ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไม้กอล์ฟ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''ไม้กอล์ฟ''' ถูกใช้ในกีฬา[[กอล์ฟ]]เพื่อตี[[ลูกกอล์ฟ]] ประกอบด้วยก้านไม้ที่มีด้ามจับและหัวไม้กอล์ฟ ''[[หัวไม้]]''คือไม้ที่ใช้สำหรับการตีบนแฟร์เวย์หวังผลระยะไกล ส่วน''หัวเหล็ก''นั้นมีลักษณะที่หลากหลายเพื่อการตีในลักษณะที่ต่าง ๆ กันออกไป ''[[พัตเตอร์]]''คือไม้ที่ถูกใช้บนกรีนเพื่อตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุม
'''ไม้กอล์ฟ''' ถูกใช้ในกีฬา[[กอล์ฟ]]เพื่อตี[[ลูกกอล์ฟ]] ประกอบด้วยก้านไม้ที่มีด้ามจับและหัวไม้กอล์ฟ ''[[หัวไม้]]''คือไม้ที่ใช้สำหรับการตีบนแฟร์เวย์หวังผลระยะไกล ส่วน''หัวเหล็ก''นั้นมีลักษณะที่หลากหลายเพื่อการตีในลักษณะที่ต่าง ๆ กันออกไป ''[[พัตเตอร์]]''คือไม้ที่ถูกใช้บนกรีนเพื่อตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุม


ส่วนต่างของไม้แต่ละก้านที่สำคัญก็คือ''มุมหน้าไม้'' หรือมุมระหว่างผิวหน้าไม้กับแนวดิ่ง และเป็นมุมหน้าไม้นี่เองที่ทำให้ลูกกอล์ฟทะยานออกจากทีในลักษณะ[[การเคลื่อนที่แบบโปรเจกต์ไตล์]] ไม่ใช้มุมการเหวี่ยงไม้ ทุก ๆ การเหวี่ยงไม้ ไม้กอล์ฟจะสัมฟัสลูกกอล์ฟในลักษณะการเคลื่อนที่วิถีราบ [[แรงกระแทก]]ของไม้จะส่งผ่านไปยังลูก ในขณะที่หลุมขรุขระของลูกจะก่อให้เกิน[[การหมุนกลับหลัง]] (ถ้าลูกเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวา ลูกจะหมุมในทิศ[[ทวนเข็มนาฬิกา]]) ซึ่งการส่งผ่านแรงและการหมุนนี่เองที่ก่อให้เกิด[[แรงยกตัว]] ส่วนใหญ่แล้วทั้งหัวไม้และหัวเหล็กจะถูกระบุด้วยตัวเลข ยิ่งตัวเลขยิ่งสูง ไม้จะยิ่งสั้นและมีมุมหน้าไม้ที่สูง ซึ่งจะทำให้ลูกถูกยกตัวขึ้นสูงและมีระยะที่ต่ำ
ส่วนต่างของไม้แต่ละก้านที่สำคัญก็คือ''มุมหน้าไม้'' หรือมุมระหว่างผิวหน้าไม้กับแนวดิ่ง และเป็นมุมหน้าไม้นี่เองที่ทำให้ลูกกอล์ฟทะยานออกจากทีในลักษณะ[[การเคลื่อนที่แบบโปรเจกต์ไตล์]] ไม่ใช้มุมการเหวี่ยงไม้ ทุก ๆ การเหวี่ยงไม้ ไม้กอล์ฟจะสัมผัสลูกกอล์ฟในลักษณะการเคลื่อนที่วิถีราบ [[แรงกระแทก]]ของไม้จะส่งผ่านไปยังลูก ในขณะที่หลุมขรุขระของลูกจะก่อให้เกิน[[การหมุนกลับหลัง]] (ถ้าลูกเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวา ลูกจะหมุมในทิศ[[ทวนเข็มนาฬิกา]]) ซึ่งการส่งผ่านแรงและการหมุนนี่เองที่ก่อให้เกิด[[แรงยกตัว]] ส่วนใหญ่แล้วทั้งหัวไม้และหัวเหล็กจะถูกระบุด้วยตัวเลข ยิ่งตัวเลขยิ่งสูง ไม้จะยิ่งสั้นและมีมุมหน้าไม้ที่สูง ซึ่งจะทำให้ลูกถูกยกตัวขึ้นสูงและมีระยะที่ต่ำ


ชุดของไม้กอล์ฟสำหรับการออกรอบนั้น โดยกติกาแล้วจะต้องไม่เกิน 14 ก้าน ซึ่งจะให้ไม้แบบไหนนั้นแล้วแต่ตัวนักกอล์ฟเอง แต่โดยมากแล้วมักจะเป็นหัวไดร์ฟหนึ่งก้าน หัวไม้สองก้าน (ส่วนมากจะเป็นหัวไม้เบอร์ 3 และ 5) ชุดหัวเหล็กตั้งแต่เบอร์ 3 ถึง 9 (7 ก้าน) พิทช์ชิง เวดจ์ 1 ก้าน แซน เวดจ์ เวดจ์ 1 ก้าน พัตเตอร์ เวดจ์ 1 ก้าน และอีกก้านนั้น แล้วแต่จะเลือกใช้ โดยมากแล้ว นักกอล์ฟมักจะหลีกเลี่ยงการใช้ไม้กอล์ฟที่ยาว ซึ่งส่งผลให้ตีได้ยาก และใช้[[หัวไฮบริดจ์]]ซึ่งตีได้ง่ายและได้ผลกว่า
ชุดของไม้กอล์ฟสำหรับการออกรอบนั้น โดยกติกาแล้วจะต้องไม่เกิน 14 ก้าน ซึ่งจะให้ไม้แบบไหนนั้นแล้วแต่ตัวนักกอล์ฟเอง แต่โดยมากแล้วมักจะเป็นหัวไดร์ฟหนึ่งก้าน หัวไม้สองก้าน (ส่วนมากจะเป็นหัวไม้เบอร์ 3 และ 5) ชุดหัวเหล็กตั้งแต่เบอร์ 3 ถึง 9 (7 ก้าน) พิทช์ชิง เวดจ์ 1 ก้าน แซน เวดจ์ เวดจ์ 1 ก้าน พัตเตอร์ เวดจ์ 1 ก้าน และอีกก้านนั้น แล้วแต่จะเลือกใช้ โดยมากแล้ว นักกอล์ฟมักจะหลีกเลี่ยงการใช้ไม้กอล์ฟที่ยาว ซึ่งส่งผลให้ตีได้ยาก และใช้[[หัวไฮบริดจ์]]ซึ่งตีได้ง่ายและได้ผลกว่า
บรรทัด 10: บรรทัด 10:
หัวไม้ คือไม้กอล์ฟที่มีระยะหวังผลที่ไกล ใช้ตีส่งลูกกอล์ฟจากแฟร์เวย์ไปหาหลุมด้วยระยะที่ไกลมาก โดยทั่วไปแล้วจะมีหัวไม้ที่ใหญ่และก้านไม้ที่ยาวเพื่อเพิ่มความเร็วในการหวด โดยประวัติศาสตร์แล้วหัวไม้มักจะเคยทำจากไม้[[พลับ]] ผู้ผลิตบางราย โดยเฉพาะยี่ห้อปิง ใช้ไม้หลาย ๆ ชนิดอัดเข้าด้วยกัน จนช่วงปลาย 1980s บริษัท[[เทย์เลอร์เมด กอล์ฟ]]ได้ผลิตหัวไม้ที่ทำจากเหล็กกล้าออกขาย และในช่วงระยะหลัง ๆ มานี้ ผู้ผลิตหลาย ๆ รายใช้วัสดุอื่นที่ไม่ใช่ไม้ในการทำหัวไม้เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ ไทเทเนียม หรือ สแกนเดียม แต่ถึงแม้ว่าวัตถุดิบจะไม่ใช่ไม้แล้วก็ตาม แต่ชื่อ "หัวไม้"ยังคงใช้เรียกไม้ที่มีลักษณะและความมุ่งหมายในการใช้ที่เหมือนกัน หัวไม้ในปัจจุบันส่วนมากมีก้านไม้ที่ทำจากกราไฟต์ และหัวไม้ที่ทำจากไทเทเนียม เหล็กกล้า หรือวัสดุผสม
หัวไม้ คือไม้กอล์ฟที่มีระยะหวังผลที่ไกล ใช้ตีส่งลูกกอล์ฟจากแฟร์เวย์ไปหาหลุมด้วยระยะที่ไกลมาก โดยทั่วไปแล้วจะมีหัวไม้ที่ใหญ่และก้านไม้ที่ยาวเพื่อเพิ่มความเร็วในการหวด โดยประวัติศาสตร์แล้วหัวไม้มักจะเคยทำจากไม้[[พลับ]] ผู้ผลิตบางราย โดยเฉพาะยี่ห้อปิง ใช้ไม้หลาย ๆ ชนิดอัดเข้าด้วยกัน จนช่วงปลาย 1980s บริษัท[[เทย์เลอร์เมด กอล์ฟ]]ได้ผลิตหัวไม้ที่ทำจากเหล็กกล้าออกขาย และในช่วงระยะหลัง ๆ มานี้ ผู้ผลิตหลาย ๆ รายใช้วัสดุอื่นที่ไม่ใช่ไม้ในการทำหัวไม้เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ ไทเทเนียม หรือ สแกนเดียม แต่ถึงแม้ว่าวัตถุดิบจะไม่ใช่ไม้แล้วก็ตาม แต่ชื่อ "หัวไม้"ยังคงใช้เรียกไม้ที่มีลักษณะและความมุ่งหมายในการใช้ที่เหมือนกัน หัวไม้ในปัจจุบันส่วนมากมีก้านไม้ที่ทำจากกราไฟต์ และหัวไม้ที่ทำจากไทเทเนียม เหล็กกล้า หรือวัสดุผสม


===หัวเห
===หัวเหล็ก===
{{โครงส่วน}}

===หัวไฮบริด===
===หัวไฮบริด===
{{โครงส่วน}}
{{โครงส่วน}}
บรรทัด 18: บรรทัด 20:


[[หมวดหมู่:กอล์ฟ]]
[[หมวดหมู่:กอล์ฟ]]
{{โครง}}
{{โครงกีฬา}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:34, 16 พฤศจิกายน 2556

ไม้กอล์ฟ ถูกใช้ในกีฬากอล์ฟเพื่อตีลูกกอล์ฟ ประกอบด้วยก้านไม้ที่มีด้ามจับและหัวไม้กอล์ฟ หัวไม้คือไม้ที่ใช้สำหรับการตีบนแฟร์เวย์หวังผลระยะไกล ส่วนหัวเหล็กนั้นมีลักษณะที่หลากหลายเพื่อการตีในลักษณะที่ต่าง ๆ กันออกไป พัตเตอร์คือไม้ที่ถูกใช้บนกรีนเพื่อตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุม

ส่วนต่างของไม้แต่ละก้านที่สำคัญก็คือมุมหน้าไม้ หรือมุมระหว่างผิวหน้าไม้กับแนวดิ่ง และเป็นมุมหน้าไม้นี่เองที่ทำให้ลูกกอล์ฟทะยานออกจากทีในลักษณะการเคลื่อนที่แบบโปรเจกต์ไตล์ ไม่ใช้มุมการเหวี่ยงไม้ ทุก ๆ การเหวี่ยงไม้ ไม้กอล์ฟจะสัมผัสลูกกอล์ฟในลักษณะการเคลื่อนที่วิถีราบ แรงกระแทกของไม้จะส่งผ่านไปยังลูก ในขณะที่หลุมขรุขระของลูกจะก่อให้เกินการหมุนกลับหลัง (ถ้าลูกเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวา ลูกจะหมุมในทิศทวนเข็มนาฬิกา) ซึ่งการส่งผ่านแรงและการหมุนนี่เองที่ก่อให้เกิดแรงยกตัว ส่วนใหญ่แล้วทั้งหัวไม้และหัวเหล็กจะถูกระบุด้วยตัวเลข ยิ่งตัวเลขยิ่งสูง ไม้จะยิ่งสั้นและมีมุมหน้าไม้ที่สูง ซึ่งจะทำให้ลูกถูกยกตัวขึ้นสูงและมีระยะที่ต่ำ

ชุดของไม้กอล์ฟสำหรับการออกรอบนั้น โดยกติกาแล้วจะต้องไม่เกิน 14 ก้าน ซึ่งจะให้ไม้แบบไหนนั้นแล้วแต่ตัวนักกอล์ฟเอง แต่โดยมากแล้วมักจะเป็นหัวไดร์ฟหนึ่งก้าน หัวไม้สองก้าน (ส่วนมากจะเป็นหัวไม้เบอร์ 3 และ 5) ชุดหัวเหล็กตั้งแต่เบอร์ 3 ถึง 9 (7 ก้าน) พิทช์ชิง เวดจ์ 1 ก้าน แซน เวดจ์ เวดจ์ 1 ก้าน พัตเตอร์ เวดจ์ 1 ก้าน และอีกก้านนั้น แล้วแต่จะเลือกใช้ โดยมากแล้ว นักกอล์ฟมักจะหลีกเลี่ยงการใช้ไม้กอล์ฟที่ยาว ซึ่งส่งผลให้ตีได้ยาก และใช้หัวไฮบริดจ์ซึ่งตีได้ง่ายและได้ผลกว่า

ชนิดของไม้

หัวไม้

หัวไม้ คือไม้กอล์ฟที่มีระยะหวังผลที่ไกล ใช้ตีส่งลูกกอล์ฟจากแฟร์เวย์ไปหาหลุมด้วยระยะที่ไกลมาก โดยทั่วไปแล้วจะมีหัวไม้ที่ใหญ่และก้านไม้ที่ยาวเพื่อเพิ่มความเร็วในการหวด โดยประวัติศาสตร์แล้วหัวไม้มักจะเคยทำจากไม้พลับ ผู้ผลิตบางราย โดยเฉพาะยี่ห้อปิง ใช้ไม้หลาย ๆ ชนิดอัดเข้าด้วยกัน จนช่วงปลาย 1980s บริษัทเทย์เลอร์เมด กอล์ฟได้ผลิตหัวไม้ที่ทำจากเหล็กกล้าออกขาย และในช่วงระยะหลัง ๆ มานี้ ผู้ผลิตหลาย ๆ รายใช้วัสดุอื่นที่ไม่ใช่ไม้ในการทำหัวไม้เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ ไทเทเนียม หรือ สแกนเดียม แต่ถึงแม้ว่าวัตถุดิบจะไม่ใช่ไม้แล้วก็ตาม แต่ชื่อ "หัวไม้"ยังคงใช้เรียกไม้ที่มีลักษณะและความมุ่งหมายในการใช้ที่เหมือนกัน หัวไม้ในปัจจุบันส่วนมากมีก้านไม้ที่ทำจากกราไฟต์ และหัวไม้ที่ทำจากไทเทเนียม เหล็กกล้า หรือวัสดุผสม

หัวเหล็ก

หัวไฮบริด

พัตเตอร์