่า STF ทำให้ จอห์น ซีนา ได้ล้างแค้น บิ๊กโชว์ อย่างสะใจ ไปในที่สุด[45] ต่อมา จอห์น ซีนา ได้เปิดศึกกับ เดอะ มิซ และท้าเจอกัน ในศึก เดอะแบช (2009) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เดอะ มิซ มาได้สำเร็จ

ซีนา ในปี ค.ศ. 2009

จอห์น ซีนา ได้เปิดศึกกับ แรนดี ออร์ตัน ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ แรนดี ออร์ตัน และ ทริปเปิล เอช ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า เพื่อชิงแชมป์ WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ ต่อมา ในศึก เบรกกิ้งพอยท์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ แรนดี ออร์ตัน ในแมตช์การปล้ำ I Quit Match ชิงแชมป์ WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ แรนดี ออร์ตัน และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 มาครองได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก เฮลอินเอเซล (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน ในแมตช์การปล้ำเฮลล์อินเอเซลล์ แมทช์ หรือ นรกในกรงเหล็ก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์ WWE ให้กับ แรนดี ออร์ตัน ไปในที่สุด ต่อมา ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน อีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำ ไอรอน แมน แมทช์ โดยถ้า จอห์น ซีนา แพ้ จอห์น ซีนา จะต้องออกจาก รอว์ และย้ายไปอยู่ สแมคดาวน์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ แรนดี ออร์ตัน และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งชนะไป 6-5[46] ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับกลุ่ม ดี-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ ทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า สุดท้าย จอห์น ซีนา สามารถเอาชนะทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ และป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ

จอห์น ซีนา ได้เปิดศึกกับนักมวยปล้ำหน้าใหม่ เชมัส ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ เชมัส ในแมตช์การปล้ำ Table Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์ WWE ให้กับ เชมัส ไปในที่สุด[47] ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา ได้รับรางวัล สแลมมีอวอร์ด รางวัลซูเปอร์สตาร์แห่งปี ประจำปี 2009 โดยต้องปล้ำรอบ 4 คนสุดท้าย โดย จอห์น ซีนา ชนะ ซีเอ็ม พังก์ และเข้ารอบชิงชนะเลิศกับ แรนดี ออร์ตัน หลังจาก แรนดี ออร์ตัน เอาชนะ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้ในรอบ 4 คนสุดท้าย และเป็น จอห์น ซีนา ที่เอาชนะ แรนดี ออร์ตัน ได้และคว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จ

ซีนา กับ แชมป์ WWE ในปี ค.ศ. 2010

ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) จอห์น ซีนา สามารถคว้าแชมป์ WWE กลับคืนมาจาก เชมัส ได้อีกครั้งโดยปล้ำ ในกรงเหล็กมรณะ หรือ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ โดย จอห์น ซีนา เอาชนะทั้ง 5 คน มาได้สำเร็จ คือ เชมัส, ทริปเปิล เอช, แรนดี ออร์ตัน, โคฟี คิงส์ตัน และ เท็ด ดิบิอาซี่ แต่หลังจากจบการแข่งขัน บาติสต้า กลับออกมาเล่นงาน จอห์น ซีนา จนทำให้ต้องเสียแชมป์ WWE ให้กับ บาติสต้า อย่างรวดเร็ว[48] จนทำให้ จอห์น ซีนา โมโหมากแต่ก็ถูก บาติสต้า เข้ามาลอบทำร้ายตลอดเวลา ต่อมา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ บาติสต้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ บาติสต้า ได้ด้วยท่า STF ทำให้ จอห์น ซีนา ได้แชมป์โลกเป็นสมัยที่ 9 และเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ จอห์น ซีนา และเป็นครั้งแรกด้วยที่ จอห์น ซีนา เอาชนะ บาติสต้า มาได้สำเร็จ[49]

แต่เรื่องยังไม่จบ บาติสต้า ได้มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ บาติสต้า ในแมตช์การปล้ำ Last Man Standing Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ บาติสต้า ไปได้อีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ทำให้ จอห์น ซีนา ป้องกันแชมป์ WWE ของตนเอาไว้ได้[50] ต่อมา ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2010) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ บาติสต้า อีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำ I Quit Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บาติสต้า ไปได้เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน และ จอห์น ซีนา ก็ป้องกันแชมป์ WWE ของตนเอาไว้ได้อีกครั้ง[51] และทำให้ บาติสต้า ได้ประกาศลาออกจากวงการมวยปล้ำของ WWE ไปในที่สุด

ซีนา ใน เดือนธันวาคม ค.ศ. 2010

ในศึก เฟทัลโฟร์เวย์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน, เชมัส และ เอดจ์ ในแมตช์การปล้ำ 4 เส้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ต้องเสียแชมป์ WWE คืนให้กับ เชมัส เพราะกลุ่มเอ็นเอ็กซ์ที ซีซั่น 1 มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา[52] ต่อมา ในศึก มันนี่อินเดอะแบงค์ (2010) จอห์น ซีนา ขอท้าชิงแชมป์โลก WWE คืนจาก เชมัส ในแมตช์การปล้ำกรงเหล็ก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนจาก เชมัส มาได้ เนื่องจากกลุ่มเดอะเน็กซัส หรือ เอ็นเอ็กซ์ที ซีซั่น 1 มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ตลอดเวลา[53] ทำให้ จอห์น ซีนา แค้นมากแล้วไปมีเรื่องกับพวกกลุ่มเดอะเน็กซัส แล้วท้าเจอกันในแมตช์การปล้ำแทคทีม 7 ต่อ 7 ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2010) โดย จอห์น ซีนา จับคู่กับ เบรต ฮาร์ต, เอดจ์, คริส เจอริโค, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์-ทรูธ และ เดอะ เกรท คาลี เพื่อมาปราบกลุ่มเดอะเน็กซัส ก่อนถึงศึก ซัมเมอร์สแลม นั้น เดอะ เกรท คาลี ถูกกลุ่มเดอะเน็กซัส ลอบทำร้าย ทำให้ไม่สามารถมาร่วมปล้ำในครั้งนี้ได้ และต้องหาคนมาแทนโดย จอห์น ซีนา ได้เลือก แดเนียล ไบรอัน อดีตสมาชิกกลุ่มเดอะเน็กซัส มาปล้ำแทน คาลี โดยสุดท้าย จอห์น ซีนา จัดการ เวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่มเดอะเน็กซัส เป็นคนสุดท้าย ทำให้ทีม WWE เอาชนะกลุ่มเดอะเน็กซัส มาได้สำเร็จ[54] ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เชมัส, แรนดี ออร์ตัน, เอดจ์, คริส เจอริโค และ เวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่มเดอะเน็กซัส ในการปล้ำ 6 คน เพื่อชิงแชมป์ WWE สุดท้ายกลายเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่สามารถคว้าแชมป์ WWE มาครองได้ โดยจัดการ เชมัส เป็นคนสุดท้าย

ในศึก เฮลล์อินเอเซลล์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เวด บาร์เร็ตต์ โดยถ้า จอห์น ซีนา ชนะ กลุ่มเดอะเน็กซัส จะต้องแตกทีมกันไป แต่ถ้า เวด บาร์เร็ตต์ ชนะ จอห์น ซีนา จะต้องเข้ากลุ่มเดอะเน็กซัส แต่สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็แพ้ไปให้กับ เวด บาร์เร็ตต์ ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องเข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มเดอะเน็กซัส ไปในที่สุด[55] ต่อมา ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) จอห์น ซีนา จะต้องคู่กับ เดวิด โอทังก้า หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเดอะเน็กซัส เจอกับ ดรูว์ แมคอินไตย์ และ โคดี้ โรดส์ ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์แทคทีม WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา กับ เดวิด โอทังก้า ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ ดรูว์ แมคอินไตย์ และ โคดี้ โรดส์ และคว้าแชมป์แทคทีม WWE มาได้สำเร็จ[56] แต่ก็เสียแชมป์แทคทีม WWE ให้กับ จัสติน เกเบรียล และ ฮีท สเลเตอร์ 2 สมาชิกในกลุ่มเดอะเน็กซัส โดย จอห์น ซีนา กับ เดวิด โอทังก้า ครองแชมป์แทคทีม WWE ได้แค่วันเดียวเท่านั้น[57] ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2010) จอห์น ซีนา ต้องเป็นกรรมการพิเศษคู่ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง แรนดี ออร์ตัน กับ เวด บาร์เร็ตต์ โดยถ้า เวด บาร์เร็ตต์ ชนะก็จะได้ แชมป์ WWE และ จอห์น ซีนา ก็จะได้ออกจากกลุ่มเดอะเน็กซัส อย่างถาวรแต่ถ้า เวด บาร์เร็ตต์ แพ้ จอห์น ซีนา ก็ต้องออกจาก WWE และเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องออกจาก WWE ไปในที่สุด

ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา ได้มาก่อกวนการปล้ำของ เวด บาร์เร็ตต์ ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน โดย จอห์น ซีนา ได้เล่นงาน เวด บาร์เร็ตต์ ด้วยท่า Attitude Adjustment ทำให้ เวด บาร์เร็ตต์ เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ แรนดี ออร์ตัน[58] หลังจากนั้น เวด บาร์เร็ตต์ ได้เรียก จอห์น ซีนา กลับมา WWE อีกครั้ง[59] ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เวด บาร์เร็ตต์ ในรูปแบบการปล้ำ Chairs Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ และล้างแค้น เวด บาร์เร็ตต์ มาได้สำเร็จ[60]

ไฟล์:Cenainwm27.png
ซีนา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27

ในศึก รอยัลรัมเบิล (2011) จอห์น ซีนา ได้เข้าร่วมในแมตช์การปล้ำ รอยัลรัมเบิล โดยออกมาเป็นคนที่ 22 สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะ เพราะ เดอะ มิซ เจ้าของแชมป์ WWE ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ต่อมา ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ แรนดี ออร์ตัน, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์-ทรูธ, เชมัส และ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์การปล้ำ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ โดยถ้าใครชนะก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนีย สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ โดยจัดการ ซีเอ็ม พังค์ เป็นคนสุดท้าย ทำให้ จอห์น ซีนา ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27[61] ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา เจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ แต่ เดอะ มิซ ก็ปลอมตัวเป็น เดอะ ร็อก มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา จนได้รับบาดเจ็บ และในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ เพราะ เดอะ ร็อก ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เดอะ มิซ ไปในที่สุด[62]

ซีนา และ เดอะ ร็อก ได้จับมือกันและพร้อมเจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28

ในศึกรอว์ (4 เมษายน 2011) หลังจบ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จอห์น ซีนา เรียก เดอะ ร็อก ออกมาที่เวที และท้า เดอะ ร็อก ว่าจะเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดย เดอะ ร็อก ก็รับข้อเสนอของ จอห์น ซีนา โดยที่ ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน โดยทั้งคู่ก็จับมือรับข้อเสนอไปด้วยดี ต่อมา ในศึกรอว์ (18 เมษายน ค.ศ. 2011) ที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ ซิน คารา เจอกับ เดอะ มิซ และ อเล็กซ์ ไรลีย์ สุดท้าย จอห์น ซีนา และ ซิน คารา ก็เอาชนะมาได้สำเร็จ ในศึกรอว์ (25 เมษายน 2011) จอห์น ซีนา ได้ย้ายไปอยู่ สแมคดาวน์ จากผลการดราฟท์ ในศึกรอว์ (25 เมษายน 2011) ที่ผ่านมา ต่อมา ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา ได้ย้ายกลับไปอยู่ รอว์ จากผลการดราฟท์ ในศึกรอว์ (25 เมษายน 2011) ที่ผ่านมา ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) ซีนาต้องเจอกับ เดอะ มิซ และ จอห์น มอร์ริสัน ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า ในกรงเหล็ก โดยมีแชมป์ WWE เป็นเดิมพัน สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะและคว้าแชมป์ WWE ไปครอง ทำให้ จอห์น ซีนา สามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 10 ได้สำเร็จ[62] หลังจากที่ไม่ได้แชมป์โลกมา 10 เดือน ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ สุดท้าย เดอะ มิซ ถูกจับแพ้ฟาล์ว ทำให้ จอห์น ซีนา ยังเป็นแชมป์ต่อไป ต่อมา ในศึก โอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ ในการปล้ำ I Quit Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์โลก WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[63]

ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ เรย์ มิสเตริโอ เจอกับ อาร์-ทรูธ และ ซีเอ็ม พังค์ โดยมี เบรต ฮาร์ต เป็นกรรมการพิเศษ สุดท้าย จอห์น ซีนา และ เรย์ มิสเตริโอ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก แคปิเทล พูนิชเมนท์ จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อาร์-ทรูธ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[64] ต่อมา ในศึกรอว์ (20 มิถุนายน 2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ แรนดี ออร์ตัน และ อเล็กซ์ ไรลีย์ เจอกับ อาร์-ทรูธ, คริสเตียน และ เดอะ มิซ ในแมตช์การปล้ำแทคทีม 6 คน สุดท้าย จอห์น ซีนา, แรนดี ออร์ตัน และ อเล็กซ์ ไรลีย์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ

ไฟล์:Cenainraw2011.png
ซีนา กับ แชมป์ WWE ในปี ค.ศ. 2011

ในศึก มันนีอินเดอะแบงก์ (2011) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ซีเอ็ม พังค์ โดยถ้า จอห์น ซีนา แพ้ ซีเอ็ม พังค์ จะลาออกจาก WWE พร้อมกับเข็มขัดแชมป์ WWE และ จอห์น ซีนา ก็ต้องออกจาก WWE อีกด้วย สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็พ่ายแพ้และเสียแชมป์ WWE ให้กับ ซีเอ็ม พังค์ ทำให้ ซีเอ็ม พังค์ ได้เอาเข็มขัดแชมป์ออกจาก WWE และ จอห์น ซีนา ต้องออกจาก WWE ไปในที่สุด[65][66][67] ในศึกรอว์ (18 กรกฎาคม 2011) ทริปเปิล เอช ประธาน COO ของ WWE คนใหม่ ได้มาบอกว่า จอห์น ซีนา จะไม่ถูกไล่ออกจาก WWE ต่อมา ในศึกรอว์ (25 กรกฎาคม 2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เรย์ มิสเตริโอ ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์ WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เรย์ มิสเตริโอ และได้คว้าแชมป์ WWE เส้นใหม่ เป็นสมัยที่ 9 มาได้สำเร็จ ทำให้ เรย์ มิสเตริโอ เป็นแชมป์ได้ไม่ถึง 1 คืนเสียด้วยซ้ำ หลังจากที่ จอห์น ซีนา กำลังฉลองชัยชนะอยู่บนเวที ซีเอ็ม พังค์ ได้ออกมาพร้อมกับเข็มขัดแชมป์ WWE เส้นเก่า และยืนจ้องหน้ากับ จอห์น ซีนา จากนั้นต่างฝ่ายต่างชูเข็มขัดของตัวเองประกาศศักดา[68] ต่อมา ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์ชิงแชมป์โลกอันดิสพิวเด็ด โดยมี ทริปเปิล เอช เป็นกรรมการพิเศษ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายแพ้และเสียแชมป์ WWE ให้กับ ซีเอ็ม พังค์ ไปในที่สุด แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เควิน แนช ได้ออกมาลอบทำร้าย ซีเอ็ม พังค์ ทำให้ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ได้ขอใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ และกระชากเข็มขัดแชมป์ WWE ไปจาก ซีเอ็ม พังค์ ได้สำเร็จ[69]

ในศึกรอว์ (22 สิงหาคม 2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ โดยถ้าใครชนะก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2011) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ ซีเอ็ม พังค์ มาได้สำเร็จ ทำให้ จอห์น ซีนา ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2011) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ อัลเบอร์โต เดล รีโอ และคว้าแชมป์ WWE ไปครอบครอง ทำให้ จอห์น ซีนา สามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 10 มาได้สำเร็จ[70] ต่อมา ในศึก เฮลอินเอเซล (2011) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ และ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า ในแมตช์การปล้ำเฮลล์อินเอเซลล์ แมทช์ หรือ นรกในกรงเหล็ก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์ WWE ให้กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ไปในที่สุด[71]

ในศึกรอว์ (3 ตุลาคม 2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ ซีเอ็ม พังค์, เชมัส, โคฟี คิงส์ตัน, อีแวน บอร์น และ เมสัน ไรอัน เจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ, คริสเตียน, โคดี้ โรดส์, ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์, แจ๊ค สแวกเกอร์ และ เดวิด โอทังก้า สุดท้าย จอห์น ซีนา, ซีเอ็ม พังค์, เชมัส, โคฟี คิงส์ตัน, อีแวน บอร์น และ เมสัน ไรอัน ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ในศึกรอว์ (17 ตุลาคม 2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ จิม รอสส์ เจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ และ ไมเคิล โคล สุดท้าย จอห์น ซีนา และ จิม รอสส์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก เวนเจินส์ (2011) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ในแมตช์การปล้ำลาสแมนสแตนดิ้ง สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ เพราะ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ไปในที่สุด[72] และก็ได้หมดสิทธิ์ที่จะชิงแชมป์ WWE แล้วในตอนนี้

ซีนา ใน เดือนธันวาคม ค.ศ. 2011

ในศึกรอว์ (24 ตุลาคม 2011) ในตอนแรก จอห์น ซีนา จะต้องจับคู่กับ แซค ไรเดอร์ เจอกับ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ ระหว่างสัมภาษณ์ แซค ไรเดอร์ ก็ถูก เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ มาลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ ทำให้เป็นแมตช์การปล้ำ 2 รุม 1 ผลปรากฏว่า จอห์น ซีนา ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ ได้รุมทำร้ายต่อจนผู้จัดการทั่วไปชั่วคราว จอห์น โลรีนายติส ได้ออกมาห้าม และสั่งให้ จอห์น ซีนา เลือกนักมวยปล้ำ 1 คน เพื่อจะจับคู่เจอกับ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ โดย จอห์น ซีนา ได้เลือก เดอะ ร็อก มาเป็นคู่แทคทีม ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ เดอะ ร็อก เจอกับ ออซัม ทรูธ (เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ) สุดท้าย จอห์น ซีนา และ เดอะ ร็อก ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ มาได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เดอะ ร็อก ได้เล่นงาน จอห์น ซีนา ด้วยท่า Rock Bottom เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย[73] ต่อมา ในศึก สแลมมีอวอร์ด 2012 หรือศึกรอว์ (12 ธันวาคม 2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ มาร์ก เฮนรี ระหว่างแมตช์การปล้ำ เคน ได้กลับมาจากอาการบาดเจ็บโดยใส่หน้ากากอีกครั้ง และได้มาเล่นงาน จอห์น ซีนา ด้วยท่า โชคสแลม ปิดท้ายรายการ[74]

ในศึกรอว์ (2 มกราคม 2012) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ บิ๊กโชว์ และ แซค ไรเดอร์ เจอกับ เคน, มาร์ก เฮนรี และ แจ๊ค สแวกเกอร์ แต่ว่า เคน ไม่ออกมาเลยให้เป็นการปล้ำ 3 รุม 2 สุดท้าย จอห์น ซีนา, บิ๊กโชว์ และ แซค ไรเดอร์ ก็เอาชนะมาได้สำเร็จ แต่หลังจบแมตช์เพลงเปิดตัวของ เคน ดังขึ้น จอห์น ซีนา เลยลงจากเวทีเดินตรงไปที่ทางเดินเปิดตัวเพื่อจะเคลียร์กับ เคน แต่ว่า เคน โผล่มาจากใต้เวทีแล้วกระทืบ แซค ไรเดอร์ บนเวทีจากนั้น เคน ก็ลากขา แซค ไรเดอร์ กลับหลุมบนเวทีแต่ จอห์น ซีนา ก็มาช่วย แซค ไรเดอร์ ได้สำเร็จแล้วพยายามคลานนี้ห่างออกมาทันทีทันใดนั้นหลุมก็ระเบิดและมีเพลิงโหมออกมาจากปากหลุมทันที ในศึก รอยัลรัมเบิล (2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เคน สุดท้าย ผลออกมาเป็นถูกนับ 10 แพ้ทั้งคู่ หลังแมตช์ จอห์น ซีนา และ เคน ยังสู้กันต่อแลกหมัดกันไปจนเข้าไปถึงหลังเวที เคน ต่อย จอห์น ซีนา ร่วงแต่ จอห์น ซีนา ยังเตะสวนและจับเหวี่ยงไปอัดถังขยะ เคน เอาเก้าอี้กระทุ้งใส่ท้อง จอห์น ซีนา จากนั้น เคน ก็ตีใส่หลังไม่ยั้งจน จอห์น ซีนา แน่นิ่ง เคน มองเห็นประตูห้องๆ หนึ่งที่มีชื่อ แซค ไรเดอร์ แปะอยู่ เคน เลยถีบประตูพังแล้วเข้าไปเจอ แซค ไรเดอร์ เคน เลยบีบคอ แซค ไรเดอร์ จนสลบ จากนั้นก็เข็นรถเข็น แซค ไรเดอร์ เข้าไปในสนาม จากนั้นก็ผลัก แซค ไรเดอร์ ตกไปกระแทกพื้น เคน ลาก แซค ไรเดอร์ ขึ้นเวทีและถีบเล่น อีฟ ทอร์เรส ออกมาขอร้องแต่ เคน ไม่ฟังแถมจับ แซค ไรเดอร์ ใส่ท่า Tombstone Piledriver ทำให้ แซค ไรเดอร์ บาดเจ็บอย่างหนัก แล้วก็หันไปหา อีฟ ทอร์เรส แต่ จอห์น ซีนา ออกมาช่วยก็โดน เคน จับใส่ โชคสแลม ไปในที่สุด[75] ต่อมา ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เคน อีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำจับคู่ต่อสู้ยัดใส่รถพยาบาล ก่อนแมตช์ จอห์น ซีนา จูบกับ อีฟ ทอร์เรส แซค ไรเดอร์ มาเห็น ทำให้ แซค ไรเดอร์ โกรธมาก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เคน และล้างแค้นให้ แซค ไรเดอร์ ได้สำเร็จ ต่อมาในศึกรอว์ จอห์น ซีนา เปิดรายการออกมาพูดถึง ศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ที่ผ่านมาว่า เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเองหรอก เขาทำเพื่อ แซค ไรเดอร์ เพื่อนของเขาต่างหาก เพลงเปิดตัวของ แซค ไรเดอร์ ดังขึ้น แซค ไรเดอร์ เข็นรถเข็นออกมา พร้อมกับไมค์แล้วพูดว่า ขอบคุณ แต่แกไม่ใช่เพื่อนชั้นหรอก เพื่อนของชั้น เขาไม่ได้ทำแบบนี้หรอก จอห์น ซีนา บอกว่า ถ้าเป็นเรื่องอีฟ ทอร์เรส ชั้นขอโทษ ชั้นจะไม่มีวันให้มันเกิดขึ้นอีก ไฟในสนามดับลง แล้วก็เปิดขึ้น เป็นเคนผลักรถเข็นของแซค ไรเดอร์ กระแทกลงพื้น จอห์น ซีนา จะวิ่งตาม แต่ก็ไม่ทัน จึงรีบมาดูอาการของ แซค ไรเดอร์ แต่ แซค ไรเดอร์ บอกว่าไม่ต้อง และเรียกให้คนอื่นออกมาช่วยแทน จอห์น ซีนา จึงเดินกลับเข้าไปในฉาก [76]

ซีนา กับ เดอะ ร็อก ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28

ในศึกรอว์ (20 กุมภาพันธ์ 2012) จอห์น ซีนา ออกมา และพูดถึง เดอะ ร็อก ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ แต่สัปดาห์หน้าเขาจะมา เพื่อมาคุยกับชั้น เมื่อก่อนชั้นก็เคยชอบเค้านะ แต่ตอนนี้น่ะเอียนแล้ว ก็ยินดีกับมันด้วยละกันกับการที่แสดงหนังอันดับหนึ่งของบ๊อกซ์ออฟฟิซ สัปดาห์หน้ามันก็คงมารอว์ ทำท่ายักคิ้วให้คนดูดีใจ จากนั้นก็กลับไปฮอลลีวู้ดเหมือนเดิม สิ่งที่ชั้นภาคภูมิใจก็คือ ชั้นอยู่กับ WWE มาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยจากไปไหน แล้วที่ เดอะ ร็อก มันกลับมาคราวก่อนน่ะนะ มันก็แค่มาโปรโมต Fast Five กับ ทวิตเตอร์ ของมันเท่านั้น ชั้นคนนี้คือคนที่อยู่กับ WWE ตลอด ชั้นขึ้นปล้ำในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 อย่างภาคภูมิใจในฐานะนักมวยปล้ำ พาดหัวข่าวหลังจากคืนนั้นจะต้องเป็น จอห์น ซีนา เอาชนะ เดอะ ร็อก ในบ้านเกิดของเขา ไมอามี ฟลอริดา เอาไว้เจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ก็แล้วกัน ต่อมา ในศึกรอว์ (27 กุมภาพันธ์ 2012) เดอะ ร็อก ออกมาทักทายแฟนๆ ในสนาม และพูดถึง จอห์น ซีนา ว่า ชั้นไม่คิดว่านายเป็นคนเลวหรอกนะ แต่นายแค่เป็นคนกระจอกๆ เท่านั้นเอง จอห์น ซีนา สัปดาห์ก่อนนายพูดจาพาดพิงถึงชั้น นายบอกว่านายจะต่อสู้ในฐานะตัวแทนนักมวยปล้ำทุกคน แต่ชั้นจะสู้เพื่อแฟนๆ ทุกคน แฟนๆ ที่เบื่อหน่ายแกที่ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ทุกค่ำคืน จอห์น ซีนา ออกมาตอบโต้ และบอกว่าเขาไม่ชอบ ดเวย์น จอห์นสัน จะจัดการกับมันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ก่อนจะเดินจากไป เดอะ ร็อก บอกว่าความจริงแล้ว เดอะ ร็อก กับ ดเวย์น จอห์นสัน มันก็คนเดียวกัน และมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะว่าในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ชั้นจะเตะก้นแก If You Smell What the Rock is Cooking? ต่อมา ในศึกรอว์ (12 มีนาคม 2012) จอห์น ซีนา ออกมาในมาดของ Dr.Thuganomics ใส่หมวกกลับหัว, โซ่ห้อยคอ, เสื้อบาสเก็ตบอล และใช้เพลงเปิดตัวแบบเก่าของตัวเองด้วย จอห์น ซีนา เริ่มพูดด้วยสำเนียงเด็กแร็ปด่า เดอะ ร็อก ว่าเป็นพวกทรยศเหมือนกับ ลีบอร์น เจมส์ (นักบาสเก็ตบอลที่ย้ายหนีไปจากคลีฟแลนด์) สัปดาห์ก่อน เดอะ ร็อก หรือไอ้ ดเวย์น จอห์นสัน มันโกรธว่ะ มันบอกให้ชั้นหุบปาก แต่หลังจากวันที่ 1 เมษายน มันจะต้องไปศัลยกรรมใบหน้าเหมือนกับที่มันเคยทำศัลยกรรมนมมาแล้ว Team Bring It เหรอ พวกมันไม่น่ากลัวหรอก เพราะ เดอะ ร็อก มันเป็น Tooth Fairy ชั้นจะกระทืบก้นแกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 และเอาถั่วยัดใส่หน้าแก ในคืนเดียวกัน เดอะ ร็อก ออกมาพร้อมกับกีตาร์โปร่งเพื่อจัด Rock Concert ทักทายแฟนๆ ชาวคลีฟแลนด์แล้ว เดอะ ร็อก ก็เริ่มเล่นกีตาร์และร้องเพลงที่แต่งเอง เป็นเพลงด่า จอห์น ซีนา หลังร้องเสร็จแล้ว เดอะ ร็อก ก็ประกาศจะกระทืบ จอห์น ซีนา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ต่อด้วยเปิดเพลง We Will Rock You ฉบับดัดแปลงด่า จอห์น ซีนา มาร้องกับแฟนๆ ในสนามเป็นการปิดรายการ ต่อมา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เดอะ ร็อก เป็นแมตช์ที่ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เดอะ ร็อก ไปในที่สุด[77]

ซีนา กับ บร็อก เลสเนอร์ ในศึกรอว์ (2 เมษายน 2012)

ในศึกรอว์ (2 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาพูด ยอมรับว่าเขาไม่คิดมาก่อนว่าจะแพ้ แต่ก็แพ้จนได้ เขาไม่ได้ออกมาเพื่อจะขอสู้กันอีกครั้ง เพราะด่ากันไปมาปีกว่าแล้ว และก็ได้ตัดสินกันไปแล้วเมื่อคืนนี้ จอห์น ซีนา บอกว่าเขาขอยอมรับว่า เดอะ ร็อก คือสตาร์ WWE ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ แต่ บร็อก เลสเนอร์ ออกมา และขึ้นมาประจันหน้ากับ จอห์น ซีนา เพื่อขอจับมือ ที่ไหนได้ จอห์น ซีนา โดน บร็อก เลสเนอร์ จับใส่ท่า F-5 ดับสนิท[78] ต่อมา ในศึกรอว์ (9 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาขัดจังหวะ แล้วก็เดินมาตบหน้า บร็อก เลสเนอร์ เลยโดน บร็อก เลสเนอร์ คร่อมต่อยเป็นชุดจนเลือดกบปาก ร้อนถึงสตาร์ WWE คนอื่นๆ ต้องออกมาช่วยกันจับแยก และในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เดวิด โอทังก้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เดวิด โอทังก้า มาได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ บร็อก เลสเนอร์ โผล่มาเตะผ่าหมาก จอห์น ซีนา แล้วต่อด้วย F-5 ก่อนจะเดินจากไป[79] ในศึกรอว์ (23 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา และ บร็อก เลสเนอร์ จะต้องเซ็นสัญญาเพื่อที่จะเจอกันในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) ในช่วงต้นรายการ ทีโอดอร์ ลอง ประกาศแนะนำตัว จอห์น ซีนา ออกมาก่อนจากนั้นก็ประกาศเรียก บร็อก เลสเนอร์ คนที่ออกมากลายเป็น จอห์น โลรีนายติส บอกว่า บร็อก เลสเนอร์ ยังมาไม่ถึงและสั่งให้ จอห์น ซีนา กลับไปก่อน และ เอดจ์ ก็ออกมาคุยกับ จอห์น ซีนา บอกว่าชั้นไม่ได้มาเพื่อพูดกับ จอห์น ซีนา คนนี้ ชั้นไม่รู้จัก จอห์น ซีนา คนนี้ รู้จักแต่ จอห์น ซีนา ที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของชั้น คนที่พ่อของมันเคยถูกชั้นตบหน้า แล้วมันก็มาเอาคืนด้วยการอัดชั้นตกบันไดทะลุโต๊ะในแมตช์ TLC นายอย่าลืมว่า บร็อก เลสเนอร์ มันไม่ได้มาเพื่อแฟนๆ มันมาเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าของมันเท่านั้น มันออกไปจากสมาคมเมื่อ 8 ปีก่อนในขณะที่เราสองคนช่วยกันประคองสมาคมมา นายเป็นตัวแทนของบรรดานักมวยปล้ำที่ทุ่มเทเพื่อสมาคมมาตลอด ถ้านายไปแพ้ บร็อก เลสเนอร์ มันก็เท่ากับเป็นการตบหน้าคนอย่าง ชอว์น ไมเคิลส์, ดิอันเดอร์เทเกอร์ และตบหน้าชั้นด้วย ชั้นไม่ได้ขอให้แกเอาชนะ บร็อก เลสเนอร์ แต่ชั้นขอสั่งให้แกทำ เอดจ์ ก็เดินจากไป ในช่วงท้ายรายการ จอห์น โลรีนายติส ก็ได้ออกมาเตรียมการเซ็นสัญญาระหว่าง จอห์น ซีนา และ บร็อก เลสเนอร์ ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) จอห์น ซีนา ออกมาโดยใส่โซ่คล้องคอมาด้วยจากนั้นก็ถอดโซ่ออกมากำไว้ในมือแต่ บร็อก เลสเนอร์ ก็ไม่กลัว บร็อก เลสเนอร์ บอกให้ จอห์น ซีนา เซ็นสัญญา บร็อก เลสเนอร์ บอกว่าแกกำลังกลัวอยู่ใช่มั้ยล่ะฉันสัมผัสได้ถึงกระแสจิตที่ออกมาจากตัวแกว่าแกกำลังกลัว จอห์น ซีนา เซ็นเสร็จแล้วก็โยนใส่ บร็อก เลสเนอร์ เลยทำท่าเหมือนจะต่อยกัน บร็อก เลสเนอร์ แค่ล้มโต๊ะ จอห์น ซีนา ก็สะดุ้งและถอยเล็กน้อย บร็อก เลสเนอร์ หัวเราะเยาะก่อนจะเดินกลับไป[80] ต่อมา ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ บร็อก เลสเนอร์ ในแมตช์การปล้ำ เอ็กซ์ตรีมรูลส์ แมตช์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บร็อก เลสเนอร์ มาได้สำเร็จ หลังแมตช์ จอห์น ซีนา เอาไมค์มาประกาศว่าเขาอาจจะต้องจากไปสักพัก เพราะบาดเจ็บจากแมตช์นี้ แล้วก็อวยพรให้แฟนๆ กลับบ้านอย่างปลอดภัย[81][82][83]

ในศึกรอว์ (30 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาโดยมีการเข้าเฝือกอ่อนที่แขนซ้าย ซีนาบอกว่า ทริปเปิล เอช แขนหัก จากการถูก บร็อก เลสเนอร์ เล่นงานหักแขน และเมื่อคืนชั้นก็เจอแบบเดียวกัน แต่ตอนนี้ชั้นก็มาอยู่ที่นี่แล้ว จากการทำ MRI สแกนพบว่ากล้ามเนื้อไม่ฉีก ดังนั้นเขาจึงยังอยู่ใน WWE มันมีการเจ็บอยู่สองประเภท คือ บาดเจ็บ กับเจ็บ ถ้าบาดเจ็บก็ต้องถูกส่งกลับบ้าน แต่ถ้าแค่เจ็บ เขาก็สามารถออกมาทำในสิ่งที่เขารักได้ จอห์น โลรีนายติส ออกมา บอกว่าเขานำเอา บร็อก เลสเนอร์ กลับมาในฐานะสัญลักษณ์คนใหม่ของสมาคม และบอกว่าคนที่จะเจอกับ จอห์น ซีนา ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2012) ออกมาแล้ว คือ ลอร์ด เทนไซ ขึ้นเวทีมาเตรียมจะรุมซีนา ที่ไหนได้ โลรีนายติสอัดใส่ซีนาจากด้านหลังแล้วบอกว่าคนที่จะเจอกับซีนา ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต คือ โลรีนายติสนั่นเอง จากนั้นซีนาก็ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหนักที่แขนซ้าย[84] ในศึกรอว์ (14 พฤษภาคม 2012) โลรีนายติสออกมาล้อเลียนคนดูที่เชียร์ซีนาว่าเป็นไอ้พวกขี้แพ้ เพราะซูเปอร์สตาร์ที่คุณชอบก็สะท้อนถึงตัวตนคุณ จอห์น ซีนา เป็นไอ้ขี้แพ้ ทำให้แฟนๆ ของเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ด้วยมันแพ้ เดอะ ร็อก และถูก บร็อก เลสเนอร์ อัดเละ จอห์น ซีนา ออกมาล้อเลียน จอห์น โลรีนายติส และ อีฟ ทอร์เรส ก็ออกมายื่นแฟกซ์ให้อ่าน จอห์น ซีนา แย่งเอาไปอ่าน บอกว่าเป็นแฟกซ์จากสำนักงานใหญ่ WWE สั่งให้แมตช์ระหว่างซีนากับโลรีนายติส เป็นแมตช์ตัวต่อตัว ห้ามมีผู้ติดตาม ไม่มีกรรมการพิเศษ ชนะด้วยการกดหรือซับมิชชั่นเท่านั้น ถ้าซูเปอร์สตาร์คนไหนเข้ามาก่อกวนจะถูกไล่ออกทันที และถ้า โลรีนายติสแพ้ ก็จะถูกไล่ออกเช่นกัน ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต ซีนาก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับโลรีนายติส[85] จากการช่วยเหลือของบิ๊กโชว์ ที่ถูกไล่ออกไปแล้ว[86]

ในศึกรอว์ (21 พฤษภาคม 2012) จอห์น ซีนา ออกมาเปิดรายการ จอห์น ซีนา ยอมรับว่า จอห์น โลรีนายติส ชนะเขา แต่ก็โมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้นเขาเกือบจะต้องไปจาก WWE อยู่แล้ว แต่ บิ๊กโชว์ กลับพาเขากลับมา บิ๊กโชว์ มาช่วยคนที่เพิ่งจะไล่เขาออก บิ๊กโชว์ เคยเป็นเพื่อนเขา แต่กลับมาชกหน้าเขา บิ๊กโชว์ ยอมขายวิญญาณไปแล้ว บิ๊กโชว์ ไม่น่าทำแบบนั้นเลย เพราะถ้า จอห์น โลรีนายติส ถูกไล่ออกไป ผู้จัดการคนต่อไปก็น่าจะจ้าง บิ๊กโชว์ กลับมาอยู่ดี แต่เขากลับเลือกที่จะไปเข้าข้าง จอห์น โลรีนายติส และ อีฟ ทอร์เรส ออกมาเพื่อประกาศแนะนำตัว จอห์น โลรีนายติส ซึ่งออกมาด้วยรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และต้องใช้ไม้ค้ำเดิน จอห์น โลรีนายติส บอกว่าเขาได้รับบาดเจ็บหนักจนร่างกายซีกซ้ายขยับไม่ได้แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะชั้นชนะนายแล้ว และจากการบาดเจ็บนี้ชั้นขอประกาศเลยว่านับจากนี้ไปห้ามซูเปอร์สตาร์คนไหนมาทำร้ายเขาอีก ไม่อย่างนั้นจะถูกไล่ออกทันที และขอแนะนำคู่ต่อสู้คนต่อไปของ จอห์น ซีนา ในศึก โนเวย์เอาท์ (2012) นั่นคือ บิ๊กโชว์[87] ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องปล้ำแมตช์แฮนดิแคป โดยจับคู่กับ เชมัส เจอกับ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์, แจ๊ค สแวกเกอร์ และ เทนไซ และมีนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมอยู่ข้างเวทีเป็นลัมเบอร์แจ็ค สุดท้ายแมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสินเพราะนักมวยปล้ำข้างเวทีขึ้นมารุม หลังแมตช์ บรรดาฝ่ายธรรมะก็รีบวิ่งออกมาช่วย จอห์น ซีนา รีบวิ่งไปหลังเวทีเพื่อไปตามหา บิ๊กโชว์ แต่กลายเป็นเจอหมัดน็อคไปในที่สุด ต่อมา ในศึกรอว์ (4 มิถุนายน 2012) ไมเคิล โคล ขึ้นมาบนเวทีเพื่อสัมภาษณ์ จอห์น ซีนา แต่ ไมเคิล โคล โทษ จอห์น ซีนา ว่าเป็นคนทำให้ บิ๊กโชว์ เปลี่ยนไป เพราะ จอห์น ซีนา ไม่ได้พยายามจะช่วยเหลือ บิ๊กโชว์ ในตอนที่เขาถูกไล่ออก แต่ จอห์น ซีนา กลับออกมาเล่นตลกปัญญาอ่อนใส่ จอห์น โลรีนายติส จอห์น ซีนา บอก ไม่ช่วยทันทีก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ช่วย เดี๋ยวพอชนะ จอห์น โลรีนายติส แล้วมันถูกไล่ออก ได้ผู้จัดการคนใหม่เขาก็ต้องจ้าง บิ๊กโชว์ กลับมาอยู่ดี ไมเคิล โคล บอก นายจะรู้ได้ไงว่า ผู้จัดการคนใหม่จะจ้าง บิ๊กโชว์ กลับมา นายมันคิดเอาเอง ชอบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่สนใจความรู้สึกของแฟนๆ และ บิ๊กโชว์ ทำให้ บิ๊กโชว์ ต้องทำในสิ่งที่ชัวร์ที่สุดไว้ก่อนคือการเข้าร่วมกลุ่มกับ จอห์น โลรีนายติส และเขาจะกระทืบนายใน โนเวย์เอาท์ และรู้เอาไว้ด้วยว่านายไม่สามารถทำร้ายผู้บรรยายได้ นี่เป็นกฎข้อใหม่ จอห์น โลรีนายติส ออกมาและบอกว่าคืนนี้จะให้สิทธิ์ จอห์น ซีนา เลือกคู่ต่อสู้เอง แต่ บิ๊กโชว์ ไม่อยู่ที่นี่นะ เพราะเป็นวันหยุด ส่วนชั้นก็ได้รีไทร์ไปแล้ว จอห์น ซีนา บอก งั้นเลือก ไมเคิล โคล ก็แล้วกัน ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ไมเคิล โคล แต่ จอห์น โลรีนายติส ออกมาสั่งให้เป็นแมตช์ไม่มีการจับแพ้ฟาวล์แต่มีข้อแม้ว่า จอห์น ซีนา ต้องเจอกับ เทนไซ ก่อน สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เทนไซ มาได้สำเร็จ พร้อมกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกของ เทนไซ ด้วย และ จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ไมเคิล โคล ในแมตช์การปล้ำไม่มีการจับแพ้ฟาวล์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ ไมเคิล โคล มาได้สำเร็จ ในศึก โนเวย์เอาท์ ซีนา จะต้องเจอกับ บิ๊กโชว์ ในแมตช์การปล้ำในกรงเหล็ก โดยถ้า จอห์น ซีนา แพ้จะต้องถูกไล่ออก และถ้า บิ๊กโชว์ แพ้ จอห์น โลรีนายติส จะถูกไล่ออก[88] สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บิ๊กโชว์ มาได้สำเร็จ และ ทำให้ จอห์น โลรีนายติส ถูกไล่ออก[89]

ในศึกรอว์ (25 มิถุนายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาเล่นตลกคาเฟ่ล้อเลียน บิ๊กโชว์ ต่างๆ นานา คริส เจอริโค ออกมาแล้วก็ไล่ จอห์น ซีนา บอกว่าคืนนี้เป็นคืนที่จะต้องต้อนรับการกลับมาของชั้น ไม่ใช่ให้แกมาเล่นตลกโชว์ จอห์น ซีนา บอก ตอนนี้ บิ๊กโชว์ มันกำลังคลั่ง มันจะเข้าร่วมแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์ เพราะฉะนั้นชั้นจึงขอเข้าร่วมแมตช์นี้ด้วยเพื่อหยุดยั้ง บิ๊กโชว์ คริส เจอริโค บอกว่า แกจะเล่นบทฮีโร่ไปถึงไหนแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นแมตช์ที่โหดและอาจทำให้ต้องยุติอาชีพได้เลย วิคกี เกอร์เรโร ออกมา และบอกว่าจะมีแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์ สองแมตช์ทั้งรอว์ และ สแมคดาวน์ โดยฝั่งรอว์ จะอนุญาตให้เฉพาะอดีตแชมป์ WWE เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมผู้ที่จะได้เข้าร่วมก็คือ บิ๊กโชว์, เคน, คริส เจอริโค และ จอห์น ซีนา ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ คริส เจอริโค สุดท้าย จอห์น ซีนา ชนะฟาล์ว เพราะ บิ๊กโชว์ มาเล่นงาน จอห์น ซีนา หลังแมตช์ บิ๊กโชว์ จัดการโชคสแลมใส่ จอห์น ซีนา ยังไม่พอ บิ๊กโชว์ ใช้ท่า Colossal Clutch ใส่ จอห์น ซีนา เป็นการปิดท้ายรายการ[90] ต่อมา ในศึก มันนี่อินเดอะแบงค์ (2012) จอห์น ซีนา ได้เข้าร่วมในแมตช์การปล้ำไต่บันไดคว้ากระเป๋า มันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ ผู้ชนะจะได้เอกสารสิทธิ์ในกระเป๋าเพื่อชิงแชมป์ WWE[91] สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายคว้ากระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ มาได้สำเร็จ[92]

ในศึกรอว์ (16 กรกฎาคม 2012) หลังแมตช์ระหว่าง ซีเอ็ม พังค์ กับ บิ๊กโชว์ ซีนาวิ่งออกมาพร้อมกับกระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ และ บิ๊กโชว์ ก็ยุให้ จอห์น ซีนา ใช้กระเป๋าเลยแต่ จอห์น ซีนา ไม่ยอมใช้ และบอกกับ ซีเอ็ม พังค์ ว่าจะขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ ซีเอ็ม พังค์ ในศึก รอว์ ตอนที่ 1,000 ในสภาพที่สมบูรณ์ทั้งคู่ แล้วทั้งสองคนก็ผลัดกันชูมือบนเวทีเป็นการปิดรายการ ต่อมา ในศึกรอว์ ตอนที่ 1,000 (23 กรกฎาคม 2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์ WWE ผลปรากฏว่า บิ๊กโชว์ ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ทำให้กรรมการปรับ จอห์น ซีนา ชนะฟาวล์ และเป็นคนแรกที่ใช้กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ และไม่ได้แชมป์[93][94] หลังแมตช์ บิ๊กโชว์ กระทืบ จอห์น ซีนา ไม่ยั้ง แต่ ซีเอ็ม พังค์ ก็ยืนดูเฉยๆ ไม่ยอมช่วย เดอะ ร็อก ออกมาช่วย จอห์น ซีนา และจะใช้ People's Elbow ใส่ บิ๊กโชว์ แต่ ซีเอ็ม พังค์ ขึ้นมาโคลทส์ไลน์ เล่นงานใส่ เดอะ ร็อก และจับใส่ GTS แล้วก็เดินจากไปท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู[95] หลังจบ รอว์ ตอนที่ 1,000 แล้วก็มีเหตุการณ์แถมท้าย บิ๊กโชว์ ลุกขึ้นมาอัด จอห์น ซีนา อีกรอบ และ เดอะ ร็อก ก็จัดการ Rock Bottom ใส่ บิ๊กโชว์ ก่อนที่ จอห์น ซีนา จะซ้ำด้วย Attitude Adjustment หลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็ถอดปลอกแขนอันหนึ่งมาให้ เดอะ ร็อก แต่ เดอะ ร็อก บอกว่า นายคงจะเอาที่คาดหัวมาใส่เป็นปลอกแขนแน่นอน เพราะคงไม่มีใครแขนใหญ่ขนาดนี้ จอห์น ซีนา และคนดูก็หัวเราะกันสนุกสนาน จากนั้น เดอะ ร็อก ก็ใช้ People's Elbow ใส่ บิ๊กโชว์ แล้ว เดอะ ร็อก กับ จอห์น ซีนา ได้จับมือกันก่อนที่ จอห์น ซีนา เดินกลับไป ต่อมา ในศึกรอว์ (30 กรกฎาคม 2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ บิ๊กโชว์ เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์ WWE กับ ซีเอ็ม พังค์ ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2012) โดยมี ซีเอ็ม พังค์ มานั่งเป็นผู้บรรยายอยู่ข้างเวที ผลปรากฏว่า แมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน หลังแมตช์ ซีเอ็ม พังค์ เตะก้านคอ บิ๊กโชว์ แล้วก็เอาไมค์มาประกาศว่าไม่มีใครชนะแมตช์นี้เลย พวกมันเป็นพวกขี้แพ้ทั้งคู่ ซีเอ็ม พังค์ เดินกลับไป แต่ เอเจลี ออกมาประกาศให้ทั้ง จอห์น ซีนา และ บิ๊กโชว์ ได้ชิงแชมป์ WWE ในรูปแบบการปล้ำสามเส้า[96] ในศึก ซัมเมอร์สแลม ซีนาได้เจอกับพังค์ และบิ๊กโชว์ ในแมตช์การปล้ำสามเส้าชิงแชมป์ WWE สุดท้าย ซีเอ็ม พังค์ ใช้ท่า Koji Clutch ใส่ บิ๊กโชว์ แล้ว จอห์น ซีนา ก็เข้ามา STF ใส่ บิ๊กโชว์ อีกคน ทำให้ บิ๊กโชว์ ยอมแพ้ไป แต่กรรมการไม่รู้จะให้ใครชนะดี ทำให้ เอเจ ออกมาสั่งให้เริ่มปล้ำกันใหม่ คราวนี้เป็น ซีนาจับบิ๊กโชว์ใส่ Attitude Adjustment ได้ แต่พังค์มาฉวยโอกาสกดนับ 3 ทำให้ซีนาไม่สามารถคว้าแชมป์คืนมาได้[97]

ในศึกรอว์ (20 สิงหาคม 2012) ซีเอ็ม พังค์ ออกมาเพื่อประกาศเลือกผู้ท้าชิงในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2012) ซีนาออกมาเพื่อเสนอตัวท้าชิง แต่พังค์มีข้อแม้ว่า จอห์น ซีนา ต้องยอมรับก่อนว่าเขาคือ "สุดยอดที่สุดในโลก" แต่ จอห์น ซีนา บอกว่า ซีเอ็ม พังค์ ต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้คนยอมรับ ไม่ใช่มาให้คนอื่นพูดโดยไม่เต็มใจ ถ้าไม่กล้าป้องกันแชมป์กับชั้นในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ ที่บอสตันบ้านเกิดชั้นล่ะก็ ไม่มีใครให้เกียรติแกหรอก จอห์น ซีนา เดินกลับไป ในศึกรอว์ (3 กันยายน 2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ในแมตช์การปล้ำจับกดที่ไหนก็ได้ แต่ ซีเอ็ม พังค์ โผล่มาเตะก้านคอ จอห์น ซีนา จนหลับ แล้วก็พา อัลเบอร์โต เดล รีโอ มากดเอาชนะไปในที่สุด จากนั้น ซีเอ็ม พังค์ จับ จอห์น ซีนา มาโยนบกใส่ฝากระโปรงรถของตัวเอง และก็ขึ้นรถที่มี พอล เฮย์แมน เป็นคนขับ แล้วก็ขับออกไป ในศึกรอว์ (10 กันยายน 2012) เบรต ฮาร์ต ประกาศแนะนำตัว จอห์น ซีนา เพื่อออกมาพูดคุยกัน ซึ่ง จอห์น ซีนา ก็ยอมรับว่าเขานับถือ เบรต ฮาร์ต มาก และเขาจะไม่มีวันยิ่งใหญ่ได้เท่า เบรต ฮาร์ต จากนั้น เบรต ฮาร์ต ก็ถาม จอห์น ซีนา ว่าจะจัดการยังไงกับไอ้คนเสแสร้ง ซีเอ็ม พังค์ จากนั้น ซีเอ็ม พังค์ ออกมาโวยวายจะเอาเรื่อง ทำให้ จอห์น ซีนา ด่า ซีเอ็ม พังค์ ว่า ไอ้เสแสร้ง อีกคนนึง ซีเอ็ม พังค์ ขึ้นเวทีมาสาธยายความเทพของเขาว่าเขาเจ๋งกว่า ชอว์น ไมเคิลส์, เจ๋งกว่า สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน และเจ๋งกว่า เดอะ ร็อก ด้วย เพราะเขาอัด เดอะ ร็อก ได้ในพริบตาทั้งที่ จอห์น ซีนา พยายามมาทั้งปีก็ไม่สำเร็จ จอห์น ซีนา ด่ากลับบ้าง บอกว่า ซีเอ็ม พังค์ เป็นแชมป์มา 300 กว่าวัน แล้วก็ทำให้เข็มขัดแชมป์ตกต่ำสุดๆ ทำได้แค่นั่งมองแมตช์คู่เอกของทุกๆ ศึกใหญ่ ผ่านหน้าเขาไปตาปริบๆ เมื่อปีก่อนออกมาพูดซะดิบดี บอกว่าจะเปลี่ยนแปลงวงการให้ดีขึ้น สุดท้ายก็ล้มเหลวหมด เป็นแค่เรื่องโกหกเพื่อให้แฟนๆ ช่วยสนับสนุนให้เขาดังเท่านั้น ชั้นคนนี้ต้องไต่เต้ามาจากดาวรุ่ง กว่าจะมาเป็นที่รักของแฟนๆ ได้ต้องล้มลุกคลุกคลาน ผ่านช่วงเวลาร้าย มามากมาย แต่ชั้นก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ด้วยการเป็นตัวของตัวเอง ไม่เหมือนแกหรอก เปลี่ยนบุคลิกไปมา ขโมยสีกางเกงมาจากตำนานหอเกียรติยศ แล้วยังขโมยท่าไม้ตายศอกบินมาจากคนตายอย่าง แรนดี ซาเวจ อีก เพราะแกมันเป็นคนที่ยังค้นหาตัวเองไม่พบ แกคิดว่าการที่เป็นแชมป์มันจะหมายความว่าทุกคนต้องเคารพแก ที่ช่วง 2-3 สัปดาห์มานี้แกทำตัวน่ารำคาญขึ้นคงเป็นเพราะว่าแกกำลังกลัวว่าจะเสียแชมป์ใน ไนท์ออฟแชมเปียนส์ ใช่มั้ยล่ะ ชั้นจะขอพูดอะไรเป็นภาษาท้องถิ่นของที่นี่หน่อยนะ ซีเอ็ม พังค์ บอก แกกำลังทำตัวเองให้ต่ำลงนะ จากการพูดภาษาถิ่นของคนที่นี่น่ะ จอห์น ซีนา โมโห บอกว่า พอได้แล้ว คนดูเหล่านี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงได้มาอยู่ที่นี่ แกมันคนไร้ค่าที่ไม่ควรได้รับการเคารพเลยสักนิด สิ่งที่ชั้นพูดเมื่อกี้คือ "แกบอกว่าจะชนะใน ไนท์ออฟแชมเปียนส์ แต่ว่าชั้นจะเตะก้นแก ซีเอ็ม พังค์ โมโห จะไปต่อย เบรต ฮาร์ต ระบายอารมณ์ แต่ จอห์น ซีนา ห้ามไว้ได้ทัน จอห์น ซีนา ถอดเสื้อแล้วท้า ซีเอ็ม พังค์ มาต่อยกัน แต่ ซีเอ็ม พังค์ หันไปต่อย เบรต ฮาร์ต อีก คราวนี้ เบรต ฮาร์ต บล็อกไว้ได้แล้วต่อยสวนจน ซีเอ็ม พังค์ ล้มกลิ้ง คลานหนีเป็นลูกหมากลับไปอย่างอนาถ ปล่อยให้ เบรต ฮาร์ต กับ จอห์น ซีนา ฉลองกันบนเวที ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ ซีนาได้เจอกับพังค์ ในแมตช์ชิงแชมป์ WWE ผลปรากฏว่า ซีนาใช้ท่าเยอรมันซูเปอร์เพล็กซ์ และกดด้วยสะพานโค้ง นับ 3 ไปได้ แต่กรรมการบอกว่าตอนที่กดนั้น ไหล่ของซีนาก็แตะพื้นด้วย แมตช์นี้เลยเสมอกัน ทำให้ซีนาไม่สามารถคว้าแชมป์คืนมาได้[98]

ในศึกรอว์ (17 กันยายน 2012) พอล เฮเมน ออกมาเปิดรายการ พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นใน ไนท์ออฟแชมเปียนส์ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมาก จึงขอเรียกกรรมการ แชด แพตตัน ออกมาพูดคุย มีการฉายภาพยืนยันว่า แชด แพตตัน ตัดสินได้ถูกต้องแล้วเพราะไหล่ของทั้งสองคนแตะพื้นในตอนที่นับ พอล เฮเมน บอกว่าตอนนี้ ซีเอ็ม พังค์ ก็เป็นแชมป์มา 300 กว่าวันแล้ว สมควรที่แฟนๆ จะให้เกียรติเขาซะที จอห์น ซีนา ออกมาขัดจังหวะ บอกว่า แชด แพตตัน ตัดสินได้ถูกต้องแล้ว แต่ก็เชื่อว่าแฟนๆ ทุกคนต่างก็อยากจะรู้ว่าใครกันแน่ที่ควรเป็นผู้ชนะในแมตช์เมื่อคืน จอห์น ซีนา บอกว่า พอล เฮเมน มั่นใจแล้วเหรอว่า ซีเอ็ม พังค์ สมควรได้รับการยกย่อง จากการเสมอเมื่อคืน ป้องกันแชมป์ได้ด้วยการเสมอ จากนั้นก็เอาเข็มขัดมาฟาดหัวคนอื่นแบบเนี้ย นี่น่ะเหรอคนที่ควรได้รับการเคารพ ทำไมไม่รีแมตช์กันเดี๋ยวนี้เลยล่ะ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ออกมาโวยวาย บอกว่า บูเกอร์ ที ยกเลิกการแบน โบรก คิก ก่อนเริ่มแมตช์เมื่อคืน เขาต้องการรีแมตช์ เอเจ ออกมาจัดแมตช์แทคทีม อัลเบอร์โต เดล รีโอ คู่กับ ซีเอ็ม พังค์ เจอกับ เชมัส คู่กับ จอห์น ซีนา ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จับคู่กับ เชมัส เจอกับ ซีเอ็ม พังค์ และ อัลเบอร์โต เดล รีโอ สุดท้าย จอห์น ซีนา จับ ซีเอ็ม พังค์ ใส่ Attitude Adjustment กดนับ จังหวะสุดท้าย ซีเอ็ม พังค์ เอาขาพาดเชือกแต่กรรมการมองไม่เห็นนับ 3 ให้ จอห์น ซีนา กับ เชมัส ชนะไป หลังแมตช์ พอล เฮเมน กับ ซีเอ็ม พังค์ พยายามเรียกให้กรรมการมาดูว่าขาพาดเชือกจริง แต่กรรมการไม่รับฟัง ล่าสุด จอห์น ซีนา ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณแขน หลังจากที่มีเศษกระดูกที่แตกออกมาจากข้อศอกของ จอห์น ซีนา ทำให้แพทย์ต้องผ่าตัดนำเอาเศษกระดูกเหล่านั้นออก และต้องพักการปล้ำ[99] ในศึกรอว์ (24 กันยายน 2012) ช่วงท้ายรายการ จอห์น ซีนา ก็ออกมากล่าวขอบคุณคนดูบนเวทีด้วยตัวเอง ทั้งเรื่องการบาดเจ็บของเขาและเรื่องการสนับสนุนโครงการ "Rise Against Cancer" ของทาง WWE กับมูลนิธิต่อต้านโรคมะเร็งเต้านม Susan G. Komen ที่แฟนๆ ให้การสนับสนุนอย่างดีเกินคาด สักพัก ซีเอ็ม พังค์ ออกมา และพูดกับ จอห์น ซีนา ว่า ฉันจะไม่เจอกับแกในศึก เฮลอินเอเซล (2012) ก่อนจะให้คำแนะนำซีนาไปว่ารีบวิ่งลงไปจากเวที ก่อนจะหันหลังแล้วนับ 1-5 พังก์ก็หันหลังพร้อมกับเฮย์แมนด้วย ระหว่างที่ทั้งคู่หันหลังอยู่นั้น ซีนาก็ควักแท่งเหล็กขนาดประมาณ 1 ฟุตออกมา พอพังก์ นับ 1-5 เสร็จ หันกลับมาโดนซีนาเอาแท่งเหล็กตีไปเต็มๆ จนทั้งคู่ต้องรีบลงจากเวที ในศึกรอว์ (8 ตุลาคม 2012) ซีนาออกมาเปิดรายการทักทายแฟนๆ และท้าให้ ซีเอ็ม พังค์ ยอมป้องกันแชมป์ WWE กับเขา ในศึก เฮลอินเอเซล ในคืนเดียวกัน แมตช์ระหว่าง ซีเอ็ม พังค์ กับ วินซ์ แม็กแมน ในแมตช์การปล้ำไม่มีกฎกติกา ซีนากับไรแบ็ค ได้ออกมาช่วยวินซ์ ทำให้ ซีเอ็ม พังค์ รีบหนีลงเวที แล้วก็หยิบเข็มขัดหนีเข้าไปบนอัฒจรรย์ หลังแมตช์ วินซ์ประกาศให้พังค์ตัดสินใจเอาว่าจะเจอกับไรแบ็ค หรือซีนา ในศึก เฮลอินเอเซล และถ้าไม่ตัดสินใจภายในสัปดาห์หน้า วินซ์จะตัดสินใจให้เอง ในศึกรอว์ (15 ตุลาคม 2012) ในช่วงการเซ็นสัญญาชิงแชมป์ WWE วินซ์ก็เลือกไรแบ็ค ให้ชิงแชมป์กับพังค์ โดยที่ซีนาก็สนับสนุนและช่วยเชียร์ไรแบ็คด้วย[100] ในศึกรอว์ (22 ตุลาคม 2012) หลังจากที่เอเจประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของรอว์ เอเจบอกว่าสาเหตุเกิดมาจากการที่เธอออกไปกินข้าวกับซีนาในวันนั้น จากนั้นซีนาเข้าไปถาม วินซ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่วินซ์บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ แล้วก็ขึ้นรถกลับไป จากนั้นซีนาเข้าไปถามวิคกีว่าเรื่องมันเป็นยังไง แต่วิคกีบอกว่า เอเจเองนั่นแหละที่ทำให้ตัวเองต้องตกงาน เพราะไปกินข้าวกับซีนา ในศึก เฮลอินเอเซล ช่วงก่อนเริ่มรายการ ซีนาได้ออกมาพูดบนเวที ถึงเรื่องข้อถกเถียงตัวสาเหตุที่ทำให้เอเจลาออก ซึ่งวิคกีอ้างว่าเป็นเพราะเอเจมีความสัมพันธ์กับซีนา จึงเป็นเหตุให้ต้องออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของรอว์ ซึ่งวิคกีก็บอกว่าตัวเขามีหลักฐานและจะพิสูจน์ให้เห็นในศึกรอว์ ต่อมาก็มีวิดิโอ Tout จาก ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ซึ่งซิกก์เลอร์ก็บอกว่า ให้ซีนาช่วยชี้แจงความจริงถึงเรื่องความสัมพันธ์กับเอเจ ซึ่งซีนาก็ตอบกลับไปว่า เขารู้ว่า ซิกก์เลอร์อยู่หลังเวที เลยเรียกออกมาเจอกัน ทว่าเป็นวิคกีที่เดินออกมา และขึ้นมาบนเวทีพูดขู่ซีนา ว่าจะแฉความจริงให้ทุกคนได้รู้ในศึกรอว์ ขณะนั้นเอง ซิกก์เลอร์ก็โผล่มาเล่นงานจากข้างหลัง แต่ซีนารู้ทันจับซิกก์เลอร์แบกจะใส่ Attitude Adjustment ทว่าซิกก์เลอร์ดิ้นหลุด แต่ก็โดนซีนาใส่ Clothesline ตกเวทีไป

ในศึกรอว์ (29 ตุลาคม 2012) วิคกีออกมาที่เวที และประกาศจะเปิดเผยหลักฐานว่า จอห์น ซีนา กับ เอเจ มีความสัมพันธ์กัน โดยเรียก จอห์น ซีนา ออกมา ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ออกมาอีกคน และบอกว่าเขากับแฟน ๆ ทุกคนรู้ดีว่า จอห์น ซีนา กับ เอเจ นั้น จากนั้น จอห์น ซีนา คว้าคอเสื้อ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ แล้วขู่ว่าอย่าพูดถึงชื่อเขากับ เอเจ ในประโยคเดียวกันอีก แล้วก็ผลัก ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ล้ม ก่อนจะเดินกลับไป ต่อมา ในศึกรอว์ (5 พฤศจิกายน 2012) วิคกี เกอร์เรโร ออกมาแฉหลักฐานความสัมพันธ์ของ จอห์น ซีนา กับ เอเจ อีกรอบ และ จอห์น ซีนา ก็ออกมาบอกว่า วิคกี เกอร์เรโร อยากให้ศึกรอว์ ขาวสะอาด มันคงยากพอๆ กับการที่เขาจะฝึกท่ามวยปล้ำท่าใหม่นั่นแหละ ในอดีต วิคกี เกอร์เรโร เคยแต่งงานกับ เอดจ์ แล้วก็ใช้อำนาจผู้จัดการช่วย เอดจ์ เป็นแชมป์ จากนั้นก็ยังมี ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ อีก วิคกี เกอร์เรโร โชว์หลักฐานใหม่ คือภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เป็นตอนที่ เอเจ ออกจากห้องของตัวเองแล้วไปเคาะประตูห้อง จอห์น ซีนา ก่อนที่จะเข้าไปในห้องด้วยกัน จอห์น ซีนา ยังปฏิเสธเสียงแข็ง วิคกี เกอร์เรโร เลยเรียก เอเจ ออกมาอธิบายต่อหน้าทุกคนเลย เอเจ โผล่มาทางจอยักษ์ บอกว่า วิคกี เกอร์เรโร คงไม่อยากให้เธอออกไปหรอก เพราะถ้าออกไปแล้วเธอจะตบ วิคกี เกอร์เรโร และถ้าไล่เธอออกล่ะก็เธอจะมีอิสระในการทำทุกอย่างที่อยากทำ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ เข้ามาโอบไหล่ เอเจ แล้วบอกว่า ใช่ และทุกคนก็รู้ดีว่า เอเจ ชอบทำอะไร จอห์น ซีนา รีบวิ่งเข้าไปที่หลังฉาก ในศึกรอว์ (12 พฤศจิกายน 2012) วิคกี เกอร์เรโร กับ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ นำหลักฐานชิ้นใหม่มาแสดง คือข้อความที่ เอเจ ฝากเข้าไปถึงโทรศัพท์ของ จอห์น ซีนา แต่ เอเจ อ้างว่ามันเป็นการตัดต่อแน่นอน จอห์น ซีนา ออกมา และตรงเข้าไปจะเอาเรื่อง ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ แต่ เอเจ ห้ามเอาไว้ บอกว่าเธอจะจัดการเอง เอเจ ตบหน้า ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ต่อด้วย จอห์น ซีนา เข้ามาต่อยซ้ำอีก ทำให้ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ กับ วิคกี เกอร์เรโร ต้องหนีกลับไป ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ ซีเอ็ม พังค์ มาได้สำเร็จ หลังแมตช์ ไรแบ็ค กับ จอห์น ซีนา มาแย่งเข็มขัดแชมป์ WWE กัน ส่วน ซีเอ็ม พังค์ ไม่กล้าเข้าไปแย่งด้วย ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ และ ไรแบ็ค ในแมตช์การปล้ำสามเส้า ชิงแชมป์ WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้[101][102]

ในศึกรอว์ (19 พฤศจิกายน 2012) วิคกีออกมาพูดถึงเรื่อง ซีนากับเอเจ อีก คราวนี้ ซีนากับเอเจออกมาจูบโชว์ซะเลย เป็นการยอมรับไปว่าคบกันอยู่จริงๆ ซิกก์เลอร์ออกมาลอบทำร้ายซีนา แต่ซีนาก็สวนกลับ จนกระทั่งซิกก์เลอร์ต้องหนีกลับไป ทำให้ซีนาวิ่งตามไป แต่ขณะวิ่งก็เกิดบาดเจ็บหัวเข่า เอเจเข้าไปในห้องแต่งตัวชาย แล้วก็ตรงเข้าไปหาเรื่องซิกก์เลอร์ แต่โดนซิกก์เลอร์ด่าแหลกไม่มีชิ้นดี ทำให้เอเจโมโหตบซิกก์เลอร์ ซีนาเข้ามาห้ามเอเจ แต่โดนซิกก์เลอร์ถีบเข้าให้ จากนั้นซิกก์เลอร์ก็กระทืบหัวเข่าข้างบาดเจ็บของซีนา แล้วก็ต่อยกันจนห้องน้ำพังยับเยิน กรรมการต้องมาช่วยห้าม ในศึกรอว์ (26 พฤศจิกายน 2012) ซีนาได้ต้องเจอกับซิกก์เลอร์ สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะไปได้สำเร็จ ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2012) ซีนาได้เจอกับซิกก์เลอร์ ในแมตช์การปล้ำไต่บันไดชิงกระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ เอกสารสิทธิ์ในกระเป๋าเพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ผลปรากฏว่า ซีนากำลังจะได้อยู่แล้ว แต่เอเจกลับหักหลังด้วยการผลักบันได ซีนาตกลงมา จากนั้นซิกก์เลอร์ก็ขึ้นไปเอากระเป๋าได้ ทำให้ซีนาไม่สามารถคว้ากระเป๋ามาได้ ในศึกสแลมมีอะวอร์ด หรือศึกรอว์ (17 ธันวาคม 2012) ซีนาได้ออกมาขัดขวางซิกก์เลอร์ ไม่ให้ใช้กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับบิ๊กโชว์ ในคืนเดียวกัน ซีนาได้จับคู่กับวิคกี เจอกับซิกก์เลอร์ จับคู่กับเอเจ ซีนากำลังจะชนะด้วย STF แต่เอเจไปพา บิ๊ก อี แลงสตัน มาเล่นงานซีนา ในศึกรอว์ (31 ธันวาคม 2012) รายการ MizTV เดอะ มิซ เชิญซีนามาเป็นแขกรับเชิญ มิซถามซีนา เกี่ยวกับเรื่องของเอเจ แต่ โรดส์ สคูลาร์ส (โคดี โรดส์ และแดเมียน แซนดาว) ออกมาขัดจังหวะ และสุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ท้าให้เจอกันในแมตช์แท็กทีมเดี๋ยวนี้เลย โดย จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ เดอะ มิซ เจอกับโรดส์ สคูลาร์ส สุดท้ายซีนากับมิซ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะมาได้สำเร็จ ในคืนเดียวกัน ซิกก์เลอร์กับเอเจ เชิญซีนามาร่วมฉลองปีใหม่ด้วยกัน แล้วซีนาก็ให้ของขวัญด้วยขี้หล่นลงมาจากด้านบน

ในศึกรอว์ (7 มกราคม 2013) ตอนแรกของปี 2013 จอห์น ซีนา ออกมาบอกว่า ซีเอ็ม พังค์จะป้องกันแชมป์ WWE กับไรแบ็ค ในแมตช์การปล้ำการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้ และ เดอะ ร็อก ก็จะกลับมาด้วย ซิกก์เลอร์, เอเจ และบิ๊ก อี ออกมาขัดจังหวะ ซีนาพยายามเล่นมุกกลบเกลื่อน แล้วซิกก์เลอร์ก็บอกว่า เวลาซีนาแพ้ใครแล้วก็ชอบทำหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อหวังให้เขาไปไกลๆ แต่ชั้นจะไม่ไปไหนหรอก ซีนาเลยท้า ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ มาเจอกันเดี๋ยวนี้เลย สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายเอาชนะมาได้สำเร็จ[103][104] ในศึกรอว์ (14 มกราคม 2013) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ อีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำกรงเหล็ก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ มาได้สำเร็จ ในศึก รอยัลรัมเบิล (2013) ซีนาได้เป็นผู้ชนะในแมตช์การปล้ำรอยัลรัมเบิล 30 คน โดยออกมาเป็นคนที่ 19 และสามารถจับเหวี่ยงไรแบ็ค ได้เป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้ชนะเลิศ รอยัลรัมเบิล ประจำปี 2013[105] ในศึกรอว์ (28 มกราคม 2013) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ โคดี โรดส์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ โคดี โรดส์ มาได้สำเร็จ หลังแมตช์ จอห์น ซีนา ประกาศเลือกท้าชิงแชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 แต่ เดอะชีลด์ (ดีน แอมโบรส, เซท โรลลินส์ และ โรแมน เรนส์) ก็มารุมลอบทำร้ายซีนา แม้ว่า เชมัสกับไรแบ็คจะออกมาช่วยแต่ก็โดนรุมทำร้าย สุดท้ายเดอะชีลด์เล่นงานซีนาด้วยท่า Triple Powerbomb[106] ในศึกรอว์ (4 กุมภาพันธ์ 2013) ซีนาเข้าไปบอกกับวิคกี ว่าเขาต้องการให้เดอะชีลด์หยุดการกระทำ ในคืนเดียวกัน แบรด แมดด็อกซ์ เรียกเดอะชีลด์ให้ออกมาช่วยคืนความเป็นธรรม เลยโดนเดอะชีลด์ออกมารุมอัดเละ ซีนา, เชมัส และไรแบ็ค ออกมาล้อมเดอะชีลด์เอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่ แรนดี ออร์ตัน นำทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์เลยโดน ซีนา, เชมัส และไรแบ็ค อัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์ ในศึกรอว์ (11 กุมภาพันธ์ 2013) ซีนาได้จับคู่กับเชมัส และไรแบ็ค เจอกับ 3MB (ฮีท สเลเตอร์, จินเดอร์ มาฮาล และ ดรูว์ แมคอินไตย์) สุดท้าย ซีนา, เชมัส และไรแบ็ค ก็เป็นฝ่ายชนะ ในคืนเดียวกัน เดอะชีลด์ออกมาท้าทายกลุ่มของซีนา ว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์จนหนีกระเจิง[107] ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) ซีนาได้จับคู่กับเชมัส และไรแบ็ค เจอกับ เดอะ ชิลด์ สุดท้ายซีนา, เชมัส และไรแบ็ค ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป[108]

ในศึกรอว์ (25 กุมภาพันธ์ 2013) ซีนาได้เจอกับ ซีเอ็ม พังค์ โดยถ้าใครชนะก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ ร็อก ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะ ทำให้ซีนาได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ ร็อก ในศึก เรสเซิลเมเนีย[109] ในศึกรอว์ (18 มีนาคม 2013) จอห์น ซีนาออกมาบอกว่าเวลาของแฟนๆ เดอะ ร็อก ใกล้จะหมดลงแล้ว มันเป็นเวลาของแฟน ๆ ซีนา แล้ว ดาร์เรน ยัง กับ ไทตัส โอนีล ออกมาก่อกวน และบอกว่า ไม่มีใครอยากเห็นแกในเรสเซิลเมเนีย หรอก ซีนาท้าให้ดาร์เรน ยังมาเจอกันบนเวทีเดี๋ยวนี้เลย จะแสดงให้เห็นว่าความพร้อมสำหรับเรสเซิลเมเนียนั้นเป็นยังไง สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะไปได้สำเร็จ ในศึกรอว์ (25 มีนาคม 2013) มีการจัดดีเบตระหว่าง เดอะ ร็อก กับซีนา เดอะ ร็อก บอกกับซีนา ว่ามาเจอกันเดี๋ยวนี้เลย ซีนาทำท่า You Can't See Me ใส่ เดอะ ร็อก เลยโดน เดอะ ร็อก ผลัก ซีนาจับเดอะ ร็อกแบก จะใช้ Attitude Adjustment แต่ เดอะ ร็อก ดิ้นหลุดแล้วจับ Rock Bottom แล้วเดินจากไป[110] ในศึกรอว์ (1 เมษายน 2013) ซีนาออกมาพูดชื่นชม เดอะ ร็อก ว่าเป็นแชมป์ WWE ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และถ้าหากว่าเขาเอาชนะเดอะ ร็อก ได้ในเรสเซิลเมเนีย มันก็จะสุดยอดมากๆ เวลาของเดอะ ร็อก มันหมดลงแล้ว มันจะเป็นเวลาของซีนา ซีนาบอกว่า เดอะ ร็อกจะได้ลิ้มรสความล้มเหลวบ้าง หลังจากที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 มาแล้ว ซีนาบอกว่าทนดู เดอะ ร็อก เปลี่ยนเข็มขัดแชมป์ WWE แบบใหม่แล้วเจ็บปวด แต่เขาจะไม่เปลี่ยนมันหรอก จะแย่งชิงมันมาครองและเขาเหนือกว่า เดอะ ร็อก[111] ในศึก เรสเซิลเมเนีย ซีนาได้เจอกับ เดอะ ร็อก ในแมตช์ชิงแชมป์ WWE สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะ และคว้าแชมป์ WWE ไปครอง ทำให้ซีนาสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 11 มาได้สำเร็จ หลังจากที่ไม่ได้แชมป์โลกมา 1 ปี หลังแมตช์ เดอะ ร็อกก็มาจับมือและกอดซีนา เพื่อแสดงความยินดีกับซีนาอีกด้วย[112]

ซีนา กับ แชมป์ WWE ในปี ค.ศ. 2013

ในศึกรอว์ (8 เมษายน 2013) ซีนาออกมาท่ามกลางเสียงโห่ของผู้ชม มาร์ก เฮนรีออกมาหาเรื่องเพื่อจะชิงแชมป์คนต่อไป แล้วซีนาก็จัดให้ เจอกันเป็นคู่เอกชิงแชมป์ด้วย บูเกอร์ ที ออกมาขัดขวาง บอกว่านายจัดแมตช์เองไม่ได้นะ เดอะ ร็อก ยังมีสัญญารีแมตช์อยู่ แต่เขาบาดเจ็บจากแมตช์เมื่อคืนเลยไม่ได้มาวันนี้ บูเกอร์ ที บอกให้ มาร์ก เฮนรี พิสูจน์ตัวเองก่อนถึงจะได้ชิงแชมป์ โดยต้องชนะ จอห์น ซีนา ให้ได้คืนนี้ สุดท้าย มาร์ก เฮนรี โดนเหวี่ยงไปอัดขั้นบันไดเหล็ก แล้วซีนาก็รีบขึ้นเวที ปล่อยให้กรรมการนับ มาร์ก เฮนรี ถึง 10 แพ้ตกเวทีไปเลย หลังแมตช์ มาร์ก เฮนรี ขึ้นมาอัด จอห์น ซีนา แล้วจับใส่ World Stornges Slam ดับอนาถ มาร์ก เฮนรี เอาเข็มขัดแชมป์มาชูเล่น ท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู แต่ ไรแบ็ค ออกมาเล่นงาน มาร์ก เฮนรี จนกลิ้งหนีลงเวทีไป ซีนานอนเจ็บอยู่ ไรแบ็ค จับมือซีนาขึ้นมา แล้วก็ฉลองกับซีนาบนเวที แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไรแบ็ค โคทส์ไลน์ ซีนา แล้วก็จับใส่ Shellshocked จากนั้นก็เอาเข็มขัดมาชูปิดท้ายรายการ[113][114] ในศึกรอว์ (15 เมษายน 2013) จอห์น ซีนา ให้สัมภาษณ์หลังฉาก บอกว่า ไรแบ็ค มีปัญหากับเขา ดังนั้นขอทำให้จบง่าย ๆ เลย เอาไว้ไปเคลียร์กันบนเวที ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา ออกมาที่เวที แล้วก็เรียก ไรแบ็ค ออกมาเคลียร์กันเดี๋ยวนี้เลย จอห์น ซีนา บอกว่าชั้นเป็นแชมป์ WWE และก็พร้อมจะป้องกันแชมป์กับทุกคนอยู่แล้วถ้ามีใครกล้าพอ แต่นายกลับมาลอบทำร้ายชั้นจากด้านหลัง จอห์น ซีนา ถอดเสื้อเตรียมลุย แต่ ไรแบ็ค หนีลงเวทีไป เดอะชีลด์ ออกมารุมกระทืบ จอห์น ซีนา โดยที่ ไรแบ็ค ยืนดูเฉย ๆ ไม่ยอมช่วย จากนั้นก็เดินกลับไป ปล่อยให้ จอห์น ซีนา โดน Triple Powerbomb ดับอนาถปิดท้ายรายการ ในศึกรอว์ (22 เมษายน 2013) จอห์น ซีนา เข้าไปเตือน มิค โฟลีย์ ให้ระวังตัวให้ดีในการเผชิญหน้ากับ ไรแบ็ค ในคืนเดียวกัน มิค โฟลีย์ ออกมาพร้อมกับเก้าอี้และเรียก ไรแบ็ค ออกมาเคลียร์ ไรแบ็ค ออกมาเถียงกับ มิค โฟลีย์ แล้วทำท่าจะต่อยกัน ทำให้ จอห์น ซีนา ตามออกมาอีกคน จอห์น ซีนา บอกให้ มิค โฟลีย์ หลบไปก่อน เดอะชีลด์ จะออกมากระทืบ จอห์น ซีนา และ ไรแบ็ค แต่คราวนี้ จอห์น ซีนา หนีลงเวทีและจะเดินกลับไป สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็กลับมาช่วย ไรแบ็ค โดยใช้เก้าอี้ไล่ฟาด เดอะชีลด์ จนกระเจิงกลับไป แล้ว จอห์น ซีนา ก็จัดการ Attitude Adjustment ใส่ ไรแบ็ค ปิดรายการ ในศึกรอว์ (29 เมษายน 2013) จอห์น ซีนา บอกกับ แบรด แมดด็อกซ์ ว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ ทีมเฮลโน ต้องเจอกับ เดอะชีลด์ แบบ 2 ต่อ 3 เพราะเขาจะเข้าร่วมแทน ไรแบ็ค เองถึงแม้จะบาดเจ็บอยู่ก็ตาม ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ ทีมเฮลโน (เคน และ แดเนียล ไบรอัน) เจอกับ เดอะชีลด์ สุดท้าย จอห์น ซีนา และ ทีมเฮลโน ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป หลังแมตช์ ไรแบ็ค ออกมายืนจ้อง จอห์น ซีนา อยู่ที่ทางเดิน โดย ทริปเปิล เอช จะเจอกับ บร็อก เลสเนอร์ ในกรงเหล็ก, ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ป้องกันแชมป์ในแมตช์ไต่บันได และแมตช์ จอห์น ซีนา กับ ไรแบ็ค ก็จะต้องมีกติกาพิเศษเช่นกัน ไรแบ็ค ออกมา และประกาศว่าเขาเลือกให้เป็นแมตช์ลาสแมนสแตนดิ้ง ในคืนเดียวกัน ไรแบ็ค จะต้องเจอกับ เคน สุดท้าย ไรแบ็ค เป็นฝ่ายชนะ หลังแมตช์ เดอะชีลด์ ออกมา ทำให้ ไรแบ็ค หนีไป ปล่อยให้ เคน นอนอยู่บนเวทีคนเดียว แดเนียล ไบรอัน วิ่งออกมาช่วย เคน ตามมาด้วย จอห์น ซีนา สุดท้าย ไรแบ็ค ก็ขึ้นมาพร้อมกับเก้าอี้ แดเนียล ไบรอัน กับ จอห์น ซีนา ช่วยกันอัด เดอะชีลด์ แต่ ไรแบ็ค เอาเก้าอี้มาฟาด จอห์น ซีนา[115] ในศึกรอว์ (13 พฤษภาคม 2013) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ ทีมเฮลโน เจอกับ เดอะชีลด์ ในแมตช์การปล้ำแทคทีม 6 คน แบบคัดออก สุดท้าย เคน ไล่ยำ 3 สมาชิก เดอะชีลด์ อย่างหนักโดยไม่สนใจคำเตือนกรรมการ ทำให้ถูกปรับฟาวล์ออกไปเป็นคนแรก และ ดีน แอมโบรส ใช้ท่าไม้ตายใส่ แดเนียล ไบรอัน และกดออกไปอีกคน ทำให้ จอห์น ซีนา เหลืออยู่คนเดียว แต่ จอห์น ซีนา จัดการไล่ต่อย เดอะชีลด์ เป็นชุด ก่อนจะ Attitude Adjustment ใส่ เซท โรลลินส์ กดนับ 3 ไป ดีน แอมโบรส เข้ามาก็โดน จอห์น ซีนา จับแบกอีกคน โรแมน เรนส์ เข้ามาก่อกวนและผลักกรรมการล้ม ก่อนจะไปสเปียร์ใส่ จอห์น ซีนา กรรมการปรับฟาวล์ โรแมน เรนส์ จนกระทั่ง จอห์น ซีนา ลาก ดีน แอมโบรส มาใส่ STF จนได้ ทำให้ เซท โรลลินส์ กับ โรแมน เรนส์ กลับขึ้นมารุมต่อย จอห์น ซีนา และโดนปรับแพ้ฟาวล์ไป หลังแมตช์ เดอะชีลด์ จับ จอห์น ซีนา ใส่ Triple Powerbomb ดับอนาถ ไรแบ็ค ออกมาและหยิบเอาเก้าอี้มาฟาดใส่ขา จอห์น ซีนา แล้วเดินจากไป[116] ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ไรแบ็ค ในแมตช์การปล้ำลาสแมนสแตนดิ้ง ผลปรากฏว่า ไม่มีผลการตัดสิน โดย ไรแบ็ค จับ จอห์น ซีนา พุ่งชนทะลุมินิตรอนเข้าไปนอนกองกันอยู่ข้างใน กรรมการเห็นท่าไม่ดีเลยยุติแมตช์ไปเลย ทีมงานต้องมาช่วยกันหาม จอห์น ซีนา นอนเปลไป ส่วน ไรแบ็ค ก็นอนหมดสภาพพอกัน[117]

ในศึกรอว์ (20 พฤษภาคม 2013) ไรแบ็ค ออกมายืนบนรถพยาบาล บอกว่า ซีนาแม้จะเป็นแชมป์อยู่แต่ก็ต้องถูกหามออกไปจากสนาม ถึงแม้ว่ามันจะปฏิเสธที่จะขึ้นรถพยาบาล แต่คราวหน้ามันจะไม่มีทางปฏิเสธได้แน่นอน เพราะเขาจะท้าเจอกับ จอห์น ซีนา ในแมตช์ยัดรถพยาบาลในศึก เพย์แบ็ค ในศึกรอว์ (27 พฤษภาคม 2013) จอห์น ซีนา ออกมาและบอกว่าพร้อมที่จะปล้ำแมตช์ Ambulance Match ใน Payback แล้ว จอห์น ซีนา บอก ไรแบ็ค ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นแมทช์การปล้ำแบบ 3 Stages of Hell ทั้งคู่จะต้องปล้ำ 3 แมทช์ติดต่อกัน แมทย์ต่างๆจะมีกติกาเงื่อนไขพิเศษแตกต่างกันโดยมี Lumberjack Match, Tables Match และ Ambulance Match ผู้ที่จะได้แชมป์ WWE จะต้องชนะ 2 ใน 3 แมทช์ และ ไรแบ็ค ก็ตอบตกลง พอล เฮเมน ออกมาและโม้ว่าเด็กปั้นของเค้าชนะและทำลาย ทริปเปิล เอช ในรอว์ อาทิตย์ที่แล้ว เคอร์ติส แอ็กเซล ออกมา พอล เฮเมน บอกว่าวันนี้ฉันตั้งใจจะให้ เคอร์ติส แอ็กเซล เจอกับนาย จอห์น ซีนา ในคืนนี้ จอห์น ซีนา เตือน เคอร์ติส แอ็กเซล ว่าให้รีบไปให้ไกลจาก พอล เฮเมน ซะเถอะ และ จอห์น ซีนา ก็พูดท้าทายและตอบตกลงในแมตช์คืนนี้ ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เคอร์ติส แอ็กเซล ผลปรากฏว่า ไรแบ็ค ก็ออกมาเปิดหวอรถพยาบาลทำให้ จอห์น ซีนา ลงไปดูเลยทำให้โดนนับ 10 แพ้ไปจากนั้น ไรแบ็ค ก็ออกมาและเข้าข้างหลังและจะจับ จอห์น ซีนา เหวี่ยงชนกับมินิตรอนเหมือนในศึกที่ผ่านมา จอห์น ซีนา หลบได้ทำให้ ไรแบ็ค วิ่งหนีไปหลังฉาก ในศึกรอว์ (10 มิถุนายน 2013) มีการเผชิญหน้ากันระหว่าง จอห์น ซีนา กับ ไรแบ็ค โดยมีการจัด Lumberjack ออกมาช่วยกันยืนป้องกันไม่ให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน ไรแบ็ค บอกว่า จอห์น ซีนา พยายามสกัดดาวรุ่งอย่างเขาเพราะกลัวว่าจะมีคนอื่นมาแย่งความดังไปจากตัวเอง ไรแบ็ค บอกว่าเมื่อ 8 เดือนก่อน จอห์น ซีนา ยกสิทธิ์ชิงแชมป์ให้กับเขา แต่ในศึก เพย์แบ็ค เขาจะชิงแชมป์มาจาก จอห์น ซีนา ซะ จอห์น ซีนา ทนไม่ไหว ถอดเสื้อทิ้งแล้ววิ่งลงเวทีไปหา ไรแบ็ค แต่ดันลงเวทีด้านที่มีแต่ฝ่ายอธรรม เลยโดนเหวี่ยงกลับขึ้นไป คราวนี้ ไรแบ็ค เลยวิ่งขึ้นเวทีไปหา จอห์น ซีนา เอง แต่โดน จอห์น ซีนา เหวี่ยงตกเวทีไปซะ จากนั้นก็ขึ้นมาต่อยกันบนเวทีจนพวกนักมวยปล้ำต้องมาช่วยกันแยก แล้วก็ปิดรายการไป ในศึก เพย์แบ็ค จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ไรแบ็ค ในแมตช์การปล้ำแบบนรก 3 ขุม แมตช์ที่ 1 Lumberjack Match ไรแบ็ค จับ จอห์น ซีนา แบกแล้ว Shellshocked ทันที กดนับ 3 เป็นฝ่ายเอาชนะไปก่อน แมตช์ที่ 2 Tables Match จอห์น ซีนา จับ ไรแบ็ค ใส่ Attitude Adjustment ใส่โต๊ะพัง ตีเสมอได้สำเร็จ แมตช์ที่ 3 Ambulance Match จอห์น ซีนา จัดการ Attitude Adjustment ใส่ ไรแบ็ค จนทะลุหลังคารถพยาบาลลงไป ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[118]

ในศึกรอว์ (17 มิถุนายน 2013) ซีนาออกมาพูดถึงการที่เขาสามารถเอาชนะได้ทั้ง เดอะ ร็อก และ ไรแบ็ค จากนั้นก็ท้าใครก็ได้ที่คิดว่าตัวเองคู่ควร มาท้าชิงแชมป์เป็นคนต่อไปได้เลย มาร์ก เฮนรี ออกมาในชุดสูท พร้อมกับถือรองเท้ามวยปล้ำของเขาออกมาด้วย มาร์ก เฮนรี จับมือ จอห์น ซีนา ก่อนจะประกาศว่าเขาอยู่ในวงการมานาน วันนี้ถึงเวลาเสียทีที่จะแขวนรองเท้าได้แล้ว มาร์ก เฮนรี พูดไปก็ร้องไห้ไป ส่วนคนดูก็ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ จอห์น ซีนา เข้ามาชูมือ มาร์ก เฮนรี และสวมกอด แต่ มาร์ก เฮนรี จับใส่ World's Strongest Slam ซะ แล้วก็บอกว่ามันไม่จบง่าย ๆ อย่างงั้นหรอก มาร์ก เฮนรี โยนเข็มขัดแชมป์ใส่ จอห์น ซีนา แล้วเดินจากไป[119] ในศึกรอว์ (8 กรกฎาคม 2013) จอห์น ซีนา กับ มาร์ก เฮนรี ออกมาปะทะคารมกัน โดย มาร์ก เฮนรี บอกว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แชมป์ WWE ไม่ว่าจะต้องขายแม่ตัวเอง ขายคนทั้งครอบครัวเขาก็จะเอาแชมป์มาให้ได้ จอห์น ซีนา กับ มาร์ก เฮนรี ท้าทายกันไปมา แล้วสุดท้าย มาร์ก เฮนรี ก็วิ่งเข้าไปอัด จอห์น ซีนา ร่วง จากนั้น จอห์น ซีนา พยายามสู้และจะใช้ Attitude Adjustment แต่ยกไม่ไหว มาร์ก เฮนรี หล่นลงมาทับ จอห์น ซีนา มาร์ก เฮนรี จัดการลาก จอห์น ซีนา มา World's Strongest Slam แล้วเอาเท้าเหยียบร่าง จอห์น ซีนา พร้อมชูเข็มขัดเรียกเสียงเฮจากคนดู ในศึก มันนีอินเดอะแบงก์ (2013) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ มาร์ก เฮนรี สุดท้าย จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[120]

ในศึกรอว์ (15 กรกฎาคม 2013) จอห์น ซีนา ออกมาเพื่อเลือกผู้ท้าชิง โดยมีบรรดาซูเปอร์สตาร์มายืนอยู่ที่เวทีเปิดตัว จอห์น ซีนา เรียกชื่อนักมวยปล้ำทีละคนเพื่อให้แฟนๆ ช่วยกันส่งเสียงสนับสนุนคนที่อยากให้ชิงแชมป์ ฮีท สเลเตอร์? คนดูโห่ ใครก็ได้จาก 3MB? คนดูโห่ แรนดี ออร์ตัน? โห่ผสมเฮ เดอะ เกรท คาลี? โห่หนัก บวกเฮนิดหน่อย อัลเบร์โต เดล รีโอ? โห่ คริส เจอริโค? เฮปานกลาง ร็อบ แวน แดม? เฮดัง ฟันดังโก? โห่ เชมัส? โห่หนัก ไรแบ็ค? โห่ จอห์น ซีนา ถามว่าเขาลืมใครไปหรือเปล่า คนดูตะโกน Yes! Yes! Yes! ซีนาประกาศเลือก แดเนียล ไบรอัน เป็นผู้ท้าชิงของเขาในซัมเมอร์สแลม ไบรอันออกมาตะโกน Yes! Yes! Yes! และคนดูก็ตะโกนตามกันทั้งสนาม[121] ในศึกรอว์ (22 กรกฎาคม 2013) แบรด แมดด็อกซ์ ออกมาเปิดรายการด้วยการทักทายแฟนๆ ก่อนจะประกาศให้มีการเซ็นสัญญาปล้ำระหว่าง ซีนากับไบรอัน ซีนาออกมาเตรียมเซ็นสัญญา และแมดด็อกซ์ ก็สัมภาษณ์ซีนาไปด้วยว่าทำไมถึงเลือกไบรอัน เขาตัวเล็กกว่านายตั้งเยอะ นายเลือกเขาเพราะว่าจะได้ชนะง่าย ๆ หรือเปล่า ไบรอันออกมาท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนๆ และถามแมดด็อกซ์ ว่านายคิดว่าว่าชั้นไม่สมควรจะได้ชิงแชมป์เหรอ ซีนาบอก ถ้าแมดด็อกซ์คิดว่าขนาดตัวเป็นสิ่งสำคัญล่ะก็ เอาแชมป์ไปให้เกรท คาลี ได้เลย ใน WWE เราเคยมีแชมป์อย่าง ชอว์น ไมเคิลส์, เรย์ มิสเตริโอ และ เอ็ดดี เกอร์เรโร มาแล้ว ทั้งสองคนเซ็นสัญญา แล้วแมดด็อกซ์ก็เตรียมจัดแมตช์ให้ไบรอัน ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมจริงหรือไม่ที่ได้ชิงแชมป์ โดยจะต้องปล้ำแมตช์ Gauntlet Match โดยเจอกับ แจ๊ค สแวกเกอร์, แอนโทนีโอ ซีซาโร และ ไรแบ็ค ผลปรากฏว่า แมตช์ที่ 1 ไบรอันชนะ แมตช์ที่ 2 ไบรอันชนะ แมตช์สุดท้าย ไบรอันชนะฟาว์ลเพราะ ไรแบ็ค จับไบรอันไปพาวเวอร์บอมใส่โต๊ะจนพัง หลังแมตช์ ไรแบ็ค จะเล่นงานไบรอันต่อ แต่ซีนาออกมาช่วยไล่อัดไรแบ็คหนีไป ซีนาเอาไมค์มาประกาศท้าไรแบ็ค ให้มาเจอกันในแมตช์โต๊ะ ซึ่งไรแบ็คก็ตอบตกลง ในศึกรอว์ (29 กรกฎาคม 2013) ซีนาได้เจอกับไรแบ็ค ในแมตช์การปล้ำจับฟาดใส่โต๊ะ สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะไปได้ หลังแมตช์ ไบรอันออกมาคว้าเข็มขัดแชมป์ WWE แล้วเอาขึ้นไปยื่นให้ ซีนาจะรับเข็มขัด แต่ไบรอันดึงกลับ ซีนาเลยแย่งเอามาจนได้ แล้วไบรอันก็ทำท่า Yes! Yes! Yes! ใส่ซีนา ในศึกรอว์ (5 สิงหาคม 2013) ซีนาออกมาตอบโต้สิ่งที่ไบรอันพูด โดยเขาบอกว่า ไบรอันอย่ามาดูถูกเขาเพราะเขาเป็นแชมป์มาแล้ว 11 สมัย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะโชคดีถึง 11 ครั้ง และถ้า แดเนียล ไบรอัน ไม่สามารถชิงแชมป์ไปได้ในซัมเมอร์สแลม นั่นก็หมายความว่า แดเนียล ไบรอัน ไม่ได้มีดีอย่างที่คิด แรนดี ออร์ตัน ถือกระเป๋า MITB ออกมา และบอกกับ จอห์น ซีนา ว่าอย่ามัวแต่ระวังศัตรูที่อยู่ข้างหลัง เพราะศัตรูที่อยู่ข้างหน้าแกตอนนี้อันตรายกว่า เขามีกระเป๋า MITB และมันก็ไม่สำคัญว่าใครจะชนะในซัมเมอร์สแลม เพราะแชมป์ของจริงนั้นอยู่ที่กระเป๋าใบนี้ เดอะชีลด์ ออกมาล้อมเวทีเอาไว้ และ แดเนียล ไบรอัน ก็ออกมาช่วย แรนดี ออร์ตัน กับ จอห์น ซีนา อีกคน แบรด แมดด็อกซ์ เลยออกมาจัดแมตช์แท็กทีม 6 คนเป็นคู่เอกคืนนี้ไปเลย สุดท้าย แดเนียล ไบรอัน ลาก เซท โรลลินส์ มา Yes Lock จนได้ แต่ เดอะชีลด์ มารุมต่อย แดเนียล ไบรอัน จนโดนปรับแพ้ฟาวล์ไป หลังแมตช์ แดเนียล ไบรอัน กับ จอห์น ซีนา ฉลองกันอยู่บนเวทีแต่ แรนดี ออร์ตัน โผล่มา RKO ใส่ แดเนียล ไบรอัน ดับอนาถ เดอะชีลด์ กลับขึ้นมาหาเรื่องเลยโดน แรนดี ออร์ตัน กับ จอห์น ซีนา ช่วยกันอัดตกเวทีไปหมด แล้ว แรนดี ออร์ตัน ก็ RKO ใส่ จอห์น ซีนา อีกคน แรนดี ออร์ตัน ทำท่าจะใช้กระเป๋า แต่ เดอะชีลด์ ยังกลับมารังควาญ ทำให้ แรนดี ออร์ตัน รีบหนีไป ปล่อยให้ จอห์น ซีนา กับ แดเนียล ไบรอัน โดนกระทืบปิดท้ายรายการ ในศึกรอว์ (12 สิงหาคม 2013) เดอะ มิซ ออกมาจัดรายการ MizTV โดยมีแขกรับเชิญเป็น แดเนียล ไบรอัน กับ จอห์น ซีนา เดอะ มิซ ถามว่าตอนแรกเป็นการสู้กันระหว่างเพื่อน แต่ทำไมตอนนี้เหมือนจะทะเลาะกันไปซะแล้วล่ะ? จอห์น ซีนา มีปัญหาอะไรกับ แดเนียล ไบรอัน เหรอ? จอห์น ซีนา บอกว่า แดเนียล ไบรอัน พูดจาดูหมิ่นเขา ส่วน แดเนียล ไบรอัน ก็บอกว่า จอห์น ซีนา ไม่เคารพเขา แดเนียล ไบรอัน บอกว่าเห็นเสื้อตวนี้มั้ย? (เสื้อ The Beard is Here) นี่คือเรื่องตลกล้อเลียนเสื้อของแก เพราะแกคือตัวตลกของวงการมวยปล้ำ จอห์น ซีนา โมโห ถอดเสื้อทิ้ง ก่อนจะบอกว่า แดเนียล ไบรอัน เกือบทำให้โมโหแล้วนะ เขาตระเวณปล้ำมาทั่วโลก เป็นแชมป์ 11 สมัย และ แดเนียล ไบรอัน ไม่ใช่คนแรกที่มาพูดกับเขาแบบนี้ และเขาก็เอาชนะคนแบบนี้มาเยอะแล้วไม่ว่าจะเป็น ทริปเปิล เอช, ชอว์น ไมเคิลส์, บาติสตา, แรนดี ออร์ตัน, ซีเอ็ม พังก์ และ เดอะ ร็อก แดเนียล ไบรอัน บอก จอห์น ซีนา พูดเหมือนกับว่าคนพวกนั้นเหนือกว่าเขาอย่างงั้นแหละ จอห์น ซีนา บอก ก็นายไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับพวกนั้นสักหน่อย และนายก็ไม่คู่ควรจะอยู่ในระดับนั้นด้วย แดเนียล ไบรอัน บอก สรุปก็คือ จอห์น ซีนา ไม่เคารพเขา จอห์น ซีนา ไม่เคยมองแมตช์ที่จะเจอกับเขาว่าเป็นแมตช์สำคัญเหมือนที่ จอห์น ซีนา มองแมตช์ที่เจอกับตำนานพวกนั้น แดเนียล ไบรอัน บอกอีกว่า รู้มั้ยว่าในญี่ปุ่นเขามีธรรมเนียมการกระตุ้นให้นักมวยปล้ำฝ่ายตรงข้ามเอาจริง 100% นั่นคือการตบหน้ากันและกัน เขาก็อยากจะทำแบบนั้นกับ จอห์น ซีนา นะ เสียแต่ว่า จอห์น ซีนา ไม่คู่ควรจะได้รับธรรมเนียมนี้เพราะว่า จอห์น ซีนา ไม่ใช่นักมวยปล้ำ จอห์น ซีนา โมโห แล้วก็ตบหน้า แดเนียล ไบรอัน จากนั้นก็บอกให้ แดเนียล ไบรอัน ตบหน้าเขาสิ แต่ แดเนียล ไบรอัน ไม่ยอมตบ บอกว่า จอห์น ซีนา ไม่คู่ควร ทริปเปิล เอช ออกมาห้ามไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน แล้ว แรนดี ออร์ตัน ก็เดินออกมาชูกระเป๋าเตือนทั้งสองคนให้ระวังตัวให้ดีใน ซัมเมอร์สแลม ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2013) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ แดเนียล ไบรอัน สุดท้าย จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายแพ้และเสียป้องกันแชมป์ WWE ให้กับ แดเนียล ไบรอัน ไปในที่สุด หลังแมตช์ แดเนียล ไบรอัน กำลังฉลองแชมป์ แต่ จอห์น ซีนา มาขัดจังหวะเหมือนจะหาเรื่อง แต่สุดท้ายก็จับมือแสดงความยินดี จอห์น ซีนา เดินกลับไปและปล่อยให้ แดเนียล ไบรอัน ฉลองบนเวทีโดยมีการจุดพลุฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แต่แล้ว แรนดี ออร์ตัน ก็เดินถือกระเป๋าออกมา แรนดี ออร์ตัน ชูกระเป๋าข่มขวัญและเดินกลับไป แต่ ทริปเปิล เอช จับ แดเนียล ไบรอัน ใส่ Pedigree จนหลับสนิท แล้ว แรนดี ออร์ตัน ก็กลับมาใช้กระเป๋าและกดนับ 3 ชนะไปสบาย ๆ แรนดี ออร์ตัน ได้แชมป์ไปครองโดย ทริปเปิล เอช ก็ร่วมฉลองด้วย และก็ปิดรายการไป[122]

ในศึกรอว์ (19 สิงหาคม 2013) จอห์น ซีนา ออกมาเปิดรายการท่ามกลางเสียงโห่ จอห์น ซีนา บอกว่าเขารู้สึกขยะแขยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จอห์น ซีนา พูดเข้าข้าง แดเนียล ไบรอัน แต่คนดูโห่และตะโกน Cena Sucks!! จอห์น ซีนา บอกว่าข้อศอกของเขาบวมเพราะกล้ามเนื้อฉีกขาด และหมอบอกว่าควรจะยกเลิกแมตช์ในศึกซัมเมอร์สแลม และต้องผ่าตัดทันที แต่ จอห์น ซีนา บอกว่าเขาไม่ยอมยกเลิกและขอปล้ำทั้งๆ ที่บาดเจ็บ แต่เขาจะไม่เอามาเป็นข้ออ้างหรอก เขาแพ้เพราะว่าคู่ต่อสู้ของเขาเหนือกว่าจริง ๆ เขาแพ้อย่างขาวสะอาด แต่เขารู้สึกขยะแขยงที่ ทริปเปิล เอช ทำแบบนั้นแล้วเอาแชมป์ให้ แรนดี ออร์ตัน ไป จอห์น ซีนา บอกว่าเขาคงต้องขออำลาไปสักพักเพื่อไปผ่าตัด (คนดูเฮและตะโกน Yes! Yes! Yes!) แต่ก่อนจะจากไป จอห์น ซีนา ได้แนะนำให้รู้จักกับ แดเนียล ไบรอัน!! แดเนียล ไบรอัน ออกมา และ จอห์น ซีนา ก็ส่งไมค์ให้ก่อนจะเดินจากไป ต่อมา จอห์น ซีนา มีอาการบาดเจ็บบริเวณข้อศอกซ้ายบวม ทำให้ จอห์น ซีนา อาจจะต้องพักยาวถึง 4-6 เดือน[123]

ในศึกรอว์ (7 ตุลาคม 2013) อัลเบร์โต เดล รีโอ เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เปิดตัวออกมา และวิคกี เกอร์เรโรก็ตามออกมาเพื่อประกาศคู่ต่อสู้ของเดล รีโอ คือ ริคาร์โด รอดริเกซ และวิคกียังประกาศอีกว่าผู้ท้าชิงของเดล รีโอ ในศึก เฮลอินเอเซล คือ จอห์น ซีนา เดล รีโอกำลังช็อคและมัวแต่โวยวายเลยโดน ริคาร์โด รวบกดนับ 3 ชนะไป หลังแมตช์ เดล รีโอ เล่นงานริคาร์โดระบายอารมณ์ จากนั้นก็เอาเก้าอี้มาหนีบแขนแล้ว Cross ArmBreaker จนกรรมการต้องมาห้าม ในศึก เฮลอินเอเซล (2013) ซีนาได้กลับมาอีกครั้งเจอกับเดล รีโอ ในแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะ และคว้าแชมป์ไปครอง ทำให้ซีนาสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 14 มาได้สำเร็จ

ในศึกรอว์ (28 ตุลาคม 2013) จอห์น ซีนา แชมป์โลกเฮฟวี่เวทคนใหม่ บอกว่าเขาชินกับเสียงโห่พวกนี้แล้ว เมื่อคืนนี้มีหลายคนมีความสุขแต่ก็มีหลายคนไม่พอใจ แต่นั่นก็หมายความว่าเขากลับมาแล้ว!! คิดถึงไหมล่ะ? คิดว่าเขาควรจะหายไปนานกว่านี้หรือเปล่า? และ JBL ก็มักจะพูดอยู่ตลอดว่าถ้าเขากลับมาเขาจะโดน อัลเบร์โต เดล รีโอ อัดจนต้องเลิกปล้ำ แต่ JBL ก็คิดผิดเพราะเขาเป็นแชมป์โลกคนใหม่แล้ว แดเมียน แซนดาว ออกมา และบอกว่า จอห์น ซีนา อาจจะหลอกคนดูได้ หลอกหมอได้ แต่หลอกเขาไม่ได้หรอก ซีนาไม่มีทางหายเจ็บเร็วขนาดนั้น แกต้องเจ็บมากกว่าที่แสดงออกให้คนเห็น และที่ออกมาโม้ในวันนี้ก็เพราะว่าซีนากลัวว่าเขาจะออกมาใช้กระเป๋า MITB แซนดาวบอกว่าเขาจะใช้กระเป๋าเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คงไม่ใช่คืนนี้ ว่าแล้วก็เดินจากไป แต่ จอห์น ซีนา ทำท่าจะหาเรื่องแซนดาว ทำให้แซนดาวกระทืบซีนาทันที แล้วก็ใช้กระเป๋าฟาดรัวใส่แขนของ จอห์น ซีนา จากนั้น แดเมียน แซนดาว เรียกกรรมการออกมาและขอใช้กระเป๋าเดี๋ยวนี้!! ทำให้ จอห์น ซีนาต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับแดเมียน แซนดาว สุดท้าย แดเมียน แซนดาว ก็โดน จอห์น ซีนา จับใส่ Attitude Adjustment และกดนับ 3 ไป ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ และ แดเมียน แซนดาว กลายเป็นคนแรกที่ใช้กระเป๋า MITB แล้วแพ้ ในศึกรอว์ (4 พฤศจิกายน 2013) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับแชมป์แทคทีม WWE โกลดัสต์ และโคดี โรดส์ เจอกับ แดเมียน แซนดาว, แจ๊ค สแวกเกอร์ และแอนโทนีโอ ซีซาโร สุดท้าย จอห์น ซีนา, โกลดัสต์ และ โคดี โรดส์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึกรอว์ (18 พฤศจิกายน 2013) จอห์น ซีนา ออกมาที่เวทีโดยพันแขนข้างซ้ายอยู่ ซีนาพูดถึงแมตช์ที่เขาจะป้องกันแชมป์ใน เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ แล้ว อัลเบร์โต เดล รีโอ ก็ออกมา Del Rio บอกว่าเขาจะกระทืบ Cena ในบ้านเกิดของเขาเองต่อหน้าพ่อแม่ของ Cena และรู้อะไรไหมว่าแชมเปี้ยนที่แท้จริงจะต้องฉวยโอกาสทุกอย่างที่เห็น และตอนนี้เขาก็ได้โอกาสนั้นแล้ว Cena บอก นายพูดถูกนะ แชมเปี้ยนที่แท้จริงต้องคว้าทุกโอกาส ว่าแล้ว Cena ก็ถอดสลิงที่แขนซ้ายออกแล้วไล่ต่อย เดล รีโอ จนต้องรีบหนีไป ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013) จอห์น ซีนา ต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ อัลเบร์โต เดล รีโอ สุดท้าย จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เอาไว้ได้สำเร็จ

ในศึกรอว์ (25 พฤศจิกายน 2013) Orton ออกมาบอกว่าพวกแกคงจะไม่คิดล่ะสิว่าชั้นคนนี้จะออกมาที่นี่ในฐานะแชมป์ WWE แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คาใจ จึงขอให้ Triple H ออกมาหน่อย HHH กับ Stephanie ออกมา และ Orton บอกว่าทำไมต้องออกมาช่วยเขาด้วย? ก็ไหนบอกว่าไม่ต้องมีการก่อกวนไง เขาเอาชนะด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาช่วย เพราะเขาคือผู้เป็นหน้าเป็นตาของ WWE เป็นแชมป์ WWE เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ WWE ตลอดกาลและไม่มีใครจะมาแย่งชิงอะไรไปจากเขาได้ John Cena ออกมา และก็บอกว่าเขานี่แหละที่จะทำได้ ขอท้าเจอ Randy Orton โดยเอาแชมป์ทั้งสองเส้นเป็นเดิมพัน Triple H กับ Stephanie ก็เห็นชอบด้วย และ HHH ก็จัดแมตช์ในศึก TLC ให้ทั้งสองคนเจอกันและจะเอาแชมป์ทั้งสองเส้นแขวนไว้ในแมตช์ Tables, Ladders, and Chairs Cena กับ Orton ชูเข็มขัดแชมป์ข่มกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

เกี่ยวกับมวยปล้ำ

ซีนาใช้ท่า "Attitude Adjustment" (ชื่อเดิม F-U) เล่นงาน เคน
ซีนาใช้ท่า "STF" (ชื่อเดิม STFU) เล่นงาน บาติสตา
ซีนาใช้ท่า "Five Knuckle Shuffle" เล่นงาน ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์
ซีนาใช้ท่า "Leg Drop" เล่นงาน แรนดี ออร์ตัน
  • ท่าไม้ตาย
    • STF (ชื่อเดิม STFU)
      • วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้งัดคอและงอขาไปหาเอวทำให้คู่ต่อสู้ตบพื้นยอมแพ้
    • AA - Attitude Adjustment (ชื่อเดิม F-U)[124]
      • วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้ยกแล้วจับทุ่มเต็มๆ ทำให้คู่ต่อสู้เจ็บหลัง
  • ท่าเอกลักษณ์
    • Diving leg drop bulldog
    • Drop to hold , some times for STF
    • Dropkick, sometimes from the top rope[125]
    • Emerald Flowsion
    • Five Knuckle Shuffle[126] (จับคู่ต่อสู้ยกแล้วทุ่มแล้วเด้งเชือกและทิ้งหมัดใส่คู่ต่อสู้บริเวณหน้าผาก, บางครั้งก็ใช้ตอนกระโดดเชือก)
    • Fisherman suplex
    • Gutwrench suplex
    • Spin-out powerbomb
    • Running leaping shoulder block
    • Running one–handed bulldog
    • Sitout hip toss
    • Spinebuster – 2002 – 2005; used rarely thereafter
    • Throwback[127] (Running neck snap to a bent–over opponent) - used the last time in 2011
    • Twisting belly to belly suplex
  • ผู้จัดการ
    • เคนนี โบลิน
    • บี-ทู
    • เรดด์ ด็อกก์
    • วินซ์ แม็กแมน
    • เอเจลี
  • เพลงเปิดตัว
    • "Slam Smack" โดย R. Hardy (FirstCom Production Music) (27 มิถุนายน 2002 - 7 พฤศจิกายน 2002)[130]
    • "Insert Bass Here" โดย DJ Case (FirstCom Production Music) (14 พฤศจิกายน 2002 - 13 กุมภาพันธ์ 2003)[131]
    • "Basic Thuganomics" โดย จอห์น ซีนา (27 มีนาคม 2003 - ปัจจุบัน)
    • "We Are One" โดย 12 Stones (WWE;3 ตุลาคม 2010 - 21 พฤศจิกายน 2010;ใช้เปิดตัวพร้อมกับ เดอะเน็กซัส)
    • "The Time is Now" โดย จอห์น ซีนา และ Tha Trademarc (WWE) (17 มีนาคม 2005 - ปัจจุบัน)

ผลงานในสมาคม WWE

จอห์น ซีนา กับ แชมป์ WWE
จอห์น ซีนา กับ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท
  • เวิลด์ แทคทีม แชมเปียนชิป (2 สมัย)[135]
    • คู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ ชนะ เอดจ์ และ แรนดี ออร์ตัน ในศึก รอว์
    • คู่กับ บาติสต้า ชนะ โคดี โรดส์ และ เท็ด ดิบิอาซี จูเนียร์ ในศึก รอว์
  • สแลมมีอวอร์ด
    • Superstar of the Year (2009, 2010, 2012)
    • Holy $#!+ Move of the Year (2010) - Sends Batista through the stage with an Attitude Adjustment.
    • Game Changer of the Year (2011) – คู่กับ เดอะ ร็อก
    • Insult of the Year (2012) - To Dolph Ziggler & Vickie Guerrero: "You're the exact opposite. One enjoys eating a lot of nuts and the other is still trying to find his."
    • Kiss of the Year (2012) – คู่กับ เอเจ

ผลงานทั้งหมด

  • Pro Wrestling Illustrated
    • PWI Feud of the Year (2006) เจอกับ เอดจ์[137]
    • PWI Feud of the Year (2011) เจอกับ ซีเอ็ม พังค์[138]
    • PWI Match of the Year (2007) เจอกับ ชอว์น ไมเคิลส์ ในศึกรอว์ วันที่ 23 เมษายน[139]
    • PWI Match of the Year (2011) เจอกับ ซีเอ็ม พังค์ ในศึก มันนีอินเดอะแบงก์[140]
    • PWI Most Improved Wrestler of the Year (2003)[141]
    • PWI Most Popular Wrestler of the Year (2004, 2005, 2007)[142]
    • PWI Wrestler of the Year (2006, 2007)[143]
    • PWI จัดในอันดับที่ 1 ของท็อป 500 อันดับ นักมวยปล้ำเดี่ยวแห่งปีใน PWI 500 ปี 2006, 2007 และ 2013[144][145]
  • Pro Wrestling Report
  • Ultimate Pro Wrestling
    • UPW Heavyweight Championship (1 สมัย)[146]
  • Wrestling Observer Newsletter Awards
    • Wrestler of the Year (2007, 2010)[147]
    • Best Box Office Draw (2007)
    • Best on Interviews (2007)
    • Feud of the Year (2011) เจอกับ ซีเอ็ม พังค์[148]
    • Match of the Year (2011) เจอกับ ซีเอ็ม พังค์ ในศึก มันนีอินเดอะแบงก์
    • Most Charismatic (2006 – 2010)
    • Most Charismatic of the Decade (2000 – 2009)[149]
    • Worst Feud of the Year (2012) เจอกับ เคน
    • Worst Worked Match of the Year (2012) เจอกับ จอห์น โลรีนายติส ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต วันที่ 20 พฤษภาคม
    • Best Gimmick (2003)[147]
    • Wrestling Observer Newsletter Hall of Fame (Class of 2012)[150]

ผลงานอื่นๆ

นอกจาก จอห์น ซีนา จะมีผลงานในสังเวียนมวยปล้ำแล้ว ยังมีผลงานอื่นๆ ดังนี้

ผลงานเพลง

  • ในปี 2004 จอห์น ซีนา ได้ร้องเพลงในอัลบัม WWE Originals ของ WWE คือเพลง Basic Thuganomics
  • ในปี 2005 ในอัลบั้มของเขาเองอย่าง You Can't See Me[151][152]

ภาพยนตร์

ปี ภาพยนตร์ รับบท หมายเหตุ
2000 Ready to Rumble Gym Trainer
2006 คนคลั่ง ล่าทะลุสุดขีดนรก จอห์น ไตรตัน บทนำ
2009 ฝ่าวิกฤติ 12 รอบระห่ำนรก แดนนี่ ฟิชเชอร์ บทนำ
2010 Legendary Mike Chetley
Fred: The Movie Fred's Imaginary Dad Television film
2011 The Reunion Sam Cleary
Fred 2: Night of the Living Fred Fred's Imaginary Dad TV film
2012 Fred 3: Camp Fred Fred's Imaginary Dad
2013 Fred 4 Fred's Imaginary Dad
2014 Scooby Doo: The Curse of the Ghost Bear
The Expendables 3

โทรทัศน์

ปี รายการ รับบท หมายเหตุ
2001 Manhunt Big Tim Kingman
2007 Fast Cars and Superstars: The Gillette Young Guns Celebrity Race ตัวเขาเอง
2010 ไซค์ Ewan O'Hara แขกรับเชิญ; ตอน: "You Can't Handle This Episode" (season 4: episode 10)
True Jackson, VP ตัวเขาเอง แขกรับเชิญ; ตอน: "Pajama Party" (season 2: episode 12)
แฮนนาห์ มอนทานา...สาวเด่น, เต้น, ร้อง... ตัวเขาเอง แขกรับเชิญ; ตอน: "Love That Lets Go" (season 4: episode 7)
Generator Rex Hunter Cain Voice role
"The Hunter" (season 1: episode 13)

เกี่ยวกับซีนา

  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกทั้งหมด 13 สมัย (แชมป์ WWE 11 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 2 สมัย)
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์ยูเอส ครั้งแรกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 โดยชนะ บิ๊กโชว์
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์ WWE ครั้งแรกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 โดยชนะ เจบีแอล
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ครั้งแรกในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) โดยชนะ คริส เจอริโค
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกแทคทีม ครั้งแรกโดยจับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ เอาชนะ เรท-อาเคโอ (เอดจ์ และ แรนดี ออร์ตัน)
  • จอห์น ซีนา สามารถยกนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าเขาได้ทุกคน
    • เดอะ เกรท คาลี นักมวยปล้ำที่สูงที่สุดในยุคปัจจุบัน
    • บิ๊กโชว์ นักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่ที่สุดและน้ำหนักมากที่สุดในยุคปัจจุบัน
    • มาร์ก เฮนรี นักมวยปล้ำที่แข็งแรงที่สุดในโลก เป็นต้น
  • จอห์น ซีนา เป็นผู้ชนะเลิศใน รอยัลรัมเบิล ปี 2008 และ 2013
  • จอห์น ซีนา เคยชนะผู้ที่เคยก่อตั้งทีมเดียวกันในนาม ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ ทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ มาแล้ว ในศึก เรสเซิลเมเนีย
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ชนะ ทริปเปิล เอช
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ชนะ ชอว์น ไมเคิลส์
  • จอห์น ซีนา ปล้ำศึก เรสเซิลเมเนีย มาแล้ว 10 ครั้ง โดย ซีนา ชนะ 7 แพ้ 3
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ชนะ บิ๊กโชว์
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 ชนะ เจบีแอล
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ชนะ ทริปเปิล เอช
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ชนะ ชอว์น ไมเคิลส์
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 แพ้ แรนดี ออร์ตัน โดยมี ทริปเปิล เอช ร่วมปล้ำด้วย
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ชนะ เอดจ์ และ บิ๊กโชว์
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 ชนะ บาติสต้า
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 แพ้ เดอะ มิซ
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 แพ้ เดอะ ร็อก
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 ชนะ เดอะ ร็อก
  • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 เป็นครั้งแรกที่ จอห์น ซีนา ปล้ำโดยที่ไม่มีเข็มขัดเส้นใดเป็นเดิมพัน
  • จอห์น ซีนา ปล้ำ ไอควิต แมทช์ มาแล้ว 4 ครั้ง และยังไม่เคยแพ้ใคร
  • จอห์น ซีนา ปล้ำศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ มาแล้ว 5 ครั้ง และยังไม่เคยแพ้ใคร
    • เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) ชนะ บิ๊กโชว์
    • เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) ชนะ บาติสต้า
    • เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) ชนะ เดอะ มิซ และ จอห์น มอร์ริสัน
    • เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) ชนะ บร็อก เลสเนอร์
    • เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) No Contest กับ ไรแบ็ค
  • จอห์น ซีนา ปล้ำ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ มาแล้ว 4 ครั้ง โดยชนะ 3 แพ้ 1
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่เอาชนะ อูมาก้า มาได้สำเร็จ
  • จอห์น ซีนา ปล้ำ ไอรอน แมน แมทช์ ครั้งแรก โดยชนะ แรนดี ออร์ตัน 6-5 ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2009)
  • จอห์น ซีนา จับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ และ บาติสต้า จนได้แชมป์โลกแทคทีม โดยเป็นคู่กรณีกัน
  • จอห์น ซีนา เปิดตัว ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ใช้งบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 100,000 ดอลลาร์
  • จอห์น ซีนา ดัดแปลงเข็มขัด แชมป์โลก WWE แบบหมุนได้ ทำให้เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในรอบ 5 ปี
  • จอห์น ซีนา และ เรย์ มิสเตริโอ คือสองคนที่แฟนๆ ต้องการลายเซ็นมากที่สุด
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่คว้าแชมป์ WWE ได้ถึง 11 สมัย
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่เอาชนะ เทนไซ มาได้สำเร็จ
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนเดียวที่เพลงเปิดตัว มีผู้โหลดใน ไอทูนส์ สูงสุดอันดับที่ 1 โดยครองถึง 2 สัปดาห์
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่ใช้กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ และไม่ได้แชมป์ WWE
  • จอห์น ซีนา ปล้ำศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ มาแล้ว 8 ครั้ง โดย ซีนา ชนะ 7 แพ้ 1
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2003) คู่กับ ทีมแองเกิล (เคิร์ต แองเกิล, คริส เบนวา, ฮาร์ดคอร์ ฮอลลี และ แบรดชอว์) ชนะ ทีมเลสเนอร์ (บร็อก เลสเนอร์, บิ๊กโชว์, Matt Morgan, นาธาน โจนส์ และ A-Train)
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2004) คู่กับ ทีมเกอร์เรโร (เอ็ดดี เกอร์เรโร, บิ๊กโชว์ และ ร็อบ แวน แดม) ชนะ ทีมแองเกิล (เคิร์ต แองเกิล, คาร์ลิโต้, Luther Reigns และ Mark Jindrak)
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2005) ชนะ เคิร์ต แองเกิล
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2006) คู่กับ ทีมซีนา (ร็อบ แวน แดม, เคน, บ็อบบี แลชลีย์ และ ซาบู) ชนะ ทีมบิ๊กโชว์ (บิ๊กโชว์, เทสต์, เอ็มวีพี, ฟินเลย์ และ อูมาก้า)
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) ชนะ คริส เจอริโค
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2009) ชนะ ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2011) คู่กับ เดอะ ร็อก ชนะ ออซัม ทรูธ (เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ)
    • เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2012) แพ้ ซีเอ็ม พังค์ โดยมี ไรแบ็ค ร่วมปล้ำด้วย

อ้างอิง

  1. Keck, William (2006-10-08). "A new action star/femme fatale pairing?". USA Today. สืบค้นเมื่อ 2007-03-27. At his Tampa home, Cena maintains a humidor that holds more than 300 cigars.
  2. 2.0 2.1 2.2 "John Cena". WWE. สืบค้นเมื่อ 2007-05-05. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "WWEProfile" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  3. "Fast Cars & Superstars - Gillette Young Guns Celebrity Race Driver Bios". ABC Media Net. สืบค้นเมื่อ 2007-06-11.
  4. "SLAM! Sports biography". CANOE. February 6, 2005. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007.
  5. Sokol, Bryan (December 20, 2010). "TLC delivers highs, lows and a new champ". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ December 20, 2010.
  6. "9 WWE Titles". WWE. สืบค้นเมื่อ September 18, 2011.
  7. "1998 Football Roster". Springfield College. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007.
  8. "John Cena Bulldog Basketball Jersey". WWE. สืบค้นเมื่อ May 6, 2007.
  9. "John Cena Personalized Beware of Dog Football Jersey". WWE. สืบค้นเมื่อ January 3, 2008.
  10. Perkins, Brad (February 2001). "Training Ground". Wrestling Digest. สืบค้นเมื่อ July 17, 2008.
  11. "Inside WWE's New Magazine". WWE. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007. Who would have guessed John Cena was once a limo driver
  12. "UPW: John "Prototype" Cena". UPW. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 17, 2008. สืบค้นเมื่อ March 13, 2008.
  13. "OVW Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  14. Hamilton, Ian. Wrestling's Sinking Ship (p.67)
  15. "SmackDown! results – June 27, 2002". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  16. "SmackDown! results – October 10, 2002". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  17. "SmackDown! results – March 6, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  18. "SmackDown! results – March 13, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  19. "SmackDown! results – March 20, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  20. "Backlash 2003 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  21. "SmackDown! results – November 13, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ July 6, 2007.
  22. "Survivor Series 2003 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ December 29, 2007.
  23. "WrestleMania XX results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  24. "SmackDown! results – November 18, 2004". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  25. "John Cena's Second Reign as US Champion". WWE. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  26. "No Way Out 2005 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  27. "Judgment Day 2005 results". Pro Wrestling history. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 7, 2007. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  28. Evans, Ant. "Power Slam". What’s going down... SW Publishing LTD. p. 4. 132.
  29. "RAW results – August 22, 2005". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  30. "2007 Wrestling Almanac & Book of Facts". Wrestling’s Historical Cards. Kappa Publishing. 2007. p. 119.
  31. McElvaney, Kevin (June 2007). "Pro Wrestling Illustrated, July 2007". WrestleMania 23. Kappa Publishing. pp. 74–101.
  32. "WWE RAW Results – December 24, 2007". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ December 25, 2007.
  33. "Royal Rumble 2008 results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ January 29, 2008.
  34. "RAW results – January 28, 2008". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
  35. "No Way Out 2008 results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ February 19, 2008.
  36. "Raw results – February 18, 2008". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
  37. "WrestleMania XXIV results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
  38. "Cena out, vows to return". World Wrestling Entertainment. August 26, 2008. สืบค้นเมื่อ August 27, 2008.
  39. "John Cena: Post-surgery interview". World Wrestling Entertainment. August 26, 2008. สืบค้นเมื่อ August 27, 2008.
  40. Sitterson, Aubrey (November 23, 2008). "The Champ is back!". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ November 24, 2008.
  41. Tello, Craig. "Gold way out". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ February 19, 2009.
  42. Passero, Mitch (April 5, 2009). "Cena reclaims his gold". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 18, 2009. สืบค้นเมื่อ April 6, 2009.
  43. Passero, Mitch (April 26, 2009). "Fueled by hatred and desperation". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ April 26, 2009.
  44. Sitterson, Aubrey (May 17, 2009). "Results:Conservation of momentum leads to victory". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ May 17, 2009.
  45. Murphy, Ryan (June 7, 2009). "Results:Submission Accomplished". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ June 14, 2009.
  46. Tello, Craig (October 25, 2009). "One Hour, Anything Goes WWE Iron Man Match scorecard". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ October 21, 2011.
  47. Caldwell, James (December 13, 2009). "Caldwell's WWE TLC PPV Report 12/13: Complete PPV report on Cena vs. Sheamus, DX vs. JeriShow, Taker vs. Batista". PWTorch. สืบค้นเมื่อ December 14, 2009.
  48. Plummer, Dale (February 22, 2010). "Batista, Jericho and Michaels capitalize on Elimination Chamber opportunities". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ February 22, 2010. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |coauthors= ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help)
  49. Adkins, Greg (February 22, 2010). "Taking the bull by the horns". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ March 29, 2010.
  50. "Results: Tale of the tape". World Wrestling Entertainment. April 25, 2010. สืบค้นเมื่อ April 29, 2010.
  51. Bishop, Matt (May 23, 2010). "Batista quits to end disappointing Over The Limit". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ May 26, 2010.
  52. Eck, Kevin (June 21, 2010). "Fatal Fourway thoughts". The Baltimore Sun. สืบค้นเมื่อ June 21, 2010.
  53. Adkins, Greg (July 18, 2010). "Results: Bank robbery". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ August 13, 2010.
  54. Adkins, Greg (August 15, 2010). "Results: The Seventh Sign". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ August 16, 2010.
  55. Hillhouse, Dave (October 4, 2010). "Hell in a Cell: Betrayal, fan interference, and flying shoes". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ October 4, 2010.
  56. 56.0 56.1 Sokol, Bryan (October 25, 2010). "Cena central to Bragging Rights; Smackdown wins again". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ October 26, 2010.
  57. Wilkenfeld, Daniel (October 25, 2010). "Caldwell's WWE Raw results 10/25: Complete "virtual time" coverage of live Raw following Bragging Rights, Bryan vs. Ziggler". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ October 26, 2010.
  58. Plummer, Dale (November 22, 2010). "RAW: The Miz cashes in as Nexus costs Orton WWE title". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ November 23, 2010.
  59. Plummer, Dale (December 7, 2010). "RAW: Cena pushes Nexus, Barrett to the breaking point". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ December 7, 2010.
  60. Plummer, Dale (December 13, 2010). "RAW: The Slammy Awards falls flat". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ December 20, 2010.
  61. Adkins, Greg (January 31, 2011). "It's good to be "King"". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ February 22, 2011.
  62. 62.0 62.1 "Results:WWE Champion The Miz def. John Cena". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ April 5, 2011. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "WWEChampionship" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  63. Wortman, James. "WWE: Homepage > TV Shows > WWE Over The Limit > WWE Over The Limit 2011 > WWE Champion John Cena vs. The Miz ("I Quit" Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ May 14, 2011.
  64. Wortman, James. "WWE Champion John Cena vs. R-Truth". WWE. สืบค้นเมื่อ June 9, 2011.
  65. "WWE Chairman Vince McMahon suspends CM Punk". World Wrestling Entertainment. June 28, 2011. สืบค้นเมื่อ June 28, 2011.
  66. James Wortman (July 4, 2011). "Raw results: Stars and gripes". WWE. สืบค้นเมื่อ July 5, 2011.
  67. Tello, Craig (July 17, 2011). "Homepage > TV Shows > Money in the Bank > Money in the Bank 2011 > CM Punk def. John Cena (New WWE Champion)". WWE. สืบค้นเมื่อ September 4, 2011.
  68. Rey Mysterio relinquishes belt on Raw (July 26, 2011). "Story:Title Glory for Cena". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ September 4, 2011.
  69. "John Cena vs. CM Punk – Undisputed WWE Championship Match". WWE. สืบค้นเมื่อ August 1, 2011.
  70. Murphy, Ryan. "John Cena def. Alberto Del Rio (New WWE Champion)". WWE. สืบค้นเมื่อ December 5, 2011.
  71. "WWE Championship Triple Threat Hell in a Cell Match". WWE. สืบค้นเมื่อ September 20, 2011.
  72. "WWE Championship Last Man Standing Match". WWE. สืบค้นเมื่อ October 11, 2011.
  73. "The Miz and R-Truth vs. John Cena and The Rock". WWE. สืบค้นเมื่อ October 31, 2011.
  74. Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 12/12: Complete "virtual-time" coverage of live three-hour Raw – Henry vs. Cena, Slammys, final TLC hype". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 20, 2011.
  75. Mitch Passero (January 30, 2012). "John Cena vs. Kane (Double Count-Out)". WWE. สืบค้นเมื่อ January 30, 2012.
  76. Giannini, Alex (February 6, 2012). "John Cena vs. Kane (Ambulance Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ February 13, 2012.
  77. Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE WRESTLEMANIA 28 PPV REPORT 4/1: Ongoing "virtual time" coverage of live PPV – Rock-Cena, Taker-Hunter, Punk-Jericho". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ April 2, 2012.
  78. Drew, Ryan. "Brock Lesnar Returns to WWE and Attacks John Cena; A Fan's Reaction - Yahoo! Sports". Sports.yahoo.com. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
  79. Tom Herrera (9.4.2012). "Raw Kick Off". WWE. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  80. Tom Herrera (23.4.2012). "Raw Results". WWE. สืบค้นเมื่อ April 24, 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  81. Tom Herrera (9.4.2012). "Extreme Rules Main event". WWE. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  82. "Extreme Rules results". WWE. 30.4.2012. สืบค้นเมื่อ 24 April 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  83. "John Cena injured against Brock Lesnar at Extreme Rules". WWE.com. 2012-04-01. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
  84. "FCW Star Asks For Help, Cena Vs. Laurinaitis News, Extreme Reunion Attendance, Taker Shirt". WrestlingInc.com. 2012-05-04. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
  85. http://www.midwestsportsfans.com/2012/05/wwe-over-the-limit-recap-john-laurinaitis-defeats-john-cena-in-main-event/
  86. May 21, 2012 (2012-05-21). "WWE Over the Limit Recap: John Laurinaitis Defeats John Cena In Main Event". Midwestsportsfans.com. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
  87. http://www.wwe.com/shows/nowayout/2012/john-cena-big-show
  88. http://www.prowrestling.net/artman/publish/WWE/article10025676.shtml
  89. http://www.wwe.com/shows/nowayout/2012/no-way-out-2012-results
  90. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 6/25: Ongoing "virtual-time" coverage of live Raw #995 - Cena vs. Jericho, MITB hype".
  91. http://www.wwe.com/shows/raw/2012-06-25/wwe-raw-results/page-5
  92. Money in the Bank Ladder Match for a WWE Championship Contract, WWE, สืบค้นเมื่อ 2012-06-25
  93. Styles, Joey (23 July 2012). "Was CM Punk justified?". WWE. สืบค้นเมื่อ 23 July 2012.
  94. Martin, Todd (23 July 2012). "Raw 1000th Episode Report". Wrestling Observer. สืบค้นเมื่อ 23 July 2012.
  95. Herrera, Tom (23 July 2012). "Raw 1,000 results: John Cena failed to win the WWE Title; The Rock floored by CM Punk". WWE. สืบค้นเมื่อ 23 July 2012.
  96. "Raw results: Raw General Manager AJ Lee gets the last laugh on WWE Champion CM Punk". WWE. สืบค้นเมื่อ 2012-07-30.
  97. "SummerSlam | Matches, Results, Videos, Photos, and More". WWE.com. สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
  98. "John Cena undergoes arm surgery?". WWE. 18 September 2012. สืบค้นเมื่อ 13 September 2012.
  99. "John Cena undergoes arm surgery?". WWE. 18 September 2012. สืบค้นเมื่อ 13 September 2012.
  100. Giannini, Alex (2012-10-16). "Did John Cena 'pass the torch' to Ryback on Raw?". WWE.com. สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
  101. "WWE Championship Triple Threat Match". WWE. สืบค้นเมื่อ 2012-11-05.
  102. Murphy, Ryan (November 19, 2012). "WWE Champion CM Punk def. John Cena and Ryback (Triple Threat Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ 2012-11-24.
  103. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 1/7".
  104. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 1/14".
  105. "Full list of Royal Rumble Match participants and eliminations". WWE. January 28, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 30, 2013. สืบค้นเมื่อ January 28, 2012.
  106. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 1/28".
  107. "WWE Raw Report CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 2/4".
  108. "CALDWELL'S WWE ELIMINATION CHAMBER PPV RESULTS 2/17".
  109. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 2/25".
  110. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 3/4".
  111. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 3/25".
  112. "CALDWELL'S WWE WRESTLEMANIA 29 PPV RESULTS".
  113. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 4/8".
  114. "RYBACK SAYS HE'S THE VILLAIN AGAINST CENA, CM PUNK NOT WORKING LIVE EVENTS & MORE".
  115. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 4/29 (Hour 3)".
  116. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 5/13 (Hour 2)".
  117. "CALDWELL'S WWE EXTREME RULES PPV RESULTS 5/19 (Hour 3)".
  118. "CALDWELL'S WWE PAYBACK PPV RESULTS 6/16 (Hour 3)".
  119. Trionfo, Richard. "WWE RAW REPORT: TOO McMANY McMAHONS?; WHAT HAPPENS WHEN YOU ARE NO LONG A HEYMAN 'CLIENT'; MARK HENRY GIVES AN EMOTIONAL SPEECH; A SCARE FOR DANIEL BRYAN; IS STEPHANIE MCMAHON THE NEW KAREN JARRETT?; WHAT IF PEOPLE DON'T COME OUT DURING PROMO SEGMENTS, HOW WOULD WE GET MATCHES?; AND MORE". PWInsider. สืบค้นเมื่อ June 20. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  120. "CALDWELL'S WWE MITB PPV RESULTS 7/14 (Hour 3): Ongoing "virtual-time" coverage of live PPV - Cena vs. Henry, MITB All-Stars".
  121. http://www.wwe.com/shows/summerslam/2013/john-cena-daniel-bryan-26131903
  122. "CALDWELL'S WWE SSLAM PPV RESULTS 8/18 (Hour 3): Cena vs. Bryan WWE Title main event, did Orton cash in?".
  123. "RAW NEWS: Cena gone 4-6 months, Triple H explanation, WWE Title & World Title pictures, RVD, new tag team, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 20 August 2013.
  124. "Home > Superstars > Raw > John Cena > Bio". WWE.com. World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ February 3, 2009.
  125. "John Cena profile". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ July 3, 2007.
  126. "Five Knuckle Shuffle". John Cena > Photos. WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 31, 2008. สืบค้นเมื่อ February 20, 2008.
  127. Golden, Hunter (January 13, 2009). "Raw Results – 1/12/09 – Sioux City, IA". WrestleView.com. สืบค้นเมื่อ March 25, 2009.
  128. Dunham, Jeremy (October 23, 2006). "IGN: SmackDown Countdown 2006: John Cena". IGN. สืบค้นเมื่อ March 26, 2009.
  129. "John Cena And Method Man: Thuganomics 101". MTV News. March 12, 2004. สืบค้นเมื่อ March 26, 2009.
  130. Hardy, R. "Slam Smack". FirstCom Production Music (FirstCom Music Library). [1]
  131. DJ Case. "Insert Bass Here". FirstCom Production Music (OneMusic Library). [2]
  132. "WWWF/WWF/WWE World Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ May 17, 2007.
  133. "World Heavyweight Championship title history". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ December 12, 2008.
  134. "WWWF/WWE United States Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ May 17, 2007.
  135. "WWWF/WWF/WWE World Tag Team Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ May 17, 2007.
  136. "OVW Southern Tag Team Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  137. "Feud of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 3, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  138. Pro Wrestling Illustrated. 33 (3): 74–75. 2012. {{cite journal}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  139. "Match of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 15, 2008. สืบค้นเมื่อ April 17, 2008.
  140. Pro Wrestling Illustrated. 33 (3): 80–81. 2012. {{cite journal}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  141. "Most Improved Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  142. "Most Popular Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  143. "Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  144. "Pro Wrestling Illustrated Top 500 – 2006". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 12, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  145. "2007 PWI 500 edition of Pro Wrestling Illustrated – cover". Pro Wrestling Illustrated. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 5, 2007. สืบค้นเมื่อ September 3, 2007. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |deadurl= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  146. "UPW Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  147. 147.0 147.1 Meltzer, Dave (January 26, 2011). "Biggest issue of the year: The 2011 Wrestling Observer Newsletter Awards Issue". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, CA: 1–40. ISSN 1083-9593.
  148. Meltzer, Dave (January 30, 2012). "January 30 Wrestling Observer Newsletter: Gigantic year-end awards issue, best and worst in all categories plus UFC on FX 1, death of Savannah Jack, ratings, tons and tons of news". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, CA. ISSN 1083-9593.
  149. Beltrán, William (August 3, 2010). "Según el Wrestling Observer... ¿Quiénes son los mejores los mejores de la década?". SuperLuchas Magazine (ภาษาSpanish). สืบค้นเมื่อ August 5, 2010.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  150. Meltzer, Dave (2012-11-12). "Nov. 12, 2012 Wrestling Observer Newsletter: WON Hall of Fame 2012 double issue, six men inducted, all the news and info from around the world and more!". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, California: 8. ISSN 1083-9593.
  151. "John Cena – Artist Chart History". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 20, 2007. สืบค้นเมื่อ May 19, 2007. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |deadurl= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  152. "Chart Log UK – 2005". สืบค้นเมื่อ September 6, 2007.

แหล่งข้อมูลอื่น

แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link FA