ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สนธิสัญญา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 11: บรรทัด 11:


=== ข้อสงวน ===
=== ข้อสงวน ===
ข้อสงวนเป็นคำร้องขัดที่สำคัญของการยอมรับสนธิสัญญาของรัฐ ข้อสงวนเป็นข้อความฝ่ายเดียวใจความเพื่อตัดหรือแก้ไขข้อผูกมัดทางกฎหมายและผลกระทบของข้อผูกมัดนั้นต่อรัฐที่สงวน ข้อสงวนจำต้องรวมไว้ในขณะที่ลงนามหรือให้สัตยาบันด้วย ภาคีไม่สามารถเพิ่มข้อสงวนได้หลังเข้าร่วมสนธิสัญญาแล้ว
ข้อสงวนเป็นคำร้องขัดที่สำคัญของการยอมรับสนธิสัญญาของรัฐ ข้อสงวนเป็นถ้อยแถลงฝ่ายเดียวแสดงว่าต้องการระงับหรือเปลี่ยนแปลงข้อผูกมัดทางกฎหมายและผลกระทบของข้อผูกมัดนั้นต่อรัฐที่สงวน ข้อสงวนจำต้องรวมไว้ในขณะที่ลงนามหรือให้สัตยาบัน ภาคีไม่สามารถเพิ่มข้อสงวนได้หลังเข้าร่วมสนธิสัญญาแล้ว


เดิมกฎหมายระหว่างประกาศไม่ยอมรับข้อสงวนสนธิสัญญา โดยจะปฏิเสธข้อสงวนจนกว่าภาคีทั้งหมดแห่งสนธิสัญญาจะยอมรับข้อสงวนเดียวกัน อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นให้มีรัฐเข้าร่วมสนธิสัญญาให้มากที่สุด จึงเกิดกฎที่ผ่อนปรนมากขึ้นต่อข้อสงวน ขณะที่บางสนธิสัญญายังห้ามข้อสงวนใด ๆ อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบัน สนธิสัญญาโดยทั่วไปจะอนุญาตให้ถึงขอบเขตที่ไม่ขัดกับเป้าหมายแลัวัตถุประสงค์ของสนธิสัญญา
เดิมกฎหมายระหว่างประกาศไม่ยอมรับข้อสงวนสนธิสัญญา โดยจะปฏิเสธข้อสงวนจนกว่าภาคีทั้งหมดแห่งสนธิสัญญาจะยอมรับข้อสงวนอย่างเดียวกัน อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นให้มีรัฐเข้าร่วมสนธิสัญญาให้มากที่สุด จึงเกิดกฎที่ผ่อนปรนข้อสงวนมากขึ้น แม้บางสนธิสัญญายังห้ามข้อสงวนใด ๆ อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบัน สนธิสัญญาโดยทั่วไปจะอนุญาตให้ถึงขอบเขตที่ไม่ขัดกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสนธิสัญญา


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:52, 5 มกราคม 2556

สนธิสัญญา (อังกฤษ: Treaty, ฝรั่งเศส: Traité) เป็นข้อตกลงเฉพาะหน้าภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศซึ่งเข้าทำสัญญาโดยตัวแสดงในกฎหมายระหว่างประเทศ ได้แก่ รัฐเอกราชและองค์การระหว่างประเทศ สนธิสัญญาอาจรู้จักกันในชื่อ ความตกลง พิธีสาร กติกา อนุสัญญา เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร รูปแบบความตกลงทั้งหมดเหล่านี้ถือว่าเป็นสนธิสัญญาเท่าเทียมกันและมีหลักเกณฑ์เดียวกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

สนธิสัญญาสามารถเปรียบได้หลวม ๆ กับสัญญา ทั้งสองต่างเป็นวิธีการที่ภาคีที่สมัครใจยอมรับพันธกรณีต่อกัน และภาคีซึ่งไม่สามารถยึดพันธกรณีสามารถรับผิดได้ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

สนธิสัญญาทวิภาคีและพหุภาคี

สนธิสัญญาทวิภาคีทำระหว่างสองรัฐ[1]หรือองค์การ อย่างไรก็ดี เป็นไปได้ว่าสนธิสัญญาทวิภาคีอาจมีภาคีมากกว่าสอง ตัวอย่างเช่น พิจารณาสนธิสัญญาทวิภาคีระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับสหภาพยุโรปหลังการปฏิเสธความตกลงพื้นที่เศรษฐกิจยุโรปของสวิสเซอร์แลนด์ สนธิสัญญาแต่ละฉบับมีภาคีสิบเจ็ดประเทศ แต่สนธิสัญญาเหล่านี้ก็ยังเป็นสนธิสัญญาทวิภาคี มิใช่พหุภาคี ภาคีถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม สวิตเซอร์แลนด์ ("ฝ่ายหนึ่ง") กับสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิก ("อีกฝ่ายหนึ่ง") สนธิสัญญาก่อตั้งสิทธิและข้อผูกมัดระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกอย่างหลากหลาย ซึ่งมิได้สถาปนาสิทธิและข้อผูกมัดใด ๆ ระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิก

สนธิสัญญาพหุภาคีทำระหว่างหลายประเทศ[1] ความตกลงดังกล่าวก่อตั้งสิทธิและข้อผูกมัดระหว่างแต่ละภาคีและภาคีอื่นทุกภาคี

การตั้งเงื่อนไขและการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญา

ข้อสงวน

ข้อสงวนเป็นคำร้องขัดที่สำคัญของการยอมรับสนธิสัญญาของรัฐ ข้อสงวนเป็นถ้อยแถลงฝ่ายเดียวแสดงว่าต้องการระงับหรือเปลี่ยนแปลงข้อผูกมัดทางกฎหมายและผลกระทบของข้อผูกมัดนั้นต่อรัฐที่สงวน ข้อสงวนจำต้องรวมไว้ในขณะที่ลงนามหรือให้สัตยาบัน ภาคีไม่สามารถเพิ่มข้อสงวนได้หลังเข้าร่วมสนธิสัญญาแล้ว

เดิมกฎหมายระหว่างประกาศไม่ยอมรับข้อสงวนสนธิสัญญา โดยจะปฏิเสธข้อสงวนจนกว่าภาคีทั้งหมดแห่งสนธิสัญญาจะยอมรับข้อสงวนอย่างเดียวกัน อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นให้มีรัฐเข้าร่วมสนธิสัญญาให้มากที่สุด จึงเกิดกฎที่ผ่อนปรนข้อสงวนมากขึ้น แม้บางสนธิสัญญายังห้ามข้อสงวนใด ๆ อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบัน สนธิสัญญาโดยทั่วไปจะอนุญาตให้ถึงขอบเขตที่ไม่ขัดกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของสนธิสัญญา

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 Nicolson, Harold. (1934). Diplomacy, p. 135.


แม่แบบ:Link FA