ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปรัชญาโบราณ"
ล iw |
ล โรบอต เพิ่ม: is, pl, sk, fr, ko, ru, hy, sr, en, tr, no, ro, ca, uk, de, bn, fa, bg, sh, scn, az, hr, sv, ar |
||
บรรทัด 11: | บรรทัด 11: | ||
{{โครงความรู้}} |
{{โครงความรู้}} |
||
[[ar:فلسفة قديمة]] |
|||
[[az:Antik fəlsəfə]] |
|||
[[bg:Антична философия]] |
|||
[[bn:প্রাচীন দর্শন]] |
|||
[[ca:Filosofia antiga]] |
|||
[[cs:Dějiny západní filosofie]] |
[[cs:Dějiny západní filosofie]] |
||
[[de:Philosophie der Antike]] |
|||
[[en:Ancient philosophy]] |
|||
[[es:Historia de la filosofía occidental]] |
[[es:Historia de la filosofía occidental]] |
||
[[fa:فلسفه دوران باستان]] |
|||
[[fi:Länsimaisen filosofian historia]] |
[[fi:Länsimaisen filosofian historia]] |
||
[[fr:Philosophie antique]] |
|||
[[hr:Antička filozofija]] |
|||
[[hy:Դասական փիլիսոփայություն]] |
|||
[[is:Fornaldarheimspeki]] |
|||
[[it:Storia della filosofia occidentale]] |
[[it:Storia della filosofia occidentale]] |
||
[[ko:고대 철학]] |
|||
[[nl:Geschiedenis van de westerse filosofie]] |
[[nl:Geschiedenis van de westerse filosofie]] |
||
[[no:Antikkens filosofi]] |
|||
[[pl:Filozofia starożytna]] |
|||
[[pt:História da filosofia ocidental]] |
[[pt:História da filosofia ocidental]] |
||
[[ro:Filosofia antică greco-romană]] |
|||
[[ru:Античная философия]] |
|||
[[scn:Filusufìa antica]] |
|||
[[sh:Antička filozofija]] |
|||
[[sk:Staroveká filozofia]] |
|||
[[sr:Античка филозофија]] |
|||
[[sv:Antikens filosofi]] |
|||
[[tr:Antik Çağ felsefesi]] |
|||
[[uk:Антична філософія]] |
|||
[[zh:西方哲学史]] |
[[zh:西方哲学史]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:59, 5 กรกฎาคม 2554
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
การศึกษาประวัติปรัชญาตะวันตก นั้นกล่าวให้เข้าใจง่ายที่สุดก็คือ การศึกษาแนวคิดทางปรัชญาโดยอิงอยู่กับช่วงสมัยในประวัติศาสตร์ คือสนใจว่าแนวคิดปรัชญาดังกล่าวเกิดขึ้นมาในตอนไหน ก่อนหน้าช่วงเวลานั้นความคิดทางปรัชญาปรากฏอยู่เป็นอย่างไร ในสมัยที่แนวคิดทางปรัชญาหนึ่งๆปรากฏตัวขึ้นนั้นมีแนวคิดใดอีกบ้างที่ปรากฏอยู่ แนวคิดเหล่านั้นได้สนทนาโต้ตอบกันหรือไม่ อย่างไร และหลังจากนั้นเกิดอะไรกับทัศนะทางปรัชญาที่มีต่อมาขนาดไหน อย่างไรบ้าง
เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าหน้าที่ของนักประวัติศาสตร์นั้นคืออะไรกันแน่ ระหว่างการค้นหาและรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีตเฉยๆ หรือว่าจะต้องให้คำอธิบายเหตุปัจจัยที่เป็นเงื่อนไขของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นด้วย หรือว่าจะต้องมองให้ทะลุด้วยว่าสายโซ่ของเหตุการณ์ต่างๆเหล่านั้นมันถูกเชื่อมร้อยกันอยู่บนพื้นฐานของอะไร มีทิศทางที่เป็นสากลหรือว่าเป็นเพียงชุดของเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันอยู่โดยบังเอิญ คนที่มองว่าประวัติศาสตร์มีทิศทางอย่างมีเหตุมีผลนั้น จะต้องสร้างทฤษฎีขึ้นมาเพื่อบอกให้เราเข้าใจว่าทิศทางหรือเหตุผลดังกล่าวคืออะไร ส่วนคนที่ปฏิเสธวิธีเข้าใจประวัติศาสตร์แนวนี้ก็อาจพยายามบอกว่าคนที่เข้าใจว่าประวัติศาสตร์มีทิศทางและเป็นเหตุเป็นผลนั้นถูกอะไรบางอย่างลวงให้คิดเช่นนั้น พวกที่ไม่เชื่อนี้จะสงสัยว่าเราอาจมีวิธีเข้าใจประวัติศาสตร์ในความหมายของ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ไม่จำกัดแบบ กล่าวง่ายๆคือเราเอง ซึ่งรวมนักประวัติศาสตร์ที่ทำงานยผ่านมาทั้งหมดด้วย นั้นเป็นผู้ที่ สร้าง ปั้น หรือ ประดิษฐ์ ประวัติศาสตร์ เหล่านั้นขึ้นมาเอง ตามเงื่อนไขที่ขึ้นอยู่กับความสนใจ ความรู้ความเชื่อ อคติ ผลประโยชน์ อันจำเพาะเจาะจงของพวกนักประวัติศาสตร์ ที่ต่างพวก ต่างยุค ดังนั้นจึงไม่มีความจริงทางประวัติศาสตร์ที่มั่นคงถาวร บริสุทธิ์ รอคอยอยู่นิ่งๆให้เราไปค้นพบ
สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้วางอยู่บนความเชื่อที่ว่าประวัติศาสตร์ที่บริสุทธิ์แท้จริงนั้นไม่มีอยู่ เนื่องจากดวงตาของเราที่จะเอาไว้ตรวจค้นเพื่อเข้าใจประวัติศาสตร์เหล่าน้น มันขุ่นมัวอย่างจำเป็น มันขุ่นมัวอยู่ด้วยความโง่เขลาและอคติบางอย่างที่เรามี แต่สิ่งที่อาจจะช่วยทำให้การพยายามเข้าใจประวัติศาสตร์ของเราไม่ได้ไร้ความหมาย และทำให้เราเหนื่อยเปล่า ก็คือความเข้าใจว่าเรามีปัญหาชีวิตที่จะต้องเผชิญอยู่ ทั้งโดยส่วนตัวและที่มีอยู่ร่วมกัน ประวัติปรัชญา ที่จะได้พยายามสาธยายออกมาให้ทราบกันต่อไปนี้ คือเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งในหลายเรื่องที่เป็นไปได้ แต่เป็นเรื่องเล่าที่มุ่งหวังจะเล่าขึ้นเพื่อช่วยให้เรานำไปใช้เพื่อการใช้ชีวิตของพวกเราเอง เพื่อเผชิญกับปัญหาส่วนตัวและส่วนรวมของพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาในทางปัญญา ทางความเข้าใจ และทางความเชื่อ ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจกระทำเกือบทุกอย่าง ที่พวกเรากระทำลงไปแล้วและจะได้กระทำต่อไป ถ้าท่านไม่เชื่อว่าว่าความคิดความเชื่อนั้นมีบทบาทอย่างสำคัญกำหนดการกระทำ ก็ขอให้ลองสมมติดูว่าท่านทนนั้งจ้องจดคอมพิวเตอร์นี้อยู่เพื่อหาความหมายบางอย่างจากมัน โดยที่ท่านไม่ได้ ตัวเอียงคิดหรือเชื่อตัวเอียง ว่ามีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยตัวหนึ่งที่ทำงานอยู่ได้อย่างออกจะเป็นอิสระจากการรับรู้ของท่านและตั้งอยู่ข้างหน้าท่าน ท่านจะพบว่าถ้าท่านไม่ได้เชื่อเช่นนั้น ท่านก็ไม่น่าจะทนจ้องมองจอของมันและทำอะไรบางอย่างกับ คีย์บอร์ดหรือเม้าส์ ที่อยู่ตรงมือของท่านอย่างที่ท่านได้เพิ่งกระทำลงไป (อ่านต่อวันหลัง)