ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สนธิสัญญา"
บรรทัด 11: | บรรทัด 11: | ||
=== ข้อสงวน === |
=== ข้อสงวน === |
||
ข้อสงวนเป็นคำร้องขัดที่สำคัญของการยอมรับสนธิสัญญาของรัฐ ข้อสงวนเป็น |
ข้อสงวนเป็นคำร้องขัดที่สำคัญของการยอมรับสนธิสัญญาของรัฐ ข้อสงวนเป็นถ้อยแถลงฝ่ายเดียวแสดงว่าต้องการระงับหรือเปลี่ยนแปลงข้อผูกมัดทางกฎหมายและผลกระทบของข้อผูกมัดนั้นต่อรัฐที่สงวน ข้อสงวนจำต้องรวมไว้ในขณะที่ลงนามหรือให้สัตยาบัน ภาคีไม่สามารถเพิ่มข้อสงวนได้หลังเข้าร่วมสนธิสัญญาแล้ว |
||
เดิมกฎหมายระหว่างประกาศไม่ยอมรับข้อสงวนสนธิสัญญา โดยจะปฏิเสธข้อสงวนจนกว่าภาคีทั้งหมดแห่งสนธิสัญญาจะยอมรับข้อสงวนเดียวกัน อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นให้มีรัฐเข้าร่วมสนธิสัญญาให้มากที่สุด จึงเกิดกฎที่ผ่อนปรน |
เดิมกฎหมายระหว่างประกาศไม่ยอมรับข้อสงวนสนธิสัญญา โดยจะปฏิเสธข้อสงวนจนกว่าภาคีทั้งหมดแห่งสนธิสัญญาจะยอมรับข้อสงวนอย่างเดียวกัน อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นให้มีรัฐเข้าร่วมสนธิสัญญาให้มากที่สุด จึงเกิดกฎที่ผ่อนปรนข้อสงวนมากขึ้น แม้บางสนธิสัญญายังห้ามข้อสงวนใด ๆ อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบัน สนธิสัญญาโดยทั่วไปจะอนุญาตให้ถึงขอบเขตที่ไม่ขัดกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสนธิสัญญา |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:52, 5 มกราคม 2556
สนธิสัญญา (อังกฤษ: Treaty, ฝรั่งเศส: Traité) เป็นข้อตกลงเฉพาะหน้าภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศซึ่งเข้าทำสัญญาโดยตัวแสดงในกฎหมายระหว่างประเทศ ได้แก่ รัฐเอกราชและองค์การระหว่างประเทศ สนธิสัญญาอาจรู้จักกันในชื่อ ความตกลง พิธีสาร กติกา อนุสัญญา เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร รูปแบบความตกลงทั้งหมดเหล่านี้ถือว่าเป็นสนธิสัญญาเท่าเทียมกันและมีหลักเกณฑ์เดียวกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
สนธิสัญญาสามารถเปรียบได้หลวม ๆ กับสัญญา ทั้งสองต่างเป็นวิธีการที่ภาคีที่สมัครใจยอมรับพันธกรณีต่อกัน และภาคีซึ่งไม่สามารถยึดพันธกรณีสามารถรับผิดได้ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
สนธิสัญญาทวิภาคีและพหุภาคี
สนธิสัญญาทวิภาคีทำระหว่างสองรัฐ[1]หรือองค์การ อย่างไรก็ดี เป็นไปได้ว่าสนธิสัญญาทวิภาคีอาจมีภาคีมากกว่าสอง ตัวอย่างเช่น พิจารณาสนธิสัญญาทวิภาคีระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับสหภาพยุโรปหลังการปฏิเสธความตกลงพื้นที่เศรษฐกิจยุโรปของสวิสเซอร์แลนด์ สนธิสัญญาแต่ละฉบับมีภาคีสิบเจ็ดประเทศ แต่สนธิสัญญาเหล่านี้ก็ยังเป็นสนธิสัญญาทวิภาคี มิใช่พหุภาคี ภาคีถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม สวิตเซอร์แลนด์ ("ฝ่ายหนึ่ง") กับสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิก ("อีกฝ่ายหนึ่ง") สนธิสัญญาก่อตั้งสิทธิและข้อผูกมัดระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกอย่างหลากหลาย ซึ่งมิได้สถาปนาสิทธิและข้อผูกมัดใด ๆ ระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิก
สนธิสัญญาพหุภาคีทำระหว่างหลายประเทศ[1] ความตกลงดังกล่าวก่อตั้งสิทธิและข้อผูกมัดระหว่างแต่ละภาคีและภาคีอื่นทุกภาคี
การตั้งเงื่อนไขและการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญา
ข้อสงวน
ข้อสงวนเป็นคำร้องขัดที่สำคัญของการยอมรับสนธิสัญญาของรัฐ ข้อสงวนเป็นถ้อยแถลงฝ่ายเดียวแสดงว่าต้องการระงับหรือเปลี่ยนแปลงข้อผูกมัดทางกฎหมายและผลกระทบของข้อผูกมัดนั้นต่อรัฐที่สงวน ข้อสงวนจำต้องรวมไว้ในขณะที่ลงนามหรือให้สัตยาบัน ภาคีไม่สามารถเพิ่มข้อสงวนได้หลังเข้าร่วมสนธิสัญญาแล้ว
เดิมกฎหมายระหว่างประกาศไม่ยอมรับข้อสงวนสนธิสัญญา โดยจะปฏิเสธข้อสงวนจนกว่าภาคีทั้งหมดแห่งสนธิสัญญาจะยอมรับข้อสงวนอย่างเดียวกัน อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นให้มีรัฐเข้าร่วมสนธิสัญญาให้มากที่สุด จึงเกิดกฎที่ผ่อนปรนข้อสงวนมากขึ้น แม้บางสนธิสัญญายังห้ามข้อสงวนใด ๆ อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบัน สนธิสัญญาโดยทั่วไปจะอนุญาตให้ถึงขอบเขตที่ไม่ขัดกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสนธิสัญญา
อ้างอิง