ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลำดับเลขคณิต"
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล โรบอต: แก้คำผิด |
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล เก็บกวาด |
||
บรรทัด 2: | บรรทัด 2: | ||
ถ้าหากพจน์เริ่มต้นของการก้าวหน้าเลขคณิตลำดับหนึ่งคือ ''a''<sub>1</sub> และมีผลต่างร่วมของสมาชิกที่อยู่ติดกันเท่ากับ ''d'' ดังนั้นพจน์ที่ ''n'' ของลำดับนี้คือ |
ถ้าหากพจน์เริ่มต้นของการก้าวหน้าเลขคณิตลำดับหนึ่งคือ ''a''<sub>1</sub> และมีผลต่างร่วมของสมาชิกที่อยู่ติดกันเท่ากับ ''d'' ดังนั้นพจน์ที่ ''n'' ของลำดับนี้คือ |
||
::<math>a_n = a_1 + (n - 1)d\,\!</math> |
:: <math>a_n = a_1 + (n - 1)d\,\!</math> |
||
หรือในกรณีทั่วไป จะได้ |
หรือในกรณีทั่วไป จะได้ |
||
::<math>a_n = a_m + (n - m)d\,\!</math> |
:: <math>a_n = a_m + (n - m)d\,\!</math> |
||
หรือเขียนได้ด้วยรูปแบบ[[ความสัมพันธ์เวียนเกิด]] |
หรือเขียนได้ด้วยรูปแบบ[[ความสัมพันธ์เวียนเกิด]] |
||
::<math>a_n = a_{n-1} + d\,\!</math> |
:: <math>a_n = a_{n-1} + d\,\!</math> |
||
== ผลรวม == |
== ผลรวม == |
||
[[ผลรวม]]ของสมาชิกในการก้าวหน้าเลขคณิต เรียกว่า '''อนุกรมเลขคณิต''' ({{lang-en|arithmetic series}}) ซึ่งสามารถนำเสนอได้สองแบบ ได้แก่ |
[[ผลรวม]]ของสมาชิกในการก้าวหน้าเลขคณิต เรียกว่า '''อนุกรมเลขคณิต''' ({{lang-en|arithmetic series}}) ซึ่งสามารถนำเสนอได้สองแบบ ได้แก่ |
||
::<math>S_n=a_1+(a_1+d)+(a_1+2d)+\cdots+(a_1+(n-2)d)+(a_1+(n-1)d)</math> |
:: <math>S_n=a_1+(a_1+d)+(a_1+2d)+\cdots+(a_1+(n-2)d)+(a_1+(n-1)d)</math> |
||
::<math>S_n=(a_n-(n-1)d)+(a_n-(n-2)d)+\cdots+(a_n-2d)+(a_n-d)+a_n</math> |
:: <math>S_n=(a_n-(n-1)d)+(a_n-(n-2)d)+\cdots+(a_n-2d)+(a_n-d)+a_n</math> |
||
รวมสองสมการข้างต้นเข้าด้วยกัน ทุกพจน์ที่เกี่ยวข้องกับ ''d'' จะหายไป และเหลือเพียง |
รวมสองสมการข้างต้นเข้าด้วยกัน ทุกพจน์ที่เกี่ยวข้องกับ ''d'' จะหายไป และเหลือเพียง |
||
::<math>2S_n=n(a_1+a_n)\,\!</math> |
:: <math>2S_n=n(a_1+a_n)\,\!</math> |
||
จัดรูปแบบใหม่ และในเมื่อเราทราบแล้วว่า <math>a_n = a_1 + (n-1)d</math> ดังนั้นเราจะได้ |
จัดรูปแบบใหม่ และในเมื่อเราทราบแล้วว่า <math>a_n = a_1 + (n-1)d</math> ดังนั้นเราจะได้ |
||
::<math>S_n=\frac{n(a_1 + a_n)}{2}=\frac{n[2a_1 + (n-1)d]}{2}</math> |
:: <math>S_n=\frac{n(a_1 + a_n)}{2}=\frac{n[2a_1 + (n-1)d]}{2}</math> |
||
มีเรื่องเล่ากันว่า[[คาร์ล ฟรีดริช เกาส์|เกาส์]]ได้ค้นพบสูตรนี้ เมื่อครูของเขาสั่งให้ทั้งห้องหาผลบวกของจำนวน 1 ถึง 100 และเขาก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า 5,050{{อ้างอิง}} |
มีเรื่องเล่ากันว่า[[คาร์ล ฟรีดริช เกาส์|เกาส์]]ได้ค้นพบสูตรนี้ เมื่อครูของเขาสั่งให้ทั้งห้องหาผลบวกของจำนวน 1 ถึง 100 และเขาก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า 5,050{{อ้างอิง}} |
||
บรรทัด 23: | บรรทัด 23: | ||
== ผลคูณ == |
== ผลคูณ == |
||
[[ผลคูณ]]ของสมาชิกในการก้าวหน้าเลขคณิต โดยเริ่มตั้งแต่พจน์ ''a''<sub>1</sub> ไปถึง ''a''<sub>''n''</sub> ซึ่งมีผลต่างร่วมเท่ากับ ''d'' สามารถคำนวณได้จาก |
[[ผลคูณ]]ของสมาชิกในการก้าวหน้าเลขคณิต โดยเริ่มตั้งแต่พจน์ ''a''<sub>1</sub> ไปถึง ''a''<sub>''n''</sub> ซึ่งมีผลต่างร่วมเท่ากับ ''d'' สามารถคำนวณได้จาก |
||
::<math>a_1a_2\cdots a_n = d^n {\left(\frac{a_1}{d}\right)}^{\overline{n}} = d^n \frac{\Gamma \left(a_1/d + n\right) }{\Gamma \left( a_1 / d \right) }</math> |
:: <math>a_1a_2\cdots a_n = d^n {\left(\frac{a_1}{d}\right)}^{\overline{n}} = d^n \frac{\Gamma \left(a_1/d + n\right) }{\Gamma \left( a_1 / d \right) }</math> |
||
โดยที่สัญลักษณ์ <math>x^{\overline{n}}</math> หมายถึง[[ผลคูณลำดับเพิ่ม]] (rising sequential product) และ <math>\Gamma (x)</math> แทน[[ฟังก์ชันแกมมา]] อย่างไรก็ตามสูตรนี้จะใช้งานไม่ได้เมื่อ {{nowrap|<math>a_1/d</math>}} เป็นจำนวนเต็มลบหรือศูนย์ |
โดยที่สัญลักษณ์ <math>x^{\overline{n}}</math> หมายถึง[[ผลคูณลำดับเพิ่ม]] (rising sequential product) และ <math>\Gamma (x)</math> แทน[[ฟังก์ชันแกมมา]] อย่างไรก็ตามสูตรนี้จะใช้งานไม่ได้เมื่อ {{nowrap|<math>a_1/d</math>}} เป็นจำนวนเต็มลบหรือศูนย์ |
||
นี่เป็นรูปแบบทั่วไป ซึ่งเกิดขึ้นจากการคูณสมาชิกของการก้าวหน้าเลขคณิต 1 × 2 × ... × ''n'' ที่ได้นิยามไว้แล้วใน[[แฟกทอเรียล]] ''n''! ดังนั้นผลคูณของลำดับนี้ |
นี่เป็นรูปแบบทั่วไป ซึ่งเกิดขึ้นจากการคูณสมาชิกของการก้าวหน้าเลขคณิต 1 × 2 × ... × ''n'' ที่ได้นิยามไว้แล้วใน[[แฟกทอเรียล]] ''n''! ดังนั้นผลคูณของลำดับนี้ |
||
::<math>m \times (m+1) \times (m+2) \times \cdots \times (n-2) \times (n-1) \times n \,\!</math> |
:: <math>m \times (m+1) \times (m+2) \times \cdots \times (n-2) \times (n-1) \times n \,\!</math> |
||
จะมีค่าเท่ากับ |
จะมีค่าเท่ากับ |
||
::<math>\frac{n!}{(m-1)!}</math> |
:: <math>\frac{n!}{(m-1)!}</math> |
||
โดยที่ ''m'' และ ''n'' เป็น[[จำนวนเต็ม]]บวก |
โดยที่ ''m'' และ ''n'' เป็น[[จำนวนเต็ม]]บวก |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
||
*{{cite book |
* {{cite book |
||
| title = Fibonacci's Liber Abaci |
| title = Fibonacci's Liber Abaci |
||
| author = Sigler, Laurence E. (trans.) |
| author = Sigler, Laurence E. (trans.) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:13, 31 มกราคม 2556
ในทางคณิตศาสตร์ การก้าวหน้าเลขคณิต (อังกฤษ: arithmetic progression) หรือ ลำดับเลขคณิต (อังกฤษ: arithmetic sequence) คือลำดับของจำนวนซึ่งมีผลต่างของสมาชิกสองตัวที่อยู่ติดกันในลำดับเป็นค่าคงตัว ตัวอย่างเช่น ลำดับ 3, 5, 7, 9, 11, 13, ... เป็นการก้าวหน้าเลขคณิตที่มีผลต่างร่วมเท่ากับ 2
ถ้าหากพจน์เริ่มต้นของการก้าวหน้าเลขคณิตลำดับหนึ่งคือ a1 และมีผลต่างร่วมของสมาชิกที่อยู่ติดกันเท่ากับ d ดังนั้นพจน์ที่ n ของลำดับนี้คือ
หรือในกรณีทั่วไป จะได้
หรือเขียนได้ด้วยรูปแบบความสัมพันธ์เวียนเกิด
ผลรวม
ผลรวมของสมาชิกในการก้าวหน้าเลขคณิต เรียกว่า อนุกรมเลขคณิต (อังกฤษ: arithmetic series) ซึ่งสามารถนำเสนอได้สองแบบ ได้แก่
รวมสองสมการข้างต้นเข้าด้วยกัน ทุกพจน์ที่เกี่ยวข้องกับ d จะหายไป และเหลือเพียง
จัดรูปแบบใหม่ และในเมื่อเราทราบแล้วว่า ดังนั้นเราจะได้
มีเรื่องเล่ากันว่าเกาส์ได้ค้นพบสูตรนี้ เมื่อครูของเขาสั่งให้ทั้งห้องหาผลบวกของจำนวน 1 ถึง 100 และเขาก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า 5,050[ต้องการอ้างอิง]
ผลคูณ
ผลคูณของสมาชิกในการก้าวหน้าเลขคณิต โดยเริ่มตั้งแต่พจน์ a1 ไปถึง an ซึ่งมีผลต่างร่วมเท่ากับ d สามารถคำนวณได้จาก
โดยที่สัญลักษณ์ หมายถึงผลคูณลำดับเพิ่ม (rising sequential product) และ แทนฟังก์ชันแกมมา อย่างไรก็ตามสูตรนี้จะใช้งานไม่ได้เมื่อ เป็นจำนวนเต็มลบหรือศูนย์
นี่เป็นรูปแบบทั่วไป ซึ่งเกิดขึ้นจากการคูณสมาชิกของการก้าวหน้าเลขคณิต 1 × 2 × ... × n ที่ได้นิยามไว้แล้วในแฟกทอเรียล n! ดังนั้นผลคูณของลำดับนี้
จะมีค่าเท่ากับ
โดยที่ m และ n เป็นจำนวนเต็มบวก
อ้างอิง
- Sigler, Laurence E. (trans.) (2002). Fibonacci's Liber Abaci. Springer-Verlag. pp. 259–260. ISBN 0-387-95419-8.