ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ"
ล r2.7.2) (โรบอต เพิ่ม: fy:Ynternasjonaal Gerjochtshof |
ล r2.7.2+) (โรบอต แก้ไข: ru:Международный Суд ООН |
||
บรรทัด 80: | บรรทัด 80: | ||
[[pt:Tribunal Internacional de Justiça]] |
[[pt:Tribunal Internacional de Justiça]] |
||
[[ro:Curtea Internațională de Justiție]] |
[[ro:Curtea Internațională de Justiție]] |
||
[[ru:Международный |
[[ru:Международный Суд ООН]] |
||
[[rue:Міджінародный суд]] |
[[rue:Міджінародный суд]] |
||
[[sh:Međunarodni sud pravde]] |
[[sh:Međunarodni sud pravde]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:59, 13 ตุลาคม 2555
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Court of Justice; ICJ) หรือภาษาปากว่า ศาลโลก (อังกฤษ: World Court) เป็นศาลซึ่งตั้งขึ้นโดยกฎบัตรสหประชาชาติ เมื่อ พ.ศ. 2489 ให้ทำหน้าที่สืบเนื่องต่อจากศาลสถิตยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Permanent Court of Justice; IPCJ) ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2463 และยุติบทบาทไปพร้อมกับสันนิบาตชาติ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอยู่ในความควบคุมของสหประชาชาติ และมีบัลลังก์ที่วังสันติ (Peace Palace) กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่จะออกนั่งพิจารณาที่อื่นก็ได้
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีใด ๆ ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ 2 ประเทศขึ้นไป (contentious case) เช่น ข้อพิพาทเรื่องดินแดนอาณาเขต การละเมิดอำนาจอธิปไตย ปัญหาสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กรณีที่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่รัฐเป็นผู้ฟ้องแทน ฯลฯ ทั้งนี้ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องยินยอมรับอำนาจศาลให้เป็นผู้พิจารณาตัดสินก่อนเท่านั้น ศาลจึงจะมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีนั้นได้
นอกจากนี้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยังมีอำนาจวินิจฉัยเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาในทางกฎหมายระหว่างประเทศ (advisory opinion) ในกรณีสามกรณีหลัก คือ กรณีแรก ตามที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติร้องขอ กรณีที่สอง ตามที่องค์กรอื่นภายใต้สหประชาชาติหรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอโดยได้รับการอนุมัติจากสมัชชาใหญ่ และ กรณีที่สาม ตามที่ได้มีการให้อำนาจวินิจฉัยปัญหาไว้โดยสนธิสัญญา
ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมี 15 คน อยู่ในตำแหน่งคราวละ 9 ปี คนละวาระเดียว การพิจารณาพิพากษาคดี ต้องมีผู้พิพากษาอย่างน้อย 9 คนนั่งบัลลังก์ จึงจะเป็นองค์คณะ อนึ่ง ศาลจะเลือกประธานและรองประธานศาลเอง