ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เมอโรสโทมาทา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 11: | บรรทัด 11: | ||
| subdivision_ranks = [[อันดับ (ชีววิทยา)|อันดับ]]<ref>[http://www.itis.gov/servlet/SingleRpt/SingleRpt?search_topic=TSN&search_value=82698 จาก itis.gov {{en}}]</ref> |
| subdivision_ranks = [[อันดับ (ชีววิทยา)|อันดับ]]<ref>[http://www.itis.gov/servlet/SingleRpt/SingleRpt?search_topic=TSN&search_value=82698 จาก itis.gov {{en}}]</ref> |
||
| subdivision = |
| subdivision = |
||
* [[ |
* [[Eurypterida]] [[สูญพันธุ์|†]] |
||
* [[ |
* [[Xiphosura]] |
||
}} |
}} |
||
'''เมอโรสโทมาทา''' ([[ชื่อวิทยาศาสตร์]]: Merostomata) จัดอยู่ในประเภท[[สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง]] [[ไฟลัม]][[อาร์โธรโพดา]] ชั้นย่อย[[เชลิเซอราตา]] เป็น[[สัตว์น้ำ]]ที่แบ่งออกได้เป็น 2 [[อันดับ (ชีววิทยา)|อันดับ]] ได้แก่ [[Eurypterida]] หรือ [[แมงป่องทะเล]] ซึ่ง[[สูญพันธุ์]]ไปแล้ว กับ [[ |
'''เมอโรสโทมาทา''' ([[ชื่อวิทยาศาสตร์]]: Merostomata) จัดอยู่ในประเภท[[สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง]] [[ไฟลัม]][[อาร์โธรโพดา]] ชั้นย่อย[[เชลิเซอราตา]] เป็น[[สัตว์น้ำ]]ที่แบ่งออกได้เป็น 2 [[อันดับ (ชีววิทยา)|อันดับ]] ได้แก่ [[Eurypterida]] หรือ [[แมงป่องทะเล]] ซึ่ง[[สูญพันธุ์]]ไปแล้ว กับ [[Xiphosura]] หรือ [[แมงดาทะเล]] ที่ยังคงสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยเมอโรสโมมาทาได้พัฒนาแยกออกมาจากอาร์โธรโพดาเมื่อกว่า 480 ล้านปีมาแล้ว <ref>{{cite journal |author=Davide Pisani, Laura L. Poling, Maureen Lyons-Weiler & S. Blair Hedges |year=2004 |title=The colonization of land by animals: molecular phylogeny and divergence times among arthropods |journal=[[BMC Biology]] |volume=2 |page=1 |pmc=333434 |url= http://www.biomedcentral.com/1741-7007/2/1 |doi=10.1186/1741-7007-2-1 |pmid=14731304}}</ref> |
||
แมงดาทะเล ในปัจจุบันเหลือเพียง 5 [[species|ชนิด]] จัดว่าเป็นเซริเชอราตาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความยาวถึง 60 เซนติเมตร ที่พบเป็นฟอสซิลยาวถึง 2 เมตร ด้านหลังของคาราเพชมีตาประกอบ 1 คู่ ด้านล่างของเซฟาโรทอแรกซ์เป็นที่ตั้งของระยางค์ทั้ง 6 คู่ โดยระยางค์ขา 3 คู่ มีลักษณะเป็นก้ามหนีบ ยกเว้นขาคู่สุดท้ายใช้ในการกวาดโคลน ทราย ปล้องส่วนท้องจะรวมกัน ด้านท้ายสุดจะยื่นยาวออกเป็นหาง ด้านล่างของส่วนท้องเป็นที่ตั้งของเหงือก 5 คู่ และมีแผ่นปิดเหงือก แมงดาทะเลเป็นสัตว์ที่ไม่เป็นอันตราย จะใช้ระยางค์ขาคู่สุดท้ายดันขุดดินไปด้านหลังเพื่อฝังตัวลงในโคลนหรือทราย การดำรงชีวิตเป็นทั้งกินพืชและกินซาก รวมทั้งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม<ref>[http://coursewares.mju.ac.th:81/e-learning47/section2/bi220/content/chap10/chap105.htm ์ไฟลัมอาร์โทรโปดา (PHYLUM ARTHROPODA)]</ref> |
แมงดาทะเล ในปัจจุบันเหลือเพียง 5 [[species|ชนิด]] จัดว่าเป็นเซริเชอราตาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความยาวถึง 60 เซนติเมตร ที่พบเป็นฟอสซิลยาวถึง 2 เมตร ด้านหลังของคาราเพชมีตาประกอบ 1 คู่ ด้านล่างของเซฟาโรทอแรกซ์เป็นที่ตั้งของระยางค์ทั้ง 6 คู่ โดยระยางค์ขา 3 คู่ มีลักษณะเป็นก้ามหนีบ ยกเว้นขาคู่สุดท้ายใช้ในการกวาดโคลน ทราย ปล้องส่วนท้องจะรวมกัน ด้านท้ายสุดจะยื่นยาวออกเป็นหาง ด้านล่างของส่วนท้องเป็นที่ตั้งของเหงือก 5 คู่ และมีแผ่นปิดเหงือก แมงดาทะเลเป็นสัตว์ที่ไม่เป็นอันตราย จะใช้ระยางค์ขาคู่สุดท้ายดันขุดดินไปด้านหลังเพื่อฝังตัวลงในโคลนหรือทราย การดำรงชีวิตเป็นทั้งกินพืชและกินซาก รวมทั้งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม<ref>[http://coursewares.mju.ac.th:81/e-learning47/section2/bi220/content/chap10/chap105.htm ์ไฟลัมอาร์โทรโปดา (PHYLUM ARTHROPODA)]</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:35, 12 ธันวาคม 2555
เมอโรสโทมาทา | |
---|---|
แมงดาทะเลเป็นสัตว์ในอันดับเมอโรสโทมาทาพวกเดียวที่ยังคงสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Arthropoda |
ไฟลัมย่อย: | Chelicerata |
ชั้น: | Merostomata |
อันดับ[1] | |
เมอโรสโทมาทา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Merostomata) จัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไฟลัมอาร์โธรโพดา ชั้นย่อยเชลิเซอราตา เป็นสัตว์น้ำที่แบ่งออกได้เป็น 2 อันดับ ได้แก่ Eurypterida หรือ แมงป่องทะเล ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว กับ Xiphosura หรือ แมงดาทะเล ที่ยังคงสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยเมอโรสโมมาทาได้พัฒนาแยกออกมาจากอาร์โธรโพดาเมื่อกว่า 480 ล้านปีมาแล้ว [2]
แมงดาทะเล ในปัจจุบันเหลือเพียง 5 ชนิด จัดว่าเป็นเซริเชอราตาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความยาวถึง 60 เซนติเมตร ที่พบเป็นฟอสซิลยาวถึง 2 เมตร ด้านหลังของคาราเพชมีตาประกอบ 1 คู่ ด้านล่างของเซฟาโรทอแรกซ์เป็นที่ตั้งของระยางค์ทั้ง 6 คู่ โดยระยางค์ขา 3 คู่ มีลักษณะเป็นก้ามหนีบ ยกเว้นขาคู่สุดท้ายใช้ในการกวาดโคลน ทราย ปล้องส่วนท้องจะรวมกัน ด้านท้ายสุดจะยื่นยาวออกเป็นหาง ด้านล่างของส่วนท้องเป็นที่ตั้งของเหงือก 5 คู่ และมีแผ่นปิดเหงือก แมงดาทะเลเป็นสัตว์ที่ไม่เป็นอันตราย จะใช้ระยางค์ขาคู่สุดท้ายดันขุดดินไปด้านหลังเพื่อฝังตัวลงในโคลนหรือทราย การดำรงชีวิตเป็นทั้งกินพืชและกินซาก รวมทั้งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม[3]
อ้างอิง
- ↑ จาก itis.gov (อังกฤษ)
- ↑ Davide Pisani, Laura L. Poling, Maureen Lyons-Weiler & S. Blair Hedges (2004). "The colonization of land by animals: molecular phylogeny and divergence times among arthropods". BMC Biology. 2: 1. doi:10.1186/1741-7007-2-1. PMC 333434. PMID 14731304.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ ์ไฟลัมอาร์โทรโปดา (PHYLUM ARTHROPODA)