ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระอารามหลวง"
บรรทัด 4: | บรรทัด 4: | ||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
แต่เดิมนั้นยังไม่มีการจัดแบ่งพระอารามหลวงอย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีการจัดแบ่งพระอารามหลวงออกเป็นหลายชั้นตามความรู้สึกหรืออาศัยการคาดเดาตามสถานการณ์ เช่น ดูจากการพระราชทานเทียนพรรษาขี้ผึ้งหรือไม้เล่มเดียวหรือมากกว่านั้น หรือดูจากการบรรดาศักดิ์ที่พระราชทานแก่เจ้าพนักงานผู้คุมเลขค่าพระ เป็นต้น หลังจากนั้น [[กระทรวงธรรมการ]]ร่วมกับ[[กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ]]ได้จัดระเบียบพระอารามหลวงเพื่อประมาณค่าบำรุงวัดหลักจากเลิกเลขวัด แต่ไม่ได้นำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดระเบียบพระอารามหลวง ดังนั้น ในปี [[พ.ศ. 2458]] [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการจัดระเบียบพระอารามหลวงขึ้นอย่างเป็นระบบตั้งแต่นั้นมา<ref name="จัดระเบียบ">[[ราชกิจจานุเบกษา]], [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2458/A/284.PDF ประกาศกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสังฆการี เรื่อง จัดระเบียบพระอารามหลวง], เล่ม ๓๒, ตอน ๐ ก, ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๘, หน้า ๒๘๔ </ref> |
แต่เดิมนั้นยังไม่มีการจัดแบ่งพระอารามหลวงอย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีการจัดแบ่งพระอารามหลวงออกเป็นหลายชั้นตามความรู้สึกหรืออาศัยการคาดเดาตามสถานการณ์ เช่น ดูจากการพระราชทานเทียนพรรษาขี้ผึ้งหรือไม้เล่มเดียวหรือมากกว่านั้น หรือดูจากการบรรดาศักดิ์ที่พระราชทานแก่เจ้าพนักงานผู้คุมเลขค่าพระ เป็นต้น หลังจากนั้น [[กระทรวงธรรมการ]]ร่วมกับ[[กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ]]ได้จัดระเบียบพระอารามหลวงเพื่อประมาณค่าบำรุงวัดหลักจากเลิกเลขวัด แต่ไม่ได้นำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดระเบียบพระอารามหลวง ดังนั้น ในปี [[พ.ศ. 2458]] [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการจัดระเบียบพระอารามหลวงขึ้นอย่างเป็นระบบตั้งแต่นั้นมา<ref name="จัดระเบียบ">[[ราชกิจจานุเบกษา]], [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2458/A/284.PDF ประกาศกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสังฆการี เรื่อง จัดระเบียบพระอารามหลวง], เล่ม ๓๒, ตอน ๐ ก, ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๘, หน้า ๒๘๔ </ref> |
||
โดยในครั้งนั้น วัดที่จัดว่าเป็นพระอารามหลวงนั้น คือ วัดอันสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน สมเด็จพระราชินี สมเด็จพระยุพราช ทรงสร้าง ทรงปฏิสังขรณ์เป็นส่วนพระองค์หรือทรงในนามท่านผู้อื่น และอารามอันพระบรมวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่สร้างปฏิสังขรณ์ทรงรับไว้ในความบำรุงของแผ่นดิน<ref name="จัดระเบียบ"/> ภายหลังจึงหมายรวมถึงวัดราษฎร์ที่ที่ประชาชนสร้างหรือปฏิสังขรณ์ แล้วทรงพิจารณาเห็นสมควรยกย่องเป็นพิเศษก็ทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง<ref name="ยกวัดราษฎร์">[http://www.sakon.th.gs/doc/a63.pdf ระเบียบกระทรวงศึกาธิการ ว่าด้วยการยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง พ.ศ. 2518]</ref> |
โดยในครั้งนั้น วัดที่จัดว่าเป็นพระอารามหลวงนั้น คือ วัดอันสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน สมเด็จพระราชินี สมเด็จพระยุพราช ทรงสร้าง ทรงปฏิสังขรณ์เป็นส่วนพระองค์หรือทรงในนามท่านผู้อื่น และอารามอันพระบรมวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่สร้างปฏิสังขรณ์ทรงรับไว้ในความบำรุงของแผ่นดิน<ref name="จัดระเบียบ"/> ภายหลังจึงหมายรวมถึงวัดราษฎร์ที่ที่ประชาชนสร้างหรือปฏิสังขรณ์ แล้วทรงพิจารณาเห็นสมควรยกย่องเป็นพิเศษก็ทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง<ref name="ยกวัดราษฎร์">[http://www.sakon.th.gs/doc/a63.pdf ระเบียบกระทรวงศึกาธิการ ว่าด้วยการยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง พ.ศ. 2518]</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:02, 14 มิถุนายน 2556
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
พระอารามหลวง คือ วัดที่พระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงสร้าง หรือทรงบูรณปฏิสังขรณ์ หรือมีผู้สร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นวัดหลวง และวัดที่ราษฎรสร้าง หรือบูรณปฏิสังขรณ์ และขอพระราชทานให้ทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง
ประวัติ
แต่เดิมนั้นยังไม่มีการจัดแบ่งพระอารามหลวงอย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีการจัดแบ่งพระอารามหลวงออกเป็นหลายชั้นตามความรู้สึกหรืออาศัยการคาดเดาตามสถานการณ์ เช่น ดูจากการพระราชทานเทียนพรรษาขี้ผึ้งหรือไม้เล่มเดียวหรือมากกว่านั้น หรือดูจากการบรรดาศักดิ์ที่พระราชทานแก่เจ้าพนักงานผู้คุมเลขค่าพระ เป็นต้น หลังจากนั้น กระทรวงธรรมการร่วมกับกระทรวงพระคลังมหาสมบัติได้จัดระเบียบพระอารามหลวงเพื่อประมาณค่าบำรุงวัดหลักจากเลิกเลขวัด แต่ไม่ได้นำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดระเบียบพระอารามหลวง ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการจัดระเบียบพระอารามหลวงขึ้นอย่างเป็นระบบตั้งแต่นั้นมา[1]
โดยในครั้งนั้น วัดที่จัดว่าเป็นพระอารามหลวงนั้น คือ วัดอันสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน สมเด็จพระราชินี สมเด็จพระยุพราช ทรงสร้าง ทรงปฏิสังขรณ์เป็นส่วนพระองค์หรือทรงในนามท่านผู้อื่น และอารามอันพระบรมวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่สร้างปฏิสังขรณ์ทรงรับไว้ในความบำรุงของแผ่นดิน[1] ภายหลังจึงหมายรวมถึงวัดราษฎร์ที่ที่ประชาชนสร้างหรือปฏิสังขรณ์ แล้วทรงพิจารณาเห็นสมควรยกย่องเป็นพิเศษก็ทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง[2]
การแบ่งพระอารามหลวง
การจัดลำดับชั้นของพระอารามหลวง เริ่มมีขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2458 ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดระเบียบแบ่งชั้นพระอารามหลวงออกเป็นสามชั้น แต่ละชั้นยังแยกระดับออกไปอีกหลายระดับ โดยมีสร้อยต่อท้ายชื่อวัดตามฐานะดังนี้
- พระอารามหลวงชั้นเอก ได้แก่ วัดที่มีเจดียสถานบรรจุพระบรมอัฐิ หรือเป็นวัดที่มีเกียรติสูง มี 3 ระดับ คือ
- ชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร
- ชนิดราชวรวิหาร
- ชนิดวรมหาวิหาร
- พระอารามหลวงชั้นโท ได้แก่ วัดที่มีเจดียสถานสำคัญ มี 4 ระดับ คือ
- ชนิดราชวรมหาวิหาร
- ชนิดราชวรวิหาร
- ชนิดวรมหาวิหาร
- ชนิดวรวิหาร
- พระอารามหลวงชั้นตรี ได้แก่ วัดประจำหัวเมือง หรือวัดที่มีความสำคัญชั้นรอง มี 3 ระดับ คือ
- ชนิดราชวรวิหาร
- ชนิดวรวิหาร
- ชนิดสามัญ (ไม่มีสร้อยนามต่อท้าย)
รายชื่อพระอารามหลวงชั้นเอก
ชื่อวัด | จังหวัด | ภูมิภาค | นิกาย | สร้อยนามต่อท้าย |
---|---|---|---|---|
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | มหานิกาย | ราชวรมหาวิหาร |
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | มหานิกาย | ราชวรมหาวิหาร |
วัดสุทัศนเทพวราราม | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | มหานิกาย | ราชวรมหาวิหาร |
วัดอรุณราชวราราม | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | มหานิกาย | ราชวรมหาวิหาร |
วัดพระพุทธบาท | สระบุรี | ภาค 2 | มหานิกาย | ราชวรมหาวิหาร |
วัดพระปฐมเจดีย์ | นครปฐม | ภาค 14 | มหานิกาย | ราชวรมหาวิหาร |
วัดบวรนิเวศวิหาร | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | ธรรมยุต | ราชวรวิหาร |
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | ธรรมยุต | ราชวรวิหาร |
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | ธรรมยุต | ราชวรวิหาร |
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | มหานิกาย | ราชวรวิหาร |
วัดราชโอรสาราม | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | มหานิกาย | ราชวรวิหาร |
วัดเสนาสนาราม | พระนครศรีอยุธยา | ภาค 2 | ธรรมยุต | ราชวรวิหาร |
วัดสุวรรณดาราราม | พระนครศรีอยุธยา | ภาค 2 | มหานิกาย | ราชวรวิหาร |
วัดนิเวศธรรมประวัติ | พระนครศรีอยุธยา | ภาค 2 | ธรรมยุต | ราชวรวิหาร |
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ | สุโขทัย | ภาค 5 | มหานิกาย | ราชวรวิหาร |
วัดพระบรมธาตุไชยา | สุราษฎร์ธานี | ภาค 16 | มหานิกาย | ราชวรวิหาร |
วัดพระศรีมหาธาตุ | กรุงเทพมหานคร | ภาค 1 | ธรรมยุต | วรมหาวิหาร |
วัดญาณสังวราราม | ชลบุรี | ภาค 13 | ธรรมยุต | วรมหาวิหาร |
วัดพระธาตุพนม | นครพนม | ภาค 10 | มหานิกาย | วรมหาวิหาร |
วัดพระสิงห์ | เชียงใหม่ | ภาค 7 | มหานิกาย | วรมหาวิหาร |
วัดพระธาตุหริภุญชัย | ลำพูน | ภาค 7 | มหานิกาย | วรมหาวิหาร |
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ | พิษณุโลก | ภาค 5 | มหานิกาย | ราชวรมหาวิหาร |
วัดพระมหาธาตุฯ | นครศรีธรรมราช | ภาค 16 | ธรรมยุต | วรมหาวิหาร |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสังฆการี เรื่อง จัดระเบียบพระอารามหลวง, เล่ม ๓๒, ตอน ๐ ก, ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๘, หน้า ๒๘๔
- ↑ ระเบียบกระทรวงศึกาธิการ ว่าด้วยการยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง พ.ศ. 2518