ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แตงไทย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{เก็บกวาด}} |
{{เก็บกวาด}} |
||
{{สั้นมาก}} |
{{สั้นมาก}} |
||
{{ขาดกล่องข้อมูล}} |
|||
=='''แตงไทย'''== |
=='''แตงไทย'''== |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:32, 18 กันยายน 2554
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
บทความนี้ขาดการสรุปข้อมูลที่จำเป็นในรูปแบบกล่องข้อมูล คุณสามารถช่วยเราได้ โดยการเพิ่มกล่องข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเหมาะสม ลงในบทความ |
แตงไทย
แตงไทย ทางภาคเหนือเรียก แตงลายหรือมะแตงสุก ภาคอีสานเรียก แตงจิงหรือแตงกิง มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่แถบภาคใต้ของทวีปแอฟริกา
ชื่อสามัญ : Muskmelon
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cucumis melo Linn
ชื่อวงศ์ : CUCURBITACEAE
แตงไทย เป็นพืชล้มลุก ลำต้นเป็นเถาเลื้อย มีขนอ่อน ปกคลุมตลอดทั้งลำต้นและใบ ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ขอบใบหยัก ก้านใบยาว ดอกสีเหลือง มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ผลมีขนาดค่อนข้างใหญ่ รูปร่างกลมยาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 12-15 ซม. ยาว 20-25 ซม. ผลอ่อนสีเขียวและมีลายสีขาวพาดยาว เมื่อผลแก่เปลือกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผิวเรียบเป็นมันเนื้อในผลสีเหลืองอ่อนอมเขียว กลิ่นหอม มีเมล็ดรูปแบนรี สีครีมจำนวนมาก แตงไทยให้ผลผลิตในช่วงหน้สร้อน สามารถปลูกได้ทุกภาคทั่วประเทศไทย
ผลอ่อนของแตงไทย นำมากินเป็นผักสดจิ้มน้ำพริกหรือนำไปดอง ผลสุกมีรสจิดหรืออมหวานเล็กน้อย เนื้อซุย ชุ่มน้ำ กลิ่นหอมคือลักษณะเด่นของแตงไทย นิยมกินสดหรือนำไปทำของหวาน เช่น น้ำกะทิแตงไทย และทำน้ำปั่น
สรรพคุณ
แตงไทย มีคาร์โบไฮเดรด แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินซี
เนื้อ มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับกระหาย แก้เลือดกำเดาไทล
ดอกอ่อนตากแห้ง ต้มดื่มช่วยให้อาเจียน แก้โรคดีซ่าน หรือบดเป็นผงพ่นแก้แผลในจมูก
เมล็ดแก่ ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร แก้ไอ
ราก ต้มดื่มช่วยระบายท้อง
อ้างอิง
ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่แถบภาคใต้ของทวีปแอฟริกา[1] สรรพคุณแตงไทย[2]