ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 25: บรรทัด 25:


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
เขียว คาราบาว เกิดที่ [[โรงพยาบาลศิริราช]] เมื่อวันที่ [[25 มกราคม]] [[พ.ศ. 2495]] เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 5 คน และเริ่มเข้ารับการศึกษาในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ และจบการศึกษาชั้นประถมจากโรงเรียนสาธิตสวนสุนันทาวิทยาลัย จากนั้นจึงเข้าศึกษาในระดับชั้นมัธยมจาก[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย]] เขียว ชื่นชอบการเล่น[[ฟุตบอล]]อย่างมากถึงขนาดเคยเป็นตัวแทนของโรงเรียน และเริ่มสนใจดนตรีสากลโดยเริ่มหัดเล่น[[กีตาร์]]และ[[กีตาร์เบส|เบส]] โดยหัดเล่นเพลงสากลอย่างเช่น ''Hang On Sloopy'' ของวง The McCoys
เขียว คาราบาว เกิดที่[[โรงพยาบาลศิริราช]] เมื่อวันที่ [[25 มกราคม]] [[พ.ศ. 2495]] เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 5 คน และเริ่มเข้ารับการศึกษาในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ และจบการศึกษาชั้นประถมจากโรงเรียนสาธิตสวนสุนันทาวิทยาลัย จากนั้นจึงเข้าศึกษาในระดับชั้นมัธยมจาก[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย]] เขียว ชื่นชอบการเล่น[[ฟุตบอล]]อย่างมากถึงขนาดเคยเป็นตัวแทนของโรงเรียน และเริ่มสนใจดนตรีสากลโดยเริ่มหัดเล่น[[กีตาร์]]และ[[กีตาร์เบส|เบส]] โดยหัดเล่นเพลงสากลอย่างเช่น ''Hang On Sloopy'' ของวง The McCoys


หลังจบชั้นมัธยมปลาย เขียวได้เล่นดนตรีอาชีพตามบาร์ของทหารจีไอ ที่มาตั้งฐานทัพ ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พอเล่นได้ซักระยะจึงยกระดับวงของตัวเองขึ้นมาโดยมีนักดนตรีต่างชาติฝีมือดีมาเล่นรวมอยู่ในวงด้วย ทำให้ได้ย้ายมาเล่นประจำที่ตึกนายเลิศ โดยเขียวทำหน้าที่เล่น[[กีตาร์เบส|เบส]] ต่อมาเมื่อทางวงมีรายได้จากการเล่นดนตรีมากขึ้น ก็เกิดปัญหาการแบ่งค่าตัวระหว่างสมาชิกภายในวงที่เป็นคนต่างชาติและสมาชิกที่เป็นคนไทย เขียวจึงตัดสินใจยุบวงตั้งแต่ตอนนั้น และเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ที่สถาบันเทคโนโลยีมาปัว (Mapua Institute of Technology) เมือง [[มะนิลา]] [[ประเทศฟิลิปปินส์]]
หลังจบชั้นมัธยมปลาย เขียวได้เล่นดนตรีอาชีพตามบาร์ของทหารจีไอ ที่มาตั้งฐานทัพ ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พอเล่นได้ซักระยะจึงยกระดับวงของตัวเองขึ้นมาโดยมีนักดนตรีต่างชาติฝีมือดีมาเล่นรวมอยู่ในวงด้วย ทำให้ได้ย้ายมาเล่นประจำที่ตึกนายเลิศ โดยเขียวทำหน้าที่เล่น[[กีตาร์เบส|เบส]] ต่อมาเมื่อทางวงมีรายได้จากการเล่นดนตรีมากขึ้น ก็เกิดปัญหาการแบ่งค่าตัวระหว่างสมาชิกภายในวงที่เป็นคนต่างชาติและสมาชิกที่เป็นคนไทย เขียวจึงตัดสินใจยุบวงตั้งแต่ตอนนั้น และเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ที่สถาบันเทคโนโลยีมาปัว (Mapua Institute of Technology) เมือง [[มะนิลา]] [[ประเทศฟิลิปปินส์]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:42, 30 พฤษภาคม 2556

กิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร
ไฟล์:Keocarabao.jpg
เขียว กีรติ พรหมสาขาฯ กับคอนเสิร์ตคาราบาว 30ปี ที่เวโลโดรม เดือนมีนาคม พ.ศ. 2554
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดกิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร
เกิด25 มกราคม พ.ศ. 2495 (72 ปี)
แนวเพลงเพื่อชีวิต, อะคูสติก
อาชีพนักร้อง, นักดนตรี, โปรดิวเซอร์, เจ้าของร้านอาหาร ศิลปิน
เครื่องดนตรีกีตาร์
ช่วงปีพ.ศ. 2524 - ปัจจุบัน
เว็บไซต์http://www.carabao.net
http://www.steaklao.com

กิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร หรือที่รู้จักกันในชื่อ เขียว คาราบาว เป็นนักร้องและมือกีตาร์ อดีตสมาชิกวงคาราบาว และเคยมีผลงานแสดงภาพยนตร์ เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2495 ที่กรุงเทพมหานคร มีผลงานเพลงที่โด่งดังคือเพลง สัญญาหน้าฝน และ เพลง ไม่เคย

ประวัติ

เขียว คาราบาว เกิดที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2495 เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 5 คน และเริ่มเข้ารับการศึกษาในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ และจบการศึกษาชั้นประถมจากโรงเรียนสาธิตสวนสุนันทาวิทยาลัย จากนั้นจึงเข้าศึกษาในระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เขียว ชื่นชอบการเล่นฟุตบอลอย่างมากถึงขนาดเคยเป็นตัวแทนของโรงเรียน และเริ่มสนใจดนตรีสากลโดยเริ่มหัดเล่นกีตาร์และเบส โดยหัดเล่นเพลงสากลอย่างเช่น Hang On Sloopy ของวง The McCoys

หลังจบชั้นมัธยมปลาย เขียวได้เล่นดนตรีอาชีพตามบาร์ของทหารจีไอ ที่มาตั้งฐานทัพ ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พอเล่นได้ซักระยะจึงยกระดับวงของตัวเองขึ้นมาโดยมีนักดนตรีต่างชาติฝีมือดีมาเล่นรวมอยู่ในวงด้วย ทำให้ได้ย้ายมาเล่นประจำที่ตึกนายเลิศ โดยเขียวทำหน้าที่เล่นเบส ต่อมาเมื่อทางวงมีรายได้จากการเล่นดนตรีมากขึ้น ก็เกิดปัญหาการแบ่งค่าตัวระหว่างสมาชิกภายในวงที่เป็นคนต่างชาติและสมาชิกที่เป็นคนไทย เขียวจึงตัดสินใจยุบวงตั้งแต่ตอนนั้น และเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ที่สถาบันเทคโนโลยีมาปัว (Mapua Institute of Technology) เมือง มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

คาราบาว

ที่ฟิลิปปินส์ เขียว ได้พบกับเพื่อนนักเรียนไทยที่นั่น คือ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด)และ สานิตย์ ลิ่มศิลา (ไข่) ทั้ง 3 ได้ตั้งวงดนตรีที่ชื่อ "คาราบาว" ขึ้นมาเพื่อเล่นประกวดในงานดนตรีของมหาวิทยาลัย โดยขึ้นเล่นเพลง Carry On ของวง Crossby,Still,Nash & Young และเพลง Mahal Kita ซึ่งเป็นเพลงของฟิลิปปินส์ วงคาราบาวได้เข้าถึงรอบ10วงสุดท้าย ก่อนจะตกรอบต่อมา เมื่อกลับมาเมืองไทยในปี พ.ศ. 2520 เขียวได้เป็นวิศวกรประเมินราคา แต่ยังคงเล่นดนตรีสากลในนามคาราบาว ร่วมกับแอ๊ด และ ไข่ โดยใช้เวลาหลังจากเลิกงานประจำ ต่อมาเมื่อ ไข่ สานิตย์ ลิ่มศิลา ได้แยกตัวออกไป คาราบาวจึงเหลือเพียง แอ๊ดและเขียว ทั้งคู่ได้ตระเวนเล่นดนตรีตามห้องอาหารต่าง ๆ ในเวลากลางคืน ส่วนกลางวันก็ทำงานประจำ โดยทางวงจะเล่นเพลงสากลของ จอห์น เดนเวอร์ ,อิเกิ้ลส์, Crosby,Still,Nash & Young

จนในปลายปี พ.ศ. 2524 อัลบั้มชุดแรกของคาราบาวก็เกิดขึ้น ในชื่อว่า "ขี้เมา" โดยเขียว รับหน้าที่เล่นกีตาร์เบส แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก ต่อมาอัลบั้มชุด"แป๊ะขายขวด" ซึ่งวางจำหน่ายปีพ.ศ. 2525 เขียวได้เปลี่ยนหน้าที่จากเล่นเบสมาเล่นกีตาร์ และได้ร้องนำเป็นครั้งแรก โดยเป็นการร้องคู่กับ แอ๊ด ยืนยง โอภากุล ในเพลง"แป๊ะขายขวด" และยังร้องเพลง หนทางใด และเพลงพรานทะเล อัลบั้มนี้ทำให้คาราบาวเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และในอัลบั้มชุดวณิพกซึ่งวางจำหน่ายในปีถัดมา เขียว สมาชิกในตำแหน่งมือกีตาร์ ได้ร้องนำในเพลง "หัวลำโพง" ก่อนจะเริ่มหันมาทำงานและมีบทบาทเบื้องหลังกับวงคาราบาวมากขึ้น

จนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2527 คาราบาวจึงประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดจากอัลบั้มชุดที่ 5 "เมด อิน ไทยแลนด์" ซึ่งทำยอดขายในปีที่วางจำหน่ายได้ถึงกว่า 5,000,000 ก็อปปี้ และเขียว คาราบาว ได้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตทำโดยคนไทยซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของวงคาราบาว ที่เวโลโดรม หัวหมาก ซึ่งคอนเสิร์ตดังกล่าวมียอดผู้ชมมากกว่า 6,0000 คน และผลจากความสำเร็จของอัลบั้มชุดนี้ทำให้เขียว ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องเสียงเพลงแห่งเสรีภาพ ในปี พ.ศ. 2528

หลังจากนั้นเขียว คาราบาวได้ทำงานร่วมกับคาราบาวอีกหลายชุด เช่น อเมริโกย,ประชาธิปไตย,เวลคัม ทู ไทยแลนด์,ทับหลัง,ห้ามจอดควาย

การทำหน้าที่ของเขียวในวง คือ เบื้องหน้าเล่นกีตาร์,คีย์บอร์ดและร้องประสานเสียง มีร้องนำบ้างเป็นบางเพลง โดยเพลงของเขียวที่ร้องให้กับคาราบาวที่แฟนเพลงรู้จักดี คือ แป๊ะขายขวด และ สัญญาหน้าฝน ที่อยู่ในอัลบั้มชุดที่ 10 "ห้ามจอดควาย" โดยเบื้องหลัง เขียวจะรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์และควบคุมเสียง รวมถึงดูแลเรื่องธุรกิจการเงินของคาราบาว โดยเป็นงานที่เจ้าตัวถนัด

แยกวง

ในปี พ.ศ. 2533 วงคาราบาวประสบความสำเร็จกับอัลบั้ม"ห้ามจอดควาย" โดยมีเพลงที่โด่งดังอย่างมากคือเพลงสัญญาหน้าฝน ซึ่งเขียว เป็นผู้ขับร้อง ผลจากความสำเร็จของเพลงนี้ทำให้เขียว โด่งดังอย่างมาก เขียว คาราบาวจึงได้ตัดสินใจแยกออกมาจากวงคาราบาว โดยก่อนหน้านี้สมาชิกในวงอีก 3 คน คือเทียรี่ เมฆวัฒนา,อำนาจ ลูกจันทร์,ธนิสร์ ศรีกลิ่นดีได้แยกมาออกอัลบั้มเดี่ยวกันแล้ว เขียวจึงได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของตัวเองออกมาบ้างในชื่อชุด "ก่อกวน" โดยมีแอ๊ด คาราบาว แต่งเนื้อร้องเพลง ไม่เคย ซึ่งเพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตที่แฟนเพลงในสมัยนั้นรู้จักกันดี และเป็นอีกหนึ่งเพลงประจำตัวของเขียว คาราบาว นอกจากเพลง สัญญาหน้าฝน

ต่อมาในปีพ.ศ. 2536 เขียว คาราบาว ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 2 ของตนในชื่อชุด "หัวใจและเวลา" โดยเป็นการทำงานร่วมกับวงตาวัน และแอ๊ดได้แต่งเพลงให้อีกหนึ่งเพลงคือเพลง รักเหรอ โดยเพลงนี้ได้มีการทำเป็นมิวสิควิดีโอ นอกจากนี้พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ยังได้ช่วยแต่งเพลง ตายรัง ให้อีกหนึ่งเพลง ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี

ปี พ.ศ. 2537 เขียว คาราบาว ได้ออกอัลบั้มร่วมกับ ปราโมทย์ ม่วงไหมทอง อดีตมีกีตาร์ของวงซูซู และพงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ในชื่อชุด "เซอ โซไซตี้" แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ก่อนที่ ปราโมทย์ จะเสียชีวิตในอีก 3 ปีต่อมา

เขียว คาราบาวได้ออกอัลบั้มของตัวเองตามมาอีกหลายชุด โดยส่วนมากจะเป็นดนตรีในแนวอคูสติกและคันทรีบลูส์ แต่ก็ยังถือว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มเดี่ยว 2 ชุดแรก

หลังจากนั้นเขียว คาราบาวก็ยังคงกลับมาร่วมงานกับคาราบาวอีกเรื่อย ๆ เช่น การกลับมาร่วมงานในอัลบั้ม "15 ปี คาราบาว หากหัวใจยังรักควาย" ในปี พ.ศ. 2539 อัลบั้ม "อเมริกันอันธพาล" ในปี พ.ศ. 2541 ที่สมาชิกในวง 5 คน กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง และอัลบั้ม "ลูกลุงขี้เมา" ในปี พ.ศ. 2550 ในโอกาสที่คาราบาวครบ 25 ปี รวมทั้งยังเป็นแขกรับเชิญในงานคอนเสิร์ตต่าง ๆ ของวง และทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์หรือผู้ควบคุมเสียงในการผลิตอัลบั้มของวงอีกต่างหากด้วย

ชีวิตส่วนตัว

เขียว คาราบาวแต่งงานกับพรวรินทร์ พรหมสาขา ณ สกลนคร ทั้งคู่มีทั้งลูกชายและลูกสาว โดยลูกสาวของเขียวคือกิรตรา พรหมสาขา ณ สกลนคร (กิ) อดีตสมาชิกวงนีซ สังกัดโดโจ ซิตี้ ที่เคยมีผลงานในปี พ.ศ. 2541-43 และ ปัจจุบัน เป็นนักร้องสังกัด สมอลล์รูม นอกจากนี้เขียว คาราบาวยังมีกิจการของตัวเอง เป็นร้านอาหารชื่อ "สเต็กลาว เขียว คาราบาว" โดยเขียวเป็นผู้ดูแลกิจการของร้านเอง และบางครั้งจะขึ้นเล่นดนตรีให้ลูกค้าฟังอีกด้วย

คาราบาวในยุคแรกเริ่ม (จากซ้าย) เขียว, แอ๊ด, เล็ก

ผลงานเพลง

วงคาราบาว

อัลบั้มเดี่ยว

หน้าปกอัลบั้ม ก่อกวน อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก

ผลงานร่วมกับศิลปินอื่น

  • เซอโซไซตี้ (พ.ศ. 2537) ร่วมกับปราโมทย์ ม่วงไหมทอง

อัลบั้มรวมเพลง

Producer

Co-Producer

  • คอรัส เพื่อชีวิต 1 (พ.ศ. 2538)
  • คอรัส เพื่อชีวิต 2 รักคุณเท่าฟ้า (พ.ศ. 2540)
  • Carabao Dance 1 เท้าติดไฟ (พ.ศ. 2542)
  • Carabao Dance 2 ควายตกมัน (พ.ศ. 2543)

ผลงานภาพยนตร์

  • เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ (พ.ศ. 2528) แสดงเป็น เขียว
  • ขัง 8 (พ.ศ. 2545) แสดงเป็น พโยม

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

อ้างอิง