ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟลูต"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.3) (โรบอต เพิ่ม: or:ବଂଶୀ
Addbot (คุย | ส่วนร่วม)
Bot: Migrating 81 interwiki links, now provided by Wikidata on d:q11405 (translate me)
บรรทัด 50: บรรทัด 50:
[[หมวดหมู่:เครื่องดนตรีออร์เคสตรา]]
[[หมวดหมู่:เครื่องดนตรีออร์เคสตรา]]


[[af:Fluit]]
[[an:Flauta]]
[[ar:فلوت]]
[[as:বাঁহী]]
[[be:Флейта]]
[[be-x-old:Флейта]]
[[bg:Флейта]]
[[bo:གླིང་བུ།]]
[[br:Fleüt]]
[[bs:Flauta]]
[[ca:Flauta]]
[[cs:Flétna]]
[[cy:Ffliwt]]
[[da:Fløjte]]
[[de:Flöte]]
[[el:Φλάουτο]]
[[en:Flute]]
[[eo:Fluto]]
[[es:Flauta]]
[[et:Flööt]]
[[eu:Txirula]]
[[fa:فلوت]]
[[fi:Huilu]]
[[fr:Flûte]]
[[fy:Fluit]]
[[gl:Frauta]]
[[haw:‘Ohe kani]]
[[he:חליל צד]]
[[hi:बांसुरी]]
[[hif:Bansuri]]
[[hr:Flauta]]
[[hu:Ajaksípos hangszerek]]
[[hy:Ֆլեյտա]]
[[ia:Flauta]]
[[io:Fluto]]
[[is:Flauta]]
[[it:Flauti]]
[[ja:笛]]
[[ka:ფლეიტა]]
[[kk:Флейта]]
[[kn:ಕೊಳಲು]]
[[ko:플루트]]
[[la:Tibia (instrumentum musicum)]]
[[lij:Flòuto]]
[[lt:Fleita]]
[[lv:Flauta]]
[[mk:Флејта]]
[[ml:ഓടക്കുഴല്‍]]
[[ml:ഓടക്കുഴല്‍]]
[[ms:Seruling]]
[[nah:Tlapitzalli]]
[[new:बाँसुरी]]
[[nl:Fluit (muziekinstrument)]]
[[nn:Fløyte]]
[[no:Fløyte]]
[[oc:Flaüta]]
[[or:ବଂଶୀ]]
[[pl:Flet]]
[[pnb:ونجلی]]
[[pt:Flauta]]
[[qu:Sirinka]]
[[ro:Flaut]]
[[ru:Флейта]]
[[rue:Флавта]]
[[sh:Flauta]]
[[si:සංගීත භාණ්ඩ - බටනලාව]]
[[simple:Flute]]
[[sk:Flauta]]
[[sl:Flavta]]
[[sr:Флаута]]
[[sv:Flöjt]]
[[sw:Filimbi]]
[[ta:புல்லாங்குழல்]]
[[te:వేణువు]]
[[tg:Най]]
[[tl:Bansi]]
[[tr:Flüt]]
[[uk:Флейта]]
[[ur:بانسری]]
[[vi:Sáo (nhạc cụ)]]
[[war:Plautá]]
[[zh:笛]]
[[zh-yue:笛]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:04, 8 มีนาคม 2556

ฟลุต

ฟลูต[1] (อังกฤษ: flute) เป็นเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมไม้ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องเป่าลมประเภทอื่น ๆ ที่กำเนิดเสียงจาดการสั่นสะเทือนของลิ้น ฟลูต กำเนิดเสียงจากการผิวของลม ลักษณะเสียงของฟลูตจะมีความไพเราะ นุ่มนวล อ่อนหวาน

ประวัติ

ฟลูต เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีแรก ๆ ของโลก ฟลูตที่เป่าตามแนวนอนพบครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อ 900 ปีก่อน ค.ศ. ฟลูตได้ไปถึงยุโรปเมื่อราวปี ค.ศ. 1100 ฟลูตในช่วงปี ค.ศ. 1700 นั้นผลิตจากไม้และมีคีย์ 1-4 คีย์ ในศตวรรษที่ 19 จำนวนคีย์ได้เพิ่มเป็น 8 คีย์

ในปี ค.ศ. 1832 ผู้ผลิตเครื่องดนตรีชาวเยอรมันชื่อ Theobald Boehm ได้คิดค้นระบบการวางนิ้วของฟลูตใหม่ และเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตจากไม้เป็นโลหะ ทำให้ฟลูตสามารถเรียนรู้ได้ง่ายยิ่งขึ้นและเสียงเจิดจ้าขึ้น ระบบเดียวกันนี้ยังถูกนำไปประยุกต์ใช้กับ โอโบ คลาริเน็ต และแซกโซโฟนด้วย

ประเภทของฟลูต

ฟลูตมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา, โดยพื้นฐานแล้วฟลูตก็คือ ท่อปลายเปิดที่ถูกเป่าให้มีเสียง (เหมือนการเป่าขวด) เมื่อมีความต้องการการเครื่องดนตรีที่มีความสามารถมากขึ้น ได้ทำให้เกิดการพัฒนาจนเกิด ฟลูตตะวันตก ซึ่งมีกลุ่มของแป้นกดที่มีความซับซ้อน

ฟลูตถูกแบ่งเป็นหลายประเภท โดยส่วนใหญ่ผู้เล่นจะเป่าไปที่ขอบของฟลูตเพื่อให้เกิดเสียง อย่างไรก็ตาม ฟลูตบางประเภทอย่างเช่น ขลุ่ย, นกหวีด จะมีท่อนำลมไปยังขอบ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเล่น แต่จะทำให้ไม่สามารถควบคุมลักษณะของเสียงได้เช่นเดียวกับการผิว โดยปรกติแล้ว ขลุ่ยจะไม่ถูกเรียกว่าฟลูต ถึงแม้ว่ากายภาพ วิธีการ และเสียง จะคล้ายกับฟลูตก็ตาม

การแบ่งประเภทอีกแบบหนึ่งก็การแบ่งระหว่าง การเป่าด้านข้าง (Transverse) และการเป่าจากส่วนบน

กลุ่มหลัก ๆ ของฟลุตประกอบไปด้วย ปิคโคโล คอนเสิร์ทฟลุต อัลโตฟลุต เบสฟลุต คอนทราเบสฟลุต ซึ่งแต่ละชนิดจะมีช่วงของเสียงแตกต่างกัน ปิคโคโลจะมีเสียงสูงกว่าฟลูต ไป 1 คู่แปด แต่การเขียนโน้ตจะเขียนเช่นเดียวกับคอนเสิร์ตฟลูต อัลโตฟลูตจะให้เสียง G (โซ) ซึ่งต่ำกว่า C (โด) กลาง เสียงสูงที่สุดที่อัลโตฟลูตจะเล่นได้คือ G (โซสูง) อยู่บนเสี้นที่ 4 เหนือบรรทัด 5 เส้น เบสฟลูตจะให้เสียงต่ำกว่าคอนเสิร์ตฟลูตอยู่ 1 คู่แปด เป็นฟลูตที่ไม่ค่อยถูกนำมาเล่น มีทั้ง ฟลูตเสียงสูง ที่ให้เสียง G (โซ) ที่ให้เสียงสูงกว่า อัลโตฟลูตอยู่ 1 คู่แปด, โซปราโนฟลูต, เทเนอร์ฟลูต ฯลฯ โดยฟลูตที่มีขนาดแตกต่างจาก ฟลูต และ ปิคโคโล บางครั้งจะถูกเรียกว่า ฮาร์โมนีฟลูต

วัสดุที่ใช้ทำฟลูต

  • นิเกิล ใช้ทำฟลูตระดับนักเรียน หรือสำหรับผู้หัดเล่น ฟลูตทำจากวัสดุประเภทนี้จะมีราคาถูก มีการตอบสนองต่อการสั่นสะเทือนต่ำ ให้เสียงที่ทึบ
  • นิเกิล-ซิลเวอร์ เกิดจากการนำทองแดงผสมนิเกิล และโลหะอื่นๆอีกเล็กน้อยตามที่ผู้ผลิตต้องการ โลหะชนิดนี้ไม่มีเงินผสมอยู่ แต่มีสีเหมือนเงิน จึงเรียกว่านิเกิล-ซิลเวอร์ และมักถูกเคลือบด้วยเงินอีกชั้น ฟลูตชนิดนี้ให้เสียงที่สว่าง การตอบสนองดี ราคาสูงกว่าแบบนิเกิล
  • เงิน (Silver, Stiring Silver) ให้การตอบสนองและการโปรเจกต์เสียงที่ดีกว่านิเกิ้ลซิลเวอร์ ราคาแพงกว่าแบบนิเกิล-ซิลเวอร์มาก
  • ไม้
  • แก้ว
  • ทอง

ส่วนประกอบฟลูต

  • Headjoint หรือที่เรียกว่าปากเป่า เป็นตัวกำเนิดเสียง ประกอบด้วยส่วนต่างๆดังนี้
    • Reflector อยู่ด้านในสุดของรูเป็นตัวสร้างเสียง
    • Lip Plate เป็นส่วนวางปาก ซึ่งบน Lip Plate จะมีปากเป่า (Embouchure) เป็นส่วนให้ผู้เล่นผิวลมเข้าไป
    • Crown เป็นส่วนที่อยู่บนสุดของฟลูต สามารถหมุนออกเพื่อปรับ Refector ได้
  • Body เป็นส่วนควบคุมเสียง โดยมีส่วนคีย์และกลไกในการเล่น อาจจะมีกลไกเพิ่มเติมเช่น
    • E Mechanism
  • Foot คือส่วนหางมี 2 ประเภทคือ C Foot และ B Foot โดยฟลุตที่เป็น C Foot จะเล่นเสียงต่ำสุดได้คือ Middle C และฟลุตที่เป็น B Foot จะเล่นเสียงต่ำสุดได้คือเสียง B (ต่ำกว่า Middle C ครึ่งเสียง) ฟลูตที่เป็น B Foot จะราคาแพงกว่า ยาวกว่า และหนักกว่า C Foot

แขนงของฟลูต

อ้างอิง

  1. ณัชชา โสคติยานุรักษ์, พจนานุกรมศัพท์ดุริยางคศิลป์ (พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2543), หน้า 73