ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง–พัทยา)"
SantoshBot (คุย | ส่วนร่วม) ล r2.7.3) (โรบอต เพิ่ม: id:Bandar Udara Internasional U-Tapao |
|||
บรรทัด 6: | บรรทัด 6: | ||
| IATA = UTP |
| IATA = UTP |
||
| ICAO = VTBU<BR> |
| ICAO = VTBU<BR> |
||
[[ |
[[ไฟล์:Dotmap-UTP-RTNAF.jpg|200px]] |
||
| type = สาธารณะ/ทหาร |
| type = สาธารณะ/ทหาร |
||
| owner = |
| owner = |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:11, 11 มกราคม 2556
12°40′47″N 101°00′18″E / 12.67972°N 101.00500°E
ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ข้อมูลสำคัญ | |||||||||||
การใช้งาน | สาธารณะ/ทหาร | ||||||||||
ผู้ดำเนินงาน | รัฐบาล | ||||||||||
พื้นที่บริการ | จังหวัดระยอง ประเทศไทย | ||||||||||
ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล | 13 เมตร / 42 ฟุต | ||||||||||
ทางวิ่ง | |||||||||||
| |||||||||||
ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาพัทยา หรือที่นิยมเรียกและรู้จักกันดีในชื่อ สนามบินอู่ตะเภา (อังกฤษ: U-Tapao Pattaya International Airport) เป็นสนามบินตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเทพมหานคร อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 18 เมตร ห่างจากจังหวัดประมาณ 30 กิโลเมตร และอยู่ห่าง จากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 190 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ กองการบินทหารเรือ, กองเรือยุทธการ และ กองการท่าอากาศยานอู่ตะเภา
ประวัติ
ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานภายใต้การดูแลของกองทัพเรือไทย ริเริ่มโครงการในปี พ.ศ. 2504 สืบเนื่องจากกองทัพเรือต้องการก่อสร้างสนามบินทหารเรือ จึงดำเนินการสำรวจพื้นที่บริเวณจังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง ณ เวลานั้น กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติให้ฝูงบินทหารเรือสังกัดกองเรือยุทธการ โดยใช้สนามบินกองทัพอากาศดอนเมืองเป็นสนามบินชั่วคราว
ต่อมากองบัญชาการทหารสูงสุดอนุมัติสร้างสนามบินแห่งใหม่ของกองทัพเรือบริเวณหมู่บ้านอู่ตะเภา จังหวัดระยอง โดยเป็นทางวิ่งลาดยางความยาว 1,200 เมตร เมื่อการก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อย ในขณะนั้น ได้เกิดการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในเวียดนามใต้ และประเทศลาว รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเห็นว่าต้องสร้างสนามบินขนาดใหญ่ในประเทศไทยเพิ่มเติม
ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลไทยและสหรัฐอเมริกาได้มีโครงการร่วมกัน โดยคณะรัฐมนตรีได้ลงมติให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาในปี พ.ศ. 2508 เพื่อเป็นหน่วยในการลำเลียงหน่วยรบไปยังจุดยุทธศาสตร์ต่างๆภายในประเทศ การก่อสร้างแล้วเสร็จในระยะเวลาประมาณ 1 ปี จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในเวลานั้น มีคำสั่งให้สนามบินแห่งนี้ให้กองทัพเรือใช้ในราชการ และดูแลรักษาสนามบิน โดยใช้ชื่อว่า "สนามบินอู่ตะเภา"
ในปี พ.ศ. 2519 กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทย รวมทั้งสนามบินอู่ตะเภาด้วย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ และเป็นสนามบินสำรองของท่าอากาศยานดอนเมือง
หลังจากการปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาโดยกรมการบินพาณิชย์ คณะรัฐมนตรีเห็นว่าควรใช้ประโยชน์จากสนามบินอู่ตะเภามากขึ้น จึงพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานสากล โดยใช้ชื่อว่า "สนามบินนานาชาติระยอง-อู่ตะเภา" ภายใต้สังกัดของกองทัพเรือ โดยให้พัฒนาเป็นสนามบินพาณิชย์ร่วมกับกรมการบินพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม
การบินไทยได้ตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยานลำตัวกว้างแห่งที่สองขึ้นที่สนามบินอู่ตะเภา โดยศูนย์ซ่อมนี้สามารถรองรับเครื่องบิน ตระกูล Boeing 737,747 และ 777 และเครื่องบินตระกูล Airbus A300 A330 A340
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 มีการเปิดให้ใช้สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในการระบายผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย แทนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองที่ถูกคำสั่งปิดเนื่องจากมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
รายชื่อสายการบิน
- บางกอกแอร์เวย์ - ภูเก็ต, สมุย
- สายการบินโซล่าร์ แอร์ - ดอนเมือง, กัมพูชา(เสียมเรียบ)
การคมนาคม
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทาง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หรือ ถนนบางนา-ตราด
อุปสรรคและการวิพากษ์วิจารณ์
สนามบินอู่ตะเภา สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่เช่น Boeing 747 หรือ A380 ได้ แต่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงทำให้ไม่มีเที่ยวบินประจำมากนัก เที่ยวบินระหว่างประเทศที่มาใช้บริการเป็นแบบเช่าเหมาลำส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจากประเทศรัสเซีย
สนามบินอู่ตะเภาได้แสดงศักยภาพอีกครั้งเมื่อเหตุการณ์บุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2551 แต่เนื่องด้วยมีอาคารผู้โดยสารขนาดเล็ก และ อุปกรณ์ภาคพื้นไม่เพียงพอ ทำให้มีสภาพแออัดในช่วงเวลาดังกล่าว
นอกจากนี้สนามบินอู่ตะเภา ยังถูกใช้งานในภารกิจเที่ยวบินทางทหาร และ เที่ยวบินขนส่งเพื่อมนุษยธรรม ในเหตุการณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
โครงการในอนาคต
ภายหลังเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง รัฐบาลได้เห็นความจำเป็นในการเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา ให้มากขึ้น จึงได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ โดยใช้รูปแบบใกล้เคียงกับท่าอากาศยานพิษณุโลก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด อาคารเหล่านี้จะเริ่มก่อสร้างปี พ.ศ. 2553 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2555
อ้างอิง
- ↑ Airport information for VTBU at World Aero Data. Data current as of October 2006.. Source: DAFIF.
- ↑ Airport information for UTP at Great Circle Mapper. Source: DAFIF (effective Oct. 2006).