ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กรณีมายาเกวซ"

พิกัด: 10°18′7″N 103°8′3″E / 10.30194°N 103.13417°E / 10.30194; 103.13417
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 31: บรรทัด 31:
รัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดย นาย[[เจอรัลด์ ฟอร์ด]] [[ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา|ประธานาธิบดี]]ได้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งกองกำลังทหาร ซึ่งส่วนมากเป็น[[United States Marine Corps|นาวิกโยธิน]]ประมาณ 1,000 นาย จาก[[เกาะโอะกินะวะ|เกาะโอกินาวา]]และ[[Subic Bay|อ่าวซูบิค]] เข้าประจำการที่[[สนามบินอู่ตะเภา]]ในพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการบุกยึดเรือและตัวประกันคืน ในวันที่ [[13 พฤษภาคม]] โดยปฏิบัติการเริ่มขึ้นใน[[สนธยา|เช้ามืด]]ของวันที่ [[14 พฤษภาคม]] โดยมีเครื่องบินรบจากฐานทัพอเมริกาที่[[จังหวัดอุดรธานี]]และ[[นครราชสีมา]]ออกปฏิบัติการร่วมด้วย และประสบความสำเร็จในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยสามารถจมเรือปืนของเขมรแดงลงได้ 3 ลำ มีความสูญเสียด้วยกันของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงลูกเรือประมงของไทยจำนวน 5 คนออกมาได้
รัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดย นาย[[เจอรัลด์ ฟอร์ด]] [[ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา|ประธานาธิบดี]]ได้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งกองกำลังทหาร ซึ่งส่วนมากเป็น[[United States Marine Corps|นาวิกโยธิน]]ประมาณ 1,000 นาย จาก[[เกาะโอะกินะวะ|เกาะโอกินาวา]]และ[[Subic Bay|อ่าวซูบิค]] เข้าประจำการที่[[สนามบินอู่ตะเภา]]ในพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการบุกยึดเรือและตัวประกันคืน ในวันที่ [[13 พฤษภาคม]] โดยปฏิบัติการเริ่มขึ้นใน[[สนธยา|เช้ามืด]]ของวันที่ [[14 พฤษภาคม]] โดยมีเครื่องบินรบจากฐานทัพอเมริกาที่[[จังหวัดอุดรธานี]]และ[[นครราชสีมา]]ออกปฏิบัติการร่วมด้วย และประสบความสำเร็จในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยสามารถจมเรือปืนของเขมรแดงลงได้ 3 ลำ มีความสูญเสียด้วยกันของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงลูกเรือประมงของไทยจำนวน 5 คนออกมาได้


ทว่า ปฏิบัติการดังกล่าว ทางสหรัฐอเมริกามิได้กระทำการแจ้งอย่างเป็นทางการแก่รัฐบาลไทย อันถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย ในวันที่ [[17 พฤษภาคม]] ได้มีกลุ่มนักศึกษาและประชาชนจำนวน 10,000 และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็น 30,000 คน นำโดย นาย[[ธีรยุทธ บุญมี]] ทำการประท้วง ที่หน้า[[สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย]] [[ถนนวิทยุ]] อย่างรุนแรง โดยประณามการกระทำของสหรัฐอเมริกา ว่าเป็น[[จักรวรรดินิยม]]อเมริกัน ที่คุกคามภูมิภาคแถบนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการชุมนุมลักษณะเช่นนี้และมีความพยายามเคลื่อนไหวที่จะให้มีการถอนกำลังทหารของสหรัฐอเมริกาออกจากประเทศไทยมาแล้ว โดยรัฐบาลไทยได้ขีดเส้นตายว่า สหรัฐอเมริกาต้องถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยให้หมดภายใน 18 เดือน และการชุมนุมประท้วงครั้งนี้นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดหลังจาก[[เหตุการณ์ 14 ตุลา]] ในปี [[พ.ศ. 2516]]
ทว่า ปฏิบัติการดังกล่าว ทางสหรัฐอเมริกามิได้กระทำการแจ้งอย่างเป็นทางการแก่รัฐบาลไทย อันถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย ในวันที่ [[17 พฤษภาคม]] ได้มีกลุ่มนักศึกษาและประชาชนจำนวน 10,000 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็น 30,000 คน นำโดย นาย[[ธีรยุทธ บุญมี]] ทำการประท้วง ที่หน้า[[สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย]] [[ถนนวิทยุ]] อย่างรุนแรง โดยประณามการกระทำของสหรัฐอเมริกา ว่าเป็น[[จักรวรรดินิยม]]อเมริกัน ที่คุกคามภูมิภาคแถบนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการชุมนุมลักษณะเช่นนี้และมีความพยายามเคลื่อนไหวที่จะให้มีการถอนกำลังทหารของสหรัฐอเมริกาออกจากประเทศไทยมาแล้ว โดยรัฐบาลไทยได้ขีดเส้นตายว่า สหรัฐอเมริกาต้องถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยให้หมดภายใน 18 เดือน และการชุมนุมประท้วงครั้งนี้นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดหลังจาก[[เหตุการณ์ 14 ตุลา]] ในปี [[พ.ศ. 2516]]


รัฐบาลไทย โดย [[หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช]] [[นายกรัฐมนตรีไทย|นายกรัฐมนตรี]]ได้กระทำการตอบโต้สหรัฐอเมริกา ด้วยการขอให้ทางการสหรัฐฯทำหนังสือขอโทษมาอย่างเป็นทางการ และจะมีการพิจารณาทบทวนข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างกัน และ พลตรี [[ชาติชาย ชุณหะวัณ]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีคำสั่งเรียกตัว นาย[[อานันท์ ปันยารชุน]] เอกอัครราชไทยประจำประเทศสหรัฐอเมริกา กลับด่วน
รัฐบาลไทย โดย [[หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช]] [[นายกรัฐมนตรีไทย|นายกรัฐมนตรี]]ได้กระทำการตอบโต้สหรัฐอเมริกา ด้วยการขอให้ทางการสหรัฐฯทำหนังสือขอโทษมาอย่างเป็นทางการ และจะมีการพิจารณาทบทวนข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างกัน และ พลตรี [[ชาติชาย ชุณหะวัณ]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีคำสั่งเรียกตัว นาย[[อานันท์ ปันยารชุน]] เอกอัครราชไทยประจำประเทศสหรัฐอเมริกา กลับด่วน

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:16, 23 กรกฎาคม 2555

กรณีมายาเกซ
ส่วนหนึ่งของ สงครามเวียดนาม
และสงครามเย็น

เรือมายาเกซขณะถูกเรือปืนของเขมรแดงล้อม
วันที่13 พฤษภาคม ค.ศ. 1975-15 พฤษภาคม ค.ศ. 1975
สถานที่
เกาะตัง สาธารณรัฐสังคมนิยมกัมพูชาประชาธิปไตย
ผล สหรัฐอเมริกาได้รับชัยชนะ โดยยึดเรือและตัวประกันกลับคืนมาได้
คู่สงคราม
ประเทศสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐสังคมนิยมกัมพูชาประชาธิปไตย
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
เรนเดลล์ ดับเบิลยู.ออสติน เอ็ม ซอน
กำลัง
1,000 85-100
ความสูญเสีย
เสียชีวิต 15
บาดเจ็บ 41
สูญหาย 3 (เสียชีวิต)
ซีเอช-53 ซีสตัลเลียน 3 ลำถูกยิงตก[1]
เสียชีวิต 13-25
บาดเจ็บ 15
เรือปืนจมลง 3 ลำ
สหรัฐอเมริกาต้องถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยจนหมดสิ้นในปลายปีเดียวกัน

กรณีมายาเกซ (อังกฤษ: Mayaguez incident) เป็นปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐอเมริกาที่รวดเร็ว และเกิดขึ้นเพียง 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 แต่ได้ส่งผลกระทบต่อการเมืองยังภูมิภาคอินโดจีน

เวลาประมาณ 15.20 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม เรือบรรทุกสินค้า ซึ่งใช้บรรทุกเวชภัณฑ์และเสบียงสัญชาติอเมริกันชื่อ เอสเอส มายาเกซ (SS Mayaguez) ซึ่งแล่นระหว่างฮ่องกงและประเทศไทย ขณะที่แล่นอยู่ห่างจากชายฝั่งของประเทศกัมพูชาเพียง 60 ไมล์ ซึ่งถือเป็นเขตน่านน้ำสากล ได้ถูกเรือปืนจำนวนหลายลำของกัมพูชาประชาธิปไตย (เขมรแดง) เข้าล้อมและบุกยึด จับตัวประกันซึ่งเป็นกัปตันและลูกเรือไว้ได้ทั้งหมด 39 คน จากนั้นได้ลากไปจอดลอยลำทิ้งสมอไว้ที่เกาะตัง ใกล้กับเมืองกัมปงโสม (สีหนุวิลล์ ในปัจจุบัน)

การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการหยามหน้ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างรุนแรง และด้วยขณะนั้นสงครามเวียดนามเพิ่งยุติลงได้เพียงไม่กี่วัน เนื่องจากการที่กองทัพเขมรแดงและเวียดนามเหนือสามารถบุกยึดกรุงไซง่อน ประเทศเวียดนามใต้ และกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของลัทธิคอมมิวนิสต์ และเป็นความพ่ายแพ้อย่างอัปยศครั้งประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐอเมริกา

รัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดย นายเจอรัลด์ ฟอร์ด ประธานาธิบดีได้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งกองกำลังทหาร ซึ่งส่วนมากเป็นนาวิกโยธินประมาณ 1,000 นาย จากเกาะโอกินาวาและอ่าวซูบิค เข้าประจำการที่สนามบินอู่ตะเภาในพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการบุกยึดเรือและตัวประกันคืน ในวันที่ 13 พฤษภาคม โดยปฏิบัติการเริ่มขึ้นในเช้ามืดของวันที่ 14 พฤษภาคม โดยมีเครื่องบินรบจากฐานทัพอเมริกาที่จังหวัดอุดรธานีและนครราชสีมาออกปฏิบัติการร่วมด้วย และประสบความสำเร็จในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยสามารถจมเรือปืนของเขมรแดงลงได้ 3 ลำ มีความสูญเสียด้วยกันของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงลูกเรือประมงของไทยจำนวน 5 คนออกมาได้

ทว่า ปฏิบัติการดังกล่าว ทางสหรัฐอเมริกามิได้กระทำการแจ้งอย่างเป็นทางการแก่รัฐบาลไทย อันถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย ในวันที่ 17 พฤษภาคม ได้มีกลุ่มนักศึกษาและประชาชนจำนวน 10,000 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็น 30,000 คน นำโดย นายธีรยุทธ บุญมี ทำการประท้วง ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ อย่างรุนแรง โดยประณามการกระทำของสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นจักรวรรดินิยมอเมริกัน ที่คุกคามภูมิภาคแถบนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการชุมนุมลักษณะเช่นนี้และมีความพยายามเคลื่อนไหวที่จะให้มีการถอนกำลังทหารของสหรัฐอเมริกาออกจากประเทศไทยมาแล้ว โดยรัฐบาลไทยได้ขีดเส้นตายว่า สหรัฐอเมริกาต้องถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยให้หมดภายใน 18 เดือน และการชุมนุมประท้วงครั้งนี้นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดหลังจากเหตุการณ์ 14 ตุลา ในปี พ.ศ. 2516

รัฐบาลไทย โดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีได้กระทำการตอบโต้สหรัฐอเมริกา ด้วยการขอให้ทางการสหรัฐฯทำหนังสือขอโทษมาอย่างเป็นทางการ และจะมีการพิจารณาทบทวนข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างกัน และ พลตรี ชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีคำสั่งเรียกตัว นายอานันท์ ปันยารชุน เอกอัครราชไทยประจำประเทศสหรัฐอเมริกา กลับด่วน

ที่สุดเหตุการณ์จบลงในวันที่ 19 พฤษภาคม หลังจากการชุมนุมยืดเยื้อนานถึง 3 วัน เมื่ออุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว ต่อมา ในเดือนธันวาคม ปีเดียวกัน เครื่องบินรบรุ่น F-4 ลำสุดท้ายก็ได้บินออกจากสนามบินกองทัพอากาศอุดรธานี ถือเป็นการปิดฉากการประจำการทางทหารของสหรัฐอเมริกาในประเทศไทยอย่างเด็ดขาด[2] [3]

อ้างอิง

  1. 33 ปี.. นาวิกฯ อีกคนเพิ่งได้กลับจากกัมพูชา
  2. กระแสต้าน "จักรวรรดินิยมอเมริกัน" นักศึกษาชุมนุมประท้วงการใช้ฐานทัพอากาศในไทย โดยไม่ขออนุญาต หน้า 149, กาลานุกรมสยามประเทศไทย 2485-2554 โดย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ISBN 978-974-228-070-3
  3. Walter LaFeber, America, Russia, and the Cold War, 1945-1990, (McGraw - Hill, Inc., 1991), pp. 281 – 282.

แหล่งข้อมูลอื่น

10°18′7″N 103°8′3″E / 10.30194°N 103.13417°E / 10.30194; 103.13417