ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แก๊สธรรมชาติ"
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม) ล ก๊าซธรรมชาติ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น แก๊สธรรมชาติ ทับหน้าเปลี่ยนทาง: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิ... |
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม) ล เพิ่มอ้างอิง |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ต้องการอ้างอิง}} |
{{ต้องการอ้างอิง}} |
||
''' |
'''แก๊สธรรมชาติ'''<ref>[http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน] natural gas</ref> เป็นสารประกอบ[[ไฮโดรคาร์บอน]]ชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วย[[ไฮโดรเจน]]และ[[คาร์บอน]]ที่เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ประเภทจุลินทรีย์ที่มีอายุหลายร้อยล้านปี ซึ่งสามารถแยกส่วนประกอบได้ เป็น[[มีเทน]] [[อีเทน]] [[โพรเพน]] [[บิวเทน]] [[เพนเทน]] เป็นต้น หรือ หมายถึง ปิโตรเลียมที่มีสภาพเป็นแก๊ส ณ ที่อุณหภมูและความดันมาตรฐาน 15.6เซลเซียส และ 101 กิโลปาสคาล |
||
โดยในแหล่งธรรมชาติอาจมีเฉพาะ มีเทน หรือ อีเทน ล้วนๆ หรืออาจ เจือปนโพรเพน และบิวเทนในบางแหล่ง ซึ่งถ้าแยกโพรเพน และบิวเทน ออกมาบรรจุลงในถัง |
โดยในแหล่งธรรมชาติอาจมีเฉพาะ มีเทน หรือ อีเทน ล้วนๆ หรืออาจ เจือปนโพรเพน และบิวเทนในบางแหล่ง ซึ่งถ้าแยกโพรเพน และบิวเทน ออกมาบรรจุลงในถังแก๊ส เรียกว่า [[แก๊สปิโตรเลียมเหลว]] (Liquefied Petroleum Gas) หรือ LPG หรือ [[แก๊สหุงต้ม]] |
||
แก๊สธรรมชาติไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีสารพิษ ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสูงสุดผลิตภัณฑ์หนึ่งในปัจจุบัน เมื่อเผาไหม้แล้วจะเป็นเชื้อเพลิงสะอาดและส่งผลกระทบแก่[[สิ่งแวดล้อม]]น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ[[น้ำมันเตา]]และ[[แก๊สหุงต้ม]] ด้วยเหตุนี้อารยะประเทศจึงนิยมใช้แก๊สธรรมชาติมาอย่างยาวนาน |
|||
โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกตามสมบัติทางเทคนิคได้ 4 ประเภท ดังนี้ |
โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกตามสมบัติทางเทคนิคได้ 4 ประเภท ดังนี้ |
||
บรรทัด 16: | บรรทัด 16: | ||
'''4. Wet gas''' หมายถึง แก๊สธรรมชาติที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพวกแก๊สธรมชาติเหลว ได้แก่ propane, butane, pentane และ hexane แกีสเหล่านี้จะกลายเป็นของเหลวได้ง่ายที่อุณหภูมิต่ำและความดันสูง ทำให้เกิดปญหาในการขนส่ง |
'''4. Wet gas''' หมายถึง แก๊สธรรมชาติที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพวกแก๊สธรมชาติเหลว ได้แก่ propane, butane, pentane และ hexane แกีสเหล่านี้จะกลายเป็นของเหลวได้ง่ายที่อุณหภูมิต่ำและความดันสูง ทำให้เกิดปญหาในการขนส่ง |
||
แก๊สธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สำคัญในลำดับต้นๆ ในโลกปัจจุบันและถือเป็นเชื้อเพลิงที่ปลอดภัย และสะอาด ซึ่งโดยธรรมชาติ ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น และไม่มีรูปแบบ แก๊สธรรมชาติมีสัดส่วนทั่วไปดังนี้ |
|||
{| class="wikitable" |
{| class="wikitable" |
||
|- |
|- |
||
! ชื่อ |
! ชื่อ |
||
! สูตรเคมี |
! สูตรเคมี |
||
! สัดส่วนใน |
! สัดส่วนในแก๊สธรรมชาติ |
||
|- |
|- |
||
| Methane มีเทน |
| Methane มีเทน |
||
บรรทัด 53: | บรรทัด 53: | ||
| 0 - 5% |
| 0 - 5% |
||
|- |
|- |
||
| |
| แก๊สอื่นๆ |
||
| Ar,He,Ne,Xe |
| Ar,He,Ne,Xe |
||
| เล็กน้อย |
| เล็กน้อย |
||
|} |
|} |
||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
||
* [[คอนเดนเซท]] |
* [[คอนเดนเซท]] |
||
== อ้างอิง == |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
|||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
* [http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=ps_pr_fu_ga เว็บไซต์ข้อมูลและการเปรียบเทียบ |
* [http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=ps_pr_fu_ga เว็บไซต์ข้อมูลและการเปรียบเทียบแก๊สธรรมชาติ ของ ปตท.] |
||
* [http://www.thaipetroluem.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=442374 |
* [http://www.thaipetroluem.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=442374 แก๊สธรรมชาติ โดย www.thaipetroluem.com] |
||
[[หมวดหมู่: |
[[หมวดหมู่:แก๊สธรรมชาติ| ]] |
||
{{โครงวิทยาศาสตร์}} |
{{โครงวิทยาศาสตร์}} |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:24, 5 พฤษภาคม 2554
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
แก๊สธรรมชาติ[1] เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนและคาร์บอนที่เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ประเภทจุลินทรีย์ที่มีอายุหลายร้อยล้านปี ซึ่งสามารถแยกส่วนประกอบได้ เป็นมีเทน อีเทน โพรเพน บิวเทน เพนเทน เป็นต้น หรือ หมายถึง ปิโตรเลียมที่มีสภาพเป็นแก๊ส ณ ที่อุณหภมูและความดันมาตรฐาน 15.6เซลเซียส และ 101 กิโลปาสคาล
โดยในแหล่งธรรมชาติอาจมีเฉพาะ มีเทน หรือ อีเทน ล้วนๆ หรืออาจ เจือปนโพรเพน และบิวเทนในบางแหล่ง ซึ่งถ้าแยกโพรเพน และบิวเทน ออกมาบรรจุลงในถังแก๊ส เรียกว่า แก๊สปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas) หรือ LPG หรือ แก๊สหุงต้ม
แก๊สธรรมชาติไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีสารพิษ ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสูงสุดผลิตภัณฑ์หนึ่งในปัจจุบัน เมื่อเผาไหม้แล้วจะเป็นเชื้อเพลิงสะอาดและส่งผลกระทบแก่สิ่งแวดล้อมน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันเตาและแก๊สหุงต้ม ด้วยเหตุนี้อารยะประเทศจึงนิยมใช้แก๊สธรรมชาติมาอย่างยาวนาน
โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกตามสมบัติทางเทคนิคได้ 4 ประเภท ดังนี้
1. Sweet gas หมายถึง แก๊สที่มีปฏิกิริยาเป็นกลางต่อกระดาษ pH ที่เปียกน้ำ โดยมีแก๊สมีเทนเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งเป็นแก๊สไฮโดรคาร์บอนที่มีน้ำหนักเบาที่สุด และอาจพบ ethane, propaneและ pentane ปะปนอยู่บ้าง
2. Sour gas หมายถึง แก๊สธรรมชาติที่มีแก๊สซัลฟูริคปะปนอยู่สูง ทำให้เกิดสภาพที่เป็นกรดขึ้น สามารถตรวจสอบได้โดยใช้กระดาษ pH ที่เปียกน้ำ ถ้ามีไฮโดรเจนซัฟด์ปะปนอยู่สูง อาจทำให้แก๊สนั้นมีพิษได้ ดังนั้นจึงต้องกำจัดไฮโดรเจนวัลไฟด์ก่อนส่งไปยังที่อื่น
3. Dry gas หมายถึงแก๊สธรรมชาติที่ไม่มีส่วนผสมของแก๊สธรรมชาติเหลว (condnsate) มีแต่แก๊สมีเทนเกือบร้อยเปอร์เซนต์ ทำให้มีราคาสูงกว่าแก๊สธรรมชาติชนิดอื่นๆ
4. Wet gas หมายถึง แก๊สธรรมชาติที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพวกแก๊สธรมชาติเหลว ได้แก่ propane, butane, pentane และ hexane แกีสเหล่านี้จะกลายเป็นของเหลวได้ง่ายที่อุณหภูมิต่ำและความดันสูง ทำให้เกิดปญหาในการขนส่ง
แก๊สธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สำคัญในลำดับต้นๆ ในโลกปัจจุบันและถือเป็นเชื้อเพลิงที่ปลอดภัย และสะอาด ซึ่งโดยธรรมชาติ ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น และไม่มีรูปแบบ แก๊สธรรมชาติมีสัดส่วนทั่วไปดังนี้
ชื่อ | สูตรเคมี | สัดส่วนในแก๊สธรรมชาติ |
---|---|---|
Methane มีเทน | CH4 | 70 - 90% |
Ethane อีเทน | C2H6 | 0 - 20% |
Popane โพรเพน | C3H8 | |
Butane บิวเบน | C4H10 | |
Carbon Dioxide คาร์บอนไดออกไซด์ | CO2 | 0 - 8% |
Oxygen ออกซิเจน | O2 | 0 - 0.2% |
Nitrogen ไนโตรเจน | N2 | 0 - 0.5% |
Hydrogen Sulfide ไฮโดรเจนซัลไฟด์ | H2S | 0 - 5% |
แก๊สอื่นๆ | Ar,He,Ne,Xe | เล็กน้อย |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน natural gas