ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตลับเทป"

ตลับเทป
ตลับเทป
	ไฟล์:CompactCassetteLogo.gif ; ภาพเครื่องหมายหารค้าของ "เทป"
ชื่อภาษาอังกฤษ	Compact Cassette
รูปแบบสื่อ	เทปแม่เหล็ก
วิธีอ่านสื่อ	ด้านเดียว
ความจุ	มีความหลากหลายได้แก่ ; 23 นาที ต่อด้าน ; รวม 46 นาที ; 30 นาทีต่อด้าน ; รวม 60 นาที ; 45 นาทีต่อด้าน ; รวม 90 นาที ; 50 นาทีต่อด้าน ; รวม 100 นาที ; 60 นาทีต่อด้าน ; รวม 120 นาที)
เครื่องที่ใช้เล่นสื่อ	หัวเทป

เรียกดูประวัติแบบโต้ตอบ

← การแก้ไขก่อนหน้า การแก้ไขถัดไป →

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม

เห็นภาพข้อความวิกิ

ในบรรทัด

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:23, 5 กันยายน 2553

ตลับเทป (อังกฤษ: Compact Cassette) หรือมักเรียกโดยย่อว่า เทป มักหมายถึงเทปเสียงหรือเทปเพลง คือรูปแบบการบันทึกเสียงลงสื่อรูปแบบหนึ่งโดยใช้เทปแม่เหล็ก เทปมีขนาดเล็กสามารถพกพาได้อย่างสะดวก ใช้งานตั้งแต่บันทึกเสียงในบ้าง ถึงเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในไมโครคอมพิวเตอร์ในช่วงแรก ระหว่างต้นทศวรรษ 1970 และปลายทศวรรษ 1990 เทปคาสเซตต์เป็นหนึ่งในสองอย่างที่มักใช้ในการบันทึกเสียงเพลง ควบคู่ไปกับแผ่นเสียง ซึ่งต่อมามักใช้เป็นซีดีแทน^[1]

โดยคำว่า แคสเซต (ฝ.cassette) มีความหมายว่า "กล่องเล็ก ๆ"

ประวัติ

ฟิลิปส์แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบ "เทปเสียงขนาดกลาง" สำหรับเครื่องเล่นเพลงในยุโรปในปี พ.ศ. 2506 และในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2507 ภายใต้เครื่องหมายการค้า "คอมแพ็คแคสเซต" ในเวลานั้นมีหลายทางเลือกสำหรับเทปแม่เหล็ก แต่เทปได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของฟิลิปส์ (ภายใต้การกดดันจากโซนี่) ที่จะลงนามในสัญญาไม่เก็บค่าบริการ ทำให้เทปได้รับความนิยมอย่างมาก

เสื่อมความนิยมของเทป

ในประเทศตะวันตกหลายประเทศ ตลาดเทปเสื่อมความนิยมอย่างรวดเร็ว หลังจากการได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงทศวรรษ 1980 โดยภายหลังได้มี ซีดี ขึ้นมาแทนที่ ทำให้เทปเสื่อมความนิยม โดยในปี พ.ศ. 2544 มียอดขายเทปเพียงร้อยละ 4 จากการขายเพลงทั้งหมด ยอดขายเทปเสียงในสหรัฐอเมริกาตกลงจากในปี พ.ศ. 2533 ยอดขาย 442 ล้านม้วน เหลือเพียง 700,000 ม้วนในปี พ.ศ. 2549

อ้างอิง

↑ Eric D. Daniel, C. Dennis Mee, Mark H. Clark (1999). Magnetic Recording: The First 100 Years. The Institute of Electrical and Electronics Engineers. ISBN 0-7803-4709-9.{{cite book}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)

ดูเพิ่ม

ซิงเกิลเทป

แม่แบบ:Link FA

[Daniel-1] Eric D. Daniel, C. Dennis Mee, Mark H. Clark (1999). Magnetic Recording: The First 100 Years. The Institute of Electrical and Electronics Engineers. ISBN 0-7803-4709-9.{{cite book}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)

[1]

@@ บรรทัด 1: / บรรทัด 1: @@
 {{กล่องข้อมูล รูปแบบสื่อบันทึกเสียง
 | ภาพ =  [[ไฟล์:CompactCassetteLogo.gif|150px]] <br />
-| ชื่อ =  เทป
+| ชื่อ =  ตลับเทป
 | ชื่ออังกฤษ =  Compact Cassette
 | คำอธิบายภาพ = ภาพเครื่องหมายหารค้าของ "เทป"
@@ บรรทัด 11: / บรรทัด 11: @@
 | Misc        =
 }}
-'''เทป''' ({{Lang-en|Compact Cassette}}) โดยส่วนใหญ่มักหมายถึงเทปเพลง คือรูปแบบการบันทึกเสียงลงสื่อรูปแบบหนึ่งโดยใช้เทปแม่เหล็ก เทปมีขนาดเล็กสามารถพกพาได้อย่างสะดวก ใช้งานตั้งแต่บันทึกเสียงในบ้าง ถึงเก็บข้อมูลต่าง ๆ ใน[[ไมโครคอมพิวเตอร์]]ในช่วงแรก ระหว่างต้นทศวรรษ 1970 และปลายทศวรรษ 1990 เทปคาสเซตต์เป็นหนึ่งในสองอย่างที่มักใช้ในการบันทึกเสียงเพลง ควบคู่ไปกับ[[แผ่นเสียง]] ซึ่งต่อมามักใช้เป็น[[ซีดี]]แทน<ref name=Daniel>{{cite book|author=Eric D. Daniel, C. Dennis Mee, Mark H. Clark|title=Magnetic Recording: The First 100 Years| year=1999|publisher=The Institute of Electrical and Electronics Engineers|id= ISBN 0-7803-4709-9}}</ref>
+'''ตลับเทป''' ({{Lang-en|Compact Cassette}}) หรือมักเรียกโดยย่อว่า ''เทป'' มักหมายถึงเทปเสียงหรือเทปเพลง คือรูปแบบการบันทึกเสียงลงสื่อรูปแบบหนึ่งโดยใช้เทปแม่เหล็ก เทปมีขนาดเล็กสามารถพกพาได้อย่างสะดวก ใช้งานตั้งแต่บันทึกเสียงในบ้าง ถึงเก็บข้อมูลต่าง ๆ ใน[[ไมโครคอมพิวเตอร์]]ในช่วงแรก ระหว่างต้นทศวรรษ 1970 และปลายทศวรรษ 1990 เทปคาสเซตต์เป็นหนึ่งในสองอย่างที่มักใช้ในการบันทึกเสียงเพลง ควบคู่ไปกับ[[แผ่นเสียง]] ซึ่งต่อมามักใช้เป็น[[ซีดี]]แทน<ref name=Daniel>{{cite book|author=Eric D. Daniel, C. Dennis Mee, Mark H. Clark|title=Magnetic Recording: The First 100 Years| year=1999|publisher=The Institute of Electrical and Electronics Engineers|id= ISBN 0-7803-4709-9}}</ref>
 โดยคำว่า แคสเซต ''(ฝ.cassette)'' มีความหมายว่า "กล่องเล็ก ๆ"
 == ประวัติ ==
-ฟิลิปส์แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบ "เทปเพลงขนาดกลาง" สำหรับเครื่องเล่นเพลงในยุโรปในปี พ.ศ. 2506 และในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2507 ภายใต้เครื่องหมายการค้า "คอมแพ็คแคสเซต" ในเวลานั้นมีหลายทางเลือกสำหรับเทปแม่เหล็ก แต่เทปได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของฟิลิปส์ (ภายใต้การกดดันจากโซนี่) ที่จะลงนามในสัญญาไม่เก็บค่าบริการ ทำให้เทปได้รับความนิยมอย่างมาก
+ฟิลิปส์แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบ "เทปเสียงขนาดกลาง" สำหรับเครื่องเล่นเพลงในยุโรปในปี พ.ศ. 2506 และในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2507 ภายใต้เครื่องหมายการค้า "คอมแพ็คแคสเซต" ในเวลานั้นมีหลายทางเลือกสำหรับเทปแม่เหล็ก แต่เทปได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของฟิลิปส์ (ภายใต้การกดดันจากโซนี่) ที่จะลงนามในสัญญาไม่เก็บค่าบริการ ทำให้เทปได้รับความนิยมอย่างมาก
 === เสื่อมความนิยมของเทป ===
-ในประเทศตะวันตกหลายประเทศ ตลาดเทปเสื่อมความนิยมอย่างรวดเร็ว หลังจากการได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงทศวรรษ 1980 โดยภายหลังได้มี [[ซีดี]] ขึ้นมาแทนที่ ทำให้เทปเสื่อมความนิยม โดยในปี พ.ศ. 2544 มียอดขายเทปเพียงร้อยละ 4 จากการขายเพลงทั้งหมด ยอดขายเทปเพลงในสหรัฐอเมริกาตกลงจากในปี พ.ศ. 2533 ยอดขาย 442 ล้านม้วน เหลือเพียง 700,000 ม้วนในปี พ.ศ. 2549
+ในประเทศตะวันตกหลายประเทศ ตลาดเทปเสื่อมความนิยมอย่างรวดเร็ว หลังจากการได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงทศวรรษ 1980 โดยภายหลังได้มี [[ซีดี]] ขึ้นมาแทนที่ ทำให้เทปเสื่อมความนิยม โดยในปี พ.ศ. 2544 มียอดขายเทปเพียงร้อยละ 4 จากการขายเพลงทั้งหมด ยอดขายเทปเสียงในสหรัฐอเมริกาตกลงจากในปี พ.ศ. 2533 ยอดขาย 442 ล้านม้วน เหลือเพียง 700,000 ม้วนในปี พ.ศ. 2549
 == อ้างอิง ==