ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พูดคุย:พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช/พระราชทรัพย์"
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม) →ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์: มีกล่าวแล้วด้านบน |
PandaReactor (คุย | ส่วนร่วม) →ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์: เพิ่มคำอธิบายแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพระราชทรัพย์ |
||
บรรทัด 21: | บรรทัด 21: | ||
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ไม่ใช่ทรัพย์สินของส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<ref name="กระทรวงการต่างประเทศ">[http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=20551 บทความพิเศษของนิตยสารฟอร์บ เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุด] จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ</ref> และได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมาย<ref name="access-one" /> ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกบริหารงานในรูปแบบองค์กรนิติบุคคลภายใต้ชื่อ [[สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์]] มีคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้ดูแล ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง ทรัพย์สินส่วนใหญ่ ได้แก่ ที่ดินและหุ้น โดยปัจจุบันมีผู้เช่าที่ดินทั่วประเทศมากกว่า 3 หมื่นสัญญา<ref name="access-one">[http://www.crownproperty.or.th/history.php สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์] [http://www.crownproperty.or.th (www.crownproperty.or.th)] เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550</ref> โดยแปลงสำคัญ ๆ ประกอบด้วย ที่ดินโรงแรมโฟร์ซีซั่น ที่ดิน[[สยามพารากอน]] ที่ดิน[[เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า]] ที่ดิน[[องค์การสะพานปลา]] และที่ดินริม[[ถนนพระรามที่ 4]] ฝั่งเหนือ จาก[[สวนลุมไนท์บาร์ซาร์]] ยาวจรด[[ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์]]{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} ทั้งนี้บริษัท[[ซีบีริชาร์ดเอลลิส]] บริษัทโบรกเกอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลก ได้เคยประมาณการตัวเลขพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อยู่ที่ 32,500 ไร่ โดยในบางพื้นที่มีมูลค่าสูงกว่า 380 ล้านบาทต่อไร่<ref name="access-two">[http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20602005&sid=aZ0o4kBLphDs&refer=world_indices Thai King Strengthens Grip on Stocks as Nation's No. 1 Investor] [http://www.bloomberg.com (www.bloomberg.com)] เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550</ref> ทั้งนี้ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ยังได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ อีกด้วย โดยถ้านับรวมทั้งหมด หุ้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ มีอยู่ทั้งหมดคิดเป็น 7.5% ของมูลค่าตลาดรวมของ[[ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย]]<ref name="access-two" /> |
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ไม่ใช่ทรัพย์สินของส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<ref name="กระทรวงการต่างประเทศ">[http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=20551 บทความพิเศษของนิตยสารฟอร์บ เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุด] จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ</ref> และได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมาย<ref name="access-one" /> ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกบริหารงานในรูปแบบองค์กรนิติบุคคลภายใต้ชื่อ [[สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์]] มีคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้ดูแล ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง ทรัพย์สินส่วนใหญ่ ได้แก่ ที่ดินและหุ้น โดยปัจจุบันมีผู้เช่าที่ดินทั่วประเทศมากกว่า 3 หมื่นสัญญา<ref name="access-one">[http://www.crownproperty.or.th/history.php สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์] [http://www.crownproperty.or.th (www.crownproperty.or.th)] เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550</ref> โดยแปลงสำคัญ ๆ ประกอบด้วย ที่ดินโรงแรมโฟร์ซีซั่น ที่ดิน[[สยามพารากอน]] ที่ดิน[[เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า]] ที่ดิน[[องค์การสะพานปลา]] และที่ดินริม[[ถนนพระรามที่ 4]] ฝั่งเหนือ จาก[[สวนลุมไนท์บาร์ซาร์]] ยาวจรด[[ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์]]{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} ทั้งนี้บริษัท[[ซีบีริชาร์ดเอลลิส]] บริษัทโบรกเกอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลก ได้เคยประมาณการตัวเลขพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อยู่ที่ 32,500 ไร่ โดยในบางพื้นที่มีมูลค่าสูงกว่า 380 ล้านบาทต่อไร่<ref name="access-two">[http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20602005&sid=aZ0o4kBLphDs&refer=world_indices Thai King Strengthens Grip on Stocks as Nation's No. 1 Investor] [http://www.bloomberg.com (www.bloomberg.com)] เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550</ref> ทั้งนี้ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ยังได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ อีกด้วย โดยถ้านับรวมทั้งหมด หุ้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ มีอยู่ทั้งหมดคิดเป็น 7.5% ของมูลค่าตลาดรวมของ[[ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย]]<ref name="access-two" /> |
||
ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้พระองค์ทรงได้รับการจัดอันดับจาก[[นิตยสารฟอร์บ]] ให้เป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก<ref name="access-six">[http://www.forbes.com/2007/08/30/worlds-richest-royals-biz-royals07-cx_lk_0830royalintro_slide_6.html?thisSpeed=30000 The World's Richest Royals. No. 5, King Bhumibol Adulyadej] [http://www.forbes.com (www.forbes.com)] เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550</ref> แต่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ชี้แจงถึงบทความดังกล่าวว่า "''มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจากในความเป็นจริง ทรัพย์สินที่นับมาประเมินนั้นเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน มิใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์''"<ref name="กระทรวงการต่างประเทศ"/> |
ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้พระองค์ทรงได้รับการจัดอันดับจาก[[นิตยสารฟอร์บ]] ให้เป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก<ref name="access-six">[http://www.forbes.com/2007/08/30/worlds-richest-royals-biz-royals07-cx_lk_0830royalintro_slide_6.html?thisSpeed=30000 The World's Richest Royals. No. 5, King Bhumibol Adulyadej] [http://www.forbes.com (www.forbes.com)] เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550</ref> แต่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ชี้แจงถึงบทความดังกล่าวว่า "''มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจากในความเป็นจริง ทรัพย์สินที่นับมาประเมินนั้นเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน มิใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์''"<ref name="กระทรวงการต่างประเทศ"/> |
||
ซึ่งมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี พยายามบิดเบือนว่า ทรัพยสินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นของส่วนพระองค์ ให้ประชาชนเข้าใจผิด ทั้งที่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ของชาติ ทั้งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทำหน้าที่ผู้ดูแล |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:41, 14 เมษายน 2555
พระราชทรัพย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของที่ดินและหุ้น โดยแบ่งออกได้เป็นส่วน ๆ ได้โดยสังเขป คือทรัพย์สินส่วนพระองค์ พระคลังข้างที่
พระองค์อุทิศพระราชทรัพย์ส่วนหนึ่ง ให้เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน บริหารงานโดย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อโครงการพระราชดำริจำนวนกว่า 3,000 โครงการ/มูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อพัฒนาภายในประเทศในด้านกสิกรรม เกษตรกรรม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย การส่งเสริมอาชีพ สาธารณูปโภค และการศึกษา โครงการต่าง ๆ มีรายละเอียดใช้เป็นแหล่งอ้างอิงไปได้ทั่วโลก[1] และพบได้ในสื่อวิทยุและโทรทัศน์ของประเทศไทย[2]
ทรัพย์สินส่วนพระองค์
ทรัพย์สินส่วนพระองค์นี้ยังหมายรวมถึง เงินทูลเกล้าถวายฯ ตามพระราชอัธยาศัยต่าง ๆ ซึ่งทรัพย์สินส่วนพระองค์นั้นไม่ได้รับการยกเว้นเรื่องภาษี และต้องเสียภาษีอากรตามปกติ[3]
มูลนิธิอานันทมหิดล อ้างว่า พระองค์ได้พระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์จำนวนมากแก่ โครงการพระราชดำริ มูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ ตลอดจนการกุสล และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์[4]
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชนหลายแห่ง ในพระนามของพระองค์เอง ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555 มีดังต่อไปนี้
- ใน บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ทรงถือหุ้นจำนวน 197,414,850 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 43.87[5]
- ใน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ทรงถือหุ้นจำนวน 72,470,861 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 2.21[6]
- ใน บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทรงถือหุ้นจำนวน 3,526,567 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 18.56[7]
- ใน บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ทรงถือหุ้นจำนวน 1,383,770 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.51[8]
- ใน บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทรงถือหุ้นจำนวน 69,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.23[9] (ปัจจุบันเทเวศประกันภัยถูกเพิกถอน มิให้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์)[10]
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ไม่ใช่ทรัพย์สินของส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว[11] และได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมาย[3] ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกบริหารงานในรูปแบบองค์กรนิติบุคคลภายใต้ชื่อ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้ดูแล ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง ทรัพย์สินส่วนใหญ่ ได้แก่ ที่ดินและหุ้น โดยปัจจุบันมีผู้เช่าที่ดินทั่วประเทศมากกว่า 3 หมื่นสัญญา[3] โดยแปลงสำคัญ ๆ ประกอบด้วย ที่ดินโรงแรมโฟร์ซีซั่น ที่ดินสยามพารากอน ที่ดินเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า ที่ดินองค์การสะพานปลา และที่ดินริมถนนพระรามที่ 4 ฝั่งเหนือ จากสวนลุมไนท์บาร์ซาร์ ยาวจรดศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์[ต้องการอ้างอิง] ทั้งนี้บริษัทซีบีริชาร์ดเอลลิส บริษัทโบรกเกอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลก ได้เคยประมาณการตัวเลขพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อยู่ที่ 32,500 ไร่ โดยในบางพื้นที่มีมูลค่าสูงกว่า 380 ล้านบาทต่อไร่[12] ทั้งนี้ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ยังได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ อีกด้วย โดยถ้านับรวมทั้งหมด หุ้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ มีอยู่ทั้งหมดคิดเป็น 7.5% ของมูลค่าตลาดรวมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย[12]
ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้พระองค์ทรงได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บ ให้เป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก[13] แต่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ชี้แจงถึงบทความดังกล่าวว่า "มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจากในความเป็นจริง ทรัพย์สินที่นับมาประเมินนั้นเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน มิใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์"[11]
ซึ่งมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี พยายามบิดเบือนว่า ทรัพยสินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นของส่วนพระองค์ ให้ประชาชนเข้าใจผิด ทั้งที่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ของชาติ ทั้งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทำหน้าที่ผู้ดูแล
อ้างอิง
- ↑ [http://kanchanapisek.or.th/index.en.html the Golden Jubilee Network, an online mass-educational project]
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อChannelNewsAsia
- ↑ 3.0 3.1 3.2 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (www.crownproperty.or.th) เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550
- ↑ มูลนิธิอานันทมหิดล
- ↑ รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) : SAMCO ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรียกข้อมูลวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555
- ↑ รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) : MINT ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรียกข้อมูลวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555
- ↑ รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) : TIC ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรียกข้อมูลวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555
- ↑ รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) : TIC ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรียกข้อมูลวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555
- ↑ http://www.deves.co.th/Content/View/50
- ↑ รายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่ถูกเพิกถอน ปี 2518 - ปัจจุบัน
- ↑ 11.0 11.1 บทความพิเศษของนิตยสารฟอร์บ เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุด จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
- ↑ 12.0 12.1 Thai King Strengthens Grip on Stocks as Nation's No. 1 Investor (www.bloomberg.com) เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550
- ↑ The World's Richest Royals. No. 5, King Bhumibol Adulyadej (www.forbes.com) เรียกข้อมูลวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2550