ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอกอัครราชทูต"
ล เน้นไทยจัง |
ในวิกิพีเดียภาษาไทย จะเน้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเมืองไทยสำหรับคนไทยอ่าน ไม่น่าจะผิด |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
'''เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม''' ({{lang-en|ambassador extraordinary and plenipotentiary}}) หรือมักเรียกกันโดยทั่วไปว่า '''เอกอัครราชทูต''' ({{lang-en|ambassador}}) เป็นตำแหน่ง[[นักการทูต]]ระดับสูงสุดที่เป็นตัวแทนของประเทศของตน โดยประจำการอยู่ในสถานเอกอัครราชทูต ณ [[ประเทศ]]ที่ประเทศของตนมีความสัมพันธ์ทางการทูตด้วย ในประวัติศาสตร์การทูตสากล ตำแหน่ง "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" มักมีนัยมุ่งหมายถึงว่า บุคคลผู้นั้นเป็นตัวแทนองค์อธิ |
'''เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม''' ({{lang-en|ambassador extraordinary and plenipotentiary}}) หรือมักเรียกกันโดยทั่วไปว่า '''เอกอัครราชทูต''' ({{lang-en|ambassador}}) เป็นตำแหน่ง[[นักการทูต]]ในระดับสูงสุดที่ทำหน้าเป็นตัวแทนของประเทศของตน โดยประจำการอยู่ในสถานเอกอัครราชทูต ณ [[เมืองหลวง]]ของ[[ประเทศ]]ที่ประเทศของตนมีความสัมพันธ์ทางการทูตด้วย ในทางประวัติศาสตร์การทูตสากลในสมัยก่อนหน้านี้ ตำแหน่ง "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" มักมีนัยมุ่งหมายถึงว่า บุคคลผู้นั้นเป็นตัวแทนองค์อธิปัตย์หรือประมุขของรัฐ (ในสมัยก่อนก็คือ พระมหากษัตริย์ของตน) ไปประจำอยู่ในราชสำนักของประมุขรัฐ (คือกษัตริย์) ต่างประเทศ แม้จนกระทั่งในสมัยปัจจุบันนี้ การแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มของประเทศหนึ่งไปประจำในอีกประเทศหนึ่ง ก็ยังกระทำโดยการที่ประมุขของรัฐนั้น (ซึ่งอาจเป็นประธานาธิบดีหรือกษัตริย์ก็แล้วแต่ระบอบการปกครองของรัฐนั้นๆ) มีสาส์นตราตั้ง หรือพระราชสาส์นตราตั้ง (Credentials) ไปยังประมุขของรัฐผู้รับ แต่งตั้งให้บุคคลดังกล่าวเป็นเอกอัคคราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน โดยการถวายคำแนะนำของรัฐบาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งบุคคลเป็นเอกอัครราชทูต และจะทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชสาส์นตราตั้งที่จะมีไปถึงประมุขของรัฐต่างประเทศที่ทูตผู้นั้นจะไปประจำการ |
||
นักการทูตระดับเอกอัครราชทูต ที่มิใช่ "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" ก็มีได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น เช่น เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ในกระทรวงการต่างประเทศของไทย เทียบได้กับ Ambassador-at-large ในภาษาอังกฤษ ในระบบของไทยเป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนระดับ ๑๐ (ในสมัยก่อน) หรือนักบริหารการทูตชำนาญการพิเศษ (ในสมัยนี้) เทียบเท่ากับอธิบดี หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เฉพาะด้านตามที่ได้รับมอบหมายแต่มิได้ประจำทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยหรือตัวแทนองค์พระประมุขของไทยในต่างประเทศ จึงมิได้เป็น "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" |
|||
นอกจากนั้น ตำแหน่งตัวแทนระดับสูงสุดของประเทศประจำใน [[องค์การระหว่างประเทศ]]ที่ประเทศของตนเป็นสมาชิกอยู่ ก็เรียกได้ว่าเอกอัครราชทูตเช่นเดียวกัน แต่โดยมากมักเรียกเป็น "เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร" แห่งประเทศนั้นๆ ประจำองค์การนั้นๆ โดยมากมักไม่เรียกกันว่า "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติในวงการทูต คำนี้เป็นคำที่สงวนไว้สำหรับกรณีเอกอัครราชทูตที่เป็นตัวแทนประมุขรัฐอธิปไตยประเทศหนึ่งไปประจำในรัฐอธิปไตยอีกประเทศหนึ่งเท่านั้น ในกรณีประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงมีพระราชสาส์นแต่งตั้งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ หรือประจำองค์การระหว่างประเทศอื่นใด เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องลงนามในหนังสือแต่งตั้งทูตผู้นั้นถึงเลขาธิการสหประชาชาติหรือหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ แล้วแต่กรณี |
|||
ในกรณีของคณะผู้แทนประจำองค์การระหว่างประเทศของมหาประเทศที่พิจารณาแล้วว่ามีงานรับผิดชอบมาก ก็อาจตั้งนักการทูตของตนเป็นผู้แทนระดับเอกอัครราชทูตช่วยงานหัวหน้าคณะผู้แทนได้เช่นกัน ในกรณีนั้นคณะผู้แทนนั้นก็จะมีเอกอัครราชทูตมากกว่าหนึ่งคนได้ แต่มี "เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร" คือหัวหน้าคณะผู้แทน ได้เพียงคนเดียว |
|||
{{เรียงลำดับ|เอกอัครราชทูต}} |
{{เรียงลำดับ|เอกอัครราชทูต}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:19, 12 ตุลาคม 2554
เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม (อังกฤษ: ambassador extraordinary and plenipotentiary) หรือมักเรียกกันโดยทั่วไปว่า เอกอัครราชทูต (อังกฤษ: ambassador) เป็นตำแหน่งนักการทูตในระดับสูงสุดที่ทำหน้าเป็นตัวแทนของประเทศของตน โดยประจำการอยู่ในสถานเอกอัครราชทูต ณ เมืองหลวงของประเทศที่ประเทศของตนมีความสัมพันธ์ทางการทูตด้วย ในทางประวัติศาสตร์การทูตสากลในสมัยก่อนหน้านี้ ตำแหน่ง "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" มักมีนัยมุ่งหมายถึงว่า บุคคลผู้นั้นเป็นตัวแทนองค์อธิปัตย์หรือประมุขของรัฐ (ในสมัยก่อนก็คือ พระมหากษัตริย์ของตน) ไปประจำอยู่ในราชสำนักของประมุขรัฐ (คือกษัตริย์) ต่างประเทศ แม้จนกระทั่งในสมัยปัจจุบันนี้ การแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มของประเทศหนึ่งไปประจำในอีกประเทศหนึ่ง ก็ยังกระทำโดยการที่ประมุขของรัฐนั้น (ซึ่งอาจเป็นประธานาธิบดีหรือกษัตริย์ก็แล้วแต่ระบอบการปกครองของรัฐนั้นๆ) มีสาส์นตราตั้ง หรือพระราชสาส์นตราตั้ง (Credentials) ไปยังประมุขของรัฐผู้รับ แต่งตั้งให้บุคคลดังกล่าวเป็นเอกอัคคราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน โดยการถวายคำแนะนำของรัฐบาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งบุคคลเป็นเอกอัครราชทูต และจะทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชสาส์นตราตั้งที่จะมีไปถึงประมุขของรัฐต่างประเทศที่ทูตผู้นั้นจะไปประจำการ
นักการทูตระดับเอกอัครราชทูต ที่มิใช่ "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" ก็มีได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น เช่น เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ในกระทรวงการต่างประเทศของไทย เทียบได้กับ Ambassador-at-large ในภาษาอังกฤษ ในระบบของไทยเป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนระดับ ๑๐ (ในสมัยก่อน) หรือนักบริหารการทูตชำนาญการพิเศษ (ในสมัยนี้) เทียบเท่ากับอธิบดี หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เฉพาะด้านตามที่ได้รับมอบหมายแต่มิได้ประจำทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยหรือตัวแทนองค์พระประมุขของไทยในต่างประเทศ จึงมิได้เป็น "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม"
นอกจากนั้น ตำแหน่งตัวแทนระดับสูงสุดของประเทศประจำใน องค์การระหว่างประเทศที่ประเทศของตนเป็นสมาชิกอยู่ ก็เรียกได้ว่าเอกอัครราชทูตเช่นเดียวกัน แต่โดยมากมักเรียกเป็น "เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร" แห่งประเทศนั้นๆ ประจำองค์การนั้นๆ โดยมากมักไม่เรียกกันว่า "เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม" เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติในวงการทูต คำนี้เป็นคำที่สงวนไว้สำหรับกรณีเอกอัครราชทูตที่เป็นตัวแทนประมุขรัฐอธิปไตยประเทศหนึ่งไปประจำในรัฐอธิปไตยอีกประเทศหนึ่งเท่านั้น ในกรณีประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงมีพระราชสาส์นแต่งตั้งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ หรือประจำองค์การระหว่างประเทศอื่นใด เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องลงนามในหนังสือแต่งตั้งทูตผู้นั้นถึงเลขาธิการสหประชาชาติหรือหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ แล้วแต่กรณี
ในกรณีของคณะผู้แทนประจำองค์การระหว่างประเทศของมหาประเทศที่พิจารณาแล้วว่ามีงานรับผิดชอบมาก ก็อาจตั้งนักการทูตของตนเป็นผู้แทนระดับเอกอัครราชทูตช่วยงานหัวหน้าคณะผู้แทนได้เช่นกัน ในกรณีนั้นคณะผู้แทนนั้นก็จะมีเอกอัครราชทูตมากกว่าหนึ่งคนได้ แต่มี "เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร" คือหัวหน้าคณะผู้แทน ได้เพียงคนเดียว