ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟรันซิสโก ฆาบิเอร์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Woojindo (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Woojindo (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 9: บรรทัด 9:
| วันเสียชีวิต =3 ธันวาคม ค.ศ.1552
| วันเสียชีวิต =3 ธันวาคม ค.ศ.1552
| เสียชีวิตที่ =หมู่เกาะซ้างชวน {{CHN-PRC}}
| เสียชีวิตที่ =หมู่เกาะซ้างชวน {{CHN-PRC}}
| นิกาย =โรมันคาทอลิก อังกลิกัน ลูเธอแรน
| นิกาย =[[โรมันคาทอลิก]] [[อังกลิคัน]] [[ลูเทอรัน]]
| วันประกาศ = 12 มีนาคม ค.ศ.1622
| วันประกาศ = 12 มีนาคม ค.ศ.1622
| ที่ประกาศ =
| ที่ประกาศ =

รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:42, 2 มกราคม 2554

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์
เกิด7 เมษายน ค.ศ.1506
อำเภอฆาเบียร์ แคว้นนาบาร์รา ธงของประเทศสเปน สเปน
เสียชีวิต3 ธันวาคม ค.ศ.1552
หมู่เกาะซ้างชวน  จีน
นิกายโรมันคาทอลิก อังกลิคัน ลูเทอรัน
เป็นนักบุญ12 มีนาคม ค.ศ.1622
โดย สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 15
วันฉลอง3 ธันวาคม

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ (อังกฤษ: Francis Xavier, สเปน: Francisco Javier) ชื่อจริง Francisco de Jaso y Azpilicueta(อ่านว่า ฟรันซิสโก เด ฆาโซ อี อัสปิลิกุเอตา) เป็นบาทหลวงชาวแคว้นนาบารา ประเทศสเปนที่ นำศาสนาคริสต์มาเผยแพร่ที่ประเทศญี่ปุ่นคนแรก และนำศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกไปเผยแพร่และสร้างความมั่นคงของศาสนา ในประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ศรีลังกา มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น เสียชีวิต ณ หมู่เกาะซ้างชวน ประเทศจีน ได้รับสถาปนาเป็นนัก บุญในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ฟรันซิสโก ฆาเบียร์เป็นสมาชิกแรกเริ่ม และหนึ่งในสมาชิกที่มีชื่อเสี่ยงมากที่สุดคนหนึ่งของคณะแห่งพระเยซูเจ้า ซึ่งเขามีความสนิทสนมกับ นักบุญอิกเนเชียสแห่งลาโฮลาผู้ก่อตั้งคณะ

สถานะการณ์ทางประวัติศาสตร์เมื่อเกิด

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์เกิดในปี ค.ศ. 1506. หกปีหลังจากนั้น ค.ศ. 1512 ได้เกิดการยึดครองแคว้นนาบาร์รา โดยกองทัพ แคว้นกาสติยาและอารากอน ภายใต้การควบคุมของ Fadrique Álvarez de Toledo, ดยุคแห่งอัลบา ตามพระบัญชาของพระเจ้าเฟรนานโดที่ 2 แห่งอารากอน ซึ่งทำให้เกิดสงครามกลางเมืองนาบาร์ราที่ยุติในปี ค.ศ. 1524 สงครามครั้งนี้ทำให้อาณาจักรนาบาร์ราถูกแบ่งแยกโดยที่นาบาร์ราสูงตกไปอยู่ในกาปกครองของแคว้นกาสติยาถึงแม้ว่าจะคงความเป็นอาณาจักรถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ส่วนนาบาร์ราต่ำซึ่งอยู่บริเวณทางเหนือของเทือกเขาพิเรนีสยังคงเป็นรัฐอิสระ แต่ภายหลังก็เข้าร่วมกับฝรั่งเศส

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ เกิดในตระกูลชั้นสูงในราชวงศ์ อะกรามอนต์ ผู้ปกครองนาบาร์รา บิดาของเขาชื่อ ฆวน เด ฆาโซ ซึ่งเป็นประธานสภาที่ปรึกษาของ กษัตริย์ ฆวนที่ 2 แห่งอัลเบรต หลังจากการยึดครองของกาสติยา ฆวนผู้เป็นบิดาและครอบครัวได้หนีภัยไปอยู่ที่ แบร์อาร์น และได้เสียชีวิตที่นั่นในเวลาต่อมา มิเกล และฆวน พี่ชายของฟรานซิสโก ฆาเบียร์ ได้มีบทบาทสำคัญในการทำศึกเพื่อนำนาบาร์รากลับมาอีกครั้ง ในปี ค.ศ.1521 มิเกล และฆวน ได้ต่อสู้กับ อิกนาซิโอ แห่งโลโยลา ทหารของกาสติยาที่ประจำที่ปัมโปลนา และ อิกนาซิโอได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงกระนั้นกองทหารกาสติยาก็ชัยชนะอย่างราบคาบในที่สุด ในไม่กี่ปีต่อมา อิกนาซิโอ แห่งโลโยลาได้ก่อตั้งคณะแห่งพระเยซูเจ้า และมี ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ เป็นสหายและผู้รวมงาน

ประวัติ

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ เกิดที่ปราสาท ฆาเบียร์ ที่อำเภอฆาเบียร์ แคว้นนาบาร์รา สเปน ซึ่งในเวลานั้นคืออาณาจักรนาบาร์รา เกิดในวันที่ 7 เมษายน ค.ศ.1506 ในครอบครัวชั้นสูงของนาบาร์รา บิดาของเขาคือ ฆวน เด ฆาโซ ประธานสภาที่ปรึกษาของ กษัตริย์ ฆวน ที่ 2 แห่งอัลเบรต มารดาของเขาคือ มารีอา เด อะซิปิลิกัวตา ซึ่งมาจากเชื้อสายเดียวกับ มาร์ติน เด อะซิปิลิกัวตา ผู้ได้รับสมญานาม doctor navarrus นางเป็นลูกสาวคนสุดท้อง มีพี่น้องคือ : มักดาเลนา, อันนา, มิเกล, ฆวน และตัวนางเอง

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ มีชีวิตวัยเยาว์ที่ได้รับผลกระทบการสูญเสียเอกราชของนาบาร์รา ซึ่งครอบครัวของเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก พี่น้องของเขาที่เป็นทหารของกษัตริย์ ฆวนที่ 3 แห่งนาบาร์ราถูกคุมขัง ด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้ฟรานซิสโก ฆาเบียร์ สนใจที่จะเรียนด้านศาสนาและทำการเผยแพร่ภายได้ความคุ้มกันของโปรตุเกต

การศึกษาในปารีส

ในปี ค.ศ. 1542 ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ ได้ตัดสินใจเดินทางไปศึกษา ที่มหาวิทยาลัย ซอร์บอน กรุงปาริส ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้รับการศึกษาในหลายสถาบัน ในหลายเมืองของนาบาร์รา และก่อนที่จะเข้ารับการศึกษาในปารีสเขาได้เรียนในปัมโปลนา

ในเดือนกันยายน ค.ศ.1525 ฟรันซิสโก ฆาเบียร์เดือนทางไปศึกษาที่ปารีส ซึ่งที่นั่นเองเขาได้รู้จักกับอิกนาซิโอแห่งโลโยลา ผู้เป็นพื่อนสนิท และต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ อิกนาซิโอไม่เคยทิ้งฟรังซิสโก ฆาเบียร์ในยามลำบาก เช่นเมื่อฟรังซิสโก ฆาเบียร์มีปัญหาด้านการเงิน

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์เดือนทางไปศึกษาพร้อมกับสหายอีกห้าคน ซึ่งในเวลาต่อมาคือจุดกำเนิดของคณะแห่งพระเยซูเจ้า หลังจากที่สำเร็จการศึกษา วันที่ 15 กันยายน ค.ศ.1534 เหล่าสหายได้ปฏิญาณตนเพื่อถือความรักและความบริสุทธิ์ และในขณะเดียวกันได้ให้คำสัญญาเพื่อจะเดินทางไป ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนฟรังซิสโก ฆาเบียร์ อยู่ที่ปารีสต่ออีกสองปีเพื่อเรียนเทววิทยา หลังจากนั้นได้รวมการบริหารจิตกับอิกนาซิโอแห่งโลโยลา

ปี ค.ศ. 1537 ฟรันซิสโก ฆาเบียร์กับอิกนาซิโอแห่งโลโยลาเดินทางไปกรุงโรมเพื่อขอพรจากสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 3 ก่อนการเดือนทางไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่การเดินทางก็ไม่สามารถเกิดขึ้นเนื่องจากเกิดสงครามระหว่างเวนิสและตุรกี เมื่อสหายทั้งสองได้รับศีลบรรพชาเมื่อมาถึงเวนิส ในวันที่ 24 มิถุนายนของปีเดียวกัน ในขณะที่รอเรือเพื่อจะไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกได้เริ่มพระกาศความเชื่อให้กับคนรอบข้าง และพวกเขาได้เสนอตัวต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเพื่อจะไปประกาศความรักของพระเจ้าในสถานที่ใดก็ตาม ด้วยเหตุนั้นนี่เองพวกเขาเดินทางไปลิสบอนในปี ค.ศ.1540 เพี่อเริ่มชีวิตนักแพร่ธรรม เหตุที่ต้องเดินทางไปลิสบอนก็เพราะเอกอัครราชทูตโปรตุเกต ณ กรุงโรม ได้ขอสมาชิกจำนวนหนึ่งจากอิกนาซิโอแห่งโลโยลา ในนามของกษัตริย์เจาที่3 แห่งโปรตุเกต เพื่อส่งไปยังอินเดีย ส่วนฟรังซิสโก ฆาเบียร์ถูกส่งไปโดยพระสันตะปาปาโดยได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนพระองค์ในแผ่นดินของทะเลแดง อ่าวเปอร์เซีย และทะเลทั้งสองฝั่งของแม่น้ำคงคา

เส้นทางการแพร่ธรรม

เส้นทางการแพร่ธรรมของนักบุญฟรันซิสโก ฆาเบียร์

การเดินทางเท้าจากโรมไปลิสบอนโดยพักที่ อัสเปอิเตีย (อยู่ที่จังหวัดกีปุสกัว ประเทศสเปน) เพื่อมอบจดหมายของอิกนาซิโอแห่งโลโยลาให้แก่ครอบครัว ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นพวกเขาก็เทศนาสั่งสนในทุกๆหมู่บ้านที่เดินทางผ่าน

วันที่ 7 เมษายน ค.ศ.1541 วันที่ฟรันซิสโก ฆาเบียร์อายุครบ 35 ปีเป็นวันที่เริ่มเดินทาง วันที่ 22กันยายน เรือเทียบท่าโมซัมบิก และได้อยู่ที่นั้นถึงเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป ซึ่งที่นี่เขาได้ช่วยงานในโรงพยาบาลและที่นั่นเขาได้รู้ถึงความเอารัดเอาเปรียบต่อคนผิวดำ ซึ่งทำให้เขาพบกับความขัดแย้งเริ่มแรก

หลังจากที่เปลี่นเรือที่เมลินด์และโซโกตรา ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ก็เดินทางถึงกัว(ซึ่งต่อมาได้เป็นเมืองหลวงของอินเดียภายใต้โปรตุเกส) ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ.1542 เขาได้ปรับปรุงหนังสือคำสอนคาทอลิกของ ฆวน บาร์โรส และได้ออกเผยแพร่ความเชื่อตามเมืองต่างๆ ในหลายครั้งได้ช่วยเหลือคนไกล้ตาย เยี่ยมผู้ต้องขัง และช่วยเหลือผู้ยากไร้

เพื่อที่จะเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ได้เรียนภาษาของชนชาติที่เขาเผยแพร่ศาสนา หลังจากที่เขาได้ปฏิเสธิตำแหน่งอธิการสามเณราลัยนักบุญเปาโล เขาจึงเดินทางไปเกาะแห่งการหาปลา ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1542 และอยู่ที่นั่นมากกว่าหนึ่งปี

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ ได้ประกาศศาสนาให้แก่ชาวปาระวัส และได้รับการต่อต้านจากพราหมณ์ในย้ายนั้น เขาเรียนภาษาทมิฬ แปลหนังสือเกี่ยวกับศาสนา และได้เทศนาเกี่ยวกับนรกและสวรรค์

เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1543 ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ได้เจอกับสหายของเขามิเซร์เปาโลและมานซิยาที่กัวและได้ขอมิชชันนารีเพิ่มจากบิขอป เขาได้บาทหลวงเพิ่มอีก 6 คน ซึ่งเขาและเพื่อนร่วมงานใหม่ได้เดินทางไปเกาะแห่งการหาปลาอีกครั้ง ระหว่างการเดินทางเขาได้เขียนจดหมายหลายฉบับไปยังสหายในโรม หนึ่งในนั้นมีใจความว่า

คริสตชนเราละเลยส่วนนี้ เนื่องจากว่ามีคนทื่ทำหน้าที่ประกาศพระวรสาร หลายครั้งหลายคราวที่ฉันมีความคิดที่ไปยังมหาวิทยาลัยเหล่านั้น และฉันจะใช้เสียงเหมือนคนแพ้คดีความ และโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยแห่งปารีส ไปพูดที่ซอร์บอนกับคนที่มีความรู้มากกว่าความตั้งใจเพราะต้องการได้ดอกผลจากความรู้นั้นว่า มีวิญญาณมากมายที่ไม่ได้ไปสู่สิริรุ่งโรจน์เนื่องจากความละเลยของพวกเขา มีจำนวนมากเหลือเกินคนที่รับเชื่อพระคริสเจ้าในแผ่นดินเหล่านี้ที่ฉันเดินอยู่ และหลายครั้งที่ฉันเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากการโอบกอดในศีลล้างบาป ฉันไม่สามารถกล่าวข้อความเชื่อและพระบรรญัติและบทภาวนาอื่นๆในภาษาของพวกเขาหลายครั้ง

ที่เกาะหาปลาได้แบ่งงานเป็นเขตให้แก่ผู้รับผิดชอบ หลังจากแบ่งงานแล้วฟรังซิสโก ฆาเบียร์เดินทางไปยังมานาปาร์ เขาอยู่ที่นั่นหนึ่งเดือนและได้โปรดศีลล้างบาปให้มากกว่าหนึ่งหมื่นคน

ระหว่างปีค.ศ1544 ฟรันซิสโก ฆาเบียร์เดินทางเผยแพร่ศาสนามากกว่ายี่สิบครั้ง เขาได้กลับไปยังกัวและหารือกับผู้ว่าการเมือง เพื่อขอกำลังทหารและขอติดตามไปช่วยเหลือชาวคริสต์ ที่โดนประหารในศรีลังกา แต่ว่าด้วยเหตุผลบางประการการเดินทางนี้ไม่เกิดขึ้น

ปีค.ศ.1545 ฟรันซิสโก ฆาเบียร์เดินทางไปยังเกาะมาลุกะพร้อมกับสหาย ฆวน เอยโร และก็ถึงมะละกาในเวลาต่อมา ในเวลาสามเดือนฟรันซิสโก ฆาเบียร์ได้เรียนภาษาขั้นพื้นฐานและทำความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และเขาก็ได้แปลหลักการพื้นฐานของความเชื่อคาทอลิกด้วยควมช่วยเหลือของผู้รู้คนอื่น และในปีเดียวกันเขาเขียนจดหมายกราบทูลกษัตริย์โปรตุเกตเกี่ยวกับ ความไม่ยุติธรรมและการดูถูกเหยียดหมายของจำนวนหน้าที่ของพระองค์

เดือนมกราคม 1546ออกเดินไปยังเกาะอมบอรีโอและเทอร์เนตหลังจากที่เขียน คู่มือสำหรับครูคำสอนของคณะแห่งพระเยซูเจ้า ในเวลาเดือนครึ่งถึงไปยังจุดหมาย ฟรังซิสโก ฆาเบียร์ประกาสความเชื่อไปในหลายเกาะในเขตเซรัน ตามตำนานกล่าวว่าปูต้วหนึ่งเอากางเขนที่หายไปตอนมีพายุมาคืนเขา

เดือนมิถุนายน ฟรันซิสโก ฆาเบียร์เดินทางถึงเทอร์เนต ซึ่งเป็นเมืองการค้าเครื่องเทศที่มั่งคั่งของโปรตุเกต เขาอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามเดือน จากที่นั่นเขาเดือนทางไปยังเกาะโมโรและอยู่ที่นั่นอีกสามเดือน จากที่เกาะนั้นเขาเดือนทางต่อไปยังโคชิ ถึงโคชิเมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ.1548

หลังจากที่ได้ตรวจตาและจัดระเบียบคณะแพร่ธรรมที่อินเดียและหมู่เกาะมาลุกะแล้ว ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ผิดหวังกับผลงานที่ในอินเดีย เขาจึงเดินทางไปญี่ปุ่น กับสหาย กอสเม เด ตอร์เรส, ฆวน เฟรนันเดส และล่ามนามอะนิจิโร ออกเดินทางในวันอาทิตย์ใบลาน ค.ศ.1549 ถึงญี่ปุ่นวันที่ 15 สิงหาคมของปีเดียวกัน พวกเขาลงเรือที่คะโงะชิมะ เมืองหลวงของญี่ปุ่นใต้ในขณะนั้น เขาอยู่ที่เมืองนั้นหนึ่งปีและอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลาสองปีสามเดือน ในญี่ปุ่นฟรันซิสโก ฆาเบียร์มีเพื่อนร่วมงานประกาศพระวรสารคือ ปาโบล เด ซานตาเฟ พวกเขาแปล การประกาศข้อความเชื่อ ซึ่งถูกท่องจำและกล่าวตามท้องถนน ซึ่งหากมีคำถามใดจะใช้บริการล่าม ฟรังซิสโกฆาเบียร์มีความคาดหวังว่าหากสามารถเปลี่ยนความเชื่อให้แก่กษัตริย์ได้จะทำให้ประชาชนเปลี่ยนตาม ดังนั้นเขาจึงเดินทางขึ้นเหนือใน ค.ศ.1550 และด้วยความหวังนี้จึงได้ตั้งกลุ่มคริสตชนที่ ฮิระโดะ เดินทางต่อไปยามะงูชิ หลังจากนั้นเดินทางไปซากะอิ และเมอาโกะตามลำดับ แม่เขาไม่เคยได้รับโอกาสที่กษัตริย์จะยอมให้เขาเข้าเฝ้า

ฟรันซิสโก ฆาเบียร์ กลับมายังยะมะงุชิอีกครั้ง และเขาได้รับการรับรองว่าจะไม่เบียดเบียนผู้เปลี่ยนศาสนาจากเจ้าชาย ในขณะนั้นผลงานของการประกาศศาสนาได้ปรากฏขึ้น ที่นั่นมีกลุ่มคาทอลิกเล็ก ผู้รับเชื่อที่นั่นจำมากเป็นซามูไร ซึ่งทำให้เกิดการขัดแย้งตระกูลบอนโซ