ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชีวิตอารามวาสี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม)
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดทันใจด้วยสจห.
บรรทัด 2: บรรทัด 2:
{{ใช้ปีคศ|width=280px}}
{{ใช้ปีคศ|width=280px}}
[[ไฟล์:Katharinenkloster Sinai BW 2.jpg|thumb|280px|[[อารามเซนต์แคทเธอรินแห่งไซนาย]]ใน[[อียิปต์]] ก่อตั้งราวระหว่าง ค.ศ. 527 ถึง ค.ศ. 565]]
[[ไฟล์:Katharinenkloster Sinai BW 2.jpg|thumb|280px|[[อารามเซนต์แคทเธอรินแห่งไซนาย]]ใน[[อียิปต์]] ก่อตั้งราวระหว่าง ค.ศ. 527 ถึง ค.ศ. 565]]
'''ชีวิตอารามวาสี'''<ref name="พัฒนาการวิถีชีวิตจิตคริสตชน">สมชัย พิทยาพงษ์พร, บาทหลวง, ''พัฒนาการวิถีชีวิตจิตคริสตชน'', นครปฐม: ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนางานวิชาการ วิทยาลัยแสงธรรม, 2551, หน้า 27</ref><ref>''บัญญัติศัพท์'', สำนักมิสซังกรุงเทพ, หน้า 21</ref> ({{lang-en|'''Monasticism'''}})<ref>CATHOLIC ENCYCLOPEDIA: Monasticism [http://www.newadvent.org/cathen/10459a.htm]</ref> ในทางตะวันตก (คริสต์ศาสนา) “ชีวิตอารามวาสี” มาจากภาษาอังกฤษคำว่า “Monasticism” ที่มาจาก[[ภาษากรีก]] “μοναχός” - “monachos” ที่มีรากมาจากคำว่า “monos” ที่แปลว่า “สันโดษ” หรือ “ผู้เดียว” หมายถึงวิถีชีวิตทางศาสนาที่นักบวชเลือกที่จะสละชีวิตทางโลกเพื่ออุทิศตนอย่างเต็มตัวในทางธรรม ที่มาของคำนี้มาจากภาษากรีกโบราณและเป็นปรัชญาที่เกี่ยวกับนักบวชใน[[คริสต์ศาสนา]] ในวัฒนธรรมคริสเตียนผู้ที่เลือกใช้ชีวิตอารามวาสีถ้าเป็นชายก็เรียกว่า[[นักพรต]] (monk) หรือ[[บราเดอร์]] (brethren - brothers) ถ้าเป็นหญิงก็เรียกว่า[[นักพรตหญิง]]หรือ[[ชี]] (nun) หรือ[[ซิสเตอร์]] (sister) นักพรตทั้งชายและหญิงอาจจะเรียกว่าอารามิกชน (monastics)
'''ชีวิตอารามวาสี'''<ref name="พัฒนาการวิถีชีวิตจิตคริสตชน">สมชัย พิทยาพงษ์พร, บาทหลวง, ''พัฒนาการวิถีชีวิตจิตคริสตชน'', นครปฐม: ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนางานวิชาการ วิทยาลัยแสงธรรม, 2551, หน้า 27</ref><ref>''บัญญัติศัพท์'', สำนักมิสซังกรุงเทพ, หน้า 21</ref> ({{lang-en|'''Monasticism'''}}) <ref>CATHOLIC ENCYCLOPEDIA: Monasticism [http://www.newadvent.org/cathen/10459a.htm]</ref> ในทางตะวันตก (คริสต์ศาสนา) “ชีวิตอารามวาสี” มาจากภาษาอังกฤษคำว่า “Monasticism” ที่มาจาก[[ภาษากรีก]] “μοναχός” - “monachos” ที่มีรากมาจากคำว่า “monos” ที่แปลว่า “สันโดษ” หรือ “ผู้เดียว” หมายถึงวิถีชีวิตทางศาสนาที่นักบวชเลือกที่จะสละชีวิตทางโลกเพื่ออุทิศตนอย่างเต็มตัวในทางธรรม ที่มาของคำนี้มาจากภาษากรีกโบราณและเป็นปรัชญาที่เกี่ยวกับนักบวชใน[[คริสต์ศาสนา]] ในวัฒนธรรมคริสเตียนผู้ที่เลือกใช้ชีวิตอารามวาสีถ้าเป็นชายก็เรียกว่า[[นักพรต]] (monk) หรือ[[บราเดอร์]] (brethren - brothers) ถ้าเป็นหญิงก็เรียกว่า[[นักพรตหญิง]]หรือ[[ชี]] (nun) หรือ[[ซิสเตอร์]] (sister) นักพรตทั้งชายและหญิงอาจจะเรียกว่าอารามิกชน (monastics)


ศาสนาอื่นต่างก็มีชีวิตอารามวาสีเป็นของตนเองโดยเฉพาะใน[[พุทธศาสนา]] และรวมทั้ง[[ศาสนาเต๋า]] [[ศาสนาฮินดู]] และ[[ศาสนาเชน]] แต่รายละเอียดของแต่ละระบบของแต่ละศาสนาหรือแต่ละนิกายก็แตกต่างจากกันมาก
ศาสนาอื่นต่างก็มีชีวิตอารามวาสีเป็นของตนเองโดยเฉพาะใน[[พุทธศาสนา]] และรวมทั้ง[[ศาสนาเต๋า]] [[ศาสนาฮินดู]] และ[[ศาสนาเชน]] แต่รายละเอียดของแต่ละระบบของแต่ละศาสนาหรือแต่ละนิกายก็แตกต่างจากกันมาก
บรรทัด 40: บรรทัด 40:


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
*[http://st-takla.org/Links/Coptic-Links-04_Monasteries.html Links to Coptic Orthodox Monasteries of Egypt and the world]
* [http://st-takla.org/Links/Coptic-Links-04_Monasteries.html Links to Coptic Orthodox Monasteries of Egypt and the world]
*[http://www.historyfish.net/monastics/monastics.html Historyfish.net: texts and articles regarding the Western Christian monastic tradition.]
* [http://www.historyfish.net/monastics/monastics.html Historyfish.net: texts and articles regarding the Western Christian monastic tradition.]
*[http://www.historyfish.net/monastics/monasticlife.html Abbot Gasquet's English Monastic Life. Full Text + Illustrations.]
* [http://www.historyfish.net/monastics/monasticlife.html Abbot Gasquet's English Monastic Life. Full Text + Illustrations.]
*[http://www.historyfish.net/abbeys/photochrom_abbeys.html Public Domain Photochrom photographs, Abbeys, Cathedrals, Holy Sites and the Holy Land.]
* [http://www.historyfish.net/abbeys/photochrom_abbeys.html Public Domain Photochrom photographs, Abbeys, Cathedrals, Holy Sites and the Holy Land.]
*[http://www.historyworld.net/wrldhis/PlainTextHistories.asp?historyid=ab88 History of Monasticism]
* [http://www.historyworld.net/wrldhis/PlainTextHistories.asp?historyid=ab88 History of Monasticism]
*[http://doc0mr.tripod.com/id23.html Monasticism] Immaculate Heart of Mary's Hermitage
* [http://doc0mr.tripod.com/id23.html Monasticism] Immaculate Heart of Mary's Hermitage
*[http://www.atmajyoti.org/mo_woman.asp "Woman" – The correct perspective for the monastic] – An eastern point of view
* [http://www.atmajyoti.org/mo_woman.asp "Woman" – The correct perspective for the monastic] – An eastern point of view
*[http://www.francis.or.kr/IndexE.html Korean Franciscan Brotherhood]
* [http://www.francis.or.kr/IndexE.html Korean Franciscan Brotherhood]
*[http://www.stanthonysmonastery.org/Monasticism.htm Orthodox Monasticism] Saint Anthony's Greek Orthodox Monastery
* [http://www.stanthonysmonastery.org/Monasticism.htm Orthodox Monasticism] Saint Anthony's Greek Orthodox Monastery





รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:31, 27 กุมภาพันธ์ 2554

อารามเซนต์แคทเธอรินแห่งไซนายในอียิปต์ ก่อตั้งราวระหว่าง ค.ศ. 527 ถึง ค.ศ. 565

ชีวิตอารามวาสี[1][2] (อังกฤษ: Monasticism) [3] ในทางตะวันตก (คริสต์ศาสนา) “ชีวิตอารามวาสี” มาจากภาษาอังกฤษคำว่า “Monasticism” ที่มาจากภาษากรีก “μοναχός” - “monachos” ที่มีรากมาจากคำว่า “monos” ที่แปลว่า “สันโดษ” หรือ “ผู้เดียว” หมายถึงวิถีชีวิตทางศาสนาที่นักบวชเลือกที่จะสละชีวิตทางโลกเพื่ออุทิศตนอย่างเต็มตัวในทางธรรม ที่มาของคำนี้มาจากภาษากรีกโบราณและเป็นปรัชญาที่เกี่ยวกับนักบวชในคริสต์ศาสนา ในวัฒนธรรมคริสเตียนผู้ที่เลือกใช้ชีวิตอารามวาสีถ้าเป็นชายก็เรียกว่านักพรต (monk) หรือบราเดอร์ (brethren - brothers) ถ้าเป็นหญิงก็เรียกว่านักพรตหญิงหรือชี (nun) หรือซิสเตอร์ (sister) นักพรตทั้งชายและหญิงอาจจะเรียกว่าอารามิกชน (monastics)

ศาสนาอื่นต่างก็มีชีวิตอารามวาสีเป็นของตนเองโดยเฉพาะในพุทธศาสนา และรวมทั้งศาสนาเต๋า ศาสนาฮินดู และศาสนาเชน แต่รายละเอียดของแต่ละระบบของแต่ละศาสนาหรือแต่ละนิกายก็แตกต่างจากกันมาก

ชีวิตอารามวาสีในพุทธศาสนา

สำหรับชีวิตอารามวาสีพุทธศาสนาในประเทศไทย ระบบสำนักสงฆ์อาจหมายความถึงวัดหรืออาราม (ที่ยังไม่ได้รับพระราชทานที่วิสุงคามสีมา) ที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่อยู่จำพรรษาของพระสงฆ์ ซึ่งแบ่งเป็นสำนักที่มีพระสงฆ์จำพรรษาจำนวนมากเพียงพอ 5 รูปขึ้นไป และได้ตั้งวัดโดยกฎหมายคณะสงฆ์แล้วจะเรียกว่า วัด ซึ่งหากมีพระสงฆ์น้อยกว่านั้น จะไม่สามารถตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายคณะสงฆ์ไทยได้ วัดเหล่านั้นจะถูกเรียกว่า ระบบสำนักสงฆ์ หรือ ที่พักสงฆ์

ในสมัยพุทธกาล ระบบสำนักสงฆ์เรียกว่า อาราม ซึ่งสำนักใดมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่มาก จะถูกเรียกว่าวิหาร หรือมหาวิหาร เช่น วัดเวฬุวันมหาวิหาร[4]

ชีวิตอารามวาสีในคริสต์ศาสนา

ชีวิตอารามวาสีในคริสต์ศาสนามาจากคำว่า “นักพรต” และ “อาราม” ที่มีระบบแตกต่างจากกันเป็นหลายแบบ ชีวิตอารามวาสีก่อตั้งขึ้นไม่นานหลังจากการเริ่มต้นของคริสต์ศาสนาตามตัวอย่างและปรัชญาที่กล่าวถึงในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่แต่ยังมิได้ระบุแยกเป็นสถาบันต่างหากในพระคัมภีร์ ต่อมาชีวิตอารามวาสีจึงได้มีการก่อตั้งบทบัญญัติเป็นวินัยนักบวช (religious rules) ในหมู่ผู้ติดตามเช่นวินัยของนักบุญบาซิล (Rule of St Basil) หรือวินัยของนักบุญเบเนเดิกต์ ในสมัยปัจจุบันกฎคริสตจักรของบางนิกายอาจจะระบุรูปแบบการใช้ชีวิตนักพรต

อารามในคริสต์ศาสนาเป็นวิถีชีวิตที่อุทิศให้แก่พระเจ้าเพื่อการบรรลุชีวิตนิรันดร์ (eternal life) ระหว่างการเทศนาบนภูเขา (Sermon on the Mount) ในหัวข้อพระพรมหัศจรรย์ (Beatitudes) หรือการดำเนินชีวิตตามกฎของพระเจ้า พระเยซูทรงเทศนาต่อกลุ่มชนที่มาฟังให้ “เป็นคนดีรอบคอบ เหมือนอย่างพระบิดา...ผู้ทรงสถิตในสวรรค์เป็นผู้ดีรอบคอบ” (แม็ทธิว 5:48[5]) และทรงกล่าวเชิญชวนอัครสาวกของพระองค์ให้ปฏิญาณความเป็นโสดโดยตรัสว่า “ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่อาณาจักรแห่งสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด” (แม็ทธิว 19:12[6]) และเมื่อทรงถูกถามว่าจะต้องทำอย่างใดนอกจากปฏิบัติตามพระบัญญัติที่จะทำให้ “บรรลุชีวิตนิรันดร์” พระองค์ก็ทรงแนะว่าให้สละทรัพย์สมบัติและใช้ชีวิตอย่างสมถะ (แม็ทธิว 19:16-22[7], มาร์ค 10:17-22[8] และ ลูค 18:18-23[9])

ในพันธสัญญาใหม่ก็เริ่มมีหลักฐานที่กล่าวถึงการใช้ชีวิตนักพรต โดยการตระเวนช่วยเหลือแม่หม้ายและสตรี ในซีเรียและต่อมาในอียิปต์ผู้นับถือคริสต์ศาสนาบางคนก็มีความรู้สึกว่าถูกเรียกให้ไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษเพื่อเพิ่มความศรัทธาและเข้าถึงพระเจ้าได้มากยิ่งขึ้นโดยการออกไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษกลางทะเลทราย นักบุญแอทธานาเซียสแห่งอเล็กซานเดรีย (Athanasius of Alexandria) กล่าวถึงนักบุญแอนโทนีอธิการว่าเป็นนักบวชองค์แรกๆ ที่ออกไปใช้ชีวิตอย่าง “นักพรตฤๅษี” (Hermit monk) และเป็นลัทธิที่ทำให้ชีวิตอารามวาสีเป็นที่แพร่หลายในอียิปต์ ชีวิตอารามวาสีแพร่หลายทั่วไปในตะวันออกกลางมาจนกระทั่งเมื่อความนิยมในการนับถือคริสต์ศาสนาในซีเรียมาลดถอยลงในยุคกลาง

เมื่อผู้ประสงค์จะใช้ชีวิตอย่างสันโดษเริ่มรวมตัวเข้าด้วยกันมากขึ้น ความจำเป็นในการที่จะต้องมีกฎเกณฑ์ในชุมนุมนักบวชก็เพิ่มมากขึ้น ราวปี ค.ศ. 318 นักบุญพาโคเมียส (Pachomius) ก็เริ่มจัดกลุ่มผู้ติดตามที่กลายมาเป็นอารามแบบหมู่คณะต่อมา ไม่นานนักก็มีการก่อตั้งสถาบันอื่นๆ ในลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วไปในทะเลทรายในอียิปต์และทางตะวันออกของจักรวรรดิโรมัน ชีวิตอารามวาสีในตะวันออกกลางที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ได้แก่:

ทางตะวันตกการวิวัฒนาการของชีวิตอารามวาสีที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวินัยของชุมชนอารามได้รับการบันทึกเป็นตัวอักษร วินัยที่เชื่อกันว่าเป็กฎแรกที่ได้รับการบันทึกคือวินัยของนักบุญบาซิลแต่เวลาที่เขียนไม่เป็นที่ทราบแน่นอน วินัยของนักบุญบาซิลเชื่อกันว่าเป็นวินัยที่เป็นพื้นฐานของวินัยของนักบุญเบเนเดิกต์ที่เขียนโดยนักบุญเบเนดิกต์แห่งเนอร์เซียสำหรับอารามที่มอนเตคัสซิโนในอิตาลีราวปี ค.ศ. 529 และสำหรับคณะเบเนดิกตินที่ก่อตั้งขึ้น วินัยฉบับนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายที่สุดในยุคกลางของยุโรป ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกันก็มีวินัยของนักบุญออกัสตินโดยนักบุญออกัสตินแห่งฮิปโป แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาอันสั้น เมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ก็มีคณะนักบวชคาทอลิกใหม่ๆ ก่อตั้งขึ้นอีกหลายคณะ เช่น ลัทธิฟรานซิสกัน คณะคาร์เมไลท์ และคณะดอมินิกัน แต่คณะเหล่านี้เลือกที่จะตั้งอารามในเมืองแทนที่จะไปตั้งห่างไกลจากชุมชน

ชีวิตอารามวาสีในคริสต์ศาสนาก็ยังวิวัฒนาการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้แม้แต่ในโปรเตสแตนต์ในสหรัฐอเมริกา

อ้างอิง

  1. สมชัย พิทยาพงษ์พร, บาทหลวง, พัฒนาการวิถีชีวิตจิตคริสตชน, นครปฐม: ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนางานวิชาการ วิทยาลัยแสงธรรม, 2551, หน้า 27
  2. บัญญัติศัพท์, สำนักมิสซังกรุงเทพ, หน้า 21
  3. CATHOLIC ENCYCLOPEDIA: Monasticism [1]
  4. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค วักกลิสูตร. พระไตรปิฏกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก [2]. เข้าถึงเมื่อ 5-6-52
  5. Holy Zone for Christ. พระวรสารนักบุญมัทธิว 5
  6. Holy Zone for Christ. พระวรสารนักบุญมัทธิว 19
  7. Holy Zone for Christ. พระวรสารนักบุญมัทธิว 19
  8. Holy Zone for Christ. พระวรสารนักบุญมาระโก 10
  9. Holy Zone for Christ. พระวรสารนักบุญลูกา 18

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น