ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยาสูบ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4: บรรทัด 4:
การได้รับยาสูบมักพบในรูปของการสูบ การเคี้ยว การสูดกลิ่นหรือยาเส้นชนิดชื้อนหรือ[[สนูส]] ยาสูบได้มีประวัติการใช้เป็น[[เอ็นโธรเจน]]มาอย่างยาวนานใน[[ทวีปอเมริกา]] อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ[[ทวีปยุโรป|ชาวยุโรป]]ใน[[ทวีปอเมริกาเหนือ]] ได้ทำให้ยาสูบกลายมาเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและถูกใช้เป็นสารสร้างความสนุกสนานอย่างรวดเร็ว ความเป็นที่นิยมดังกล่าวทำให้ยาสูบเป็นสินค้าหลักในพัฒนาการทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาตอนใต้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น[[ฝ้าย]]ในเวลาต่อมา หลังจาก[[สงครามกลางเมืองอเมริกา]] ความเปลี่ยนแปลงในอุปทานและกำลังแรงงานทำให้ยาสูบสามารถผลิตเป็น[[บุหรี่]]ได้ ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้นำไปสู่การเติบโตของบริษัทบุหรี่หลายบริษัทอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งการค้นพบผลเสียของยาสูบที่เป็นข้อถกเถียงทางวิทยาศาตร์ในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1900
การได้รับยาสูบมักพบในรูปของการสูบ การเคี้ยว การสูดกลิ่นหรือยาเส้นชนิดชื้อนหรือ[[สนูส]] ยาสูบได้มีประวัติการใช้เป็น[[เอ็นโธรเจน]]มาอย่างยาวนานใน[[ทวีปอเมริกา]] อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ[[ทวีปยุโรป|ชาวยุโรป]]ใน[[ทวีปอเมริกาเหนือ]] ได้ทำให้ยาสูบกลายมาเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและถูกใช้เป็นสารสร้างความสนุกสนานอย่างรวดเร็ว ความเป็นที่นิยมดังกล่าวทำให้ยาสูบเป็นสินค้าหลักในพัฒนาการทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาตอนใต้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น[[ฝ้าย]]ในเวลาต่อมา หลังจาก[[สงครามกลางเมืองอเมริกา]] ความเปลี่ยนแปลงในอุปทานและกำลังแรงงานทำให้ยาสูบสามารถผลิตเป็น[[บุหรี่]]ได้ ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้นำไปสู่การเติบโตของบริษัทบุหรี่หลายบริษัทอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งการค้นพบผลเสียของยาสูบที่เป็นข้อถกเถียงทางวิทยาศาตร์ในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1900


เนื่องจากยาสูบมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดการเสพติด ได้แก่ [[นิโคติน]] ทำให้เกิด[[ความชินยา]]และ[[โรคติดสารเสพติด]] ปริมาณนิโคตินที่ร่างกายได้รับ ตลอดจนความถี่และความเร็วของการบริโภคยาสูบเชื่อกันว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความต้านทานทางชีวภาพของการติดและความชินยา<ref>{{cite web|url=http://www.tobaccofacts.org/tob_truth/soaddictive.html|title=Tobacco Facts - Why is Tobacco So Addictive?|publisher=Tobaccofacts.org|date=|accessdate=2008-09-18}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.stanford.edu/group/SICD/PhilipMorris/pmorris.html|title=Philip Morris Information Sheet|publisher=Stanford.edu|date=|accessdate=2008-09-18 |archiveurl = http://web.archive.org/web/20080405204802/http://www.stanford.edu/group/SICD/PhilipMorris/pmorris.html <!-- Bot retrieved archive --> |archivedate = 2008-04-05}}</ref> คาดการณ์ว่าประชากรลาว 1,100 ล้านคนทั่วโลกมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาสูบ ซึ่งคิดเป็นกว่าหนึ่งในสามของประชากรผู้ใหญ่ของโลก [[องค์การอนามัยโลก]]รายงานว่า การใช้ยาสูบอาจนำไปสู่สาเหตุการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ทั่วโลก และประมาณการว่ามีประชากรโลก 5.4 ล้านคนเสียชีวิตทุกปี<ref>{{cite journal|url=http://www.who.int/tobacco/mpower/mpower_report_forward_summary_2008.pdf|title=WHO Report on the global tobacco epidemic, 2008 (foreword and summary)|publisher=[[World Health Organization]]|year=2008|format=PDF|pages=8|quote=Tobacco is the single most preventable cause of death in the world today.}}</ref> อัตราการสูบพบว่ามีน้อยลงในประเทศพัฒนาแล้ว แต่กลับพบว่ายังมีสูงในประเทศกำลังพัฒนา
เนื่องจากยาสูบมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดการเสพติด ได้แก่ [[นิโคติน]] ทำให้เกิด[[ความชินยา]]และ[[โรคติดสารเสพติด]] ปริมาณนิโคตินที่ร่างกายได้รับ ตลอดจนความถี่และความเร็วของการบริโภคยาสูบเชื่อกันว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความต้านทานทางชีวภาพของการติดและความชินยา<ref>{{cite web|url=http://www.tobaccofacts.org/tob_truth/soaddictive.html|title=Tobacco Facts - Why is Tobacco So Addictive?|publisher=Tobaccofacts.org|date=|accessdate=2008-09-18}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.stanford.edu/group/SICD/PhilipMorris/pmorris.html|title=Philip Morris Information Sheet|publisher=Stanford.edu|date=|accessdate=2008-09-18 |archiveurl = http://web.archive.org/web/20080405204802/http://www.stanford.edu/group/SICD/PhilipMorris/pmorris.html <!-- Bot retrieved archive --> |archivedate = 2008-04-05}}</ref> คาดการณ์ว่าประชากรราว 1,100 ล้านคนทั่วโลกมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาสูบ ซึ่งคิดเป็นกว่าหนึ่งในสามของประชากรผู้ใหญ่ของโลก [[องค์การอนามัยโลก]]รายงานว่า การใช้ยาสูบอาจนำไปสู่สาเหตุการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ทั่วโลก และประมาณการว่ามีประชากรโลก 5.4 ล้านคนเสียชีวิตทุกปี<ref>{{cite journal|url=http://www.who.int/tobacco/mpower/mpower_report_forward_summary_2008.pdf|title=WHO Report on the global tobacco epidemic, 2008 (foreword and summary)|publisher=[[World Health Organization]]|year=2008|format=PDF|pages=8|quote=Tobacco is the single most preventable cause of death in the world today.}}</ref> อัตราการสูบพบว่ามีน้อยลงในประเทศพัฒนาแล้ว แต่กลับพบว่ายังมีสูงในประเทศกำลังพัฒนา


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:59, 21 กันยายน 2556

ยาสูบ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ผลิตจากใบของต้นยาสูบ ยาสูบสามารถรับประทานได้ ใช้ในสารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพ และเป็นส่วนประกอบของยาบางชนิดในรูปของนิโคตินตาร์เตรด[1] แต่ส่วนใหญ่แล้วยาสูบจะถูกใช้เป็นสารที่สร้างความสนุกสนาน และเป็นผลผลิตที่สร้างรายได้มากต่อประเทศ อย่างเช่น คิวบา จีน และสหรัฐอเมริกา

การได้รับยาสูบมักพบในรูปของการสูบ การเคี้ยว การสูดกลิ่นหรือยาเส้นชนิดชื้อนหรือสนูส ยาสูบได้มีประวัติการใช้เป็นเอ็นโธรเจนมาอย่างยาวนานในทวีปอเมริกา อย่างไรก็ตาม การมาถึงของชาวยุโรปในทวีปอเมริกาเหนือ ได้ทำให้ยาสูบกลายมาเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและถูกใช้เป็นสารสร้างความสนุกสนานอย่างรวดเร็ว ความเป็นที่นิยมดังกล่าวทำให้ยาสูบเป็นสินค้าหลักในพัฒนาการทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาตอนใต้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นฝ้ายในเวลาต่อมา หลังจากสงครามกลางเมืองอเมริกา ความเปลี่ยนแปลงในอุปทานและกำลังแรงงานทำให้ยาสูบสามารถผลิตเป็นบุหรี่ได้ ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้นำไปสู่การเติบโตของบริษัทบุหรี่หลายบริษัทอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งการค้นพบผลเสียของยาสูบที่เป็นข้อถกเถียงทางวิทยาศาตร์ในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1900

เนื่องจากยาสูบมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดการเสพติด ได้แก่ นิโคติน ทำให้เกิดความชินยาและโรคติดสารเสพติด ปริมาณนิโคตินที่ร่างกายได้รับ ตลอดจนความถี่และความเร็วของการบริโภคยาสูบเชื่อกันว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความต้านทานทางชีวภาพของการติดและความชินยา[2][3] คาดการณ์ว่าประชากรราว 1,100 ล้านคนทั่วโลกมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาสูบ ซึ่งคิดเป็นกว่าหนึ่งในสามของประชากรผู้ใหญ่ของโลก องค์การอนามัยโลกรายงานว่า การใช้ยาสูบอาจนำไปสู่สาเหตุการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ทั่วโลก และประมาณการว่ามีประชากรโลก 5.4 ล้านคนเสียชีวิตทุกปี[4] อัตราการสูบพบว่ามีน้อยลงในประเทศพัฒนาแล้ว แต่กลับพบว่ายังมีสูงในประเทศกำลังพัฒนา

อ้างอิง

  1. [1]
  2. "Tobacco Facts - Why is Tobacco So Addictive?". Tobaccofacts.org. สืบค้นเมื่อ 2008-09-18.
  3. "Philip Morris Information Sheet". Stanford.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-05. สืบค้นเมื่อ 2008-09-18.
  4. "WHO Report on the global tobacco epidemic, 2008 (foreword and summary)" (PDF). World Health Organization. 2008: 8. Tobacco is the single most preventable cause of death in the world today. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)