ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศ"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 35: | บรรทัด 35: | ||
เมื่อฝรั่งเศสกลับมายังกัมพูชาอีกครั้งเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง พระองค์อยู่ในฝ่ายที่เห็นว่าควรจะยอมฝรั่งเศสโดยไม่ต้องต่อต้าน<ref name="ธิบดี"/> พระองค์ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีและได้จัดตั้งกองทัพกัมพูชาตามแบบการทหารสมัยใหม่ ภายใต้ความยินยอมของฝรั่งเศสที่กลับเข้ามายึดครองกัมพูชาอีกครั้ง ต่อมาจึงเป็นกองกำลังผสมฝรั่งเศส-เขมรในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489<ref>http://lcweb2.loc.gov/cgi-bin/query/r?frd/cstdy:@field(DOCID+kh0160)</ref> พระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องการเหตุการณ์รัฐประหารต่อต้านสถาบันกษัตริย์ใน พ.ศ. 2488 สมเด็จพระนโรดม สีหนุจึงขอให้พระองค์ลดบทบาททางการเมืองลง<ref name="ธิบดี"/> หลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พระองค์ได้เป็นประมุขรัฐในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระหว่าง 6 เมษายน ถึง 13 มิถุนายน พ.ศ. 2503 |
เมื่อฝรั่งเศสกลับมายังกัมพูชาอีกครั้งเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง พระองค์อยู่ในฝ่ายที่เห็นว่าควรจะยอมฝรั่งเศสโดยไม่ต้องต่อต้าน<ref name="ธิบดี"/> พระองค์ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีและได้จัดตั้งกองทัพกัมพูชาตามแบบการทหารสมัยใหม่ ภายใต้ความยินยอมของฝรั่งเศสที่กลับเข้ามายึดครองกัมพูชาอีกครั้ง ต่อมาจึงเป็นกองกำลังผสมฝรั่งเศส-เขมรในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489<ref>http://lcweb2.loc.gov/cgi-bin/query/r?frd/cstdy:@field(DOCID+kh0160)</ref> พระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องการเหตุการณ์รัฐประหารต่อต้านสถาบันกษัตริย์ใน พ.ศ. 2488 สมเด็จพระนโรดม สีหนุจึงขอให้พระองค์ลดบทบาททางการเมืองลง<ref name="ธิบดี"/> หลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พระองค์ได้เป็นประมุขรัฐในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระหว่าง 6 เมษายน ถึง 13 มิถุนายน พ.ศ. 2503 |
||
พระองค์เป็นที่ปรึกษาทางทหารให้แก่สมเด็จพระนโรดม สีหนุระหว่าง พ.ศ. 2506 - 2513 หลังรัฐประหาร ใน พ.ศ. 2513 พระองค์ถูกฝ่าย |
พระองค์เป็นที่ปรึกษาทางทหารให้แก่สมเด็จพระนโรดม สีหนุระหว่าง พ.ศ. 2506 - 2513 หลังรัฐประหาร ใน พ.ศ. 2513 พระองค์ถูกฝ่ายของ[[ลน นล]] คุมขังระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2516 ในเหตุการณ์พนมเปญแตกเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 พระองค์เสด็จมาถึงสถานทูตฝรั่งเศสเพื่อขอลี้ภัยแต่ถูกปฏิเสธ<ref name="BROUSSARD EXPRESS 2009 lJolFCaKR">{{fr}} Philippe Broussard, « Le jour où la France céda aux Khmers rouges », dans L'Express, 12 mai 2009 [http://www.lexpress.fr/actualite/monde/asie/le-jour-ou-la-france-ceda-aux-khmers-rouges_760065.html?p=5] </ref> พระองค์ถูก[[เขมรแดง]]ประหารชีวิตในเดือนกันยายน พ.ศ. 2518 |
||
==อ้างอิง== |
==อ้างอิง== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:56, 25 เมษายน 2556
สมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศ | |
---|---|
ไฟล์:Sisowath Monireth.jpg | |
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา | |
ดำรงตำแหน่ง 17 ตุลาคม พ.ศ. 2488 – 15 ธันวาคม พ.ศ. 2489 | |
ก่อนหน้า | เซิง งอก ทัญ |
ถัดไป | นักองค์มจะ สีสุวัตถิ์ ยุทธวงศ์ |
ประมุขรัฐกัมพูชา (ผู้สำเร็จราชการ) | |
ดำรงตำแหน่ง 6 เมษายน – 13 มิถุนายน พ.ศ. 2503 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 |
เสียชีวิต | กันยายน พ.ศ. 2518 พนมเปญ |
สมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศ (Sisowath Monireth) ประสูติเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 เป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาระหว่างที่อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสระหว่าง 17 ตุลาคม พ.ศ. 2488 ถึง 15 ธันวาคม พ.ศ. 2489 พระองค์เป็นเชื้อพระวงศ์ในราชสกุลสีสุวัตถิ์ผู้มีสิทธิในการสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ แต่ฝรั่งเศสเลือกนักองค์ราชวงศ์ นโรดม สีหนุให้ขึ้นครองราชย์สมบัติแทน
พระองค์เสด็จไปเรียนวิชาทหารที่ประเทศฝรั่งเศส และทรงอาสาเข้าร่วมรบกับกองทัพฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกระทั่งเยอรมันยึดฝรั่งเศสได้ พระองค์จึงเดินทางกลับกัมพูชา [1] กลุ่มลูกเสือระยะเริ่มต้นในกัมพูชาที่เรียกว่า "องค์การเขมรกายาฤทธิ์" (เขมร: អង្គការខេមរកាយារិទ្ធិ Ankar Khemarak Kayarith) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2477 โดยสมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศ ทรงเป็นผู้นำควบคู่กับเตม อิม และปก เทียม ในช่วงแรกนี้ กิจการลูกเสือได้แพร่หลายไปยังหลายจังหวัด
เมื่อฝรั่งเศสกลับมายังกัมพูชาอีกครั้งเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง พระองค์อยู่ในฝ่ายที่เห็นว่าควรจะยอมฝรั่งเศสโดยไม่ต้องต่อต้าน[1] พระองค์ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีและได้จัดตั้งกองทัพกัมพูชาตามแบบการทหารสมัยใหม่ ภายใต้ความยินยอมของฝรั่งเศสที่กลับเข้ามายึดครองกัมพูชาอีกครั้ง ต่อมาจึงเป็นกองกำลังผสมฝรั่งเศส-เขมรในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489[2] พระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องการเหตุการณ์รัฐประหารต่อต้านสถาบันกษัตริย์ใน พ.ศ. 2488 สมเด็จพระนโรดม สีหนุจึงขอให้พระองค์ลดบทบาททางการเมืองลง[1] หลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พระองค์ได้เป็นประมุขรัฐในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระหว่าง 6 เมษายน ถึง 13 มิถุนายน พ.ศ. 2503
พระองค์เป็นที่ปรึกษาทางทหารให้แก่สมเด็จพระนโรดม สีหนุระหว่าง พ.ศ. 2506 - 2513 หลังรัฐประหาร ใน พ.ศ. 2513 พระองค์ถูกฝ่ายของลน นล คุมขังระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2516 ในเหตุการณ์พนมเปญแตกเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 พระองค์เสด็จมาถึงสถานทูตฝรั่งเศสเพื่อขอลี้ภัยแต่ถูกปฏิเสธ[3] พระองค์ถูกเขมรแดงประหารชีวิตในเดือนกันยายน พ.ศ. 2518