ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลิ่นซุนดา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าใหม่: {{Taxobox | name = ลิ่นซุนดา | status = EN | image=Pangolin borneo.jpg | status_system = iucn3.1 | status_ref = | regnum = Animalia | phylum = [[Chor...
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:14, 18 ตุลาคม 2553

ลิ่นซุนดา
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Mammalia
อันดับ: Pholidota
วงศ์: Manidae
สกุล: Manis
สปีชีส์: M.  javanica
ชื่อทวินาม
Manis javanica
(Desmarest, 1822)

ลิ่นซุนดา หรือ ลิ่นมลายู หรือ ลิ่นชวา(อังกฤษ: Sunda Pangolin, Malayan Pangolin, Javan Pangolin) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำพวกลิ่น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Manis javanica มีรูปร่างเหมือนลิ่นจีน (M. pentadactyla) ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ในสกุลเดียวกัน แต่ลิ่นซุนดามีหางที่ยาวกว่าและปกคลุมด้วยเกล็ดประมาณ 30 เกล็ด และสีลำตัวจะอ่อนกว่า โดยมีสีน้ำตาลเหลืองหรือน้ำตาลเข้มและมีขนบาง ๆ ขึ้นแทรกอยู่เล็กน้อย อีกทั้งมีขนาดลำตัวและน้ำหนักมากกว่า กล่าวคือ มีความยาวลำตัวและหัวประมาณ 42.5-55 เซนติเมตร มีความยาวหาง 34-47 เซนติเมตร และความสูงจากพื้นดินถึงหัวไหล่ประมาณ 7.5-9 เซนติเมตร น้ำนักตัวประมาณ 5-7 กิโลกรัม

มีการแพร่กระจายพันธุ์ในภูมิภาคอินโดจีนเรื่อยจนถึงแหลมมลายูจนถึงภูมิภาคซุนดา และยังพบในหมู่เกาะฟิลิปปินส์อีกด้วย สามารถหากินได้ทั้งบนต้นไม้, พื้นดิน และใต้ดิน เนื่องจากมีเล็บและหางที่แข็งแรงสามารถใช้เกาะเกี่ยวต้นไม้ได้ดี โดยอาหารส่วนใหญ่คือ มดและปลวก ลูกลิ่นที่เกิดใหม่จะเกาะติดแม่ โดยการใช้เล็บเกาะเกี่ยวโคนหางของแม่ไว้ จะหย่านมเมื่ออายุได้ 3 เดือน โดยปกติจะอาศัยหลับนอนอยู่ตามโพรงในเวลากลางวัน โดยใช้ดินมาปิดไว้บริเวณปากโพรง เพื่อช่วยอำพรางโพรงที่มีความลึกประมาณ 3-4 เมตร เมื่อถูกรบกวนจากศัตรูหรือตกใจจะนอนขดตัวเป็นลูกกลม ๆ คล้ายลูกฟุตบอล โดยไม่มีการต่อสู้แต่อย่างใด

สำหรับในประเทศไทยพบได้ทุกภูมิภาค และลิ่นซุนดาถือเป็นลิ่น 1 ใน 2 ชนิดเท่านั้นที่สามารถพบได้ (อีกชนิดหนึ่งนั่นคือ ลิ่นจีน) และเป็นสัตว์ที่นิยมค้าขายเป็นของผิดกฎหมาย โดยมักปรากฏเป็นข่าวอยู่เสมอ ๆ ว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ลักลอบได้ทีละมาก ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อนำขายต่อให้ภัตตาคารหรือผู้ที่นิยมรับประทานสัตว์ป่า[1][2][3] ทั้งนี้ลิ่นซุนดามีสถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 พร้อมกับลิ่นจีน[4]

อ้างอิง

  • หนังสือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน (กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2543) โดย กองทุนสัตว์ป่าโลก ISBN 974-87081-5-2