ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กฎของโลปีตาล"
ล โรบอต แก้ไข: ml:എൽ ഹോസ്പിറ്റൽ നിയമം |
WikitanvirBot (คุย | ส่วนร่วม) ล r2.7.1) (โรบอต เพิ่ม: id:Aturan L'Hôpital |
||
บรรทัด 49: | บรรทัด 49: | ||
[[he:כלל לופיטל]] |
[[he:כלל לופיטל]] |
||
[[hu:L’Hospital-szabály]] |
[[hu:L’Hospital-szabály]] |
||
[[id:Aturan L'Hôpital]] |
|||
[[is:Regla l'Hôpitals]] |
[[is:Regla l'Hôpitals]] |
||
[[it:Regola di de l'Hôpital]] |
[[it:Regola di de l'Hôpital]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:31, 11 ธันวาคม 2554
ในแคลคูลัส หลักเกณฑ์โลปีตาล (l'Hôpital's rule) ใช้อนุพันธ์เพื่อช่วยในการคำนวณลิมิตที่อยู่ในรูปแบบยังไม่กำหนด (indeterminate forms) หลักเกณฑ์นี้มักนำมาใช้ในการเปลี่ยนรูปแบบยังไม่กำหนด เป็นรูปแบบกำหนด เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณลิมิต
ภาพรวม
เมื่อต้องการหาค่าลิมิตของผลหาร f(x)/g(x) ซึ่งทั้งตัวเศษและตัวส่วนมีค่าเข้าใกล้ 0 หรือ ตัวส่วนมีค่าเข้าใกล้อนันต์ หลักเกณฑ์โลปีตาล กล่าวว่า การหาอนุพันธ์ของตัวเศษและตัวส่วน จะไม่ทำให้ลิมิตเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม เรามักนิยมแปลงผลหารให้อยู่ในรูปแบบกำหนด เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณ
หรือกล่าวว่า ถ้า และ
แล้ว
โปรดสังเกตเงื่อนไขที่ว่าลิมิต f/g มีอยู่จริง บางครั้งการหาอนุพันธ์อาจได้ผลลัพธ์ที่หาลิมิตไม่ได้ในกรณีนี้หลักเกณฑ์โลปีตาลไม่ครอบครุม
ตัวอย่างที่เป็นเลข
ให้ทำการดิฟ เศษและส่วน คือ ดิฟเศษ 2x - 4 = 2 ดิฟส่วน x - 2 = 1
เพราะฉะนั้น คำตอบเท่ากับ