ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พรรคมหาชน"
บรรทัด 53: | บรรทัด 53: | ||
==การเลือกตั้ง 2554== |
==การเลือกตั้ง 2554== |
||
ใน[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554|การเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554]] แม้พรรคมหาชนจะไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่เป็นที่จับตามองเหมือนเช่นในอดีต แต่ก็มีสมาชิกพรรค |
ใน[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554|การเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554]] แม้พรรคมหาชนจะไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่เป็นที่จับตามองเหมือนเช่นในอดีต แต่ก็มีสมาชิกพรรคได้รับเลือกตั้งจำนวนหนึ่งคน คือ นาย[[อภิรัต ศิรินาวิน]] หัวหน้าพรรค และเป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อหมายเลขหนึ่ง โดยได้รับคะแนนไปทั้งหมด 161,251 คะแนน<ref>[http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309765069&grpid=01&catid=&subcatid= ตามไปดู 1 เสียง "อภิรัต ศิรินาวิน" พรรคมหาชน" ที่มารัฐบาลเลขสวย 299 จาก[[มติชน]]]</ref> |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:20, 29 กรกฎาคม 2554
พรรคมหาชน | |
---|---|
ไฟล์:11mahachon.gif | |
หัวหน้า | อภิรัต ศิรินาวิน |
เลขาธิการ | ไพศาล เหมือนเงิน |
โฆษก | ธีรพัฒน์ บุญภิรักษ์ |
ก่อตั้ง | 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 เปลื่ยนชื่อ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 |
ที่ทำการ | 35,37 ซอยนนทบุรี 32 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 |
สี | สีแดง |
การเมืองไทย รายชื่อพรรคการเมือง การเลือกตั้ง |
พรรคมหาชน (อังกฤษ: Mahachon Party ตัวย่อ: MCP. พมช.) เป็นพรรคการเมืองไทยที่จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 โดยใช้ชื่อว่า "พรรคราษฎร"[1] และได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อพรรคมหาชน เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2547[2] เป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวนสมาชิกมากเป็นลำดับที่ 2 รองจากพรรคประชาธิปัตย์ มีจำนวนสมาชิกกว่า 1.1 ล้านคน[3]
ยุคพรรคราษฎร
พรรคราษฎร จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2541 โดยมีคำขวัญว่า "พรรคราษฎร เพื่อราษฎร" มีนายสมชาย หิรัญพฤกษ์ เป็นหัวหน้าพรรค ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคเป็น พลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ มีเลขาธิการพรรค คือ นายมั่น พัธโนทัย[4] และหัวหน้าพรรคคนต่อมา คือ นายวัฒนา อัศวเหม
-
พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ หัวหน้าพรรคคนที่ 2
-
นายวัฒนา อัศวเหม หัวหน้าพรรคคนที่ 3
ยุคพรรคมหาชน
การเริ่มต้นของพรรคมหาชน มีพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ เป็นแกนนำ โดยนโยบายพรรคมหาชนในระยะแรก ร่างโดย ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลาออกจากพรรค มาพร้อมกับพลตรีสนั่น นำเสนอนโยบายว่าเป็นพรรคทางเลือกที่สาม นอกเหนือจาก พรรคไทยรักไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โจมตีว่า พรรคตั้งขึ้นมาเพื่อแย่งชิงฐานเสียงของ พรรคไทยรักไทย ในภาคเหนือ และจะร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับ พรรคประชาธิปัตย์ ในภายหลัง [ต้องการอ้างอิง]
เมื่อแรกก่อตั้งพรรค พลตรีสนั่น ได้เชิญ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก และกำลังจะหมดวาระ ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมหาชน แต่นายศุภชัยปฏิเสธ และต่อมาพิจารณารับตำแหน่งอื่นในสหประชาชาติต่อ พลตรีสนั่นจึงยกให้ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรคแทน
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550 พลตรีสนั่น พร้อมด้วยนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย และสมาชิกพรรคมหาชน เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบันไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของพรรคการเมืองขนาดเล็ก ถือเป็นการสิ้นสุดการดำเนินงานของพรรคมหาชนไปโดยบริยาย [5]
-
ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคคนที่ 4
-
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคคนที่ 5
-
นางสมิตา สรสุชาติ หัวหน้าพรรคคนที่ 7
การเลือกตั้ง พ.ศ. 2548
ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ส่งตัวแทนสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในไทย พ.ศ. 2548 นำเสนอนโยบายที่ใช้ชื่อ "สองนคราประชาธิปไตย" และประกาศตัวพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคได้รับเลือกเพียง 2 ที่นั่ง แม้กระทั่งในเขตจังหวัดพิจิตร นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชายพลตรีสนั่น ก็ยังไม่ได้รับเลือก ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคได้คะแนนเสียงระบบบัญชีรายชื่อไม่ถึง 5% ทำให้ทั้งนายเอนก และพลตรีสนั่น ไม่ได้เป็น ส.ส.
หลังการเลือกตั้ง ดร.เอนก ในฐานะหัวหน้าพรรคมีปัญหากับกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ จึงประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคมหาชนมีมติให้ พลตรีสนั่น รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อ
การที่พรรคมี ส.ส. เพียงสองคน โดยที่หัวหน้าพรรค และประธานที่ปรึกษาพรรคเป็น ส.ส.สอบตก ทำให้ ส.ส.ของพรรคคือ นายตุ่น จินตะเวช จากจังหวัดอุบลราชธานี และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ จากจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการทางการเมืองเป็นอิสระ และหันไปสนันสนุนพรรคไทยรักไทย โดยที่ทางหัวหน้าพรรคก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะในระเบียบระบุว่าการประชุมพรรคเพื่อขับสมาชิกพรรค (คือนายตุ่น และนางทัศนียา) ต้องมี ส.ส.ของพรรคร่วมอยู่ด้วย
การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิจิตร
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การเลือกตั้ง พ.ศ. 2549
ภายหลังการยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2549 พรรคมหาชนร่วมกับ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทย ทำหนังสือถึงพรรคไทยรักไทย ขอให้ลงนามในสัตยาบันร่วมกันว่าจะจัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในไทย เมษายน พ.ศ. 2549 แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง พรรคจึงมีมติไม่ส่งผู้สมัคร
การเลือกตั้ง พ.ศ. 2550
ในปลายเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2550 พลตรีสนั่น หัวหน้าพรรคได้นำเอาสมาชิกพรรคจำนวน 15 คน ไปสังกัดกับทางพรรคชาติไทย โดยให้เหตุผลว่า พรรคมหาชนเป็นพรรคขนาดเล็กคงไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง แต่ถึงอย่างไร พลตรีสนั่นก็ยังคงจะบริหารพรรคมหาชนต่อไป
การเลือกตั้ง 2554
ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 แม้พรรคมหาชนจะไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่เป็นที่จับตามองเหมือนเช่นในอดีต แต่ก็มีสมาชิกพรรคได้รับเลือกตั้งจำนวนหนึ่งคน คือ นายอภิรัต ศิรินาวิน หัวหน้าพรรค และเป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อหมายเลขหนึ่ง โดยได้รับคะแนนไปทั้งหมด 161,251 คะแนน[6]
อ้างอิง
- ↑ ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจดทะเบียนพรรคการเมือง พรรคราษฎร
- ↑ ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค นโยบายพรรค และกรรมการบริหารพรรคราษฎร
- ↑ ข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2554
- ↑ ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคราษฎร พ.ศ. 2541 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) (แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2542) และคณะกรรมการบริหารพรรคราษฎร
- ↑ "ชาติไทย-มหาชน" จับขั้วไร้เงื่อนไข
- ↑ ตามไปดู 1 เสียง "อภิรัต ศิรินาวิน" พรรคมหาชน" ที่มารัฐบาลเลขสวย 299 จากมติชน