ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กระทิง"
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล เก็บกวาด |
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล เก็บกวาด |
||
บรรทัด 19: | บรรทัด 19: | ||
| subdivision_ranks = [[ชนิดย่อย]] |
| subdivision_ranks = [[ชนิดย่อย]] |
||
| subdivision = {{hidden begin|ชนิืดย่อย}} |
| subdivision = {{hidden begin|ชนิืดย่อย}} |
||
*''B. g. laosiensis''<br /> |
* ''B. g. laosiensis''<br /> |
||
* '' B. g. gaurus''<br /> |
* '' B. g. gaurus''<br /> |
||
* ''B. g. readei''<br /> |
* ''B. g. readei''<br /> |
||
บรรทัด 26: | บรรทัด 26: | ||
{{hidden end}} |
{{hidden end}} |
||
| synonyms = {{hidden begin|ชื่อพ้อง}} |
| synonyms = {{hidden begin|ชื่อพ้อง}} |
||
*''Bos asseel'' <small>Horsfield, 1851</small> |
* ''Bos asseel'' <small>Horsfield, 1851</small> |
||
*''Bos cavifrons'' <small>Hodgson, 1837</small> |
* ''Bos cavifrons'' <small>Hodgson, 1837</small> |
||
*''Bos frontalis'' <small>Lambert, [[ค.ศ. 1804|1804]]</small> |
* ''Bos frontalis'' <small>Lambert, [[ค.ศ. 1804|1804]]</small> |
||
*''Bos gaur'' <small>Sundevall, 1846</small> |
* ''Bos gaur'' <small>Sundevall, 1846</small> |
||
*''Bos gaurus'' <small>Lydekker, 1907</small> ssp. ''hubbacki'' |
* ''Bos gaurus'' <small>Lydekker, 1907</small> ssp. ''hubbacki'' |
||
*''Bos gour'' <small>Hardwicke, 1827</small> |
* ''Bos gour'' <small>Hardwicke, 1827</small> |
||
*''Bos subhemachalus'' <small>Hodgson, 1837</small> |
* ''Bos subhemachalus'' <small>Hodgson, 1837</small> |
||
*''Bubalibos annamiticus'' <small>Heude, 1901</small> |
* ''Bubalibos annamiticus'' <small>Heude, 1901</small> |
||
*''Gauribos brachyrhinus'' <small>Heude, 1901</small> |
* ''Gauribos brachyrhinus'' <small>Heude, 1901</small> |
||
*''Gauribos laosiensis'' <small>Heude, 1901</small> |
* ''Gauribos laosiensis'' <small>Heude, 1901</small> |
||
*''Gauribos mekongensis'' <small>Heude, 1901</small> |
* ''Gauribos mekongensis'' <small>Heude, 1901</small> |
||
*''Gauribos sylvanus'' <small>Heude, 1901</small> |
* ''Gauribos sylvanus'' <small>Heude, 1901</small> |
||
*''Uribos platyceros'' <small>Heude, 1901</small> |
* ''Uribos platyceros'' <small>Heude, 1901</small> |
||
{{hidden end}} |
{{hidden end}} |
||
| range_map = Gaur map.png |
| range_map = Gaur map.png |
||
บรรทัด 50: | บรรทัด 50: | ||
มีขนยาว ตัวสีดำหรือดำแกมน้ำตาล เว้นแต่ที่ตรงหน้าผากและครึ่งล่างของขาทั้ง 4 เป็นสีขาวเทา ๆ หรือเหลืองอย่างสีทอง เรีบกว่า "หน้าโพ" ขาทั้ง 4 ข้างตั้งแต่เหนือเข่าลงไปถึงกีบเท้ามีสีขาวเทาหรือเหลืองทอง ทำให้มองดูเหมือนสวมถุงเท้า สีขนของกระทิงบริเวณหน้าผากและถุงเท้าเกิดจากคราบน้ำมันในเหงื่อซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ชนิดนี้ คอสั้น และมีพืม (เหนียงคอ) ห้อยยาวลงมาจากใต้คอ เขามีสีเขียวเข้ม ปลายเขามีสีดบริเวณโคนเขามีรอยย่นซึ่งรอยนี้จะมีมากขึ้นเมื่อสูงวัยขึ้น |
มีขนยาว ตัวสีดำหรือดำแกมน้ำตาล เว้นแต่ที่ตรงหน้าผากและครึ่งล่างของขาทั้ง 4 เป็นสีขาวเทา ๆ หรือเหลืองอย่างสีทอง เรีบกว่า "หน้าโพ" ขาทั้ง 4 ข้างตั้งแต่เหนือเข่าลงไปถึงกีบเท้ามีสีขาวเทาหรือเหลืองทอง ทำให้มองดูเหมือนสวมถุงเท้า สีขนของกระทิงบริเวณหน้าผากและถุงเท้าเกิดจากคราบน้ำมันในเหงื่อซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ชนิดนี้ คอสั้น และมีพืม (เหนียงคอ) ห้อยยาวลงมาจากใต้คอ เขามีสีเขียวเข้ม ปลายเขามีสีดบริเวณโคนเขามีรอยย่นซึ่งรอยนี้จะมีมากขึ้นเมื่อสูงวัยขึ้น |
||
กระทิงตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ลูกที่เกิดขึ้นจะมีสีน้ำตาลแกมแดงเหมือนสีขนของ[[เก้ง]] มีเส้นสีดำพาดกลางหลัง ลูกกระทิงขนาดเล็กจะยังไม่มีถุงเท้าเหมือนกระทิงตัวโต มีความยาวลำตัวและหัว 250 - 300 [[เซนติเมตร]] หาง 70 - 105 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นถึงหัวไหล่ 170 - 185 เซนติเมตร น้ำหนัก 650 - 900 [[กิโลกรัม]] โดยตัวผู้มีน้ำหนักมากกว่าตัวเมีย มีการกระจายพันธุ์ในภาคใต้ของ[[จีน]], [[อินเดีย]], [[ภูฐาน]], [[เนปาล]], [[พม่า]], [[ไทย]], [[ลาว]], [[กัมพูชา]], [[เวียดนาม]], [[มาเลเซีย]] โดยแบ่งออกได้เป็น[[ชนิดย่อย]] |
กระทิงตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ลูกที่เกิดขึ้นจะมีสีน้ำตาลแกมแดงเหมือนสีขนของ[[เก้ง]] มีเส้นสีดำพาดกลางหลัง ลูกกระทิงขนาดเล็กจะยังไม่มีถุงเท้าเหมือนกระทิงตัวโต มีความยาวลำตัวและหัว 250 - 300 [[เซนติเมตร]] หาง 70 - 105 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นถึงหัวไหล่ 170 - 185 เซนติเมตร น้ำหนัก 650 - 900 [[กิโลกรัม]] โดยตัวผู้มีน้ำหนักมากกว่าตัวเมีย มีการกระจายพันธุ์ในภาคใต้ของ[[จีน]], [[อินเดีย]], [[ภูฐาน]], [[เนปาล]], [[พม่า]], [[ไทย]], [[ลาว]], [[กัมพูชา]], [[เวียดนาม]], [[มาเลเซีย]] โดยแบ่งออกได้เป็น[[ชนิดย่อย]] 5 ชนิด |
||
== ชนิดย่อย == |
== ชนิดย่อย == |
||
*''B. g. laosiensis'' พบในพม่าถึงจีน |
* ''B. g. laosiensis'' พบในพม่าถึงจีน |
||
*'' B. g. gaurus'' พบในอินเดียและเนปาล |
* '' B. g. gaurus'' พบในอินเดียและเนปาล |
||
*''B. g. readei'' |
* ''B. g. readei'' |
||
*''B. g. hubbacki'' พบในไทยและมาเลเซีย |
* ''B. g. hubbacki'' พบในไทยและมาเลเซีย |
||
*''B. g. frontalis'' หรือ กระทิงเขาทุย มีเขาที่สั้น เชื่อว่าเป็นลูกผสมระหว่างกระทิงกับวัวบ้าน พบในอินเดีย |
* ''B. g. frontalis'' หรือ กระทิงเขาทุย มีเขาที่สั้น เชื่อว่าเป็นลูกผสมระหว่างกระทิงกับวัวบ้าน พบในอินเดีย |
||
== พฤติกรรม == |
== พฤติกรรม == |
||
มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยฝูงหนึ่งมีสมาชิกตั้งแต่ 2 - 60 ตัว สมาชิกในฝูงประกอบด้วยตัวเมียและลูก |
มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยฝูงหนึ่งมีสมาชิกตั้งแต่ 2 - 60 ตัว สมาชิกในฝูงประกอบด้วยตัวเมียและลูก บางครั้งอาจเข้าไปหากินรวมฝูงกับ[[วัวแดง]] (''B. javanicus'') หรือสัตว์กินพืชชนิดอื่น ตัวผู้มักอาศัยอยู่ตามลำพังแต่จะเข้าไปอยู่รวมฝูงเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ฝูงกระทิงจะเดินหากินสลับไปกับการนอนหลับพักผ่อนตลอดทั้งวัน โดยบางตัวจะนอนหลับท่ายืนหรือนอนราบกับพื้น สามารถอาศัยอยู่ได้ในหลากหลายสภาพป่า ทั้ง[[ป่าเบญจพรรณ]], [[ป่าเต็งรัง]], [[ป่าดิบ|ป่าดิบแล้ง]], [[ป่าดิบ|ป่าดิบเขา]] หรือบางครั้งก็อาจเข้าไปหากินอยู่ตามไร่ร้างหรือป่าที่อยู่ในสภาพฟื้นฟูจากการทำลาย มักหากินอยู่ไม่ไกลจากแหล่งน้ำมากนักเนื่องจากอดน้ำไม่เก่ง ช่วงฤดูหลังไฟไหม้ป่า จะออกหากินยอดไม้อ่อนและหญ้าระบัดที่มีอยู่มากตามทุ่งหญ้า และป่าเต็งรัง |
||
== สถานะ == |
== สถานะ == |
||
บรรทัด 74: | บรรทัด 74: | ||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
* [http://www.thailandoutdoor.com/JungleandSea/Krating/krating.html ความฝัน, ความตั้งใจและการกลับมาของฝูงกระทิง] |
* [http://www.thailandoutdoor.com/JungleandSea/Krating/krating.html ความฝัน, ความตั้งใจและการกลับมาของฝูงกระทิง] |
||
* [http://youtube.com/watch?v=-QMHbdw0a9k |
* [http://youtube.com/watch?v=-QMHbdw0a9k Gaur 900 - 1700 kg] |
||
{{wikispecies-inline|Bos gaurus}} |
{{wikispecies-inline|Bos gaurus}} |
||
[[หมวดหมู่:สัตว์ป่าคุ้มครอง]] |
[[หมวดหมู่:สัตว์ป่าคุ้มครอง]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:30, 30 มกราคม 2556
กระทิง | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Artiodactyla |
วงศ์: | Bovidae |
วงศ์ย่อย: | Bovinae |
สกุล: | Bos |
สปีชีส์: | B. gaurus |
ชื่อทวินาม | |
Bos gaurus (Smith, 1827) | |
ชนิดย่อย | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ | |
ชื่อพ้อง | |
|
กระทิง หรือ เมย[1] (อังกฤษ: Gaur, Indian bison) เป็นวัวป่าชนิด Bos gaurus ในวงศ์ Bovidae
ลักษณะ
มีขนยาว ตัวสีดำหรือดำแกมน้ำตาล เว้นแต่ที่ตรงหน้าผากและครึ่งล่างของขาทั้ง 4 เป็นสีขาวเทา ๆ หรือเหลืองอย่างสีทอง เรีบกว่า "หน้าโพ" ขาทั้ง 4 ข้างตั้งแต่เหนือเข่าลงไปถึงกีบเท้ามีสีขาวเทาหรือเหลืองทอง ทำให้มองดูเหมือนสวมถุงเท้า สีขนของกระทิงบริเวณหน้าผากและถุงเท้าเกิดจากคราบน้ำมันในเหงื่อซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ชนิดนี้ คอสั้น และมีพืม (เหนียงคอ) ห้อยยาวลงมาจากใต้คอ เขามีสีเขียวเข้ม ปลายเขามีสีดบริเวณโคนเขามีรอยย่นซึ่งรอยนี้จะมีมากขึ้นเมื่อสูงวัยขึ้น
กระทิงตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ลูกที่เกิดขึ้นจะมีสีน้ำตาลแกมแดงเหมือนสีขนของเก้ง มีเส้นสีดำพาดกลางหลัง ลูกกระทิงขนาดเล็กจะยังไม่มีถุงเท้าเหมือนกระทิงตัวโต มีความยาวลำตัวและหัว 250 - 300 เซนติเมตร หาง 70 - 105 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นถึงหัวไหล่ 170 - 185 เซนติเมตร น้ำหนัก 650 - 900 กิโลกรัม โดยตัวผู้มีน้ำหนักมากกว่าตัวเมีย มีการกระจายพันธุ์ในภาคใต้ของจีน, อินเดีย, ภูฐาน, เนปาล, พม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย โดยแบ่งออกได้เป็นชนิดย่อย 5 ชนิด
ชนิดย่อย
- B. g. laosiensis พบในพม่าถึงจีน
- B. g. gaurus พบในอินเดียและเนปาล
- B. g. readei
- B. g. hubbacki พบในไทยและมาเลเซีย
- B. g. frontalis หรือ กระทิงเขาทุย มีเขาที่สั้น เชื่อว่าเป็นลูกผสมระหว่างกระทิงกับวัวบ้าน พบในอินเดีย
พฤติกรรม
มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยฝูงหนึ่งมีสมาชิกตั้งแต่ 2 - 60 ตัว สมาชิกในฝูงประกอบด้วยตัวเมียและลูก บางครั้งอาจเข้าไปหากินรวมฝูงกับวัวแดง (B. javanicus) หรือสัตว์กินพืชชนิดอื่น ตัวผู้มักอาศัยอยู่ตามลำพังแต่จะเข้าไปอยู่รวมฝูงเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ฝูงกระทิงจะเดินหากินสลับไปกับการนอนหลับพักผ่อนตลอดทั้งวัน โดยบางตัวจะนอนหลับท่ายืนหรือนอนราบกับพื้น สามารถอาศัยอยู่ได้ในหลากหลายสภาพป่า ทั้งป่าเบญจพรรณ, ป่าเต็งรัง, ป่าดิบแล้ง, ป่าดิบเขา หรือบางครั้งก็อาจเข้าไปหากินอยู่ตามไร่ร้างหรือป่าที่อยู่ในสภาพฟื้นฟูจากการทำลาย มักหากินอยู่ไม่ไกลจากแหล่งน้ำมากนักเนื่องจากอดน้ำไม่เก่ง ช่วงฤดูหลังไฟไหม้ป่า จะออกหากินยอดไม้อ่อนและหญ้าระบัดที่มีอยู่มากตามทุ่งหญ้า และป่าเต็งรัง
สถานะ
สถานะในประเทศไทยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 2 พบเพียงที่เดียว คือ เขาแผงม้า ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และสถานะในสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในระดับ CR (Critically Endangered) หมายถึงมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในพื้นที่ธรรมชาติขณะนี้
อ้างอิง
- หนังสือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน (กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2543) โดย กองทุนสัตว์ป่าโลก ISBN 974-87081-5-2
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Bos gaurus ที่วิกิสปีชีส์