ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เกาสฺยง"
ล r2.7.3) (Robot: Modifying hu:Kaohsiung to hu:Kaohsziung; ปรับแต่งให้อ่านง่าย |
ล r2.7.2+) (โรบอต เพิ่ม: bg:Гаосюн |
||
บรรทัด 103: | บรรทัด 103: | ||
[[af:Kaohsiung]] |
[[af:Kaohsiung]] |
||
[[ar:كاوهسيونغ]] |
[[ar:كاوهسيونغ]] |
||
[[bg:Гаосюн]] |
|||
[[bo:ཀའོ་ཞུང་གྲོང་ཁྱེར།]] |
[[bo:ཀའོ་ཞུང་གྲོང་ཁྱེར།]] |
||
[[ca:Kaohsiung]] |
[[ca:Kaohsiung]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:15, 16 พฤศจิกายน 2555
Kaohsiung 高雄 | |
---|---|
Kaohsiung City · 高雄市 | |
Clockwise from top: Kaohsiung skyline, Kaohsiung Confucius Temple, Liuhe Night Market, World Games Stadium, Port of Kaohsiung, Central Park Station | |
สมญา: The Harbor City (Gangdu), The Maritime Capital, The Waterfront City | |
Kaohsiung City shown within the Taiwan islands | |
Satellite image of Kaohsiung | |
พิกัด: 22°38′N 120°16′E / 22.633°N 120.267°E | |
Country | สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) |
Region | Southern Taiwan |
City seat | Lingya District and Fengshan District |
การปกครอง | |
• Mayor | Chen Chu (DPP) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 2,946.2527 ตร.กม. (1,137.5545 ตร.ไมล์) |
Rank 4 | |
ความสูง | 9 เมตร (30 ฟุต) |
ประชากร (2010) | |
• ทั้งหมด | 2,769,072 คน |
• ความหนาแน่น | 940 คน/ตร.กม. (2,400 คน/ตร.ไมล์) |
Rank 2 | |
เขตเวลา | UTC+8 (Asia/Taipei) |
Postal code | 800–852 |
รหัสพื้นที่ | (0)7 |
รหัส ISO 3166 | TW–KHH |
Districts | 38 |
เว็บไซต์ | www.kcg.gov.tw/EN |
มหานครเกาสง เป็นมหานครขนาดใหญ่อันดับ 2 ของสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน)และเป็นมหานครใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ของสาธารณรัฐจีนเกิดจากการรวมนครเกาสงและเทศมณฑลเกาสงเข้าด้วยกันเมื่อปลายปี 2553 และเป็นมหานครสำคัญของภาคใต้ เป็นศูนย์กลางสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิต การกลั่นน้ำมัน การขนส่ง และเป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญ เกาสงเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการต่อเรือของไต้หวันเพราะท่าเรือของเกาสงเป็น 1 ใน 4 ของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของโลก เกาสงยังเป็นเมืองที่สวยงามและมีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ที่งดงามและเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว
ภูมิประเทศ
เกาสง ตั้งอยู่ทางชายฝั่งด้านทิศใตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันโดยหันไปทางช่องแคบไต้หวัน มีภูมิอากาศแบบเขตร้อน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 30 C ในช่วงฤดูร้อน (พ.ค.– ก.ย.) และ 10 C ในช่วงฤดูหนาว (ธ.ค.– ก.พ.) ตัวเมืองแบ่งพื้นที่โดยกว้างออกเป็น 3 บริเวณใหญ่ ๆ คือ เขตตัวเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามของทัศนียภาพที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของแม่น้ำแห่งความรัก เขตธุรกิจของตัวเมืองใหม่ ซึ่งรวมตัวกันอยู่บริเวณรอบ ๆ ท่าเรือเกาสง และ อยู่ทางด้านตะวันออกของแม่น้ำ เขตสุดท้ายคือ เขตชานเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พักอาศัยและย่านอุตสาหกรรม สัญลักษณ์ทางธรรมชาติ 2 แห่งของเมืองเกาสงคือ ภูเขาปะการัง ชูซัน และ พานพินซัน
ประวัติศาสตร์
เมืองเกาสง สร้างขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์หมิง และเติบโตขึ้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อ “ต๋า-เก๋า” ซึ่งเป็นภาษาที่พูดกันของคนส่วนใหญ่ที่อพยพถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในยุคแรก ชื่อของเมืองมีต้นกำเนิดจาก มาคาเตา ซึ่งเป็นชื่อของชนเผ่าท้องถิ่น หมายถึง “ป่าไม้ไผ่” ในภาษาของชนเผ่าท้องถิ่น ภายใต้การปกครองของ เจิ้งจิง ในปี พ.ศ. 2207 เมืองนี้ถูกตั้งชื่อให้ว่า หว่าน เหนียน โจว ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนชื่อเมืองอีกครั้งเป็น ต๋า-เก๋า
ในช่วงปลายปีพ.ศ. 2213 เมืองนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยผู้อพยพมาตั้งถิ่นฐานซึ่งมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ในปี พ.ศ. 2227 ราชวงศ์ชิงมีชัยชนะได้ครอบครองไต้หวันและได้ตั้งชื่อเมืองใหม่เป็น มณฑลเฟิงซัน ในปี พ.ศ. 2406 เกาสงได้กลายเป็นเมืองท่าด้านพาณิชกรรม และต่อมาได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองท่าทางทะเลอย่างเป็นทางการหลังจากปี พ.ศ. 2438
ในปี พ.ศ. 2438 ไต้หวันถูกยกให้เป็นของญี่ปุ่นซึ่งเป็นข้อตกลงส่วนหนึ่งตามสนธิสัญญาชิโมโนเซกิ ในช่วงนี้เองที่ชื่อของเมืองนี้ถูกเปลี่ยนจาก ต๋า-เก๋า เป็น ทาคาโอะ (ในภาษาญี่ปุ่น) แม้ว่าการออกเสียงจะใกล้เคียงกันก็ตาม แต่ความหมายของตัวอักษรเดิมซึ่งหมายถึง “การตีสุนัข” นั้น ถูกแทนที่ด้วยความหมายที่ฟังดูดีกว่ามากคือ “วีรบุรุษผู้สูงส่ง” ชาวญี่ปุ่นที่เคยยึดครองเกาสงได้พัฒนาเมืองให้เจริญก้าวหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือท่าเรือ ภายหลังจากที่การปกครองไต้หวันถูกมอบกลับคืนแก่ประเทศจีนในปี พ.ศ. 2488 ชื่อของเมืองที่เรียกกันอย่างเป็นทางการตามแบบอักษรภาษาโรมัน ได้กลายมาเป็น “เกาสง” (Kao-hsiung)
สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง เกาสง
1.แม่น้ำแห่งความรัก ( Love River ) แม่น้ำแห่งความรัก (Love River) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แม่น้ำตาเกา (Ta Kau River)ในสมัยราชวงศ์ชิง ถูกตั้งชื่อใหม่โดยชาวญี่ปุ่นเป็น แม่น้ำทาคาโอะ (Takao River) แม่น้ำสายนี้ยังถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คลองเกาสง (Kaohsiung Canal) หลังจากที่ได้มีการบูรณะไต้หวันใหม่ ริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองด้านก็ได้รับการปรับปรุงให้สวยงามด้วยความเขียวขจีของพืชพรรณไม้ต่าง ๆ และพัฒนาให้เป็นพื้นที่สวนสาธารณะตกแต่งด้วยแนวเสาหินที่ผูกคล้องกันด้วยเชือกโลหะ สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ โรแมนติคสำหรับคู่รักต่าง ๆที่จะมานัดพบกัน ดังนั้นแม่น้ำนี้จึงมีชื่อเสียงเป็นแม่น้ำแห่งความรัก แม่น้ำสายนี้เคยเป็นแม่น้ำที่สกปรกและมีกลิ่นเหม็น เนื่องจากภาวะมลพิษของท่อระบายน้ำเสียจากโรงงานอุตสหกรรมและบ้านเรือน และเคยถูกมองด้วยความประชดประชันว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่น่าเกลียดที่สุดของเกาสง แต่หลังจากช่วงเวลาหลายปีของการควบคุมภาวะ มลพิษ แม่น้ำสายนี้ก็กลับคืนสู่สภาพที่สวยงามอีกครั้ง บนริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองด้าน สวนสาธารณะต่าง ๆ และพื้นที่สีเขียวหลาย แห่งได้รับการปรับปรุงพัฒนาและสร้างทางวิ่งสำหรับจักรยานเป็นระยะทางยาวมาก คนทั้งหลายสามารถมาเดินเที่ยวตามทางเดินริมฝั่งแม่น้ำพร้อมชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามและเพลิดเพลินกับการสัมผัสอย่างแผ่วเบาของสายลม
2.ตลาดกลางคืน หลิวโฮ ( Liu Ho Night Market )
นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถพูดว่าได้มาเที่ยวเกาสง ถ้าพลาดการไปเที่ยวตลาดกลางคืนหลิวโฮ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหลิวโฮ ตลาด แห่งนี้ในเวลากลางวันจะเป็นถนนสายตรงที่มีรถวิ่งไปมา แต่ช่วงเวลากลางคืนจะกลายเป็นตลาดกลางคืนที่มีสรรพสิ่งต่าง ๆ มากมาย มีร้านค้าเล็ก ๆ ขายสินค้ามากกว่า 100 ร้าน ซึ่งส่วนใหญ่ขายอาหารทานเล่นต่าง ๆ (Snacks) พร้อมทั้งมีสิ่งบันเทิงและเกมส์ต่าง ๆ ให้เล่นสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ แต่สินค้าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหรือของชำต่าง ๆ แทบจะไม่มีในตลาดแห่งนี้ มีร้านสเต็คเฮ้าส์จำนวนมากอยู่รอบ ๆ ตลาดขายสเต็คเนื้อวัวในราคาที่สมควร ไม่ว่านักท่องเที่ยวอยากจะได้อะไร เช่น อาหารรสเลิศที่หลากหลาย อาหารจานพิเศษ เครื่องดื่ม ไอศกรีม และอาหารทะเล ที่นี่ก็จะมีบริการให้ตามความประสงค์ ถ้าอยู่ในเมืองเกาสง นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดโอกาสที่จะชิมเครื่องดื่ม นมมะละกอ (Papaya Milk) และกุ้งอบเกลือ
3.เจดีย์มังกรและเสือ ( Dragon and Tiger Pagodas )
ประมาณ 700 เมตร ไปทางทิศใต้ของศาลาฤดูใบไม้ผลิและศาลาฤดูใบไม้ร่วง (Spring and Autumn Pavilions) ซึ่งอยู่ในบริเวณทะเลสาบดอกบัว (Lotus Lake) เป็นที่ตั้งของเจดีย์มังกรและเสือ บริเวณปากมังกรจะเป็นทางเข้าสู่ภายในเจดีย์ และบริเวณปากเสือจะเป็นทางออก การเดินเข้าไปทางปากของมังกร และเดินออกมาทางปากของเสือถือเป็นเสมือนการเปลี่ยนจากความโชคร้ายให้กลายเป็นความโชคดี ภายในเจดีย์มีภาพวาดต่าง ๆ บรรยายถึงลูกหลานชาวเมือง 24 คนของจีนที่เป็นผู้มีความประพฤติอ่อนน้อมที่สุด รวมทั้งภาพวาดและรูปปั้นเกี่ยวกับเรื่องราวของสวรรค์และนรก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ คนทำความดีต่าง ๆ ในช่วงที่มีชีวิตอยู่ และเพื่อเป็นการชี้ให้เห็นถึงตัวอย่างของผลกรรมสำหรับการทำความชั่ว
4.วัดขงจื๊อ ( Confucius Temple )
วัดนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่จำลองรูปแบบมาจากสถาปัตยกรรมทั่วไปในช่วงราชวงศ์ซ่ง มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ และเป็น วัดในลัทธิขงจื๊อที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน บริเวณด้านข้างของสะพานโค้งภายในวัดมีรูปปั้นนูนสูงทำด้วยโลหะสัมฤทฺธิ์ (bronze) ของขงจื๊อ ซึ่งเป็นนักปราชญ์ที่มีอิทธิพลที่สุดของจีน วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานวันครูประจำปีโดยจัดในวันที่ 28 ก.ย. ของทุกปี เพื่อเป็นการฉลองรำลึกถึงวันเกิดของขงจื๊อด้วย
5. อ่าวซิจู ( Hsitzu Bay )
เป็นอ่าวเล็ก ๆ อยู่ทางด้านตะวันตกของเมืองเกาสง ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาวางชูและเกาะชิชิน อ่าวซิจูเป็นหาดทรายที่มีแนว ปะการังสวยงามตามแนวชายฝั่งและต้นมะพร้าวสูงทำให้มีทิวทัศน์งดงามราวกับดินแดนสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยว ในปี พ.ศ. 2523มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็นที่มีชื่อเสียง ณ ที่นี้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไต้หวันที่มีทัศนียภาพอันโรแมนติคของมหาสมุทรอยู่ด้วย สถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจในบริเวณนี้คือ อุทยานริมชายฝั่งทะเล อนุสรณ์สถานของ ประธานาธิบดีเจียงไคเช็ค และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งเคยเป็นสถานกงสุลของอังกฤษก่อสร้างขึ้นใน สมัยราชวงศ์ชิง อาคารหลังนี้ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2528และต่อมาได้เปิดให้สาธารณชนเข้าเยี่ยมชมได้ ภายในอาคารเป็นสถานที่จัดแสดงเอกสารโบราณทางประวัติศาสตร์ ภาพแสดงเหตุการณ์ต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ของไต้หวัน ภาพถ่ายต่าง ๆ แบบแปลนอาคาร แผนที่ทางยุทธศาสตร์ วัตถุและสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย
แหล่งข้อมูลอื่น
http://www.calintertrade.co.th/F_tinfoor/TAVC3/Kansiung_thai.html