ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัก (ไม้พุ่ม)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Chale yan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 15: บรรทัด 15:
| binomial_authority = ([[Carl Linnaeus|L.]]) [[W.T.Aiton]]
| binomial_authority = ([[Carl Linnaeus|L.]]) [[W.T.Aiton]]
|}}
|}}
[[ไฟล์:Starr 070730-7939 Calotropis gigantea.jpg|thumb|left|ดอกรักที่ร้อยเป็นมาลัย]]
'''รัก''' ([[ชื่อวิทยาศาสตร์]]: ''Calotropis gigantea'' (Linn.) R.Br.ex Ait.) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กในวงศ์ [[Apocynaceae]] วงศ์ย่อย [[Asclepiadoideae]] สูง 1.5–3 เมตร ทุกส่วนมียางขาวเหมือนน้ำนม ตามกิ่งมีขน ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม รูปรีแกมขอบขนาน ปลายแหลมโคนเว้า กว้าง 6–8 เซนติเมตร ยาว 10–14 เซนติเมตร เนื้อใบหนา ใต้ใบมีขนนุ่ม ก้านสั้น ดอกสีขาวหรือสีม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 2–3 เซนติเมตร มีรยางค์เป็นคล้ายมงกุฎ 5 สัน มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ผลเป็นฝักคู่ กว้าง 3–4 เซนติเมตร ยาว 6–8 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกได้เมล็ดแบนสีน้ำตาลจำนวนมาก มีขนสีขาวเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งอยู่ตรงกลาง ส่วนนี้เองที่นำมาใช้ร้อยมาลัย ผลรักเป็นฝักรูปรีปลายแหลมยาว ๕-๗ ซม. เมื่อแก่จะแตกและปล่อยเมล็ดเล็กๆ ที่มีขนเป็นพู่ ปลิวไปตามลม
'''รัก''' ([[ชื่อวิทยาศาสตร์]]: ''Calotropis gigantea'' (Linn.) R.Br.ex Ait.) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กในวงศ์ [[Apocynaceae]] วงศ์ย่อย [[Asclepiadoideae]] สูง 1.5–3 เมตร ทุกส่วนมียางขาวเหมือนน้ำนม ตามกิ่งมีขน ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม รูปรีแกมขอบขนาน ปลายแหลมโคนเว้า กว้าง 6–8 เซนติเมตร ยาว 10–14 เซนติเมตร เนื้อใบหนา ใต้ใบมีขนนุ่ม ก้านสั้น ดอกสีขาวหรือสีม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 2–3 เซนติเมตร มีรยางค์เป็นคล้ายมงกุฎ 5 สัน มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ผลเป็นฝักคู่ กว้าง 3–4 เซนติเมตร ยาว 6–8 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกได้เมล็ดแบนสีน้ำตาลจำนวนมาก มีขนสีขาวเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งอยู่ตรงกลาง ส่วนนี้เองที่นำมาใช้ร้อยมาลัย ผลรักเป็นฝักรูปรีปลายแหลมยาว ๕-๗ ซม. เมื่อแก่จะแตกและปล่อยเมล็ดเล็กๆ ที่มีขนเป็นพู่ ปลิวไปตามลม
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}http://www.kroobannok.com/blog/10702




รักเป็นพืชพื้นเมืองของ[[อินโดนีเซีย]] [[มาเลเซีย]] [[ฟิลิปปินส์]] [[ไทย]] [[ศรีลังกา]] [[อินเดีย]] และ[[จีน]] ดอกของพืชชนิดนี้เรียกว่า ''ดอกรัก''
รักเป็นพืชพื้นเมืองของ[[อินโดนีเซีย]] [[มาเลเซีย]] [[ฟิลิปปินส์]] [[ไทย]] [[ศรีลังกา]] [[อินเดีย]] และ[[จีน]] ดอกของพืชชนิดนี้เรียกว่า ''ดอกรัก''
บรรทัด 33: บรรทัด 28:


== ประเพณีและความเชื่อ ==
== ประเพณีและความเชื่อ ==
[[ไฟล์:Starr 070730-7939 Calotropis gigantea.jpg|thumb|ดอกรักที่ร้อยเป็นมาลัย]]
ใน[[ประเทศไทย]]นิยมนำดอกรักมาร้อยเป็น[[มาลัย]]ร่วมกับดอก[[มะลิ]] [[ดาวเรือง]] [[จำปา]] หรือ[[กุหลาบ]] ใช้ในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับ[[ความรัก]] เพราะดอกรักสื่อความหมายถึงความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน ส่วนชาว[[ฮาวาย]]ถือว่ามาลัยดอกรักที่ทำเป็นสร้อยคอ (lei) คือสัญลักษณ์ของความเป็น[[กษัตริย์]]ตามประเพณีไทย มักจะใช้ดอกรักร่วมกับดอกไม้อื่นที่มีความหมายเป็นมงคลในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่อง กับความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน เป็นต้น
ใน[[ประเทศไทย]]นิยมนำดอกรักมาร้อยเป็น[[มาลัย]]ร่วมกับดอก[[มะลิ]] [[ดาวเรือง]] [[จำปา]] หรือ[[กุหลาบ]] ใช้ในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับ[[ความรัก]] เพราะดอกรักสื่อความหมายถึงความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน ส่วนชาว[[ฮาวาย]]ถือว่ามาลัยดอกรักที่ทำเป็นสร้อยคอ (lei) คือสัญลักษณ์ของความเป็น[[กษัตริย์]]ตามประเพณีไทย มักจะใช้ดอกรักร่วมกับดอกไม้อื่นที่มีความหมายเป็นมงคลในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่อง กับความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน เป็นต้น



รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:57, 18 พฤศจิกายน 2553

ต้นรัก
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
ไม่ได้จัดลำดับ: Angiosperms
ไม่ได้จัดลำดับ: Eudicots
ไม่ได้จัดลำดับ: Asterids
อันดับ: Gentianales
วงศ์: Apocynaceae
วงศ์ย่อย: Asclepiadoideae
สกุล: Calotropis
สปีชีส์: C.  gigantea
ชื่อทวินาม
Calotropis gigantea
(L.) W.T.Aiton

รัก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Calotropis gigantea (Linn.) R.Br.ex Ait.) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กในวงศ์ Apocynaceae วงศ์ย่อย Asclepiadoideae สูง 1.5–3 เมตร ทุกส่วนมียางขาวเหมือนน้ำนม ตามกิ่งมีขน ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกันข้าม รูปรีแกมขอบขนาน ปลายแหลมโคนเว้า กว้าง 6–8 เซนติเมตร ยาว 10–14 เซนติเมตร เนื้อใบหนา ใต้ใบมีขนนุ่ม ก้านสั้น ดอกสีขาวหรือสีม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 2–3 เซนติเมตร มีรยางค์เป็นคล้ายมงกุฎ 5 สัน มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ผลเป็นฝักคู่ กว้าง 3–4 เซนติเมตร ยาว 6–8 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกได้เมล็ดแบนสีน้ำตาลจำนวนมาก มีขนสีขาวเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งอยู่ตรงกลาง ส่วนนี้เองที่นำมาใช้ร้อยมาลัย ผลรักเป็นฝักรูปรีปลายแหลมยาว ๕-๗ ซม. เมื่อแก่จะแตกและปล่อยเมล็ดเล็กๆ ที่มีขนเป็นพู่ ปลิวไปตามลม

รักเป็นพืชพื้นเมืองของอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย ศรีลังกา อินเดีย และจีน ดอกของพืชชนิดนี้เรียกว่า ดอกรัก

การขยายพันธุ์

ปกติแล้วต้นรักมักขึ้นอยู่ตามที่รกร้าง ไม่ค่อยมีการเพาะปลูกกัน แต่สำหรับอุตสาหกรรมในครัวเรือนอาจจะต้องปลูกไว้ใช้ รักขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือการปักชำ ระยะเวลาเติบโตจนออกดอกประมาณ 8 เดือน ใส่ปุ๋ย 16-16-16 เดือนละ 1 ครั้ง

สรรพคุณ

  • ดอก รักษาอาการไอ หอบหืด และหวัด ช่วยให้เจริญอาหาร
  • เปลือกและราก ใช้รักษาโรคบิด ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับน้ำเหลืองเสีย และทำให้อาเจียน
  • ยาง ถ้าถูกผิวหนังจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง แต่ก็มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย สามารถอาการปวดฟัน ปวดหู ขับพยาธิ รักษากลากเกลื้อน และใช้เป็นยาขับเลือด

ประเพณีและความเชื่อ

ดอกรักที่ร้อยเป็นมาลัย

ในประเทศไทยนิยมนำดอกรักมาร้อยเป็นมาลัยร่วมกับดอกมะลิ ดาวเรือง จำปา หรือกุหลาบ ใช้ในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก เพราะดอกรักสื่อความหมายถึงความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน ส่วนชาวฮาวายถือว่ามาลัยดอกรักที่ทำเป็นสร้อยคอ (lei) คือสัญลักษณ์ของความเป็นกษัตริย์ตามประเพณีไทย มักจะใช้ดอกรักร่วมกับดอกไม้อื่นที่มีความหมายเป็นมงคลในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่อง กับความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน โดยใช้ในขันหมากหมั้น ขันหมากแต่ง จัดพานรองรับน้ำสังข์ ร้อยเป็นมาลัยบ่าวสาว และโปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน เป็นต้น

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น