ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{ต้องการอ้างอิง}}
[[ไฟล์:Judges at ICJ in Prasat Preah Vihear 1962.jpg|thumb|ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก ระหว่างการพิจารณาคดีเขาพระวิหาร]]
[[ไฟล์:Judges at ICJ in Prasat Preah Vihear 1962.jpg|thumb|ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก ระหว่างการพิจารณาคดีเขาพระวิหาร]]
'''ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: International Court of Justice; ICJ) หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า '''ศาลโลก''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: World Court) ตั้งขึ้นโดย[[กฎบัตรสหประชาชาติ]]เมื่อ [[พ.ศ. 2489]] เป็นองค์กรหลักภายใต้องค์การ[[สหประชาชาติ]]ตั้งอยู่ที่[[เฮก|กรุงเฮก]] [[ประเทศเนเธอร์แลนด์]] โดยทำหน้าที่สืบเนื่องต่อจากศาลสถิตย์ยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Permanent Court of Justice; IPCJ) ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ [[10 มกราคม]] [[พ.ศ. 2463]] ซึ่งได้ยุติบทบาทไปพร้อมกับองค์การสันนิบาตชาติ
'''ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ''' ({{lang-en|International Court of Justice}}; ICJ) หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า '''ศาลโลก''' ({{lang-en|World Court}}) ตั้งขึ้นโดย[[กฎบัตรสหประชาชาติ]]เมื่อ [[พ.ศ. 2489]] เป็นองค์กรหลักภายใต้องค์การ[[สหประชาชาติ]]ตั้งอยู่ที่[[เฮก|กรุงเฮก]] [[ประเทศเนเธอร์แลนด์]] โดยทำหน้าที่สืบเนื่องต่อจากศาลสถิตยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Permanent Court of Justice; IPCJ) ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ [[10 มกราคม]] [[พ.ศ. 2463]] ซึ่งได้ยุติบทบาทไปพร้อมกับองค์การ[[สันนิบาตชาติ]]


ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีใดๆ ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ 2 ประเทศขึ้นไป ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: Contentious Case) เช่นข้อพิพาทเรื่องดินแดนอาณาเขต การละเมิดอำนาจอธิปไตย ปัญหาสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กรณีที่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่รัฐเป็นผู้ฟ้องแทน ฯลฯ ทั้งนี้ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องยินยอมรับอำนาจศาลให้เป็นผู้พิจารณาตัดสินก่อนเท่านั้น ศาลจึงจะมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีนั้นได้
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีใดๆ ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ 2 ประเทศขึ้นไป (Contentious Case) เช่นข้อพิพาทเรื่องดินแดนอาณาเขต การละเมิดอำนาจอธิปไตย ปัญหาสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กรณีที่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่รัฐเป็นผู้ฟ้องแทน ฯลฯ ทั้งนี้ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องยินยอมรับอำนาจศาลให้เป็นผู้พิจารณาตัดสินก่อนเท่านั้น ศาลจึงจะมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีนั้นได้


นอกจากนี้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยังมีอำนาจวินิจฉัยเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาในทางกฎหมายระหว่างประเทศ ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: Advisory Opinion) ในสามกรณีหลัก คือ กรณีแรก ตามที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติร้องขอ กรณีที่สอง ตามที่องค์กรอื่นภายใต้สหประชาชาติหรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอโดยได้รับการอนุมัติจากสมัชชาใหญ่ และ กรณีที่สาม ตามที่ได้มีการให้อำนาจวินิจฉัยปัญหาไว้โดยสนธิสัญญา
นอกจากนี้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยังมีอำนาจวินิจฉัยเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาในทางกฎหมายระหว่างประเทศ (Advisory Opinion) ในสามกรณีหลัก คือ กรณีแรก ตามที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติร้องขอ กรณีที่สอง ตามที่องค์กรอื่นภายใต้สหประชาชาติหรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอโดยได้รับการอนุมัติจากสมัชชาใหญ่ และ กรณีที่สาม ตามที่ได้มีการให้อำนาจวินิจฉัยปัญหาไว้โดยสนธิสัญญา

เมื่อปี [[พ.ศ. 2505]] ประเทศไทยและประเทศกัมพูชาได้ยอมรับอำนาจศาลให้พิจารณาตัดสินคดี[[ปราสาทเขาพระวิหาร]] โดยศาลได้มีคำพิพากษาว่าบริเวณปราสาทเขาพระวิหารในส่วนสำคัญถือเป็นของประเทศกัมพูชา


ผู้พิพากษาศาลโลกมี 15 คน เลือกตั้งคราวละ 9 ปี การพิจารณาพิพากษาคดีต้องมีผู้พิพากษา 9 คนนั่งเป็นองค์คณะ ศาลจะเลือกประธานและรองประธานศาลเอง และศาลจะนั่งพิจารณาที่อื่นนอกจากสำนักงานศาลที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ได้
ผู้พิพากษาศาลโลกมี 15 คน เลือกตั้งคราวละ 9 ปี การพิจารณาพิพากษาคดีต้องมีผู้พิพากษา 9 คนนั่งเป็นองค์คณะ ศาลจะเลือกประธานและรองประธานศาลเอง และศาลจะนั่งพิจารณาที่อื่นนอกจากสำนักงานศาลที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ได้

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:38, 26 มิถุนายน 2554

ไฟล์:Judges at ICJ in Prasat Preah Vihear 1962.jpg
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก ระหว่างการพิจารณาคดีเขาพระวิหาร

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Court of Justice; ICJ) หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก (อังกฤษ: World Court) ตั้งขึ้นโดยกฎบัตรสหประชาชาติเมื่อ พ.ศ. 2489 เป็นองค์กรหลักภายใต้องค์การสหประชาชาติตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยทำหน้าที่สืบเนื่องต่อจากศาลสถิตยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Permanent Court of Justice; IPCJ) ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2463 ซึ่งได้ยุติบทบาทไปพร้อมกับองค์การสันนิบาตชาติ

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีใดๆ ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ 2 ประเทศขึ้นไป (Contentious Case) เช่นข้อพิพาทเรื่องดินแดนอาณาเขต การละเมิดอำนาจอธิปไตย ปัญหาสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กรณีที่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่รัฐเป็นผู้ฟ้องแทน ฯลฯ ทั้งนี้ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องยินยอมรับอำนาจศาลให้เป็นผู้พิจารณาตัดสินก่อนเท่านั้น ศาลจึงจะมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีนั้นได้

นอกจากนี้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยังมีอำนาจวินิจฉัยเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาในทางกฎหมายระหว่างประเทศ (Advisory Opinion) ในสามกรณีหลัก คือ กรณีแรก ตามที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติร้องขอ กรณีที่สอง ตามที่องค์กรอื่นภายใต้สหประชาชาติหรือองค์การชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติร้องขอโดยได้รับการอนุมัติจากสมัชชาใหญ่ และ กรณีที่สาม ตามที่ได้มีการให้อำนาจวินิจฉัยปัญหาไว้โดยสนธิสัญญา

ผู้พิพากษาศาลโลกมี 15 คน เลือกตั้งคราวละ 9 ปี การพิจารณาพิพากษาคดีต้องมีผู้พิพากษา 9 คนนั่งเป็นองค์คณะ ศาลจะเลือกประธานและรองประธานศาลเอง และศาลจะนั่งพิจารณาที่อื่นนอกจากสำนักงานศาลที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ได้

แหล่งข้อมูลอื่น