ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟรันซิสโก เด ซูร์บารัน"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ล cleanup |
||
บรรทัด 20: | บรรทัด 20: | ||
เมื่อปี ค.ศ. 1627 ซูร์บารานเขียน[[ฉากประดับแท่นบูชา]]ใหญ่ที่วัดเซนต์โทมัส อควีนาสซึ่งเป็นงานชิ้นใหญ่ที่สุดของซูร์บาราน ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เซวิลล์ บนฉากเป็นรูป[[พระเยซู]]และ[[พระแม่มารีย์]] นักบุญต่างๆ [[จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] และอัศวิน และอาร์ชบิชอปเดซาผู้เป็นผู้ก่อตั้งวิทยาลัย กับนักพรตและผู้เกี่ยวข้อง ตัวแบบเอก ๆ มีขนาดใหญ่กว่าคนจริง |
เมื่อปี ค.ศ. 1627 ซูร์บารานเขียน[[ฉากประดับแท่นบูชา]]ใหญ่ที่วัดเซนต์โทมัส อควีนาสซึ่งเป็นงานชิ้นใหญ่ที่สุดของซูร์บาราน ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เซวิลล์ บนฉากเป็นรูป[[พระเยซู]]และ[[พระแม่มารีย์]] นักบุญต่างๆ [[จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] และอัศวิน และอาร์ชบิชอปเดซาผู้เป็นผู้ก่อตั้งวิทยาลัย กับนักพรตและผู้เกี่ยวข้อง ตัวแบบเอก ๆ มีขนาดใหญ่กว่าคนจริง |
||
นอกจากนั้นซูร์บารานยังเขียนภาพขนาดใหญ่หลายภาพให้กับโบสถ์ซันตามาเรียเดกวาดาลูเป (Santa Maria de Guadalupe) 8 ภาพเป็นภาพเกี่ยวกับ[[นักบุญเจอโรม]], ที่โบสถ์ซันเปาโลที่เซบียา ซูร์บารานสร้างรูป “[[การตรึงพระเยซูที่กางเขน]]” สองสีแบบ[[เอกรงค์เทา]] ที่ทำให้ดูเหมือนทำจากหินอ่อน เมื่อปี ค.ศ. 1633 ซูร์บารานเขียนภาพสำหรับฉากประดับแท่นบูชาสำหรับอารามคาร์ทูเซียนที่เจเรซ ที่วังบวยนเรติโร ที่มาดริดซูร์บารานเขียนภาพที่เป็น[[แรงงานสิบสองเดือน]] (The Twelve Labours) ของเฮอร์คิวลีส ซึ่งเป็นงานที่ไม่ใช่งานศาสนา งานชิ้นสำคัญอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ลอนดอนเป็นขนาดคนจริงของ[[ไฟรอาร์]][[คณะฟรันซิสกัน]]ถือ |
นอกจากนั้นซูร์บารานยังเขียนภาพขนาดใหญ่หลายภาพให้กับโบสถ์ซันตามาเรียเดกวาดาลูเป (Santa Maria de Guadalupe) 8 ภาพเป็นภาพเกี่ยวกับ[[นักบุญเจอโรม]], ที่โบสถ์ซันเปาโลที่เซบียา ซูร์บารานสร้างรูป “[[การตรึงพระเยซูที่กางเขน]]” สองสีแบบ[[เอกรงค์เทา]] ที่ทำให้ดูเหมือนทำจากหินอ่อน เมื่อปี ค.ศ. 1633 ซูร์บารานเขียนภาพสำหรับฉากประดับแท่นบูชาสำหรับอารามคาร์ทูเซียนที่เจเรซ ที่วังบวยนเรติโร ที่มาดริดซูร์บารานเขียนภาพที่เป็น[[แรงงานสิบสองเดือน]] (The Twelve Labours) ของเฮอร์คิวลีส ซึ่งเป็นงานที่ไม่ใช่งานศาสนา งานชิ้นสำคัญอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ลอนดอนเป็นขนาดคนจริงของ[[ไฟรอาร์]][[คณะฟรันซิสกัน]]ถือกะโหลก |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:37, 8 กันยายน 2555
ฟรันซิสโก เด ซูร์บาราน หรือ ฟรันซิสโก ซูร์บาราน (สเปน: Francisco de Zurbarán หรือ Francisco Zurbarán) (7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1598 - 27 สิงหาคม ค.ศ. 1664) เป็นจิตรกรสมัยจิตรกรรมยุคบาโรกคนสำค้ญของประเทศสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีความสำคัญในการเขียนภาพทางศาสนา เช่น นักพรต นักพรตหญิง มรณสักขีในศาสนาคริสต์ และภาพนิ่ง ซูร์บารานเป็นที่รู้จักกันในนาม “การาวัจโจของสเปน” เพราะวิธีการวาดภาพอย่างเหมือนจริงและการใช้แสงเงาที่ตัดกันอย่างชัดเจนเช่นเดียวกับงานของคาราวัจโจ
ชีวิตเบื้องต้น
ฟรันซิสโก ซูร์บารานเกิดที่ฟูเอนเตเดกันโตส (Fuente de Cantos) ที่แคว้นเอกซ์เตรมาดูรา เป็นลูกของลุยส์ ซูร์บาราน คนขายเครื่องเย็บปักถักร้อยและอิซาเบล มาร์เกซ (Isabel Márquez) เมื่อยังเป็นเด็ก ซูร์บารานชอบวาดรูปสิ่งของต่างด้วยถ่าน เมื่อปี ค.ศ. 1614 ซูร์บารานก็ถูกพ่อส่งไปเซวิลล์เป็นเวลาราวสามปีเพื่อไปฝึกงานกับเปโดร ดีอัซ เด บียานวยบา (Pedro Díaz de Villanueva) ผู้เป็นศิลปินที่ไม่มีหลักฐานอะไรที่กล่าวถึง[2]
ลักษณะงาน
ไม่เป็นที่ทราบว่าซูร์บารานมีโอกาสได้เลียนงานของการาวัจโจหรือไม่ แต่ซูร์บารานใช้ลักษณะการวาดภาพเหมือนและใช้แสงเงาที่ตัดกัน (chiaroscuro) จิตรกรผู้มีอิทธิพลต่อการของการวางองค์ประกอบของภาพของซูร์บารานคือควน ซานเชซ โกตาน (Juan Sánchez Cotán)[3] งานรูปปั้นโพลีโครมของซูร์บารานก็มีลักษณะดีกว่าจิตรกรท้องถิ่นตั้งแต่ยังฝึกงาน ศิลปินอีกผู้หนึ่งที่มีอิทธพลต่อซูร์บารานก็คือควน มาร์ตีเนซ มอนตาเญส (Juan Martínez Montañés)[4]
ซูร์บารานเขียนภาพจากธรรมชาติโดยตรงและมักจะชอบวาดแบบที่ใช้ผ้าทบทาบตัวโดยเฉพาะผ้าขาว ฉะนั้นซูร์บารานจึงชอบเขียนภาพระห่มขาวของคณะคาร์ทูเซียน งานของซูร์บารานเป็นงานที่ทำเฉพาะในประเทศสเปนและไม่มีอะไรที่ต่างไปจากชีวิตประจำวันมากนัก สิ่งที่วาดจะเป็นแบบเอาจริงเอาจัง เรียบ ขึงขัง และจะจำกัดตัวแบบลงเหลือเพียงตัวเดียว ลักษณะจะเรียบกว่าคาราวัจโจ และสีจะออกไปทางน้ำเงิน ผลของรูปเกิดจากการเขียนด้านหน้าอย่างชัดเจนสาดด้วยแสงและเงา
ชีวิตบั้นปลาย
เมื่ออยู่ที่เซวิลล์ซูร์บารานแต่งงานกับเลโอนอร์ เด คอร์เดรา (Leonor de Jordera) มึลูกด้วยกันหลายคน เมื่อปี ค.ศ. 1630 ซูร์บารานได้รับแต่งตั้งให้เป็นจิตรกรประจำราชสำนักของพระเจ้าเฟลีเปที่ 4 แห่งสเปน มีเรื่องเล่ากันว่าครั้งหนึ่งพระเจ้าฟิลิปทรงวางพระหัตถ์บนไหล่ของซูร์บารานและทรงเปรยว่า “จิตรกรของกษัตริย์ กษัตริย์ของจิตรกร” หลังจากปี ค.ศ. 1640 แบบที่ขึงขังของซูร์บารานก็เริ่มมีความนิยมน้อยลงเมื่อเทียบกับแบบที่อ่อนหวานและมีสีสันมากกว่าของบาร์โตโลเม เอสเตบัน มูรีโย เมื่อซูร์บารานมีอายุมากขึ้นก็ย้ายไปมาดริดเมื่อปี ค.ศ. 1658 เพื่อไปหางานทำและรื้อฟื้นการติดต่อกับเดียโก เบลัซเกซ ซูร์บารานตายอย่างไม่มีใครรู้จักและอย่างยากจน
งานของซูร์บาราน
เมื่อปี ค.ศ. 1627 ซูร์บารานเขียนฉากประดับแท่นบูชาใหญ่ที่วัดเซนต์โทมัส อควีนาสซึ่งเป็นงานชิ้นใหญ่ที่สุดของซูร์บาราน ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เซวิลล์ บนฉากเป็นรูปพระเยซูและพระแม่มารีย์ นักบุญต่างๆ จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และอัศวิน และอาร์ชบิชอปเดซาผู้เป็นผู้ก่อตั้งวิทยาลัย กับนักพรตและผู้เกี่ยวข้อง ตัวแบบเอก ๆ มีขนาดใหญ่กว่าคนจริง
นอกจากนั้นซูร์บารานยังเขียนภาพขนาดใหญ่หลายภาพให้กับโบสถ์ซันตามาเรียเดกวาดาลูเป (Santa Maria de Guadalupe) 8 ภาพเป็นภาพเกี่ยวกับนักบุญเจอโรม, ที่โบสถ์ซันเปาโลที่เซบียา ซูร์บารานสร้างรูป “การตรึงพระเยซูที่กางเขน” สองสีแบบเอกรงค์เทา ที่ทำให้ดูเหมือนทำจากหินอ่อน เมื่อปี ค.ศ. 1633 ซูร์บารานเขียนภาพสำหรับฉากประดับแท่นบูชาสำหรับอารามคาร์ทูเซียนที่เจเรซ ที่วังบวยนเรติโร ที่มาดริดซูร์บารานเขียนภาพที่เป็นแรงงานสิบสองเดือน (The Twelve Labours) ของเฮอร์คิวลีส ซึ่งเป็นงานที่ไม่ใช่งานศาสนา งานชิ้นสำคัญอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ลอนดอนเป็นขนาดคนจริงของไฟรอาร์คณะฟรันซิสกันถือกะโหลก
อ้างอิง
- ↑ Saint Luke as a Painter before Christ on the Cross. Humanities Web. Retrieved 30 September, 2007.
- ↑ Gállego and Gudiol, 1987, p. 13.
- ↑ Gállego and Gudiol, 1987, p. 15.
- ↑ Gállego and Gudiol, 1987, p. 15.
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
สมุดภาพ
-
นักบุญลูกาผู้เป็นจิตรกรต่อพระพักตร์พระเยซูบนกางเขน
-
นักบุญคาซิลดาแห่งเบอร์โกส
-
“นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี”
-
แม่พระปฏิสนธินิรมล
(Inmaculada Concepcion) -
ภาพนิ่ง
-
“มรณกรรมของนักบุญโบนาเวนตูรา” ศพท่านอยู่ต่อหน้าสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 10 และพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอารากอน
-
พระแม่มารีย์เมื่อยังทรงพระเยาว์
-
นักบุญฟรานซิสแห่งอาซิซิสวดมนต์
-
ภราดาเปโดร มาชาโด ไฟร์อาร์คณะพระนางมารีย์พรหมจารีแห่งเมตตาธรรม
-
นักบุญเปโตรปรากฏตัวต่อหน้านักบุญเปโดร โนลาสโก