ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การปฏิวัติรัสเซีย"
SantoshBot (คุย | ส่วนร่วม) ล r2.7.3) (โรบอต เพิ่ม: pa:ਰੂਸੀ ਇਨਕਲਾਬ |
|||
บรรทัด 20: | บรรทัด 20: | ||
| combatant1 = {{flag|รัสเซีย}} |
| combatant1 = {{flag|รัสเซีย}} |
||
| combatant2 = {{flagicon image|Flag of Russia.svg}} รัฐบาลเฉพาะกาลแห่งรัสเซีย |
| combatant2 = {{flagicon image|Flag of Russia.svg}} รัฐบาลเฉพาะกาลแห่งรัสเซีย |
||
| combatant3 = [[ |
| combatant3 = [[ไฟล์:Socialist red flag.svg|border|22px]] โซเวียตเปโตรกราด<br>[[ไฟล์:Socialist red flag.svg|border|22px]] [[บอลเชวิก|พรรคบอลเชวิก]] |
||
| commander1 = {{flagicon|Russian Empire}} [[ซาร์นีโคไลที่ 2 แห่งรัสเซีย|ซาร์นิโคลัสที่สอง]] |
| commander1 = {{flagicon|Russian Empire}} [[ซาร์นีโคไลที่ 2 แห่งรัสเซีย|ซาร์นิโคลัสที่สอง]] |
||
| commander2 = {{flagicon|Russia}} อเล็กซานเดอร์ เคเรนสกี |
| commander2 = {{flagicon|Russia}} อเล็กซานเดอร์ เคเรนสกี |
||
| commander3 = [[ |
| commander3 = [[ไฟล์:Socialist red flag.svg|border|22px]] [[วลาดีมีร์ เลนิน]] |
||
| strength1 = |
| strength1 = |
||
| strength2 = |
| strength2 = |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:10, 11 มกราคม 2556
การปฏิวัติรัสเซีย พ.ศ. 2460 | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ที่ประชุมของโซเวียต ณ เปโตรกราด พ.ศ. 2460 | ||||||||
| ||||||||
คู่สงคราม | ||||||||
รัสเซีย | รัฐบาลเฉพาะกาลแห่งรัสเซีย |
โซเวียตเปโตรกราด พรรคบอลเชวิก | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | ||||||||
ซาร์นิโคลัสที่สอง | อเล็กซานเดอร์ เคเรนสกี | วลาดีมีร์ เลนิน |
การปฏิวัติรัสเซีย พ.ศ. 2460 (อังกฤษ: Russian Revolution of 1917) คือภาพรวมของระลอกการปฏิวัติในรัสเซียช่วงปี พ.ศ. 2460 ซึ่งทำลายระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระเจ้าซาร์ และนำไปสู่การก่อตั้งสหภาพโซเวียต พระเจ้าซาร์ถูกถอดพระอิสริยยศและแทนที่ด้วยรัฐบาลเฉพาะกาลในการปฏิวัติครั้งแรกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2460 (ตามปฏิทินจูเลียนซึ่งรัสเซียยังคงใช้อยู่ในขณะนั้น แต่ตรงกับเดือนมีนาคมตามปฏิทินเกรโกเรียน) ในการปฏิวัติครั้งที่สองในเดือนตุลาคม รัฐบาลเฉพาะกาลถูกโค้นล้มและแทนที่ด้วยรัฐบาลพรรคบอลเชวิก (คอมมิวนิสต์)
การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ (เดือนมีนาคม พ.ศ. 2460 ตามปฏิทินเกรโกเรียน) เป็นการปฏิวัติในเฉพาะบริเวณนครเปโตรกราด (ปัจจุบัน: เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) ภายใต้ภาวะความวุ่นวายนั้นเอง สมาชิกรัฐสภาหลวงดูมาถือโอกาสเข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศและจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้น เหล่าผู้นำกองทัพต่างรู้สึกว่าความพยายามปราบปรามการจราจลของตนนั้นไร้ผล และพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 พระเจ้าซาร์แห่งรัสเซียองค์สุดท้ายก็ทำการสละราชสมบัติ ในตอนแรกเริ่ม พวกโซเวียต (สภาแรงงาน) ซึ่งนำโดยพวกสังคมนิยมหัวรุนแรงอนุญาตให้รัฐบาลเฉพาะกาลเข้าบริหารประเทศ แต่ยืนยันให้พวกตนได้รับอภิสิทธิ์ในการแทรกแซงรัฐบาลและควบคุมกองกำลังต่างๆ มากมาย กล่าวได้ว่าการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์เกิดขึ้นในบริบทของความพ่ายแพ้ทางทหารอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2457 - 2461) ซึ่งทำให้กองทัพส่วนมากอยู่ในสภาพของการก่อกบฏ
ช่วงเวลาของ อำนาจคู่ (Dual power) จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลเฉพาะกาลครอบครองอำนาจรัฐ ขณะที่เครือข่ายโซเวียตแห่งชาติซึ่งนำโดยพวกสังคมนิยมก็ได้รับการสวามิภักดิ์จากเหล่าชนชั้นล่างและพวกฝ่ายซ้าย และตลอดช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายนี้มีการก่อกบฏ, ประท้วง และนัดหยุดงานมากมายหลายครั้ง ต่อมารัฐบาลเฉพาะกาลตัดสินใจที่จะยังคงทำสงครามกับเยอรมนีต่อไป ส่งผลให้พวกบอลเชวิกและนักสังคมนิยมกลุ่มต่างๆ เริ่มออกมารณรงค์ให้ยุติการสู้รบกับเยอรมนี บอลเชวิกได้ทำการเปลี่ยนกองกำลังจากชนชั้นแรงงานให้ไปเป็น เรดการ์ด ซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นกองทัพแดง และกองกำลังนี้เองที่บอลเชวิกควบคุมเอาใจใส่อย่างมีนัยสำคัญ[1]
ถัดมาในการปฏิวัติเดือนตุลาคม (เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2460 ตามปฏิทินเกรโกเรียน) พรรคบอลเชวิกภายใต้การนำของวลาดีมีร์ เลนินและเหล่าชนชั้นแรงงานโซเวียตเข้าล้มล้างการปกครองของรัฐบาลเฉพาะกาล ณ กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พวกบอลเชวิกแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นผู้นำในกระทรวงต่างๆ มากมายรวมไปถึงการเข้ายึดอำนาจตามชนบทต่างๆ จัดตั้งหน่วย เชกา เพื่อปราบปรามการต่อต้านการปฏิวัติ และเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการยุติสงครามกับเยอรมนี บอลเชวิกได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาเบรสต์-ลิโตฟส์กกับเยอรมนีในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2461
สงครามกลางเมืองอุบัติขึ้นระหว่าง กองทัพแดง (ฝ่ายบอลเชวิก) กับ กองทัพขาว (ฝ่ายต่อต้านบอลเชวิก) ซึ่งดำเนินไปหลายปี แต่ในท้ายที่สุดแล้วกองทัพแดงของฝ่ายบอลเชวิกก็มีชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือฝ่ายกองทัพขาว และการสิ้นสุดลงของระลอกการปฏิวัตินี้เองที่ปูทางรัสเซียให้เขาสู่ยุคของสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต แม้ว่าเหตุการณ์หลักทางประวัติศาสตร์ส่วนมากจะเกิดขึ้นในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและกรุงมอสโก แต่ก็ยังคงสามารถพบเห็นการเคลื่อนไหวต่างๆ ตลอดช่วงของการปฏิวัติได้ในแถบชนบทและหมู่บ้านทั่วประเทศ รวมไปถึงชนกลุ่มน้อยและบริเวณทุรกันดาร ที่ซึ่งชาวนาและทาสเข้ายึดที่ดินทำกินจากชนชั้นขุนนางแล้วแจกจ่ายปันส่วนให้แก่ตนเองใหม่
อ้างอิง
- ↑ Orlando Figes, A Peoples Tragedy, p370