ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การตกในบาป"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม)
ขับจากสวรรค์ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น การตกในบาป: ศัพท์บัญญัติ
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ใช้ปีคศ|width=240px}}
{{ใช้ปีคศ|width=240px}}
[[ไฟล์:Domenichino_adam_eve.jpg|thumb|240px|right|อาดัมและอีฟถูกขับจาก[[สวนอีเด็น]]โดยพระเจ้าหลังจากกระทำ[[ปฐมบาป]] โดย [[โดเม็นนิชิโน ]]]]
[[ไฟล์:Domenichino_adam_eve.jpg|thumb|240px|right|อาดัมและอีฟถูกขับจาก[[สวนอีเด็น]]โดยพระเจ้าหลังจากกระทำ[[บาปกำเนิด]] โดย [[โดเม็นนิชิโน ]]]]
'''ขับจากสวรรค์''' หรือ '''การถูกขับจากสวรรค์''' หรือ '''ถูกขับ''' (ภาษาอังกฤษ: '''Fall of Man''' หรือ '''the Fall''') หมายถึงการเปลื่ยนแปลงเป็นครั้งแรกของมนุษย์จากสภาวะของความบริสุทธิ์ที่เชื่อฟัง[[พระเจ้า]]ไปเป็นสภาวะของความรู้สึกผิดเพราะความไม่เชื่อฟังในพระเจ้า ใน[[ปฐมบาป]] ใน[[คริสต์ศาสนา]], มนุษย์คนแรก[[อาดัม]]และ[[อีฟ]]เมื่อแรกเริ่มอาศัยอยู่กับพระเจ้าภายในสวรรค์ แต่มาถูกล่อลวงโดยงูให้กินผลไม้จาก “[[ต้นไม้แห่งความรู้ในทางดีและชั่ว]]” (Tree of Knowledge of Good and Evil) ซึ่งพระเจ้าทรงสั่งห้ามไว้ว่าไม่ให้แตะต้อง หลังจากที่กินเข้าไปแล้วก็เกิดความละอายในความเปลือยเปล่าของร่างกาย และในที่สุดก็ถูกขับจากสวรรค์โดยพระเจ้า การถูกขับจากสวรรค์มิได้กล่าวถึงโดยตรงใน[[คัมภีร์ไบเบิล]] แต่กล่างถึงทั้งเรื่องของความไม่เชื่อฟังและการถูกขับ
'''การตกในบาป''' หรือ '''การถูกการตกในบาป''' หรือ '''ถูกขับ''' (ภาษาอังกฤษ: '''Fall of Man''' หรือ '''the Fall''') หมายถึงการเปลื่ยนแปลงเป็นครั้งแรกของมนุษย์จากสภาวะของความบริสุทธิ์ที่เชื่อฟัง[[พระเจ้า]]ไปเป็นสภาวะของความรู้สึกผิดเพราะความไม่เชื่อฟังในพระเจ้า ใน[[บาปกำเนิด]] ใน[[ศาสนาคริสต์]], มนุษย์คนแรก[[อาดัม]]และ[[อีฟ]]เมื่อแรกเริ่มอาศัยอยู่กับพระเจ้าภายในสวรรค์ แต่มาถูกล่อลวงโดยงูให้กินผลไม้จาก “[[ต้นไม้แห่งความรู้ในทางดีและชั่ว]]” (Tree of Knowledge of Good and Evil) ซึ่งพระเจ้าทรงสั่งห้ามไว้ว่าไม่ให้แตะต้อง หลังจากที่กินเข้าไปแล้วก็เกิดความละอายในความเปลือยเปล่าของร่างกาย และในที่สุดก็ถูกการตกในบาปโดยพระเจ้า การถูกการตกในบาปมิได้กล่าวถึงโดยตรงใน[[คัมภีร์ไบเบิล]] แต่กล่างถึงทั้งเรื่องของความไม่เชื่อฟังและการถูกขับ


ในศาสนาอื่นเช่น[[ศาสนายูดาย]], [[ศาสนาอิสลาม]] หรือ [[ลัทธิเหตุผล]] (Gnosticism) ตีความหมายของการถูกขับจากสวรรค์ต่างกันไป
ในศาสนาอื่นเช่น[[ศาสนายูดาย]], [[ศาสนาอิสลาม]] หรือ [[ลัทธิเหตุผล]] (Gnosticism) ตีความหมายของการถูกขับจากสวรรค์ต่างกันไป


ใน[[คริสต์ศาสนวิทยา]], “การถูกขับจากสวรรค์” มีความหมายที่กว้างหมายถึงมวลมนุษย์ผู้มาจาก[[บาป]]ของอาดัมและอีฟที่เรียกว่า “[[ปฐมบาป]]” (original sin) เช่นในคำสอนของ[[นักบุญพอลแห่งทาซัส]]ที่บันทึกไว้ใน [[จดหมายนักบุญพอล:โรม|โรม]] 5:12-19 และ [[จดหมายนักบุญพอล:1 โครินธ์|1 โครินธ์]] 15:21-22 ผู้นับถือศาสนาคริสต์บางคนเชื่อว่า “การถูกขับจากสวรรค์” เป็นการทำความเสียหายให้แก่ธรรมชาติของโลกทั้งหมดโดยเฉพาะธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้มนุษย์เกิดมาพร้อมกับปฐมบาป ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่ทำให้สามารถมีชีวิตชั่วนิรันดรโดยไม่ต้องให้พระเจ้าเข้ามาช่วย ผู้นับถือ[[นิกายโปรเตสแตนต์]]เชื่อว่าความตายของ[[พระเยซู]]เป็น “ค่าไถ่” ซึ่งทำให้มนุษย์ปราศจาก “ปฐมบาป” ที่เกิดจาก “การถูกขับจากสวรรค์” ตลอดไป นิกายอื่นๆ เชื่อว่า “การถูกขับจากสวรรค์” ทำให้มนุษย์มีอิสระจากบาปโดยมิต้องหาทางแก้บาปอีก
ใน[[คริสต์ศาสนวิทยา]], “การถูกขับจากสวรรค์” มีความหมายที่กว้างหมายถึงมวลมนุษย์ผู้มาจาก[[บาป]]ของอาดัมและอีฟที่เรียกว่า “[[บาปกำเนิด]]” (original sin) เช่นในคำสอนของ[[นักบุญพอลแห่งทาซัส]]ที่บันทึกไว้ใน [[จดหมายนักบุญพอล:โรม|โรม]] 5:12-19 และ [[จดหมายนักบุญพอล:1 โครินธ์|1 โครินธ์]] 15:21-22 ผู้นับถือศาสนาคริสต์บางคนเชื่อว่า “การถูกขับจากสวรรค์” เป็นการทำความเสียหายให้แก่ธรรมชาติของโลกทั้งหมดโดยเฉพาะธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้มนุษย์เกิดมาพร้อมกับบาปกำเนิด ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่ทำให้สามารถมีชีวิตชั่วนิรันดรโดยไม่ต้องให้พระเจ้าเข้ามาช่วย ผู้นับถือ[[นิกายโปรเตสแตนต์]]เชื่อว่าความตายของ[[พระเยซู]]เป็น “ค่าไถ่” ซึ่งทำให้มนุษย์ปราศจาก “ปฐมบาป” ที่เกิดจาก “การถูกขับจากสวรรค์” ตลอดไป นิกายอื่นๆ เชื่อว่า “การถูกขับจากสวรรค์” ทำให้มนุษย์มีอิสระจากบาปโดยมิต้องหาทางแก้บาปอีก
คำว่า “ปราศจากบาป” (prelapsarian) หมายถึง สภาวะที่เป็นอิสระจากความมีบาปก่อน “การถูกขับจากสวรรค์” หรือบางครั้งก็เป็นคำที่ใช้ในการรำลึกถึงเวลาในอดีตที่แตกต่างไปจากปัจจุบัน หรือสถานะการณ์ที่เรียกว่า “คำนึงถึงความหลัง” (nostalgia)
คำว่า “ปราศจากบาป” (prelapsarian) หมายถึง สภาวะที่เป็นอิสระจากความมีบาปก่อน “การถูกขับจากสวรรค์” หรือบางครั้งก็เป็นคำที่ใช้ในการรำลึกถึงเวลาในอดีตที่แตกต่างไปจากปัจจุบัน หรือสถานะการณ์ที่เรียกว่า “คำนึงถึงความหลัง” (nostalgia)
บรรทัด 14: บรรทัด 14:


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[คริสต์ศาสนา]]
* [[ศาสนาคริสต์]]
* [[ปฐมบาป]]
* [[ปฐมบาป]]
* [[อาดัม]]
* [[อาดัม]]
บรรทัด 24: บรรทัด 24:
* [http://www.hit.hu/eng/article.html?id=146 ความตาย - บาปคืออะไร?]
* [http://www.hit.hu/eng/article.html?id=146 ความตาย - บาปคืออะไร?]


[[หมวดหมู่:ศาสนาคริสต์|ขับจากสวรรค์]]
[[หมวดหมู่:ปรัชญาศาสนาคริสต์]]
[[หมวดหมู่:ปรัชญาศาสนาคริสต์|ขับจากสวรรค์]]
[[หมวดหมู่:พันธสัญญาเดิม]]
{{โครงศาสนาคริสต์}}
[[หมวดหมู่:พันธสัญญาเดิม|ขับจากสวรรค์]]
{{โครงศาสนา}}


[[ca:Caiguda de l'home]]
[[ca:Caiguda de l'home]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:45, 18 กุมภาพันธ์ 2554

อาดัมและอีฟถูกขับจากสวนอีเด็นโดยพระเจ้าหลังจากกระทำบาปกำเนิด โดย โดเม็นนิชิโน

การตกในบาป หรือ การถูกการตกในบาป หรือ ถูกขับ (ภาษาอังกฤษ: Fall of Man หรือ the Fall) หมายถึงการเปลื่ยนแปลงเป็นครั้งแรกของมนุษย์จากสภาวะของความบริสุทธิ์ที่เชื่อฟังพระเจ้าไปเป็นสภาวะของความรู้สึกผิดเพราะความไม่เชื่อฟังในพระเจ้า ในบาปกำเนิด ในศาสนาคริสต์, มนุษย์คนแรกอาดัมและอีฟเมื่อแรกเริ่มอาศัยอยู่กับพระเจ้าภายในสวรรค์ แต่มาถูกล่อลวงโดยงูให้กินผลไม้จาก “ต้นไม้แห่งความรู้ในทางดีและชั่ว” (Tree of Knowledge of Good and Evil) ซึ่งพระเจ้าทรงสั่งห้ามไว้ว่าไม่ให้แตะต้อง หลังจากที่กินเข้าไปแล้วก็เกิดความละอายในความเปลือยเปล่าของร่างกาย และในที่สุดก็ถูกการตกในบาปโดยพระเจ้า การถูกการตกในบาปมิได้กล่าวถึงโดยตรงในคัมภีร์ไบเบิล แต่กล่างถึงทั้งเรื่องของความไม่เชื่อฟังและการถูกขับ

ในศาสนาอื่นเช่นศาสนายูดาย, ศาสนาอิสลาม หรือ ลัทธิเหตุผล (Gnosticism) ตีความหมายของการถูกขับจากสวรรค์ต่างกันไป

ในคริสต์ศาสนวิทยา, “การถูกขับจากสวรรค์” มีความหมายที่กว้างหมายถึงมวลมนุษย์ผู้มาจากบาปของอาดัมและอีฟที่เรียกว่า “บาปกำเนิด” (original sin) เช่นในคำสอนของนักบุญพอลแห่งทาซัสที่บันทึกไว้ใน โรม 5:12-19 และ 1 โครินธ์ 15:21-22 ผู้นับถือศาสนาคริสต์บางคนเชื่อว่า “การถูกขับจากสวรรค์” เป็นการทำความเสียหายให้แก่ธรรมชาติของโลกทั้งหมดโดยเฉพาะธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้มนุษย์เกิดมาพร้อมกับบาปกำเนิด ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่ทำให้สามารถมีชีวิตชั่วนิรันดรโดยไม่ต้องให้พระเจ้าเข้ามาช่วย ผู้นับถือนิกายโปรเตสแตนต์เชื่อว่าความตายของพระเยซูเป็น “ค่าไถ่” ซึ่งทำให้มนุษย์ปราศจาก “ปฐมบาป” ที่เกิดจาก “การถูกขับจากสวรรค์” ตลอดไป นิกายอื่นๆ เชื่อว่า “การถูกขับจากสวรรค์” ทำให้มนุษย์มีอิสระจากบาปโดยมิต้องหาทางแก้บาปอีก

คำว่า “ปราศจากบาป” (prelapsarian) หมายถึง สภาวะที่เป็นอิสระจากความมีบาปก่อน “การถูกขับจากสวรรค์” หรือบางครั้งก็เป็นคำที่ใช้ในการรำลึกถึงเวลาในอดีตที่แตกต่างไปจากปัจจุบัน หรือสถานะการณ์ที่เรียกว่า “คำนึงถึงความหลัง” (nostalgia)

อ้างอิง

อาดัม, อีฟ และงู (ซึ่งอาจจะเป็น ลิลิธ) ในสวนอีเด็น” ตรงทางเข้ามหาวิหารโนเทรอดามแห่งปารีส

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ขับจากสวรรค์