ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าจิงกูจา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''พระเจ้าจิงกูจา''' ({{lang-en|Singu Min}}) พระโอรสของ[[พระเจ้ามังระ]] ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษาเพียง 19 ปี ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้ามังระ พระเจ้าจิงกูจา ได้ทำการปราบบรรดาผู้ที่ต่อต้านน้อยใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้อพระวงศ์ พระญาติ และเหล่าขุนนางด้วยวิธีการที่เด็ดขาด คือ ประหารชีวิต เสียหลายคน และหลายคนก็ถูกลดอำนาจหรือส่งไปอยู่หัวเมืองที่ห่างไกล เช่น [[พระเจ้าปดุง]] ทรงถูกส่งให้ไปครองเมืองสะกายและมีผู้ทำการควบคุมอีกชั้นหนึ่ง
{{รอการตรวจสอบ}}
'''พระเจ้าจิงกูจา''' (Singu Min) พระโอรสของ[[พระเจ้ามังระ]] ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษาเพียง 19 ปี ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้ามังระ พระเจ้าจิงกูจา ได้ทำการปราบบรรดาผู้ที่ต่อต้านน้อยใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้อพระวงศ์ พระญาติ และเหล่าขุนนางด้วยวิธีการที่เด็ดขาด คือ ประหารชีวิต เสียหลายคน และหลายคนก็ถูกลดอำนาจหรือส่งไปอยู่หัวเมืองที่ห่างไกล เช่น [[พระเจ้าปดุง]] ทรงถูกส่งให้ไปครองเมืองสะกายและมีผู้ทำการควบคุมอีกชั้นหนึ่ง


พระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ [[มองหม่อง]] โอรสของ[[พระเจ้ามังลอก]] ทำการ[[รัฐประหาร]]ยึดพระราชวัง ในระหว่างที่พระองค์เสด็จไปสักการะพระพุทธรูปที่ต่างเมือง โดยความช่วยเหลือของขุนนางและเชื้อพระวงศ์หลายคน (เชื่อว่า รวมทั้ง[[อะแซหวุ่นกี้]] แม่ทัพคนสำคัญที่ถูกเรียกตัวกลับระหว่างศึกที่เข้าตี[[พิษณุโลก]]ด้วย)
พระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ [[มองหม่อง]] โอรสของ[[พระเจ้ามังลอก]] ทำการ[[รัฐประหาร]]ยึดพระราชวัง ในระหว่างที่พระองค์เสด็จไปสักการะพระพุทธรูปที่ต่างเมือง โดยความช่วยเหลือของขุนนางและเชื้อพระวงศ์หลายคน (เชื่อว่า รวมทั้ง[[อะแซหวุ่นกี้]] แม่ทัพคนสำคัญที่ถูกเรียกตัวกลับระหว่างศึกที่เข้าตี[[พิษณุโลก]]ด้วย)
บรรทัด 6: บรรทัด 5:
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ถูกประหารชีวิตเสียสิ้น จากพระเจ้าปดุงที่ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลถัดไป
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ถูกประหารชีวิตเสียสิ้น จากพระเจ้าปดุงที่ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลถัดไป


พระเจ้าจิงกูจา มีชื่อเรียกใน[[ภาษาพม่า]]ว่า "เซงกูเมง"
พระเจ้าจิงกูจา มีชื่อเรียกใน[[ภาษาพม่า]]ว่า "เซงกูเมง" <ref>[[ตลับเทป|เทป]]สนทนาเรื่อง วาระสุดท้าย...ของ อาณาจักรอยุธยาและราชวงศ์อลองพญา โดย ดร.[[สุเนตร ชุตินธรานนท์]] [[วีระ ธีรภัทร]] ([[เมษายน]] [[พ.ศ. 2544]]) </ref><ref>[http://www.royalark.net/Burma/konbaun3.htm "The Konbaung Dynasty Genealogy: King Singu".]</ref>

==อ้างอิง==
{{รายการอ้างอิง}}


{{เริ่มกล่อง}}
{{เริ่มกล่อง}}
บรรทัด 14: บรรทัด 16:
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์อลองพญา
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์อลองพญา
| ปี = [[พ.ศ. 2319|2319]] - [[พ.ศ. 2324|2324]]
| ปี = [[พ.ศ. 2319|2319]] - [[พ.ศ. 2324|2324]]
| ถัดไป = [[พระมองหม่อง]]<br />{{เล็ก|[[ราชวงศ์อลองพญา]]}}
| ถัดไป = [[พระเจ้ามองหม่อง]]<br />{{เล็ก|[[ราชวงศ์อลองพญา]]}}
}}
}}
{{จบกล่อง}}
{{จบกล่อง}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:17, 24 กรกฎาคม 2554

พระเจ้าจิงกูจา (อังกฤษ: Singu Min) พระโอรสของพระเจ้ามังระ ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษาเพียง 19 ปี ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้ามังระ พระเจ้าจิงกูจา ได้ทำการปราบบรรดาผู้ที่ต่อต้านน้อยใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้อพระวงศ์ พระญาติ และเหล่าขุนนางด้วยวิธีการที่เด็ดขาด คือ ประหารชีวิต เสียหลายคน และหลายคนก็ถูกลดอำนาจหรือส่งไปอยู่หัวเมืองที่ห่างไกล เช่น พระเจ้าปดุง ทรงถูกส่งให้ไปครองเมืองสะกายและมีผู้ทำการควบคุมอีกชั้นหนึ่ง

พระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ มองหม่อง โอรสของพระเจ้ามังลอก ทำการรัฐประหารยึดพระราชวัง ในระหว่างที่พระองค์เสด็จไปสักการะพระพุทธรูปที่ต่างเมือง โดยความช่วยเหลือของขุนนางและเชื้อพระวงศ์หลายคน (เชื่อว่า รวมทั้งอะแซหวุ่นกี้ แม่ทัพคนสำคัญที่ถูกเรียกตัวกลับระหว่างศึกที่เข้าตีพิษณุโลกด้วย)

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ถูกประหารชีวิตเสียสิ้น จากพระเจ้าปดุงที่ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลถัดไป

พระเจ้าจิงกูจา มีชื่อเรียกในภาษาพม่าว่า "เซงกูเมง" [1][2]

อ้างอิง

  1. เทปสนทนาเรื่อง วาระสุดท้าย...ของ อาณาจักรอยุธยาและราชวงศ์อลองพญา โดย ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ วีระ ธีรภัทร (เมษายน พ.ศ. 2544)
  2. "The Konbaung Dynasty Genealogy: King Singu".