ผลต่างระหว่างรุ่นของ "งูหลามปากเป็ด"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
| name = งูหลามปากเป็ด
| name = งูหลามปากเป็ด
| image = Python curtus.jpg
| image = Python curtus.jpg
| image_size = 250px
| image_size =
| image_caption =
| image_caption =
| regnum = [[Animal]]ia
| regnum = [[Animal]]ia
บรรทัด 21: บรรทัด 21:
| range_map =Geographic distributions-Python.curtus-brongersmai-breitensteini.jpg
| range_map =Geographic distributions-Python.curtus-brongersmai-breitensteini.jpg
| range_map_caption = [[แผนที่]]แสดงการกระจายพันธุ์ของงูหลามปากเป็ด
| range_map_caption = [[แผนที่]]แสดงการกระจายพันธุ์ของงูหลามปากเป็ด
| range_map_width = 250px
| range_map_width =
| synonyms =*''Python breitensteini'' <small>Steindachner, [[ค.ศ. 1881|1881]]</small>
| synonyms =*''Python breitensteini'' <small>Steindachner, [[ค.ศ. 1881|1881]]</small>
*''Aspidoboa curta'' <small>Sauvage, [[ค.ศ. 1884|1884]]</small>
*''Aspidoboa curta'' <small>Sauvage, [[ค.ศ. 1884|1884]]</small>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:54, 18 มกราคม 2556

งูหลามปากเป็ด
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Reptilia
อันดับ: Squamata
อันดับย่อย: Serpentes
วงศ์: Pythonidae
สกุล: Python
สปีชีส์: P.  curtus
ชื่อทวินาม
Python curtus
Schlegel, 1872
ชนิดย่อย
  • P. c. curtus
  • P. c. breitensteini
  • P. c. brongersmai
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของงูหลามปากเป็ด
ชื่อพ้อง
  • Python breitensteini Steindachner, 1881
  • Aspidoboa curta Sauvage, 1884

งูหลามปากเป็ด (อังกฤษ: Blood python; ชื่อวิทยาศาสตร์: Python curtus) เป็นงูไม่มีพิษ มีลำตัวที่อ้วน หนา กว่างูหลามและงูเหลือม แต่มีหางที่สั้นแลดูไม่สมส่วน และมีลวดลายที่แปลกออกไป มีหลายหลากสี ทั้งน้ำตาล แดง เหลือง ส้ม หรือ เขียว โดยงูแต่ละตัวจะมีสีสันและลวดลายต่างกันออกไป ขนาดโตเต็มที่ได้ประมาณ 1.50 เมตร จัดเป็นงูที่มีขนาดที่สุดในสกุลนี้

พบในประเทศไทยตั้งแต่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป จนถึงมาเลเซียและสิงคโปร์ เป็นงูที่ไม่ค่อยขึ้นต้นไม้ มักจะซุ่มรออาหารตามพื้นดินที่เฉอะแฉะใกล้แหล่งน้ำ[1] ที่โดยมากเป็นสัตว์เลือดอุ่นขนาดเล็ก งูหลามปากเป็ดวางไข่ครั้งละประมาณ 30-50 ฟอง [2]

แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดย่อย คือ P. c. curtus, P. c. breitensteini พบในบอร์เนียว และ P. c. brongersmai พบในเพนนิซูล่าของมาเลเซียและสิงคโปร์ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ที่นิยมสัตว์เลื้อยคลานเพราะมีความสวยงาม

ซึ่งในบางข้อมูลจะให้ชนิดย่อยทั้ง 3 ชนิดนี้เป็นชนิดใหม่ต่างหากไปเลย[3] [4]

รูปภาพ

อ้างอิง