ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลูกปืนใหญ่ (พืช)"
ล * [http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=17&t=19537 19537.โพธิญาณพฤกษา : ต้นสาละใหญ่ (ต้นมหาสาละ)] |
|||
บรรทัด 32: | บรรทัด 32: | ||
== เกร็ด == |
== เกร็ด == |
||
สาละลังกาเป็นต้นไม้ประจำ[[มหาวิทยาลัยชินวัตร]]และในอดีตเคยเป็นต้นไม้ประจำ[[มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ]](ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นต้น[[ราชพฤกษ์]]แล้ว) |
* สาละลังกาเป็นต้นไม้ประจำ[[มหาวิทยาลัยชินวัตร]]และในอดีตเคยเป็นต้นไม้ประจำ[[มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ]](ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นต้น[[ราชพฤกษ์]]แล้ว) |
||
* สาละลังกาเป็นต้นไม้ประจำ [[โรงเรียนสารวิทยา]] |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:22, 24 ธันวาคม 2554
สาละลังกา | |
---|---|
ดอกสาละ ที่วัดนิเวศฯ | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Asterids |
อันดับ: | Ericales |
วงศ์: | Lecythidaceae |
สกุล: | Couroupita |
สปีชีส์: | C. guianensis |
ชื่อทวินาม | |
Couroupita guianensis Aubl. |
สาละลังกา หรือ ลูกปืนใหญ่[1] (Cannonball Tree) เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรงทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
สาละลังกาเป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมหรือรูปไข่ หนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลแกมเทา แตกเป็นร่องและสะเก็ด ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ เป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง รูปขอบขนานถึงรูปใบหอกแกมรูปไข่ กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว12-25 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบหรือมน ขอบใบจักตื้น ใบหนา ดอกสีชมพูอมเหลืองหรือแดง ด้านในสีม่วงอ่อนอมชมพู มีกลิ่นหอมมาก ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะขนาดใหญ่ตามลำต้น ช่อดอกยาว 30-150 เซนติเมตร ปลายช่อโน้มลง กลีบดอกหนา 4-6 กลีบ กลางดอกนูน สีขนสั้นสีเหลืองคล้ายแปรง เกสรเพศผู้เป็นเส้นยาวสีชมพูแกมเหลืองจำนวนมาก ทยอยบานจากโคนไปหาปลายช่อ นานเป็นเดือน ดอกบานเต็มที่กว้าง 5-10 เซนติเมตร ผลแห้ง ทรงกลมใหญ่ ขนาด 10-20 เซนติเมตร เปลือกแข็ง สีน้ำตาลปนแดง ผลสุกมีกลิ่นเหม็นมีเมล็ดจำนวนมาก รูปไข่[2]
พุทธประวัติ
- ประสูติ:ก่อนพุทธศักราช 80 ปี พระนางสิริมหามายาทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการที่กรุงเทพวทหะตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์ เมื่อขบวนเสด็จมาถึงสวนลุมพินีวันซึ่งเป็นป่าต้นสาละ พระนางได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร
- ตรัสรู้:เมื่อเจ้าชายสิทธัตถเสวยข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาแล้ว ได้ทรงอธิษฐานว่าถ้าพระองค์ได้สำเร็จพระโพธิญาณ ขอให้การลอยถาดทองคำนี้สามารถทวนกระแสน้ำแห่งแม่น้ำเนรัญชลาได้ เมื่อทรงอธิษฐานแล้วได้ทรงลอยถาด ปรากฏว่าถาดได้ลอยทวนกระแสน้ำ จากนั้นพระองค์เสด็จไปประทับยังควงไม้สาละ ตลอดเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นก็เสด็จไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ์ ประทับนั่งบนบัลลังก์ภายใต้ต้นโพ และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
- ปรินิพพาน:เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จถึงเขตเมืองกุสินาราของมัลละกษัตริย์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญวดี มีรับสั่งให้พระอานนท์ปูลาดพระที่บรรทม ระหว่างต้นสาละทั้งคู่ แล้วพระองค์ก็ทรงสำเร็จสีหไสยาสน์และแล้วเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพาน[3]
เกร็ด
- สาละลังกาเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยชินวัตรและในอดีตเคยเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นต้นราชพฤกษ์แล้ว)
- สาละลังกาเป็นต้นไม้ประจำ โรงเรียนสารวิทยา
อ้างอิง
- ↑ ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันทน์ สำนักงานหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ศ. 2549
- ↑ สาละลังกา ศูนย์ความรู้ด้านเกษตร สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ↑ สาละลังกา ข้อมูลพรรณไม้ สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี